Monday, 9 June 2025
SPECIAL

ตร.รวบ!หนุ่มฮังการี อยู่เกินกว่า 10 ปี หนีคดีฉ้อโกงเงินประกันกว่า 42 ล้านบาท!!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้

สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม.  พร้อมด้วย  พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายลาจอส อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี โดยกล่าวหาว่า  “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ   

พฤติการณ์การกระทำผิด กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้พบเห็นชายชาวต่างชาติมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับผู้ต้องหาตามประกาศทางเว็บไซต์ของตำรวจประเทศฮังการี ชื่อนายลาจอส กระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย โดยสายลับได้พบเห็นนายลาจอส ในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ประสานงานสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตฮังการี ประจำประเทศไทย

โดยรับแจ้งว่า นายลาจอส เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางการประเทศฮังการีต้องการตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายลาจอสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 วีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดรวม จำนวน 4,254 วัน และยังพบว่า กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือ ที่ 0002.4/4127 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 แจ้งว่า นายลาจอส เป็นผู้ต้องหาที่ทางการฮังการีต้องการตัวตามหมายจับของศาลฮังการีในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย เป็นเงินจำนวน 401,394,145 โฟรินต์ฮังการี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 42 ล้านบาท

 

ตร.บุกทลายฐานที่ตั้ง ‘เว็บพนันออนไลน์ ROYAL CLUB และ BET MOVE’ สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 100 ล้านบาท!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวใน   ประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัทร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ปิยะ  อุทาโย รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่เพื่อก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม, พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. แถลงข่าวผลการจับกุมดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ ศปอส.ตร.เข้าตรวจค้น อาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 2/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.65 และ   ทำการตรวจค้น ห้องเลขที่ 290/54  Northshore Condominium หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.

จับกุม ชาวเกาหลีใต้ จำนวน 11 คน ดังนี้

1. MR.KYOUNGMIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36 ปี

2. MR.HOYEON สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี

3. MR.GANGTO สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี

4. MR.GYEONGSU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี

5. MR.JEONG สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

6. MR.SEUNGWOOK สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

7. MR.KYEONGKYU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 20 ปี

8. MR.SUNGHYUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 37 ปี

9. MR.WOOKJIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36  ปี

10. MR.YOUNGJUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี

11. MR.DOHYEON สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้เล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมายและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมยึดของกลาง รวมทั้งหมดจำนวน 60 รายการ แบ่งเป็น คอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 19 จอ คอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่อง และ บัตรส่งรหัส otp จำนวน 11 ใบ โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คนพร้อมของกลางในคดีส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง พัทยาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่าได้มีบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้เข้ามาอาศัยประเทศไทยเป็นฐานในการทำพนันออนไลน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าได้มีการตั้งจุดทำการพนันที่กรุงเทพมหานครและย้ายไปที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นต่อศาลแขวงพัทยา     

ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่า MR.DOHYEON  ได้ร่วมกับคนไทยในการจัดตั้งฐานในการกระทำครั้งนี้ โดย MR.DOHYEON  จะเป็นผู้จัดตั้งระบบและนำคนเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อทำงานและ  ไทยผู้ร่วมขบวนการเป็นคนจัดหาสถานที่ในการทำงาน ที่พัก รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีกลุ่มแก๊งชาวเกาหลีใต้ อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดในครั้งนี้ และยังมีผู้ร่วมกระทำความผิด ที่ยังสามารถสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้อีก โดย กก.ปอพ.บก.สส.สตม.และ ศปอส.ตร. จะดำเนินการสืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมหัวหน้าขบวนการและเครือข่าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย

ที่ ค่ายวีระวัฒน์โยธิน พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาสักการะ พร้อมกล่าวคำสดุดีต่อหน้าอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน เนื่องในวันกองทัพไทย โดยมีกำลังพลหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการบำนาญ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กองกำลังสุรนารี ร้อย.23 พัน 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่ 54 หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมใจกันร่วมนำพวงมาลาวางสักการะ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงดวงวิญญาณ อันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าทหารกล้า ในฐานะวีรชนผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย โดยช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธี ทางพุทธศาสนา และ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำปี 2565 เนื่องในวันกองทัพไทย

นราธิวาส - ผบ.พล.นย.นำกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย "เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน" ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติสืบไป

ที่บริเวณลานกองบังคับการกองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า  พล.ร.ต.เทอดเกียรติ จิตต์แก้ว ผู้บัญชาการกองพล นาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหาร เนื่องในโอกาสวันกองทัพบก และ วันกองทัพไทย โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกโยธิน ธนะมูล ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน / ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ นางสิริวิมล พงษ์อักษร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทยที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนทุกวันนี้

และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทหารทุกนาย โดยมีการสวนสนามของกำลังพล ประกอบด้วยกองพันทหารปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธินจำนวน 3 กองร้อย

ทั้งนี้ พล.ร.ต. เทอดเกียรติ ได้อ่านสาส์นของพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) ว่าวันที่ 18 ม.ค. ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทยจัดให้มีพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล โดยขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่าข้าพเจ้าจักยอมตายเพื่ออิสรภาพ และความสงบแห่งประเทศชาติ

ข้าพเจ้าจักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา ข้าพเจ้า จักเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้าจักรักษาไว้ ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ข้าพเจ้าจักเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยความยุติธรรมข้าพเจ้าจักไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหาร เป็นอันขาด

 

สุโขทัย - พ่อเมืองสุโขทัย ตรวจติดตามราคาสินค้า และมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ตลาดสดเมืองสุโขทัย

วันนี้ 19 ม.ค.65 นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่ตรวจติดตามราคาสินค้า และมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ตลาดสดในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี พร้อมแนะพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายสินค้าในราคายุติธรรม และติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน และส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย และนายกเทศมนตรีผู้บริหารเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ลงพื้นตลาดสดเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เพื่อตรวจติดตามราคาสินค้า โดยเฉพาะเนื้อสุกรชำแหละที่มีราคาที่สูงขึ้น และสินค้าอื่น ๆ 

ด้านนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่าเพื่อนำผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ลงติดตามให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้พ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละกล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาจำหน่ายสุกรชำแหละมีราคาสูงขึ้นมาก  ผู้ขายหรือพ่อค้าแม่ค้าก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากจำนวนคนซื้อลดลง  ส่งผลให้รายได้จากจำหน่ายลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 50 จึงจำเป็นต้องลดปริมาณการจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละลงจากเดิม 

 

สระบุรี - จัดงานพิธี วันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2565

วันนี้(18 ม.ค.2565)เวลา 08.30 น.นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี  เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ วางพานพุ่ม ดอกไม้สด และพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์

โดยมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ ใน จ.สระบุรี ได้ขึ้นวางพานพุ่มดอกไม้สด เพื่อถวายราชสักการะ ตามลำดับ จากนั้น นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธีขึ้นคลองพวงมาลัย วางพานพุ่ม ดอกไม้สด พร้อมจุดธูป เทียน เครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถยิ่ง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย พระเกียรติยศเลื่องลือไปทั่วสารทิศและเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ข้าศึกไม่กล้ามารุกรานไทยอีกเป็นเวลากว่าร้อยปี

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี เป็นวันรัฐพิธี เนื่องในวันประวัติศาสตร์สำคัญ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงได้รับชัยชนะ จากการทำยุทธหัตถี กับพระมหาอุปราชา ซึ่งเหล่าพสกนิกรชาวไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทยและทรงสถาปนาความเข้มแข็งมั่นคงแก่ประเทศไทยมาในอดีตกาล อันนำมาซึ่งความสุขสงบและเกียรติภูมิของราชอาณาจักร มาถึงกาลปัจจุบัน โดยการทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

 

ตราด - ‘กองทัพเรือ’ จัดพิธีลอยพวงมาลา เนื่องใน “วันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง”

พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 มอบหมายให้ นาวาเอก รังสรรค์ บัวเผือก ผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน เป็นประธานในพิธีลอยพวงมาลา เนื่องในวันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ณ บริเวณเกาะลิ่ม จังหวัดตราด โดยมีกำลังทางเรือและกำลังพล ของฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 เรือหลวงสัตหีบ เรือ ต.992 และเรือ ต.236 เข้าร่วมพิธี

ผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน กล่าวว่า “ในวันนี้เมื่อ 81 ปีที่แล้ว ได้มีการยุทธที่สำคัญเกิดขึ้น ในพื้นที่เกาะช้างแห่งนี้ เมื่อครั้งสงครามอินโดจีน กองทัพเรือ จึงได้จัดกำลังทางเรือและกำลังพลเข้าร่วมในการยุทธ ดังกล่าว การปะทะในครั้งนั้น กำลังพลของกองทัพเรือไทย ได้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก วันนี้ จึงถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของกองทัพเรือ ที่จะระลึกถึง คุณงามความดี วีรกรรมและความกล้าหาญของทหารเรือไทยทุกนาย ในการรักษาอธิปไตยของชาติไทย”

สำหรับการจัดพิธี ลอยพวงมาลาเนื่องในวันวีรกรรมทหารเรือไทย ในยุทธนาวีที่เกาะช้างในครั้งนี้ ประกอบด้วย การอ่านคำสดุดีวีรชนทหารเรือไทย ในยุทธนาวีที่เกาะช้าง การสงบนิ่งรำลึกถึงดวงวิญญาณของผู้กล้าหาญที่เสียชีวิต พิธีลอยพวงมาลา และการยิงสลุต ณ บริเวณเกาะลิ่ม ซึ่งเป็นจุดที่เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี จมลง

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เตือนภัย!! แนะนำผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลาน เรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันหาคู่ อาจเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยจากแอฟพลิเคชันหาคู่ แนะนำผู้ปกครองควรดูแลการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเสี่ยงถูกมิจฉาชีพล่อลวงสร้างความเสียหายในหลายรูปแบบ

ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีบทบาทช่วยให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเรื่องการหาคู่ก็เช่นกัน  จึงมีผู้คิดค้นแอปพลิเคชันหาคู่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่   ซึ่งแอปพลิเคชันหาคู่ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมใช้กัน ได้แก่  Tinder ,Omi ,Bumble เป็นต้น แอปพลิเคชันเหล่านี้จะช่วยจับคู่หนุ่มสาวที่มีความชอบคล้ายๆกัน ให้ได้พูดคุยกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่เหรียญก็มักจะมีทั้ง 2 ด้านเสมอ กลุ่มมิจฉาชีพมักใช้โอกาสจากช่องทางนี้ในการหลอกล่อเหยื่อเช่นกัน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เหยื่อเป็นเด็กและเยาวชน   ตามที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์และสื่ออื่นๆ หากรูปแบบการกระทำความผิดในลักษณะนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ อาจจะพัฒนาจนเป็นการค้ามนุษย์และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้นได้

ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 65 ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ ได้มีเด็กหญิงอายุ 14 ปี หายตัวไป จนผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน และได้ทำการติดตามค้นหาจนเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเด็กหญิงคนดังกล่าวอยู่กับชายอายุ 18 ปี ซึ่งทั้งสองได้พูดคุยกันผ่านแอพพลิเคชัน Litmatch และได้มีการนัดเจอกัน ซึ่งเป็นเหตุให้เด็กหญิงคนดังกล่าวหายตัวไป ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายคนดังกล่าวพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีฯ และ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดาฯ ก่อนจะนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

และในกรณีเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมตัวชายอายุ 28 ปี ในข้อหา รีดเอาทรัพย์,กรรโชกทรัพย์,    ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ,ทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากหญิงสาวหลายรายว่าได้รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดังก่อนจะนัดหมายเจอกัน จากนั้นก็ออกอุบายตีสนิท เมื่อคบหากันก็ได้ถ่ายคลิปตอนมีเพศสัมพันธ์ พอผ่านไปสักระยะก็จะขอยืมเงิน หากไม่ยินยอมให้ ก็จะขู่เผยแพร่คลิปดังกล่าว เมื่อฝ่ายหญิงขอเลิกผู้ต้องหาก็จะขอค่าเลิกเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท จะเห็นได้ว่าอันตรายไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงกับเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการใช้บริการแอปพลิเคชันหาคู่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากมีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกล่อลวงไปกระทำชำเราแล้ว การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ก็เสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิด หรืออาจถูกนำไปขายต่อบน Dark Web และนำไปใช้ในการกระทำความผิด ทำให้ท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหา โดยท่านไม่รู้ตัวก็เป็นได้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับและสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ พร้อมเร่งทำการสืบสวนปราบปรามจับกุม  ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและตัดโอกาสในการกระทำความผิดอย่างจริงจังต่อเนื่องโดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนะนำผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน            ถึงแนวทางการป้องกันหลีกเลี่ยงการถูกล่อลวงผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ ดังนี้

1.ควรระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่บอกข้อมูลทั้งหมดกับคนที่เพิ่งรู้จัก เมื่อใช้บริการแอปพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ต่าง ๆ

2.ไม่ควรหลงเชื่อ หรือไว้ใจบุคคลใดง่าย ๆ หากมีความจำเป็นต้องนัดเจอควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วยเพื่อความปลอดภัย

3.ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโทรศัพท์มือถือเพียงลำพัง, ควรพูดคุยทำความเข้าใจถึงขอบเขตการใช้งานว่าแอปพลิเคชั่นไหนใช้ได้บ้างหรือแอปพลิเคชั่นใดควรหลีกเลี่ยง, หมั่นเช็คประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชั่นของบุตรหลานว่ามีการใช้งานที่ไม่เหมาะสมหรือมีการพูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือไม่

4.พึงระลึกไว้เสมอว่า อะไรที่ดีเกินไป เร็วเกินไป มักจะลงเอยไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยง่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์และขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังในเรื่องการมีความสัมพันธ์ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์หรือ Chat Application ในรูปแบบต่าง ๆ

 

โฆษก ตร.ห่วงใย! ใช้รถ - ใช้ถนน - ไม่บรรทุกสิ่งของ ความสูงเกินกฎหมายกำหนด "สุดอันตราย" วอนคำนึง "ความปลอดภัย" เพื่อนร่วมทาง

17 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากกรณีที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ปรากฏภาพรถยนต์เปิดฝากระโปรงท้าย แล้วบรรทุกถังน้ำขนาดใหญ่ไว้ท้ายรถโดยมีเชือกพันไว้กับตัวรถ นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยและคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศหากพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินคดีอย่างเข้มงวดรวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน และด้วยความห่วงใยอยากจะฝากถึงผู้ที่ใช้รถยนต์บรรทุกสิ่งของ หากมีสิ่งของขนาดใหญ่เกินกว่าตัวรถแล้ว ขอให้ปรับเปลี่ยนหรือใช้รถให้ถูกประเภท เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ซึ่งหากใช้รถยนต์บรรทุกสิ่งของเกินตัวรถมากกว่าที่กฎหมายกำหนด อาจเป็นความผิดตามกฎหมาย 

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

มาตรา 18 รถที่ใช้บรรทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของ จะใช้บรรทุกในลักษณะใดโดยรถชนิดหรือประเภทใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

ข้อ 1 รถโรงเรียน รถบรรทุก หรือรถบรรทุกคนโดยสาร บรรทุกของได้ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(3) สำหรับส่วนสูง

(ก) ในกรณีที่เป็นรถบรรทุก รถม้าสี่ล้อบรรทุกของ หรือเกวียน ให้บรรทุกสูงไม่เกิน 3.00 เมตร จากพื้นทาง

(ข) ในกรณีที่เป็นรถอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (ก) ให้บรรทุกสูงไม่เกิน 1.50 เมตร

(ค) ในกรณีที่เป็นรถชนิดที่ผู้ขับขี่อยู่หลังตัวรถ ให้บรรทุกสูงไม่เกินระดับที่ผู้ขับขี่มองเห็นพื้นทางข้างหน้าได้ในระยะตั้งแต่ 3.00 เมตร จากรถ หรือน้อยกว่า

มาตรา 150 ผู้ใด (3) ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 18 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

 

ชลบุรี - สำนักงาน ป.ป.ช.ชลบุรี แถลงข่าวชี้มูล คดีการทุจริตของข้าราชการ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

วันที่ 17 ม.ค.65 นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เป็นประธานจัดแถลงข่าว คดีที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ดำเนินการ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดรวมทั้งการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในจังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุมแสนสำราญ ชั้น 2 อาคารศูนย์การประชุม โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช. ระดับจังหวัด ดำเนินการแถลงข่าวคดีที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ดำเนินการ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด รวมทั้งการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในจังหวัดชลบุรี เป็นประจำทุกเดือน เพื่อสร้างพลังทางสังคมในการต่อต้านการทุจริต และปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไป

สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้มีประเด็นการแถลงข่าว 3 เรื่อง ได้แก่ กรณี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สังกัดเทศบาลตำบลพานทอง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทำการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพของเทศบาลตำบลพานทอง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2557 โดยไม่มีเอกสารหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย กรณีที่ 2 อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร กับพวกรวม 1 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ออกใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร ในที่ราชพัสดุ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกองทัพเรือ และกรณีที่ 3 อดีตรองนายกเทศบาลตำบลบางเสร่ จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินที่ควรแจ้งให้ทราบ ซึ่งในคดีนี้ ในที่ประชุมได้มีมติให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 อันมีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง จนกว่าจะมีคำพิพากษา)

 

ชลบุรี - ถวายราชสักการะ ‘วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช’ ประจำปี 2565

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มกราคม 2565 ที่ห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประกอบพิธีถวายราชสักการะ "วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ” ประจำปี 2565 พร้อมด้วยนางสุภาพร เทียนไชย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี และรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมในพิธีฯ โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

โดยประธานในพิธี ถวายพานพุ่ม ดอกไม้สด จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย และอ่านคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2565 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

 

เพชรบูรณ์ - จัดพิธี ‘วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช’ พร้อมด้วยข้าราชการรัฐ - เอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้

ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ สมาคม ชมรม พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน นักเรียนและประชาชน เข้าร่วมพิธี โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ วางพานพุ่มดอกไม้สด กล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงค้นพบศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2376 ณ เนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัยมีจารึกทั้ง 4 ด้าน เนื้อหาของจารึกมี 3 ตอน ซึ่งตอนที่ 1 เล่าถึงพระราชประวัติของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ใช้คำว่า "กู" เป็นหลัก ตอนที่ 2 ไม่ใช้คำว่า "กู" แต่ใช้คำว่า "พ่อขุนรามคำแหง" เล่าถึงเหตุการณ์และธรรมเนียมในกรุงสุโขทัย และตอนที่ 3 มีตัวหนังสือที่ต่างจากตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ซึ่งน่าจะมีการจารึกขึ้นภายหลังว่า "คนไทยมีศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามมาแต่โบราณกาล" จารึกนี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546

 

เพชรบูรณ์ - เกษตรอำเภอเขาค้อ เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกขิง “ราคาขิงตกต่ำ”!!

นางสาวลักขณา พรหมเศรณี เกษตรอำเภอเขาค้อ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเขาค้อ เยี่ยมเยียนแปลงปลูกขิง ของนายอัฐพร ลีพัฒนเศรษฐ์ เกษตรกรผู้ปลูกขิง ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีอาชีพทำไร่ขิง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 หรือเกือบ 30 ปีมาแล้ว ในปีนี้ (พ.ศ.2564/65) ปลูกขิงจำนวน 3 ไร่

จากการสอบถามนายอัฐพร ลีพัฒนเศรษฐ์ เกษตรกรผู้ปลูกขิง เกษตรกรให้ข้อมูลว่าปีนี้ราคาขิงตกต่ำอย่างมาก ซึ่งขิงแบ่งได้เป็น 3 เกรด คือ เกรด A เกรด B เกรด C โดยเกรด A เป็นเกรดที่ส่งออกยุโรป เกรด B เป็นเกรดที่ส่งออกประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันขิงเกรด A ราคาเพียง 4.50 บาท/กก. ซึ่งปกติราคาไม่ต่ำกว่า 15 บาท/กก. และหากขายเป็นขิงรวมจะได้ราคา 3 บาท/กก. ซึ่งราคาจะไม่ต่ำกว่า 10-12 บาท/กก.ต้นทุนการปลูกขิงปีนี้อยู่ที่ 50,000 บาทต่อไร่ ผลผลิตประมาณ 9 ตันต่อไร่ ซึ่งถ้าราคาขายขิงรวม 3 บาท จะขายได้เพียง 27,000 บาทต่อไร่ ซึ่งจะขาดทุนถึง 23,000 บาทต่อไร่ เกษตรกรจึงยังไม่ขายผลผลิตเพราะไม่คุ้มต่อค่าแรงเก็บเกี่ยว

 

นราธิวาส - ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นำเหล่าจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พัฒนาพื้นที่บริเวณชายหาดค่ายจุฬาภรณ์

ณ อาคารสโมสรร่มเกล้า ค่ายจุฬาภรณ์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์พร้อมด้วย นางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นาวาเอก โยธิน ธนะมูล ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินกองทัพเรือ/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และเหล่าบรรดาจิตอาสาร่วมงาน โดยกิจกรรมครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้นำเหล่าจิตอาสาทำความสะอาด ทั้งการเก็บขยะ กวาดขยะ เพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณชายหาดค่ายจุฬาภรณ์     

ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ใช้ในการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 "หลักสูตรพื้นฐาน" (ภาค) รุ่นที่ 1/2565 จำนวน 200 คน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล ที่10 ทรงพระราชทานให้มีการฝึกหลักสูตร จิตอาสา โดยมีผู้แทนจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วยส่วนราชการและภาคประชาชน ซึ่งเป็นรุ่นแรกของจังหวัดนราธิวาส นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวนราธิวาสเป็นอย่างยิ่ง

 

‘คุณสมบัติ’ ประธานกรรมการ อินเตอร์ลิ้งค์ฯ พร้อมด้วย ‘ดร.ชลิดา’ ประธานมูลนิธิ อินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ ร่วมมอบของขวัญแทนคำขอบคุณลูกค้าคนพิเศษ!!

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ พร้อมด้วยดร.ชลิดา อนันตรัมพร ประธานมูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ กล่าวต้อนรับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษ เพื่อแทนคำขอบคุณที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ INTERLINK ด้วยดีเสมอมา ด้วยการมอบที่พักติดชายหาด บรรยากาศผ่อนคลาย แบบ Exclusive ในงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022" 

โดยในงานมีกิจกรรมความบันเทิง อัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังมาแรง รวมถึงมอบของที่ระลึกให้ผู้เข้าร่วมงานมากมาย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2565 ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top