Monday, 9 June 2025
SPECIAL

เพชรบูรณ์ - พาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจสอบปริมาณสุกรในห้องเย็น ป้องกันการกักตุน หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา

24 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายสุพล ศรีทับทิม พาณิชย์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่พาณิชย์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบปริมาณเนื้อสุกร และเนื้อสัตว์ ในห้องเย็น บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์  เพื่อป้องกันการกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคา

นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงมาตรวจห้องเย็น  บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เป็นห้องเย็นขนาดไม่ใหญ่มาก เก็บกักเนื้อสัตว์ได้ประมาณ 10 ตัน ในส่วนของเนื้อหมูเก็บได้ประมาณ 2 ตัน ตอนนี้ก็มีปริมาณไม่มาก การตรวจวันนี้เพื่อกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งทางห้องเย็น บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ก็ได้ดำเนินการตามที่ทางราชการกำหนดไว้ หลังจากนี้เราจะเข้าตรวจสอบ ห้องเย็นทุกแห่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจากราคาเนื้อหมูในตลาดที่มีราคาสูงขึ้น จังหวัดเพชรบูรณ์โดยพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท ทั่วจังหวัดจำนวน 19 แห่ง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาค่าครองชีพประชาชน  

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้จังหวัดเพชรบูรณ์จะออกตรวจตราเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้า สำหรับปัญหาเนื้อหมูที่มีราคาแพงในระยะถัดไปหมูจะทยอยออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากฟาร์มใหญ่มีรุ่นหมูที่โตขึ้น ทำให้มีหมูส่งออกมาหาผู้บริโภค ในภาวะที่สินค้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นในทั่วโลก เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนอาจจะต้องปรับตัว ปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภคกันเองมากยิ่งขึ้น อะไรที่สามารถเพาะเลี้ยงไว้บริโภคเองได้ ก็เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มรายได้ แต่ก็สามารถลดรายจ่ายได้

 

ขอนแก่น - จัดโครงการ 3 ม. “มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม”

สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น สถาบันอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และบริษัท ซีพีแรม จำกัด(ขอนแก่น) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม)ขับเคลื่อนการพัฒนา สู่การเป็น Smart and Mice City

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21  มกราคม 2565 ที่ โรงแรมคอนวีเนี่ยน จังหวัดขอนแก่น นายจารึก  เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อความข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ ๓ ม.(มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม)ระหว่างสำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น สถาบันอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นและบริษัท ซีพีแรม จำกัด(ขอนแก่น)โดยมี ผู้ร่วมลงนามดังนี้นายพงษ์ศักดิ์  ปรีชาวิทย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ,ดร.สิทธิพล พหลทัพ ผู้แทนผอ.สพม.ขอนแก่น,นายประภาส พรหมคำบุตร จัดหางานจังหวัดขอนแก่น,ดร.ประเสริฐ กลิ่นชู นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราซูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ,ผศ.ดร.เกรียงกร ปัญญาประเสริฐกุล ประธานอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดขอนแก่น อุปนายกฝ่ายวิจัยและพัฒนา สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี,นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น,นายปาณชัย สุวรรณวานิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น นายเดโช ปลื้มใจ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสบริษัท ซีพีแรม จำกัด(ขอนแก่น),ตัวแทนบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ,นายวิเชียร  เนียมนิยมบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)  นางสาวอรทัย พิพัตนผาติการย์รองผู้อำนวยการ Operation-HRบริษัท ชี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด,นางอาภรณ์ แว่วสอน ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสรรถภาพคนงานภาค 4,นางณัฐนรี แก้ววังปา นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น ,นายเดโช ปลื้มใจ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสบริษัท ซีพีแรม จำกัด(ขอนแก่น),ตัวแทนบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ,นายวิเชียร เนียมนิยมบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)  นางสาวอรทัย พิพัตนผาติการย์รองผู้อำนวยการ Operation-HRบริษัท ชี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด,นางอาภรณ์ แว่วสอน ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสรรถภาพคนงานภาค 4,นางณัฐนรี แก้ววังปา นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น ,นายขวัญชัย นารถบุญ แรงงานจังหวัดขอนแก่น สำนักงานแรงงานจังหวัดขอนแก่น,นายธีร์ ศรีอาษา ประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานประกันสังคม จังหวัดขอนแก่น,นายธวัช วงศ์ริน นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการพิเศษ,นางอรวรรณ หินตะหัวหน้าศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นางสาวอรทัย พิพัตนผาติการย์ ศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือและผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวเอกชนในจังหวัดขอนแก่น 18 แห่ง ร่วมลงนาม

นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือประกาศณียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ได้มีงานทำและได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นระหว่างทำงาน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบพลังประชารัฐ โดยประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น สถานประกอบการ และสถาบันการศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน จังหวัดขอนแก่น ในการสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในด้านการมีงานทำ ได้รับค่าตอบแทน และสวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด เปิดโอกาสในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้มีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น

นายจารึก กล่าวอีกว่าในระดับที่ตลาดแรงงานมีความต้องการ ถือเป็นการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและช่วยยกระดับคุณภาพ ชีวิตของประชาชน รวมทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และได้กำลังแรงงานที่ตรงกับการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม) ที่มีขึ้นในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมมือกันในการดำเนินการและขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ผมขอขอบคุณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม บริษัท ซีพีแรม จำกัด(ขอนแก่น) วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดขอนแก่น และสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมการมีงานทำและเพิ่มทักษะความรู้ในด้านการพัฒนาแรงงาน เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของกำลังแรงงานของจังหวัดขอนแก่น และระบบเศรษฐกิจไทยต่อไป

ด้าน  นายพงษ์ศักดิ์  ปรีชาวิทย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงที่มาของโครงการ 3 ม. จากจังหวัดบึงกาฬ ถึง จังหวัดขอนแก่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการ ในเรื่องนี้ โดยวันที่ 31 มีนาคม 2561 น.ส.กตพร สองเมืองสุข จัดหางานจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายเจ้าหน้าที่ เดินทางไปส่งนักเรียน นักศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการ ๓ ม.(มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม) จำนวน 22 คน โดยทำงานกับ บริษัท แซมโบ ชินโด (ประเทศไทย) จํากัด จำนวน 13 คน บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวน 6 คน บริษัท เคเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล( ประเทศไทย) จำกัด จำนวน  3 คน เพื่อขึ้นรถของวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) ณ สถานีบริการน้ำมัน ตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

ปทุมธานี - ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน วางศิลาฤกษ์ 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อคฺคชิโน)

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี วางศิลาฤกษ์ อาคาร 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อคฺคชิโน) ณ อนุสรณ์สถานครบรอบ 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดบางหลวงหัวป่า(ร้าง) สาขาวัดระฆังฯ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 

โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน)เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ดังกล่าว

 

พิจิตร - เราจะไม่ทิ้งกัน ‘ส.ส.ภูดิท’ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านหนองระมาน พร้อมนำถุงปันน้ำใจมอบให้ผู้สูงอายุ - รายได้น้อย –ป่วยติดเตียง และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยความห่วงใย

ส.ส.ภูดิท อินสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพิจิตร เขต 2 และทีมงาน ได้ลงพื้นที่เพื่อพบปะและเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองระมาน ม.3 บ้านเขาดิน ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ พร้อมรับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข และได้นำถุงปันน้ำใจไปมอบให้ผู้สูงอายุ  ผู้มีรายได้น้อยและไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงและผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้พร้อมมอบถุงปันน้ำใจด้วยความห่วงใย ท่ามกลางรอยยิ้มและความสุขที่ชาวบ้านต่างดีใจที่ส.ส.ภูดิท เข้ามาเยี่ยม

สำหรับชุมชนหนองระมานนี้อยู่ติดกับเหมืองทองอัครา ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและเป็นคนงานในเหมือง พอเหมืองปิดก็ลำบากไปตาม ๆ กัน

 

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ขอแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น!!

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ขอแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น!!

24 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากเหตุการณ์ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์ชนแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ขณะเดินข้ามถนนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของผู้ขับขี่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทันที หลังจากได้รับการปฐมพยาบาลเสร็จ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งเป็นต้นสังกัดของตำรวจนายนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาโดยไม่มีการละเว้นและให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสียอย่างดีที่สุด

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ และจะให้ความเป็นธรรมอย่างดีที่สุด พนักงานสอบสวน ที่รับผิดชอบคดีนี้ได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็วและครบถ้วนแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการต่อไป

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับกรณีดังกล่าว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น ส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลก็จะดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

‘ตำรวจ - พาณิชย์ - ปศุสัตว์’ เดินหน้ากวาดล้างนายทุน! กักตุนเนื้อหมูทั่วประเทศ กว่า 971 แห่ง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตน รับผิดชอบ กำกับ ดูแล บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กักตุนซากสุกรเพื่อเก็งกำไร จนทำให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้น เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับประชาชน

ทั้งนี้ ได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

1. ร่วมกับเจ้าหน้าที่พาณิชย์ ปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันออกตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ได้รับข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ให้ครบถ้วน และสืบสวนหาข่าวเชิงลึกข้อมูลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

2. เชิญเจ้าของ/ผู้ให้เช่า หรือผู้ดูแลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนที่ราคาจำหน่ายซากสุกรในพื้นที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นถึงปัจจุบัน มีผู้ใดหรือบริษัทใด ฝาก/เช่าสถานที่เก็บซากสุกร แต่ละรายที่นำฝากมีสถิตินำเข้า-ออก เพิ่ม ลด ผิดปกติหรือไม่ อย่างไร

 3. เชิญบุคคล หรือบริษัทที่นำซากสุกรมาฝากในสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบจำนวนซากสุกรที่นำมาฝาก และตรวจสอบการเงินว่ามีความผิดปกติหรือไม่

 4. หน่วยที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ร่วมกับศุลกากร ด่านกักกันสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดกั้นและป้องกันการลักลอบนำซากสุกรเข้าในประเทศ

 5. กำชับการตั้งด่านตรวจหรือจุดตรวจ หากพบมีการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หรือหากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำความผิดอื่นๆ ที่เป็นการฝ่าฝืน กฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า กรณีห้องเย็น “ในจังหวัดปริมณฑล” ที่ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีจำนวน 9 บริษัท ที่อาจเข้าข่ายมีความผิด เนื่องจากไม่มีเอกสารแจ้งการเคลื่อนย้ายซากสุกร และไม่มีการแจ้งปริมาณซากสุกรในความครอบครอง เกิน 5,000 กก. อาศัยอำนาจเจ้าพนักงานปศุสัตว์ อายัดซากสุกร รวมกว่า 895,739.54 กก. ไว้เป็นเวลา 15 วัน หากไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ ต่อไป

สำหรับการตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น ตลาดสด ศูนย์การค้า และสถานที่อื่นๆ ที่ใช้เก็บซากสัตว์ ในภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. จนถึงขณะนี้ “มีการเข้าตรวจสอบแล้ว จำนวน 971 แห่ง พบการกระทำความผิด 9 แห่ง”

นอกจากนี้ ที่จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ศุลการกรจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถจับกุมผู้ต้องหาขับขี่รถเทรลเลอร์ลากพ่วง บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ภายในพบเนื้อหมูส่วนใหญ่เป็นหมูสามชั้น บรรจุใส่ถุงแช่แข็งกว่า 21,000 กก. วางทับซ้อนกันจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยไม่มีใบอนุญาตขนย้าย

 

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เร่ง!กวาดล้างแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน “คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด - ทวงหนี้รุนแรง” คุกหนัก 5 ปี ปรับ 500,000 บาท!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่หากกดยินยอมให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลก็จะสูญเสียข้อมูลส่วนตัวได้ และจะมีการกรอกข้อมูลส่วนตัวในระบบเพื่อเป็นหลักฐานถึงจะกู้เงินได้ เมื่อได้รับเงินกู้แล้วทางแอปพลิเคชันได้มีการเรียกดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด หากชำระหนี้ไม่ตรงตามสัญญา บางรายจะมีการทวงหนี้ด้วยการประจานส่งข้อความไปยังคนรอบตัว หรือบางรายมีการทวงหนี้ด้วยความโหดร้ายทารุณ เกิดความเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งกวาดล้างแอปพลิเคชันเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และทวงหนี้อย่างผิดกฎหมาย

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมแอปพลิเคชันเงินกู้ที่ดำเนินการคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และทวงหนี้ด้วยความรุนแรงอย่างผิดกฎหมายมาโดยตลอด และอยากขอเตือนไปยังเจ้าหนี้ที่กระทำการดังกล่าว อาจมีความผิดตามกฎหมาย

>> พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560

มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

(1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

(2) กำหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืมหรือ ตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

(3) กำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใด ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตาม เงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน

>> พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 

มาตรา 11 ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะดังต่อไปนี้ 

(1) การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น

มาตรา 41 บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา 11 (1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท

ปทุมธานี - จัดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ลังกาพินธุ์ นายอำเภอสามโคก ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีมอบหมายให้นางวัชรียา เสนาวรานนท์ ปลัดอำเภอสามโคกเป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย / นายศักดา ชนนิยม กำนันตำบลบางเตย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเตย ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลสารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตยพนักงานราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สมาชิก อส.และประชาชนจิตอาสาตำบลบางเตย เข้าร่วมทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ ด้านนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย

ได้กล่าวเสริมว่า วันนี้ได้ร่วมกับทางอำเภอสามโคก ฝ่ายปกครองตำบลบางเตย ทำความสะอาดพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ ที่ว่าการอำเภอสามโคก(หลังเก่า) เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตย พนักงานราชการ ได้รวมด้วยช่วยกันทำความสะอาด โดยได้นำรถดับเพลิงบรรจุน้ำเต็มถังฉีดล้างพื้นทำความสะอาด ที่ว่าการอำเภอหลังเก่า ทำความสะอาดรูปปั้นสุนทรภู่ ปัด กวาด เก็บเศษกระดาษ เศษพลาสติก เศษหญ้า บริเวณรอบที่ว่าการอำเภอหลังเก่า

กาฬสินธุ์ - ชลประทานกาฬสินธุ์ ยันปริมาณน้ำขนาดกลาง 17 แห่ง เพียงพอฤดูแล้ง

ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์เผยภาวะฝนทิ้งช่วงยังไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำชลประทาน อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำ 60%  ยืนยันเพียงพอใช้พ้นฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนไม่ปล่อยน้ำทิ้ง ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน พบว่า มีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อการยังชีพและจำหน่าย เช่น ข้าวนาปรัง ข้าวโพด ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว พืชตระกูลแตงอื่นๆ ขณะที่ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ซึ่งอยู่ในการดูแลของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ทั้ง 17 แห่ง พบว่ายังมีเหลือเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคให้กับประชาชน โดยภาพรวมเฉลี่ยมีปริมาณถึง 60%

นายเกริงกรุง สุภัควนิช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ปริมาณน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคในฤดูแล้งนี้ ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ใช้น้ำของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ มีพื้นที่ทำการเกษตร โดยเฉพาะปลูกข้าวนาปรังประมาณ 1 หมื่นกว่าไร่ ในภาพรวมมีการบริหารจัดการน้ำอย่างทั่วถึงและเพียงพอ เฉลี่ยมีปริมาณถึง 60%  โดยเพียงมีอ่างเก็บ 4 แห่งคือ อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก ต.ยางตลาด อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าม้า ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด, อ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้า อ.ห้วยเม็ก และอ่างลำพะยังตอนบน อ.เขาวงเท่านั้น ที่มีปริมาณต่ำว่า 30% แต่ยังก็เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค 

นายเกริงกรุง กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์นั้น มีการวางแผนรับมือภัยแล้งให้มีประสิทธิภาพ โดยมีการจัดสรรเป็นน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ให้เพียงพอถึงต้นฤดูฝน เช่น มีการกักเก็บน้ำในช่วงเกิดภาวะน้ำท่วมตามแนวแม่น้ำชี อ.ฆ้องชัย เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้, มีการจัดการน้ำทั้งในส่วนของการเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมให้เพียงพอ, เตรียมเครื่องสูบน้ำ โดยประสานการทำงานร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสูบน้ำระยะไกล ในกรณีเกิดภัยแล้ง, สร้างการรับรู้การใช้น้ำให้กับประชาชน พร้อมกับขอความร่วมมือประชาชนและเกษตรกรไม่ปล่อยน้ำทิ้ง ใช้น้ำอย่างประหยัด และคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งจะไม่ทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ

 

'เฉลิมชัย'​ มอบ​ 'อลงกรณ์'​ ล่องใต้หนุนชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้ มั่นใจรถไฟจีน-ลาวช่วยเพิ่มการส่งออกปีนี้

(23 ม.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ เป็นประธานในพิธีปล่อยกุ้งก้ามกรามและสัตว์น้ำ คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 1ล้าน 5แสนตัว  ณ คลองนาคราช  ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จัดโดยกรมประมง เพื่อเพิ่มแหล่งอาหาร สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่ชาวประมง และ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19รวมทั้ง เป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและ คืนความหลากหลายของชนิดสัตว์น้ำ ทำให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศน์โดยมีนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นำเยี่ยมชมบูธพร้อมทั้งบรรยายสรุปสถานการณ์การทำประมงในพื้นที่​

​​​​​​พร้อมทั้ง​ นายสราวุธ อ่อนละมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต​ 2, นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต​ 1, นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมือง สมาชิกสภาอบจ. นายกอบต.​ และกำนันตำบลตากแดด ร่วมด้วยส่วนราชการ, ภาคประชาชน, ภาคเอกชน,  อสม., ครู, นักเรียนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ​ ยังได้ติดตามความคืบหน้าของการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค​ รวมทั้งโครงการป้องกันอุทกภัยของจังหวัดชุมพร​ ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทานและหน่วยงานอื่นๆ​ ใช้งบประมาณกว่า​ 3​ พันล้านบาท​ จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี​ 2567 เพื่อแกัปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากหลายปีติดต่อกันสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับชุมพรตลอดมา​ ซึ่งส.ส.มีส่วนสำคัญในการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ​ ​เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว

นายอลงกรณ์​ กล่าวในระหว่างพิธีเปิดว่า ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากมีรายได้ต่อหัวของประชากรกว่า​ 2​ แสนบาทต่อปีอยู่ในกลุ่มท็อป​ 20​ ของประเทศ โดย​ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2565 เป็นกว่า 1 แสนล้านบาทโดยมีภาคเกษตรเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญซึ่งมีพืชเศรษฐกิจหลักทำรายได้ให้จังหวัด​ เช่น​ ทุเรียน, ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา, มะพร้าว​ และกาแฟโรบัสต้า​ รวมทั้งเศรษฐกิจภาคบริการด้านการท่องเที่ยว​ จึงได้วางนโยบายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชุมพรให้ก้าวสู่เป้าหมายใหม่ของการพัฒนาอย่างน้อยใน​ 3​ ด้าน... 

1.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นมหานครผลไม้ภาคใต้เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก ซึ่งการส่งออกผลไม้ของไทยกำลังเติบโดยอย่างรวดเร็วในปี​ 2564​ เพียง​ 11​ เดือนเราส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่า​ 1.5​ แสนล้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นปีแรกที่ทุเรียนส่งออกได้เกิน​ 1​ แสนล้านบาท​ ซึ่งชุมพรเป็นจังหวัดที่ผลิตทุเรียนได้มากที่สุดเป็นอันดับ​ 2​ ของประเทศ​ โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้ทางรถไฟสายจีน-ลาว​ จะเพิ่มการส่งออกผลไม้ได้มากขึ้นในปีนี้ จึงต้องเร่งยกระดับการพัฒนาชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้

2.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นฮับกาแฟโรบัสต้าของประเทศโดยสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าที่ชุมพรผลิตได้มากเป็นอันดับ​ 1​ สู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ เพราะตลาดกาแฟกำลังขยายตัวเติบโตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จะพัฒนาคู่ขนานกับกาแฟอะราบิก้าของภาคเหนือ

3.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ เพราะนอกจากชุมพรเป็นประตูสู่ภาคใต้แล้วยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทยเช่นเกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพรมีเกาะกว่า​ 4​0​ เกาะ เช่นเกาะทะลุ, เกาะงามใหญ่, เกาะง่ามน้อย, เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เราต้องเตรียมความพร้อมรองรับโอกาสทันทีที่วิกฤติโควิดคลี่คลายและนักท่องเที่ยวกลับมา

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุมพรทุกคนพร้อมสนับสนุนจังหวัดชุมพรในทุกด้านเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน

EEC ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ก้าวไปด้วยกัน..กับการเติบโตที่ดีในทุกมิติ.. เดินหน้าต่อเนื่องสร้างการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านคนทุกช่วงวัย

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มค. 65 ที่ผ่านมา ณ.เรือนคุณปู่ บ้านพูล @ พานทอง ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี

นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) "สกพอ.เดินหน้าต่อเนื่องสร้างการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านคนทุกช่วงวัย" ลงพื้นที่และชุมชน จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี เพื่อส่งมอบของที่ระลึกจากอีอีซี ให้กับ ผู้นำชุมชน พลังสตรี อีอีซี และคณะทำงานพื้นที่และชุมชนที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาและยังรับฟัง พูดคุยหารือแนวทางการขับเคลื่อนด้านพื้นที่และชุมชน EEC กับการเติบโตที่ดีในทุกมิติ ในปี 2565 

ทั้งนี้ สกพอ.ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ อีอีซี ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือ พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วนใน อีอีซี จะต้องมีความเข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน อีอีซี ไปด้วยกันโดย สกพอ.ยังคงเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมการขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านกลุ่มคนทุกช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สกพอ.ได้ดำเนินกิจกรรมสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ผ่านกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับเยาวชน ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยระดับประถมศึกษา จัดค่ายเยาวชนอาสาเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวด้านพฤกษศาสตร์ในอีอีซี ร่วมกับโครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และทัศนศึกษาด้านนวัตกรรมใน อีอีซี เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนา มีเยาวชนระดับประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 400 คน

ระดับมัธยมศึกษา จัดทำโครงการอีอีซี สแควร์ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเยาวชนระดับมัธยมศึกษา สู่การเป็นเยาวชนแกนนำ (EEC2 Young Leaders) สร้างทักษะการทำงาน เพิ่มองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ อีอีซี ควบคู่ไปกับการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีเยาวชนจังหวัดระยอง และชลบุรี เข้าร่วมโครงการ จำนวน 26 โรงเรียน 104 คน

#INTERLINK จัดงานสัมมนาต่อเนื่อง ตอบโจทย์ ตอกย้ำ อย่างมืออาชีพ

เมื่อ 22 ม.ค. 2565 คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ร่วมเปิดงานสัมมนา “LINK Professional Infrastructure for IP CCTV” สำหรับกลุ่มผู้รับเหมาติดตั้ง CCTV ทั่วประเทศ โดยมีคุณประกอบ จ้องจรัสแสง อุปนายกสมาคมกล้องวงจรปิดอัจฉริยะไทย (iCA) พร้อมด้วยทีมวิทยากรมืออาชีพ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการออกแบบ และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด สายสัญญาณ และอุปกรณ์การเชื่อมต่อ มาแบ่งปันความรู้ เล่าผ่านประสบการณ์ เพื่อเจาะลึกระบบโครงสร้างภายนอกอาคาร และบนถนนสาธารณะ 

ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 280 คน จากทั่วประเทศ โดยบรรยากาศในงาน เต็มอิ่มไปด้วยสาระความรู้

อัดแน่นด้วยความสนุกสนาน ผ่านกิจกรรมแจกของรางวัลกันทั่วหน้าตลอดทั้งงาน 

🔴 LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

 

พิธีมหานำฤกษ์ พญาครุฑ “เหนือดวง” หลวงปู่เส็ง วัดบางนา

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 09.09 น. พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 1 ประธานฝ่ายสงฆ์ และพลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานฝ่ายฆราวาส เข้าร่วมพิธีบวงสรวง เทฉนวนมวลสาร วัตถุมงคลยอดนิยม จากพระเกจิอาจารย์ 108 รูปทั่วประเทศ สำหรับพญาครุฑ รุ่นเหนือดวง ณ วัดบางนา โดยมีเถรคณาจารย์ร่วมพิธีจำนวนมาก

และในโอกาสนี้ พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 1 ได้มอบทุนสนับสนุนอาหารกลางวันแก่โรงเรียนวัดบางนา (เส็งเลิศประชานุกูล) โดยมีนายพุฒินันท์ แสงสิริวัฒน์ ผู้แทนผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางนา (เส็งเลิศประชานุกูล) เป็นผู้รับมอบ อีกทั้ง พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนเรียนดี ยากจน ในระดับชั้นอนุบาล - ระดับชั้นประถมศึกษาอีกด้วย

และในเวลา 16.09 น. สมเด็จมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลางกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายสรศักดิ์ จันเกษม ประธานศาลอุธรณ์ ภาค 7, นายชาตรี พงษ์อาภา รองอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 3 และนางรุ่งทิพย์ ไชยนาแพง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ประธานร่วมฝ่ายฆราวาส ร่วมเป็นประธานพิธีมหานำฤกษ์ พญาครุฑ รุ่นเหนือดวง ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว

เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

- พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)  -

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสถานีรถไฟยะลา

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสถานีรถไฟยะลา ดังนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.10 น. ของวันที่ 21 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งทางวิทยุ ว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง บริเวณหน้าสถานีรถไฟยะลา จากนั้นทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยความเสียหายเป็นหลุมขนาดเล็กจำนวนมาก และฝ้าเพดานของสถานีรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ

พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องสเปรย์ ทำให้เกิดเสียงดัง จึงคาดว่าเป็นการระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์ รวมถึงประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป

ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top