Friday, 20 June 2025
SPECIAL

เปิดตัว 'อารยะ ชุมดวง' อดีต ส.ส. 5 สมัยร่วมทัพ ปชป. สุโขทัย เผย!! 'ถูกใจนโยบายที่ดินทำกิน - ปชป.ยุคนี้เข้าตาชาวบ้านเยอะ'

(9 ก.พ. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอารยะ ชุมดวง อดีต ส.ส. สุโขทัย 5 สมัย พร้อมทีมงาน ได้เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อแสดงความจำนงสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สุโขทัย ซึ่งนายจุรินทร์ได้ให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับการเข้าร่วมทำงานกับพรรค พร้อมกับมอบบัตรสมาชิกพรรคและมอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้

สำหรับนายอารยะ ชุมดวง เกิดที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษา สาขาการปกครอง จากวิทยาลัยเคอร์รี่ สหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุโขทัย สมัยแรกในปี 2526 จากนั้นได้รับเลือกต่อมารวม 5 สมัย เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากนี้ นายอารยะยังเป็นนักการเมืองที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุโขทัย มาโดยตลอด

'ชูวิทย์' แฉยับ ตำรวจทำ 'พนันออนไลน์' เสียเอง เตือน!! ผบ.ตร. ต้องกล้าฟัน ยังมีเว็บพนันเอี่ยว ตร. อีก

(9 ก.พ. 66) ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ‘มาเก๊า 888’ ตายเพราะนารีพิฆาต ไม่ใช่ตำรวจ เว็บพนันออนไลน์เฟื่องฟู รายได้มากมายมหาศาลมีสารพัดเว็บ แค่เปิดดูในเน็ตก็เจอแล้วว่าเว็บพนันไหนยอดนิยม

มาเก๊า 888 เป็นเว็บที่มีเงินหมุนเวียน 5,000 ล้าน มีครอบครัวพี่น้องชายล้วน 4 คน เกี่ยวข้อง คนแรกชื่อ เบนซ์ (แฟนเก่าดิว) คนรอง บอส, บิ๊ก และไบร์ทที่เป็นตำรวจ

หาก ผบ.ตร. จะจัดการ ‘พนันออนไลน์’ ง่ายมาก ทุกวันนี้ตำรวจเป็นคนทำเองเสียส่วนมาก พวกนี้งานตำรวจไม่ทำ ขับรถซุปเปอร์คาร์ร่อนไปมา แต่ปรากฏว่า ‘มาเก๊า 888’ ของ 4 พี่น้อง ไม่ได้โดนตำรวจจับ แต่ดันไปโดน ‘นารีพิฆาต’ เข้าให้

ดิวออกมาแฉ เพราะโดนทำร้ายหน้าแหกตอนเป็นแฟนต่อหน้าคนในครอบครัว ไม่มีใครห้าม เลยอดไม่ไหว เมื่อเลิกกันแล้ว แค้น 10 ปี ยังไม่สาย ออกมาแฉทีเดียวพังเป็นแถบ ตำรวจจึงต้องขยับตามนารี ไล่จับ ไล่กดดัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่ รับส่วยกันประจำ แล้วดันให้เวลา 4 พี่น้อง หนีไป

ตำรวจ ปส. เสริมเขี้ยวเล็บ จัดอบรมสืบสวนสอบสวนธุรกรรมทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด

เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.66) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) ได้จัดอบรมการสืบสวนสอบสวนธุรกรรมทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด ณ ห้องประชุมพรหมนอก ชั้น 2 บช.ปส. โดยมี พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. เป็นประธานเปิดอบรมให้กับผู้บังคับบัญชาระดับ ผบก., รอง ผบก., ผกก. และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติติงาน รวมจำนวน 60 นาย โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงาน จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ DEA นำทีม โดยนายไคล์ เอ. เดนท์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนทางการเงิน นายวิลเลียม จอห์นสตัล เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ DEA ประจำประเทศไทย เพื่อเสริมศักยภาพ พัฒนาองค์ความรู้ และเทคนิค ต่าง ๆ ในการสืบสวนเส้นทางทางการเงิน การฟอกเงิน ของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ที่ในปัจจุบันมักใช้บัญชีของผู้อื่น หรือ บัญชีม้า ทำธุรกรรมแทน ทำให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน และนำตัวบุคคลที่เป็นเครือข่ายจริง มาดำเนินคดี 

อดีตความรกรุงรัง สู่ปัจจุบัน เมืองไร้สาย

อีกราวๆ 3 เดือน ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง แต่หากย้อนกลับไป ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย-ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเรื่องราวของ 'การเปลี่ยนแปลง' อยู่มากมาย และจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ The State Times ขอนำมุมที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ 'มุมบวก' ของประเทศ มาบอกเล่ากัน 

เริ่มต้นที่เรื่องราว 'ความรกรุงรัง' ของสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร ที่แม้จะเห็นจนเป็นความชินตา แต่ที่ผ่านมา เคยเป็นข่าวคราวดรามา เช่นครั้งหนึ่งในปี 2564 ดาราชื่อดัง 'รัสเซล โครว์' มาถ่ายทำภาพยนตร์ที่เมืองไทย พร้อมกับถ่ายภาพสายไฟฟ้าที่รกรุงรัง จนกลายเป็นข่าวครึกโครม ก่อนที่จะมีข่าวตามมาว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการให้นำสายไฟลงใต้ดิน หลังจากที่ดาราคนดังโพสต์ภาพดังกล่าวออกไป 

ในความเป็นจริง ต้องย้อนกลับไปในปี 2559 รัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมลงใต้ดินอยู่แล้ว ทั้งนี้เป็นโปรเจกต์เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน ยิ่งหากสืบย้อนกลับไป โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นโครงการที่อยู่ในแผนการทำงานของการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.มาตั้งแต่ปี 2527 แล้ว

'พปชร.' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค พร้อมทำงานทันที เตรียมเปิดนโยบายเพิ่ม หลังกระแสตอบรับดีในทุกมิติ

(8 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค จำนวน 38 คน ประกอบด้วย พื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 5 คน ได้แก่ น.ส.สุชาดา เวสารัชตระกูล, นาวาอากาศเอก บัญชาพล อรัณยะนาค, นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์, นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) และนายสาโรจน์ ซึ้งไพศาลกุล

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคกลาง จำนวน 4 คน ประกอบด้วย
1.) จังหวัดสระบุรี คือ นายอรรถพล วงษ์ประยูร เขต 2, น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ เขต 3 และนายองอาจ วงษ์ประยูร เขต 4
2.) จังหวัดกาญจนบุรี คือ นางลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง เขต 4

ภาคตะวันออก จำนวน 2 คน ประกอบด้วย
1.) จังหวัดระยอง คือ นายกฤษฎา เอกกำลังกุล เขต 1
2.) จังหวัดจันทบุรี คือ นายชรัตน์ เนรัญชร เขต 3

ภาคอีสาน จำนวน 20 คน ประกอบด้วย
1.) จังหวัดบุรีรัมย์ คือ นายนภดล อังคสุภณ, นายสุเทพ ใสงาม, นายปกรณ์ ทรงประโคม, นายวรณัฐ ศรีสุริยชัย, นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร, นายสมคิด สินไธสง, นายบรรจง ศรีหาบุญทัน, นายอิทธิศักดิ์ ปาทาน และนายเจษฎากร เขียนนิลศิริ
2.) จังหวัดสุรินทร์ คือ นายเจ้าจอม เตียวเจริญโสภา
3.) จังหวัดยโสธร คือ นายธวัชชัย นิจพาณิชย์ เขต 1
4.) จังหวัดอุบลราชธานี คือ นายจำลอง พรมสวัสดิ์ เขต 1
5.) จังหวัดมุกดาหาร คือ นายวิริยะ ทองผา เขต 1
6.) จังหวัดสกลนคร คือ นายชัยมงคล ไชยรบ เขต 4
7.) จังหวัดเลย คือ นายจรูญ พาณิช เขต 1 และนายสันติภาพ เชื้อบุญมี
8.) จังหวัดร้อยเอ็ด คือ นายเอกรัฐ พลซื่อ เขต 2 และนางรัชนี พลซื่อ เขต 3
9.) จังหวัดอุดรธานี คือ นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ เขต 1 และนายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง เขต 2

ภาคเหนือ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย
1.) จังหวัดเชียงใหม่ คือ นางรัตนประภา ดิศวัฒน์ เขต 6
2.) จังหวัดลำพูน คือ พล.ต.ต.กริช กิติลือ เขต 2

‘สนธยา’ นำทีมบ้านใหญ่ชลบุรี ซบ ‘เพื่อไทย’ มั่นใจชนะยกจังหวัด แย้ม ‘อิทธิพล’ รอสมทบ

‘สนธยา’ นำทีมบ้านใหญ่ชลบุรีซบ พท. มั่นใจชนะยกจังหวัด ประกาศชัดมติครอบครัวไม่แยกกันเดิน แย้ม ‘อิทธิพล’ หลังพ้นหน้าที่ รมว.วัฒนธรรม ตบเท้าเข้า พท. ด้าน ‘ชลน่าน’ ไม่เชื่อ ‘ประยุทธ์’ แลนด์สไลด์

(8 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคพท.นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.กทม. ร่วมแถลงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ทั้ง 12 คน ประกอบด้วย 1.) นายสนธยา คุณปลื้ม, 2.) นางสุกุมล คุณปลื้ม, 3.) น.ส.สุภีพันธุ์ หอมหวล, 4.) นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม, 5.) นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์, 6.) นายแมน อินทร์พิทักษ์, 7.) นายเชาวลิตร แสงอุทัย, 8.) นายพนธกร ใคร่ครวญ, 9.) นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์, 10.) นายเดชา จันทร์เล็ก, 11.) นายสงกรานต์ ภาชนะ และ 12.) นายชาญยุทธ เฮงตระกูล

โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยินดีที่ได้รับสมาชิกใหม่ของเรา ซึ่งเป็นสมาชิกเก่าเราด้วย ขอบคุณนายสนธยาที่มาร่วมงานกับเรา ซึ่งเราเคยร่วมงานกันมาแล้วในปี 2548 สมัยพรรคไทยรักไทย และเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งปี 2566 ชาวชลบุรีจะเทคะแนนให้เราแลนด์สไลด์ สำหรับการเปิดตัววันนี้ จะมีสมาชิกมาร่วมงานกับเราในขณะนี้ 12 คน ทั้งบัญชีรายชื่อและเขต มั่นใจว่าผู้สมัครของเราโดยการนำของนายสนธยามีความเข้มแข็ง เข้าใจประชาชนเป็นอย่างดี ประกอบนโยบายและว่าที่นายกรัฐมนตรีของเราจะทำให้เรานำไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ 

ด้าน นายสนธยา กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนทีมชลบุรี มีความยินดี มีโอกาสกลับมาร่วมทำงานกับพรรค พท.อีกครั้ง เมื่อปี 2548 สมัยพรรคไทยรักไทย ครั้งนั้นได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกพวกเราเข้ามาทำงาน ครั้งนี้การที่ทีมชลบุรีกลับมาร่วมงานกับพรรค พท.อีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่า นโยบายที่พรรคประกาศออกมา รับฟังจากประชาชน มีนโยบายครอบคลุมทุกความต้องการของประชาชน ทีมชลบุรีมีความหลากหลาย ตั้งแต่อายุ 20 กว่า ผู้มีประสบการณ์ ผู้ที่เคยทำงานการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

ขณะนี้เรามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง หวังว่าด้วยนโยบายของพรรคที่ตรงจุด บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจ จะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ และนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งได้ เชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแบบแลนด์สไลด์ ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่สามารถแข่งขันได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้ทีมชลบุรีตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรค พท.อีกครั้ง 

เมื่อถามว่า ทีมชลบุรีจะขอทวงคืนพื้นที่ทั้งหมด จากกลุ่มบ้านใหม่ที่ไปอยู่กับพรรคของนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า เดิมจังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่บ้านใหญ่อยู่แล้ว ด้วยผลงานของทีมชลบุรีช่วงที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจการจะทวงคืนนั้น เป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเดิมก็เป็นพื้นที่ของเรา ครั้งนี้ก็เช่นกันทีมชลบุรีจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ทั้ง 10 เขต

ผบ.ตร.สั่งด่วน ไล่ล่าโจรโหดยิงสายตรวจ สภ.ปากช่อง ให้ได้โดยเร็ว กำชับดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ครอบครัวตำรวจกล้าเต็มที่

(8 ก.พ. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากช่อง ถูกคนร้ายยิงเสียขณะปฏิบัติหน้าที่ ว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 7 ก.พ.2566 เวลาประมาณ 21.10 น. ขณะที่ ส.ต.ต.อรรถพล บุญมี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา อายุ 29 ปี ปฏิบัติหน้าที่ออกสายตรวจ บริเวณถนนปากช่อง – หนองมะค่า (เทศบาล 5) บ้านหนองน้อย ม.12 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินต้องสงสัย ดัดแปลงท่อเสียงดัง จึงเรียกตรวจสอบ แต่คนร้ายไม่หยุด จึงขับไล่ติดตาม ระหว่างขับไล่ติดตามนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณหน้า ส.ต.ต.อรรถพลฯ จนรถจักรยานยนต์สายตรวจล้มลง คนร้ายหลบหนีไป เจ้าหน้าที่พยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำตัว ส.ต.ต.อรรถพลฯ ส่ง รพ.ปากช่องนานา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

‘ลุงหนู’ เตรียมนำทัพหาเสียง จ.กาญจนบุรี พร้อมเปิดตัว 5 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภูมิใจไทย

(8 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 10 - 11 ก.พ.นี้ พรรคภูมิใจไทย นำทีมโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค จะลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ตลอดจนจัดเวทีปราศรัย ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี และ จ.นครปฐม พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยในวันที่ 10 ก.พ.นี้ เริ่มที่ จ.กาญจนบุรี โดยตั้งแต่เวลา 15.45 น. จะขึ้นรถแห่พบปะประชาชนพี่น้อง ชาว จ.กาญจนบุรี 

จากนั้น เดินทางถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แล้วเดินทางไปวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง (วัดใต้) กราบสักการะรูปหล่อพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) และกราบพระเทพปริยัติโสภณ (เจ้าคุณปัญญา) เจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี 

จากนั้น นายอนุทิน และคณะจะเดินทางถึงท่าเรือวัดใต้ แล้วเดินทางโดยทางเรือล่องแม่น้ำแม่กลองเดินทางผ่านบ้านลิ้นช้าง เข้าสู่แม่น้าแควใหญ่ แวะทักทายชาวเรือ ชาวแพที่ท่าเรือเทียบแพแควใหญ่ (เกาะรัตนกาญจน์) ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ ในเวลา 17.45 น. ณ ลานเอนกประสงค์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว

'ตำรวจ' ปลอมตัวเป็น นทท. บุกข้าวสาร รวบแก๊งเมียนมา ลอบเข้าเมือง เปิดร้านขายโรตี-เคบับ แย่งอาชีพคนไทย

(8 ก.พ. 66) ว่าที่ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าภายในถนนข้าวสารและซอยรามบุตรี แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ว่ามีคนต่างด้าวจำนวนมาก มาเปิดร้านในลักษณะรถเข็น ขายโรตีและเคบับ ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้าม แย่งอาชีพคนไทย

ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. 66 จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ตรวจสอบ และประชุมวางแผน เพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 อำพรางตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปตรวจสอบตามที่ประชาชนให้เบาะแส พบว่าภายในซอยรามบุตรีมีคนต่างด้าวมาเปิดร้านขายโรตีและเคบับจำนวนหลายร้าน จึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมแสดงบัตรประจำตัวให้คนต่างด้าวดู

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบนั้น คนต่างด้าวหลายรายไหวตัวทันและวิ่งหลบหนีไป ทิ้งไว้เพียงรถเข็นขายของ จึงควบคุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไว้ได้ 11 ราย ได้แก่

1.) นายทะอ่อง อายุ 21 ปี, 2.) นาย โมยัมเอ อายุ 20 ปี, 3.) นาย ฮงทาย อายุ 33 ปี, 4.) นายอู อายุ 25 ปี, 5.) นาย โทเร อายุ 19 ปี, 6.) นาย มีโส อายุ 30. ปี, 7.) นาย ออจุน อายุ 33 ปี, 8.) น.ส.เลเนวี อายุ 29 ปี, 9.) น.ส.สาเน ทุย อายุ 33 ปี, 10.) น.ส.แวว อายยุ 46 ปี และ 11.) น.ส.มูมู อายุ 28 ปี

ซึ่งระหว่างการตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 11 ราย ไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ดูได้

ทั้งนี้ การเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ อันเป็นความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ทั้งหมดยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางพรมแดนที่ติดกับประเทศไทย และเข้ามาเปิดร้านขายโรตีและเคบับ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ โดยมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีรายได้เฉลี่ยต่อวันยังไม่หักต้นทุนถึง 1,000-1,500 บาท สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยที่ค้าขายอย่างถูกต้องในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

'เพจดัง' ติง!! กรณีนักท่องเที่ยวจีนถูก 'โกง-ทำร้าย' ที่ภูเก็ต "ถ้า จนท.ช่วยจริงจังแต่แรก เรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้น"

ไม่นานมานี้ เพจ 'ลุยจีน' ได้โพสต์ข้อความแจ้ง กรณีนักท่องเที่ยวจีนถูกบริษัททัวร์ภูเก็ตทำร้ายและโกง (อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้ที่ >> https://facebook.com/100064606066871/posts/pfbid02ircqQ1vk7gPwecVSsJUi9gtevFucTeqJQRoKZEPkfiuqKXmffXjCkeAs52VVKDgtl/) โดยล่าสุดได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว ว่า...

จับแล้วเมื่อวานครับ เคสพนักงานบริษัททัวร์อักษรย่อ บ ที่ทำร้าย นทท.จีนปลาย ม.ค. จนเป็นคลิปไวรัลที่จีน

เบื้องต้นให้การรับสารภาพ มีการตรวจยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุ และส่งฟ้องศาลต่อไป

แต่ประเด็นที่คนจีนตั้งคำถามกันคือ "ถ้า ตร. ท่องเที่ยวไทย ไปช่วยเรื่องนี้อย่างจริงจังแต่แรก ไม่โยนเรื่องให้คนอื่น เรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นมั้ย?" 

ย้อนตำนาน 'การเลือกตั้งครั้งแรก' ในประเทศไทย จุดเริ่มต้นของการใช้สิทธิ์ ของประชาชนไทย

หายใจอีกไม่กี่ที กะพริบตาอีกไม่กี่หนก็จะถึงช่วงเวลาที่ 'คนไทย' ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่า 52 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรก หรือที่เรียกว่า 'นิวโหวตเตอร์' จำนวนกว่า 8.1 แสนคน จะได้ใช้อำนาจทางการเมืองผ่านปลายปากกา เลือกผู้แทนราษฎรเข้าสภาอีกครั้ง 

ไม่ว่าเงื่อนไขที่นำไปสู่การเลือกตั้ง จะเกิดจากการยุบสภา หรือ การสิ้นสุดวาระของสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม หากไม่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน หรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น คาดว่าห้วงเวลาของการจัดการเลือกตั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ 

แต่ก่อนจะถึงวันเข้าคูหา กากบาทเลือกพรรคที่ชอบ & คนที่ใช่ The State Times ขอหยิบยกเอาเรื่องราวการเลือกตั้งของประเทศไทย นับจากอดีต สู่ปัจจุบัน มาบอกเล่ากัน โหมโรงเรื่องแรก #เลือกตั้งสตอรี่ เราพาย้อนเวลากลับไป ในวันที่คนไทยทุกคน เริ่มต้นเป็น 'นิวโหวตเตอร์' ในการเลือกตั้งครั้งแรก 

กว่า 90 ปีก่อน ห้วงเวลาแห่งการอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน  2475 คือวันที่นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบอบการเมืองไทย ซึ่งขณะนั้นยังใช้ชื่อสยาม จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปลี่ยนรูปแบบการปกครองมาเป็นระบบรัฐสภา

กลไกการปกครองแบบประชาธิปไตยถูกประกอบสร้างและเริ่มวางรากฐานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ การจัดการเลือกตั้ง การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และการเปิดทางให้มีการจัดตั้งพรรคการเมือง

แค่ราว 1 ปี หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 10 ธันวาคม 2475 รัฐบาลคณะราษฎร  ซึ่งมีพระยาพหล พลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 โดยเป็น 'การเลือกตั้งทางอ้อม' ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 

7 คำถาม กับ 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ว่าที่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ

เปิดใจ 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' กับ เหตุผลที่มาร่วมครอบครัว

ฉงน!! ‘ข้าราชการสีเทา’ ฉายแสงซ้ำซาก ฤๅฤทธิ์แรงโหมจาก ‘เงา’ หลังฉาก ที่ให้ท้ายจนเคยตัว

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายในสังคม ‘ข้าราชการสีเทา’ ก็เน่าออกมาอีกเป็นระลอกคลื่น 

เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว กรณีข้าราชการสีเทา สุดงามไส้ ที่ทำเอา ‘ท็อป’ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ยังต๊กกะใจ และตามหลอกหลอนอยู่นั้น สาเหตุมันก็มาจากความละโมบส่วนบุคคล ที่ไม่รู้มีใครหนุนหลังให้หาญกล้าลงมือกิน

แต่ก็อย่างว่า คดีนี้ก็จบลงเมื่อผู้ถูกกระทำเกินทน จนเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แท็กมือกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บุกเข้าจับกุม ‘รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา’ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นผลสำเร็จ 

เป็นเหตุเซอร์ไพรซ์ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในห้องประชุม และกำลังรออวยพรปีใหม่ ‘ทั่นอธิบดี’ ซึ่งถูกแจ้งข้อหา ‘เรียกรับผลประโยชน์’ เรียกเก็บค่าวิ่งเต้นตำแหน่ง-รีดลูกน้อง โดยจากการตรวจค้นห้องทำงาน พบเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ใส่ซองจำนวนหลายต่อหลายซองเป็นของกลาง แม้เจ้าตัวจะให้การปฏิเสธ ว่าไม่รู้เงินอะไร ก็มิเป็นผล 

ถัดมาวันนี้ (2 ก.พ.66) ก็ได้ข่าวทำนองว่า ผอ.โรงเรียนดังในเมืองกรุง รีดเงินเอกชน 3.2 แสนบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุจริตเกี่ยวกับอาหารนักเรียน จนโดนเจ้าเดิมอย่าง บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท., เปิดปฏิบัติการ ‘ไข่นกกระทา’

ผู้ต้องหา รอบนี้ มีชื่อว่า นายไพฑูรย์ ภูมิช่อ ผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) อายุ 58 ปี ถูกรวบในข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ภายในห้องทำงานโรงเรียน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

โดยสืบเนื่องจากก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนและก่อนเข้าทำการจับกุมนั้นสายข่าวแจ้งว่าว่า นายไพฑูรย์ มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และ เรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งเงินส่วนหลังนี้อ้างว่าเป็นค่าดูแลเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารของนักเรียน จำนวน 5 คน

เมื่อจับได้ ก็เข้าสูตร อ้างว่าไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้มีการเชิญตัวผู้ประกอบการมาเข้าพบจริง แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการคนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ของตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลระดมจับกุมความผิดอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 แสนเม็ด ไอซ์ 40 กก.และของกลางจำนวนมาก

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7  อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลถลงผลระดมจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย (On Ground) และจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ผ่านระบบออนไลน์และโซเซียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย (Online) ระหว่างวันที่ 1 - 5 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยแยกความผิด 

1.) ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน จำนวน 582 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 578 คน 
2.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( On Ground ) จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 นัด 
3.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( Online) จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 4 คน และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 ผู้ต้องหาจำนวน 7 คน ช.4 ญ.3 พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 264 มัด รวมประมาณ 528,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 40 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 40 กิโลกรัม รถยนต์จำนวน 7 คัน อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และอื่นๆ อีกหลายรายการ)

สำหรับผลการจับกุมคดียาเสพติด ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม มีกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า) จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ทางด้าน อ.สังขละบุรี และสืบสวนทราบว่า หนึ่งในขบวนการกลุ่มเครือข่ายนายโก๊ะ มีนายวิเชียรหรือตั้มฯ และ น.ส.หฤทัยชลหรืออ้อย ฯ เป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ส่วนวันเวลาก่อนการจับกุมประมาณ 1 เดือน ทราบว่า นายโก๊ะ สั่งการให้ น.ส.หฤทัยชลฯ กับพวก ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน 6กท-4926 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำยาเสพติดซุกซ่อนภายในรถยนต์ โดยมีการทำช่องลับซุกซ่อนยาเสพติด ซึ่งทำการจับกุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา ณ ถนนแสงชูโต ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อู่ทำสีรถยนต์ ซอยตลาดเทศบาลเมืองสามพราน อ.สามพราน และต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 44/128 หมู่ที่ 8 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม

‘อนุทิน’ ปราศรัยชุมชนบ่อนไก่ หยอดชาว กทม. ขอให้ลองใช้คนบ้านนอกอย่างภูมิใจไทย แล้วจะตอบแทนบุญคุณคน กทม. อย่างยิ่งใหญ่

เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) ที่ศูนย์เยาวชนปทุมวัน กทม. พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยย่อยช่วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตปทุมวัน หาเสียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย, นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรค, น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และสมาชิกพรรคร่วมขึ้นเวทีครั้งนี้

น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนที่สนับสนุนตนมาตลอดการเป็น ส.ส.เขตปทุมวัน ตนรู้สึกว่าทุกคนเป็นคนในครอบครัว และความตั้งใจของตนยังเหมือนเดิม คือต้องการรับใช้ประชาชน เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชน 

ขณะที่ นายศุภชัย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ครั้งที่แล้วเราเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ตอนนี้ความสงบมีเกินไปแล้ว แต่สิ่งที่ไม่มีคือเงินในกระเป๋า ถ้าจะให้คนเดิมบริหารประเทศ 8 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่ามันไม่ได้แล้ว พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะขายความสงบอยู่ ตนว่ามันไม่ได้แล้ว ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่ายังเป็นนายกฯ ได้ เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 75 ปี ตนก็ว่ามันสามารถเป็นไปได้ตามสิทธิ์ แต่ส่วนตัวตนมองว่าคนที่เหมาะสม คือ นายอนุทิน 

จากนั้นเวลา นายอนุทิน ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความแน่วแน่ในการจะมารับใช้ประชาชนชาวบ่อนไก่ และชาว กทม. ตนเป็น ส.ส. มาแล้ว 10 ปี แต่ไม่เคยได้ใจคน กทม. สักเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ชาว กทม. ใจอ่อนให้พรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคได้นำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชน พร้อมมั่นใจว่าวันนี้ภูมิใจไทยพร้อมรับใช้ชาว กทม. เหมือนที่รับใช้ประชาชนคนไทยตลอด 4 ปีผ่านมา ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น เรื่องคมนาคม สาธารณสุข และการท่องเที่ยว 

นายอนุทิน ระบุว่า ขอให้ลองใช้คนบ้านนอกอย่างพวกตน คือคนพรรคภูมิใจไทยบ้าง พร้อมถามว่าเคยได้ยินคำว่า “บ้านนอกเข้ากรุงไหม” ซึ่งถ้าคนบ้านนอกได้รับสิ่งที่คนกรุงเทพฯ หยิบยื่นให้ ก็ตอบแทนบุญคุณกรุงเทพฯ อย่างยิ่งใหญ่แน่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top