Saturday, 21 June 2025
SPECIAL

'ดร.เสรี' ชม 'ลุงตู่' หาเสียงสร้างสรรค์ ไม่แซะ แขวะ ด่าใคร เหน็บบางพรรค เล่นการเมืองน้ำเน่า ด้อยค่าคนอื่นไปทั่ว

(26 ก.พ.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์ข้อความใน Facebook ว่า หาเสียงด้วยการบอกผลงานที่ทำมาซึ่งล้วนแล้วเป็นความจริง

หาเสียงด้วยการบอกสิ่งที่ตั้งใจทำซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ขายฝัน

หาเสียงด้วยการบอกความตั้งใจในการเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประเทศชาติและประชาชน ด้วยความจงรักภักดี ดำรงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ให้มั่นคง

หาเสียงไม่แซะ แขวะ ด่า ด้อยค่าใคร นี่แหละสุภาพบุรุษตัวจริง

บางพรรคด้อยค่าลุงตู่ว่าโง่ บริหารประเทศผิดพลาด พาประเทศชาติลงเหว สวนกับความเป็นจริงเชิงประจักษ์ ขายฝันมอมเมาประชาชนด้วยประชานิยม

'ลุงหนู' นำทีม 'ภูมิใจไทย' ปราศรัยใหญ่เมืองคอน เสนอสร้างสะพานเชื่อมขนอม-สมุย ดันท่องเที่ยวบูม

(26 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.66) หอประชุมเมืองสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหารพรรค นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, ดร.นาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางสาวเพชรดาว โต๊ะมีนา, นายอารี ไกรนรา นำเสนอนโยบาย และเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ ประกอบไปด้วย 

เขต 1 นายจรัญ บุนอินทร์ 

เขต 2 นางสาววาริน ชิณวงศ์ 

เขต 3 นายมานะ วงทอง 

เขต 4 นายณัฐกิตติ์ หนูรอด 

เขต 5 นายสมศักดิ์ แสงอารยะกุล

เขต 6 นายษฐา ขาวขำ 

เขต 7 นางมุกดาวรรณ เลืองสีนิล 

เขต 8 ภญ.นันทวัน วิเชียร 

เขต 9 พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ มีประชาชนร่วมกว่า 1.5 หมื่นคน

นายอนุทิน กล่าวว่า ครั้งที่แล้วพี่น้องเมืองคอนให้คะแนนพรรคภูมิใจไทยนับแสนคะแนน ถือเป็นน้ำใจ ที่มอบให้พรรคเรา และเราพยายามตอบแทนท่านอย่างเต็มที่ มาคราวนี้ เราทุ่มสุดตัวขอแจ้งเกิด ไม่ใช่แค่ตอกเสาเข็ม แต่ขอยกจังหวัดเลย วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ จะเป็นวันเลือกตั้ง ท่านมีคนทำงานจริง ทำงานเป็น มาอยู่ตรงนี้แล้ว ขอโอกาสพวกเรารับใช้ท่าน 4 ปีที่ผ่านมา ถนนหนทาง เราพัฒนาขึ้น มีทางรถไฟเชื่อมต่ออย่างอย่างทั่วถึง การท่องเที่ยว เราต้องการยกระดับขึ้นไปอีก นครศรีธรรมราชต้องเป็นเป้าหมายให้คนทั้งโลกมาเยือน 

"เราต้องการเห็นสะพานเชื่อม อ.ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อทำสำเร็จ จะไม่พัฒนาแค่ 2 จังหวัด แต่มันจะพัฒนาทุกพื้นที่รอบข้าง แต่โอกาสที่สำเร็จ จะมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับเสียงที่ท่านมอบให้ และอย่าลืมว่า เมื่อเราได้ทำงาน อะไรที่พูดไว้ เราทำ พี่น้องวางใจได้"

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 : สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

อยู่ให้เขาเบาใจ
ยามจากไปให้เขาอาลัยถึง
ไม่ใช่อยู่ให้เขาหนักใจ
จากไปให้เขาไล่ส่ง

'กรณ์' ตอบโดนใจ!! ทำไมลูกชาวนาจะเป็น ส.ส.ไม่ได้ แค่ ปชช.พร้อมเลือก วันนั้นคนไทยจะเป็นเจ้าของ ปท.ตัวจริง 

(25 ก.พ.66) คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ...ทำไม 'หมอลำ' กับ 'ลูกชาวนา' จะเป็น ส.ส.ไม่ได้!? ว่า...

วันนี้ผมมาลงพื้นที่ "ร้อยเอ็ด/มหาสารคาม"

ที่ 'ร้อยเอ็ด' ผู้สมัครเราเป็นหมอลำชื่อดัง “เอม-อภัสรา” ได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงโควิดที่เห็นเหล่าศิลปินถูกทอดทิ้ง และความตั้งใจอยากนำวัฒนธรรมอีสานสู่ความเป็นสากล

ส่วนผู้สมัครเราที่ 'มหาสารคาม' เป็นลูกสาวชาวนา ที่เรียนจบวิทยาศาสตร์เคมี ทำงานบริษัทในกรุงเทพ แต่แล้วก็ตัดสินใจกลับมาช่วยหมู่บ้านบ้านเกิดในฐานะผู้จัดการโครงการ ‘ข้าวอิ่ม’ ของผมเอง

วันนี้คุณแม่เขาโพล่งถามผมว่า “คุณกรณ์คะ ลูกชาวนาเป็น ส.ส.ได้จริงหรือคะ!?"

คำถามนี้สะท้อนมุมมองที่ชาวบ้านมีต่อการเมืองไทย ว่าใครจะเป็น ส.ส. ต้องรวย ต้องมีเครือข่าย ชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่มีสิทธิ แค่คิดจะลงสมัครก็แปลกแล้ว

ที่ชาวบ้านคิดอย่างนี้ก็ไม่ผิด เพราะตามจริงโอกาสที่ชาวบ้านธรรมดาๆ จะชนะเลือกตั้งมีน้อยมาก (ไม่ว่าจะมีความรู้ หรือมีความตั้งใจดีแค่ไหน) …แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้… ผมเชื่อเช่นนี้

…และวันไหนที่คนธรรมดาในทุกสาขาอาชีพ สามารถลงสมัคร และได้รับการสนับสนุนจากคนธรรมดาด้วยกัน วันนั้นจะเป็นวันที่ประเทศไทยเราเจริญ เป็นวันที่เราได้บ้านเมืองกลับคืนจากนายทุนและผู้มีอิทธิพล และเป็นวันที่ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง 

ผมภาคภูมิใจในผู้สมัคร 'ลูกชาวบ้าน' ของเราทุกคนครับ


ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0K651J8t1D9HNby4vRpV4w1orz2j2dkcPTPKX4sP54NUdjzdh7AhymsbP17Yse2scl&id=100044357112719&mibextid=Nif5oz

'อุ๊งอิ๊ง' เผย ไม่ถือฤกษ์ เปิดแคนดิเดตนายกฯ ลั่น!! พร้อมเลือกตั้ง ห่วงนับคะแนนไม่โปร่งใส

(25 ก.พ. 66) ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย จังหวัดเชียงราย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เปิดเผยไทม์ไลน์การเลือกตั้งของกกต.ที่ระบุจะยุบสภาวันที่ 15 มี.ค.ว่า เคยบอกไปแล้วว่าเราพร้อมอยู่แล้ว พรรคพท.พร้อมแล้ว จะออกหาเสียงเพิ่มเติมและทำเพื่อประชาชน

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องไทม์ไลน์ เรามุ่งมั่นเข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 15 มี.ค. หรือวันไหนก็ตาม โดยเอกสารระบุชัดว่าจะยุบสภาในวันที่ 15 มี.ค.ซึ่งก็พอดีกับวันเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค. ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและพร้อมแล้ว ภายหลังมีการยุบสภา การลงพื้นที่หาเสียงจะมีความชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามว่า ภายหลังการยุบสภาจะมีการเปิดแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.เมื่อไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้

เมื่อถามย้ำว่า การประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จำเป็นต้องดูฤกษ์หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แล้วแต่ว่าใครจะดูฤกษ์หรือถือฤกษ์ แต่ตนไม่ถนัด เพราะดูไม่เป็น

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังมีการยุบสภาก็เข้าสู่ระบบ ก่อนหน้านี้เราได้มีการเตรียมการไว้หมด หลังมีการยุบสภาเราก็พร้อมที่จะประกาศ ส่วนจะมีการกำหนดดีเดย์หรือไม่ ย้ำว่าเราต้องรอดูไทม์ไลน์ก่อน แต่ว่าเราพร้อมแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการเตรียมการก่อนวันที่ 15 มี.ค. เราทำตามกรอบกฎหมายและเวลาที่เหมาะสม

ด้านนายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า การเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ จะสามารถทำได้ในระหว่างการรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งก็พอมีเวลาอยู่ แต่ต้องรอดูจังหวะ ไม่ใช่ว่ามีการยุบสภาวันที่ 15 มี.ค. แล้วจะประกาศในวันที่ 16 มี.ค. ทั้งหมดต้องเป็นไปตามกระบวนการสรรหาของพรรค และต้องผ่านกรรมการบริหารพรรค

‘เพื่อไทย’ นำทีมผู้สมัคร บุกห้วยขวาง รับฟังปัญหา พร้อมปลุก ปชช. เลือก ‘พท.’ ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

(25 ก.พ. 66) แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคพท., นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., นายวิชาญ มีนชัยนันท์, นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พร้อมด้วยนายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตห้วยขวางและวังทองหลาง และนายภัทร ภมรมนตรี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตดินแดง ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดห้วยขวาง โดยได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของอย่างมาก

ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้าได้ฝากพรรค พท.แก้ไขปัญหาเรื่องหาบเร่แผงลอยที่ถูกจัดระเบียบอยู่ในขณะนี้ พร้อมขอให้พรรค พท.เข้ามาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีกำลังมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า วันนี้ทีมงานของพรรค พท.พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ดูปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องในเรื่องของราคาสินค้า ซึ่งก็ได้รับทราบว่า วันนี้ราคาสินค้าเท่าเดิม แต่ต้นทุนของแม่ค้านั้นสูงขึ้น ทำให้กำไรของผู้ค้าขายน้อยลงอย่างมาก ซึ่งพรรค พท.มีนโยบายที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า วันนี้เขตดินแดง ห้วยขวางมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครของพรรค ซึ่งผู้สมัครของพรรค พท. จะต้องชิงชัยกับผู้สมัครคนเก่าของพรรค ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เรารอการแบ่งเขตของ กกต.อยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครคนใด เขตใดของพรรค เราเชื่อว่าจะสามารถทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทน และเป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชนได้ โดยพรรค พท.เป็นพรรคที่ทำทุกนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ตนคิดว่าผู้สมัครคือคนที่จะเข้ามาช่วยกันผลักดันนโยบายเหล่านั้นเพื่อพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ ว่าที่ผู้สมัครของพรรค พท.ทุกคนลงพื้นที่ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ตนอยากให้ทุกคนเลือกผู้สมัครที่ตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนเบื่อกับการบริหารงานของรัฐบาลเก่า ๆ อยากเรียนว่าพรรค พท.สามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ขอให้เลือกพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรค เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เข้ามาแก้ไขวิกฤติของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่นี้

‘ภูมิใจไทย’ ผุดไอเดีย ‘ผันน้ำยวม’ เติมน้ำให้เขื่อนภูมิพล ช่วยเกษตรกรสู้ภัยแล้ง ลั่น!! ‘ภท.’ ยืนเคียงข้างเกษตรกรไทย

(25 ก.พ. 66) นายวีระกร คำประกอบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันภัยแล้งของพรรคภูมิใจไทยว่า จากการศึกษาพบว่า ลุ่มน้ำเจ้าพระยาต้องการน้ำ 18,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อปี แบ่งเป็น

3,500 ล้าน ลบ.ม.สำหรับขับไล่น้ำเค็ม และรักษาระบบนิเวศเพื่อไม่ให้น้ำเค็มเข้าใน กทม. หรืออาจจะขึ้นไปถึงพระนครศรีอยุธยาได้, 2,500 ล้าน ลบ.ม. สำหรับผลิตน้ำประปา

3,000 ล้าน ลบ.ม.สำหรับภาคอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก

1,000 ล้าน ลบ.ม.สำหรับการปศุสัตว์

ที่กล่าวไปรวมกัน 10,000 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี และยังมีส่วนของภาคการเกษตร ชาวนา ชาวไร่ ที่ต้องการน้ำอีกประมาณปีละ 8,000 ล้าน ลบ.ม.

“เพราะฉะนั้น ปีหนึ่ง เราต้องใช้น้ำ 18,000 ล้าน ลบ.ม. แต่ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฉลี่ยประมาณปีละ 4,000 ล้าน ลบ.ม. และในช่วงที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาขาดแคลนน้ำถึง 8,000 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ทำให้เกิดภาวะภัยแล้ง คำถามมีว่า จะเอาน้ำที่ไหนมาช่วยเหลือพี่น้องชาวนาชาวไร่” นายวีระกร ระบุ

นายวีระกร ซึ่งเป็นอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย จึงได้เสนอทางออก โดยการผันน้ำจากลำน้ำยวม ที่มีต้นน้ำ อยู่ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน และไหลลงใต้ไปลงแม่น้ำเมยแล้วออกนอกประเทศ ไปยังแม่น้ำสาละวิน ที่ไหลไปเข้าประเทศเมียนมา โดยแทนที่เราจะปล่อยน้ำออกไปนอกประเทศ เราก็ปิดประตูน้ำที่ปากแม่น้ำยวม และตั้งสถานีสูบน้ำข้ามภูเขาสูงประมาณ 160 เมตร เพื่อไหลลงน้ำแม่งูด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

นายวีระกร อธิบายต่อว่า เพื่อให้น้ำไหลลงเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ซึ่งปัจจุบันเขื่อนภูมิพลสามารถกักเก็บน้ำ ได้ 13,500 ล้าน ลบ.ม. แต่ตลอดระยะเวลาที่เกิดเอลนีโญ ช่วงปี 2555-2563 มีน้ำเฉลี่ยอยู่ไม่เกิน 5,000 ล้าน ลบ.ม. เพราะฉะนั้น เขื่อนภูมิพล ยังมีพื้นที่สามารถกักเก็บน้ำได้อีกประมาณ 8,500 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี เมื่อเราปิดไม่ให้น้ำยวมไหลออกไปนอกประเทศ แล้วสูบน้ำมายังเขื่อนภูมิพล โดยน้ำยวมจะสามารถสูบข้ามเขามาได้ประมาณปีละ 2,000 กว่าล้าน ลบ.ม.

นายวีระกร กล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำ 2,000 กว่าล้าน ลบ.ม.จากแม่น้ำยวมก็ถือว่า ยังไม่เพียงพอ และอาจจะต้องมีเฟส 2 โดยการต่อท่อจากแม่น้ำสาละวิน บริเวณชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน เอามาลงประตูน้ำที่ปิดตรงปากแม่น้ำยวม เมื่อเป็นเช่นนี้ ในอนาคต เราก็จะมีน้ำยวมมาช่วยให้กับพี่น้องประชาชนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ขาดแคลนน้ำประมาณปีละ 4,000-8,000 ล้าน ลบ.ม. ได้อย่างเพียงพอ โดยเราจะสูบน้ำเฉพาะในหน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงที่พี่น้องในพื้นที่ลุ่มน้ำยวมเดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่ในหน้าแล้งเราจะไม่แตะต้องเลย

“เป็นการผันน้ำ เพื่อเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนภูมิพล และเป็นการเติมน้ำต้นทุนให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวนากว่า 27 จังหวัด ในลุ่มน้ำภาคกลางทั้งหมด ที่จะเป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย ในการทำให้พี่น้องชาวนา ชาวไร่ ได้มีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร นี่คือ คำสัญญาของพรรคภูมิใจไทย ที่ขอยืนเคียงข้างพี่น้องเกษตรกรไทย” นายวีระกร ระบุ


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/713530

‘สุวัจน์’ เปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ หนุน Soft Power ดันสตรีทฟู้ดไทยสู่ระดับโลก หวังดึง นทท. - กระตุ้น ศก.

(25 ก.พ. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ ประจำปี 2566 เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยมี นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหาร สท.ผู้นำชุมชน, นักธุรกิจ, พ่อค้า, แม่ค้า และพี่น้องประชาชนร่วมงานจำนวนมาก ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสวนอนุสรณ์สถานวีรกรรมท้าวสุรนารี

นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานถนนคนเดิน เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างบุคลิกคาแรคเตอร์ให้กับเมืองโคราช ที่เราเรียกว่า ‘เดิน เดิ่น โคราช’ คือ เดินชมเมืองโคราช เดินชมร้านค้า เดินชมดนตรี เดินไปตามถนนที่สวยงามย่านอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เดินชมอนุสรณ์สถานคุณย่าโม เดินไปท่ามกลางสตรีทฟู้ดที่มีอาหารดี ๆ พื้นบ้าน พื้นเมืองของคนโคราช เดินไปท่ามกลางสินค้าโอทอป สินค้าที่หลากหลายแล้วก็มีดนตรี มีอะไรมากมาย ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Night Market บวกกับ Streetfood บวกกับถนนวัฒนธรรม รวมแล้วเลยกลายเป็น ‘เดิน เดิ่น โคราช’

ซึ่งทางเทศบาลนครนครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ และเห็นว่าจะจัดกันเป็นประจำทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จัดกันไปเรื่อยๆ ก็จะทําให้เมืองมีความคึกคัก มีสีสัน มีบรรยากาศของการท่องเที่ยวและก็รองรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาประเทศไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และเป็นการอวดของดีเมืองโคราช ของดีทางด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม Soft Power ของดีทางด้านอาหารการกิน สินค้าโอทอป ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดี แล้วก็จะนําไปสู่เรื่องเศรษฐกิจ ทําให้พ่อค้า แม่ค้า คนขายของที่ระลึก คนขายโอทอป คนขายอาหาร ทุกคนได้ขายสินค้า พี่น้องประชาชนได้ออกมาเที่ยวจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวก็อยากจะมาที่โคราช ถือว่าเป็นโมเดลที่ดี ซึ่งทุกจังหวัดก็จะมีของดีอย่างนี้ แล้วก็ร่วมกันจัดงานลักษณะนี้จะเป็นถนนวัฒนธรรม ถนนคนเดิน หรือจะเป็นถนนสําหรับสตรีทฟู้ด

“เมืองไทยมีชื่อเสียงทั่วโลกพอพูดถึงเรื่องสตรีทฟู้ด ทุกคนจะนึกภาพเมืองไทยมาอันดับหนึ่ง สตรีทฟู้ด ขนาดมิชลิน สตาร์ บ้านเรายังมีอยู่ที่สตรีทฟู้ด ถ้าเราส่งเสริมเรื่องสตรีทฟู้ด ไปทุกตําบล ทุกเมือง ให้มีสตรีทฟู้ด แล้วเอาของดีมาอวด หรือส่งเสริมพวกมิชลิน สตาร์ เพราะนักท่องเที่ยวชอบไปกิน คือ เป็นการแนะนําของอร่อยที่เซอร์ติฟายด์โดยมิชลิน ส่งเสริมให้ มิชลิน สตาร์ Michelin เข้ามาให้ดาวให้เพจ ไปตามร้านอาหารดัง ๆ เมืองท่องเที่ยว ทุกจังหวัด ทุกอําเภอ ต่อไปเมืองไทยก็จะมีชื่อเสียงเหมือนเป็นเมืองของกินของโลก เมืองอาหารอร่อยของโลก สตรีทฟู้ดของโลก จะช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวได้มาก” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้การท่องเที่ยวเป็นหัวใจสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงินจากนักท่องเที่ยวมาเร็ว มาแรง มาทั่วถึง ไปทุกหมู่บ้าน ไปทุกตําบล วันนี้เราจะอาศัยการลงทุนจะต้องรอจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจ ถดถอย เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยแพง ผลกระทบ ใช้เรื่องการลงทุนจะค่อนข้างชะลอ แต่เรื่องท่องเที่ยว เรื่องปาก เรื่องท้อง เรื่องอยากไปเที่ยว คิดได้ทุกวัน ขออย่างเดียว บ้านเมืองคุณปลอดภัย คุณมีสตรีทฟู้ด มีอาหารอร่อยๆให้ผมทานหรือเปล่า ผมก็อยากจะมา ฉะนั้น สตรีทฟู้ด เป็นเสน่ห์ของเมืองไทยมากขอให้ส่งเสริมให้ดีกันเยอะๆ ในทุกเมืองท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ เพราะการท่องเที่ยวเป็นหัวใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมา

'อุ๊งอิ๊ง' นำทีม ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ จ.เชียงราย ชาวบ้านแห่ต้อนรับ ตะโกนเชียร์ “เพื่อไทย แลนด์สไลด์”

กองเชียร์ส่งเสียงแลนด์สไลด์กระหึ่ม สนามบินแม่ฟ้าหลวง ‘เพื่อไทย-แพทองธาร’ บุกหาเสียงปราศรัยใหญ่เชียงราย ลุยพบปะประชาชนที่แม่สาย ก่อนปราศรัยใหญ่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงรายเย็นวันนี้

(25 ก.พ. 66) ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพร้อมคณะ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง โดยมีประชาชนสวมเสื้อสีแดงสัญลักษณ์พรรค พท. คอยรอให้กำลังใจพร้อมมอบดอกไม้ และยังมี ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ประกอบด้วย ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ,นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช มารอรับคณะของพรรค พท. ด้วย ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะเดินทางออกจากอาคารผู้โดยสารขาออก มีประชาชนส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นว่า “แลนด์สไลด์ ครอบครัวเพื่อไทย” พร้อมทั้งมอบดอกไม้ให้กับ น.ส.แพทองธาร และคณะ

สำหรับกำหนดการของพรรค พท. ในวันนี้ เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธารและคณะจะเดินทางไปพบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายอิทธิเดช แก้วหลวง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย จากนั้นจะเดินทางไปปราศรัยใหญ่ที่เวทีสนามกีฬา รร.ปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย โดยจะมีนพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร นาย จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรค และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยบนเวทีเพื่อหาเสียงเลือกตั้งกับประชนชน ต่อจากนั้น คณะของพรรค พท. จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ที่ถนนคนเดิน อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/713527

‘กรณ์’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ‘ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อาสาเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้าน

(24 ก.พ.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร. เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค นายปรีชญา ฉ่ำมณี หรือ หำโจ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจัดตั้งตัวแทนและที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเปิดตัว ‘เอม อภัสรา’ นางสาวดนิตา มาบุญธรรม หมอลำชื่อดัง เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ดเขต 1 

นายกรณ์ กล่าวว่า ถ้า เอม อภัสรา ได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร ก็จะเป็นความภาคภูมิใจของคนร้อยเอ็ด เพราะเอม เป็นลูกชาวบ้านที่อาสามาเป็นผู้แทน และมีเจตนารมณ์เดียวกันกับพรรคคือ ไม่ขายความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่สะสมประโยชน์ส่วนตัว เราเน้นทำงานเพื่อแก้ปากท้องของพี่น้องประชาชน สร้างอนาคตให้ลูกหลาน ดูแลผู้สูงอายุ เราสู้ตั้งแต่ยังไม่มี ส.ส.และกล้าชนกับเรื่องปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาคนไทยติดแบล็กลิสต์บูโร สนับสนุนเกษตรกรให้ทำเกษตรพรีเมียม เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร รวมถึงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรมไทย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาสัมผัสในสิ่งที่เขาหาชมที่ไหนไม่ได้ ซึ่งหมอลำ ตอบโจทย์อย่างชัดเจน และเชื่อว่าเอม อภัสรา มีศักยภาพพอที่จะสามารถทำให้ หมอลำ โกอินเตอร์ได้อย่างแน่นอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา หญิงสาว 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา ที่ได้ประสานทหารไทย ทหารเมียนมา สถานทูตไทย เเละตำรวจไทยช่วยเหลือกลับมาได้เมื่อวันที่ 27 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต เพื่อขอให้มีการขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวมาดำเนินคดี นั้น จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ดำเนินการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด

จากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ทราบว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 รายได้รับการชักชวนจาก น.ส.ศิลาณีฯ หรือ แนน ให้ไปทำงานให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้าที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา โดยกล่าวอ้างว่า ใช้เวลาทำงานไม่นาน มีรายได้สูง และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เมื่อตกลงรายละเอียดกันได้แล้ว น.ส.ศิลาณีฯ ได้พากลุ่มผู้เสียหายไปพักที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี พร้อมกับ นายสมเกียรติฯ แฟนหนุ่ม เพื่อรอนำไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อไปยังสนามบินเชียงใหม่ จากนั้นจะมี นายชัชวีร์ฯ รอรับกลุ่มผู้เสียหายพาไปพักคอยอยู่ที่หมู่บ้านอรุโณทัย พื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 1 คืน เพื่อรอเดินทางข้ามไปยังประเทศเมียนมาในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะมี นายจายหารฯ ขับขี่รถยนต์บรรทุกผลแตงโมมารับกลุ่มผู้เสียหายเพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มคนชาวเขา ซึ่งประกอบด้วย นายซ่าฯ, นางโหย่ง และ น.ส.อะเหลมะ บริเวณริมชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเดินข้ามช่องทางธรรมชาติเข้าไปยังประเทศเมียนมา 

หลังจากนั้นจะมีกลุ่มชาวเมียนมา และอินเดีย รับช่วงต่อเพื่อพากลุ่มผู้เสียหายไปส่งที่ร้านคาราโอเกะภายในเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา ซึ่งมี น.ส.พิชญ์สินีฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลร้านและคนที่มาทำงาน แต่เมื่อผู้เสียหายไปถึงกลับถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีแก่ลูกค้าในร้านดังกล่าว โดยระหว่างที่อยู่ภายในร้านจะมีกลุ่มชายติดอาวุธเฝ้าอยู่โดยตลอด ซึ่งผู้เสียหายทราบภายหลังว่า น.ส.ศิลาณีฯ จะได้ค่านายหน้าในการพากลุ่มผู้เสียหายมาทำงานดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายทราบดังนั้นแล้วจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา ตำรวจและทหารไทย จนสามารถหลบหนีกลับมายังประเทศไทยได้โดยปลอดภัย

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.พานทอง ภ.จว.ชลบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติต่อ ศาลจังหวัดชลบุรีเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ จำนวน 8 ราย ดังนี้

1. น.ส.ศิลาณีฯ ทำหน้าที่ ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้ไปทำงานที่ประเทศเมียนมา และเป็นผู้ติดต่อประสานงานบุคคลต่างๆ เพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายสามารถเดินทางไปทำงานที่ประเทศเมียนมาได้
2. น.ส.พิชญ์สินีฯ ทำหน้าที่รับกลุ่มผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านที่ประเทศเมียนมา (หลบหนี)
3. นายสมเกียรติฯ ทำหน้าที่ พากลุ่มผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
4. นายชัชวีร์ฯ ทำหน้าที่ รับกลุ่มผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
5. นายจายหาร สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่รับกลุ่มผู้เสียหาย จากห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปส่งที่จุดข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
6. นายซ่า ทำหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา
7. นางโหย่ง ทำหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา
8. น.ส.อะเหลมะ มีหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา (หลบหนี)

‘ศุภชัย’ ชู ผลงาน ‘3 กระทรวงหลัก’ พิสูจน์แล้ว 'ภท.' พูดแล้วทำ หนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ ฟื้นประเทศ

(24 ก.พ. 66) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้เข้าไปบริหารกระทรวงหลัก 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างให้ประเทศไทยของเราดีขึ้น

"ผมมั่นใจว่า ถ้าพี่น้องประชาชนให้โอกาสกับพรรคการเมืองที่ชื่อ 'ภูมิใจไทย' ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เราจะสามารถทำให้ประเทศพลิกฟื้นและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาของพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ" นายศุภชัย กล่าว

'บิ๊กตู่' อารมณ์ดี เตรียมปราศรัยใหญ่เวทีบ้านเกิด วอนทุกคนเป็นหูเป็นตา ตรวจพรรคการเมืองขายฝัน

(24 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทาง และยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 25 ก.พ.นี้ มีอะไรไปเซอร์ไพรส์บนเวทีบ้านเกิดว่า อย่างน้อยได้ไปเยี่ยมบ้านเกิด ซึ่งไม่ได้ไปนานแล้ว ตนเกิดและโตอยู่ที่นั่น ความผูกพันมีอยู่ตลอด ซึ่งเราต้องนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน ถ้าจะให้พูดวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้นายกฯ พูดทักทายเป็นภาษาโคราช เพื่อเป็นน้ำจิ้มก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “สบายดีเด้อ” ผู้สื่อข่าวบอกเป็นภาษาโคราชว่า “สบายดีแมะ“ ซึ่งแปลว่า “สบายดีไหม“ พล.อ.ประยุทธ์ พยายามพูดตาม พร้อมกล่าวว่า “สบายดีไหม“ ก่อนจะขำเนื่องจากพูดภาษาโคราชผิด ๆ ถูก ๆ พร้อมกล่าวว่า มันจะผสมกันไปหมดแล้ว

เมื่อถามว่า วันที่ 25 ก.พ. ที่จะถึงนี้ จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ทั้ง 132 เขตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางพรรคเตรียมไว้แล้ว

เมื่อถามว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอนโยบายด้านพลังงานน้ำมัน คิดว่าจะทำได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องมาดูกติกากฎหมาย สัญญาต่าง ๆ เพราะทุกอย่างเป็นสัญญา ถ้าจะทำอะไร ก็ต้องไปแก้กฎหมายกันใหม่ตรงโน้น ฉะนั้น เราต้องเริ่มต้นใหม่ ถ้าจะทำอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องทำให้ดี ของเดิมก็ต้องขอความร่วมมือกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้าง

เมื่อถามว่า พรรคจะลดราคาน้ำมันได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พูดอีกแล้ว รอดูแล้วกัน ไม่ต้องรวมไทยสร้างชาติ ในตอนนี้ นายกฯ จะดูแลให้ มากน้อยเดี๋ยวดู ได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงานไว้แล้ว จะลดได้เท่าไหร่ อย่างไร แต่ต้องดูว่าจะมีปัญหาในภาพรวมหรือไม่ ยืนยันว่าจะลดให้ ไม่ใช่การหาเสียง เพราะตนพูดในนามของนายกฯ

เมื่อถามว่า หลายพรรคมีนโยบายขายฝันจะทำได้มากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พวกเราก็ตรวจสอบกัน ดูว่าให้อะไรเท่าไหร่ หาตัวเลขมาว่า คนแต่ละกลุ่มใช้เงินเท่าไหร่ คูณตัวเลขมา พอเพียงหรือไม่ วันนี้งบประมาณรายรับเรามีเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ปรากฎว่า ขาตั้งไมโครโฟนของสื่อ เอนใส่หน้าอก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ชะงัก ก่อนพูดติดตลกและถามว่า “ไอ้นี้พวกใครวะ พวกเราหรอ กระแทกแบบนี้” จากนั้น ได้แกล้งดึงไมโครโฟนออกจากขาตั้งแล้วใส่กลับเข้าที่เดิม พร้อมกล่าวว่า “อย่าถือสา แหย่เล่นกัน เรามันพวกเดียวกันอยู่แล้ว“

‘ปปง.’ ยึดเพนต์เฮาส์หรู ‘สามีหยาดทิพย์’ หลังตรวจพบรับซื้อทรัพย์สินจาก ‘อภิรักษ์ โกฎธิ’

สืบเนื่องจากกรณีการใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 60 - 80% ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีการตรวจค้น ยึด และอายัดทรัพย์สินจากคดีแชร์ Forex-3D หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ เพนต์เฮาส์หรู ภายในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร Forex-3D ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยเพนต์เฮาส์หรูดังกล่าว เป็นหนึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ดีเอสไอได้ประสานส่งมอบกับสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในคดีแพ่งมาอย่างต่อเนื่อง

จากประเด็นที่เกิดขึ้น ปีที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ‘นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ’ สามีนักแสดงสาว ‘หยาดทิพย์ ราชปาล’ อาจเกี่ยวข้องนั้น เนื่องจาก หยาดทิพย์ มีความสนิทสนมกับ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี อย่างไรก็ตาม หยาดทิพย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว โดยยืนยันว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับคดี FOREX-3D พร้อมทั้งยังระบุว่า คอนโดฯ นั้นซื้อมาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบถ้วนและซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้ามาก่อนที่นายอภิรักษ์จะถูกดำเนินคดี

วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานคณะกรรมการ ปปง.ว่าภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากฐานคดีแชร์ Forex-3D มาให้ทางปปง. ดำเนินคดีทางแพ่งต่อนั้น ซึ่งรายการทรัพย์สิน เพนต์เฮาส์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิทของนายรามา รัศมีรามา ทาง ปปง. ได้ดำเนินการยึด อายัดไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าได้มีการแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่นายรามา หรือไม่นั้น ผู้สื่อข่าวได้รับคำตอบว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างขั้นตอนของศาล โดยเนื้อหารายละเอียดภายในสำนวน ทาง ปปง. ขอละเว้นการเปิดเผย เพราะอาจจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่

'เพื่อไทย' ปล่อยคลิป ยกระดับ '30 บาท รักษาทุกโรค' ชูระบบเทคโนโลยีทันสมัย บริการได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

(24 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ. พรรคเพื่อไทย (พท.) เผยแพร่คลิปวิดีโอผลงานโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ระบุข้อความว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยในอนาคต คือ การยกระดับโครงสร้างสาธารณสุขไทยทั้งระบบ ให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ใกล้ใจ - เลือกหมอ เลือกโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ง่ายดาย - บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย
ครบครัน - ใช้ฐานข้อมูล Cloud ทั้งระบบ
รวดเร็ว - รักษาและจ่ายยาออนไลน์
ปลอดภัย - ข้อมูลผู้ป่วยไม่รั่วไหล
สะดวก - นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ
ทันใจ - ตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน เจอหมออีกวันได้เลย
โปร่งใส - ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV

ป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบ ซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top