Monday, 9 June 2025
เซาท์ไทม์

นราธิวาส - ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 ร่วมนายก อบต.สุไหงปาดี ลงพื้นทีเยียมเยืยนให้กำลังใจชาวบ้าน

ที่ทางจังหวัดนราธิวาสมีคำสั่งให้ปิดหมู่บ้านและอยู่ระหว่างรอดูอาการ 14 วันจากสถานณ์โควิคระบาด พันเอกภูมิ โพพี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาร่วมนายเพียร มะโนภักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสุไหงปาดี ลงพื้นที่จุดคัดกรอง หน้าโรงเรียนราชภักดี ม.7 บ้านปิเหล็ง เขตบ้านโคกสะตอ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พษฎาคม 2564 เวลา 10.00 น เพื่อพบปะให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ และมอบถุงยังชีพจำนวน 100 ชุด น้ำดื่มสะอาด 360 ขวดให้กับครอบครัวบ้านโคกสะตอที่ถูกปิดหมู่บ้าน ตามประกาศจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564  เนื่องจากตรวจพบเป็นพื้นที่มีการแพร่ระบาดของ COVID 19 โดยมีนายอันนูวา กาเซ็ง ผู้ใหญบ้าน เป็นผู้รับมอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อสม.ชรบ.ในพื้นที่ 

สำหรับบ้านโคกสะตอ มีประชากร 50 ครัวเรือน จำนวน 437 คน ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด -19 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 จำนวน 10 คน  จำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน   


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ตราด - ทัพเรือภาคที่ 1 เปิดหลักสูตรทบทวนการประมงกับความมั่นคงของชาติ และไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเล

ทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จัดหลักสูตรทบทวน การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเลระหว่างวันที่ 4 - 6 ธันวาคม 2564 ณ วัดตะกาดร่วมสุข ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จว.ตราด

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 มอบหมายให้ นาวาเอก กรัณย์ กลิ่นบัวแก้ว รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการฝึกอบรมไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรความมั่นคงของชาติ และไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเล ณ วัดตะกาดร่วมสุข ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จว.ตราด ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ มีสมาชิกอาชีพประมง และอาชีพต่อเนื่องจากประมง สมัครเข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น 65 คน การอบรมในหลักสูตรดังกล่าว ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย และระเบียบปฏิบัติของกรมเจ้าท่า การติดต่อสื่อสารกับกองทัพเรือ ความสำคัญของ ทสปช.ในทะเล การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กฎหมายการทำประมงและการติดต่อสื่อสารกับวิทยุชายฝั่งของกรมประมง การอนุรักษ์ทรัพยากรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งกล่าวคำปฏิญาณตามครูฝึก ทำให้ผู้ที่ผ่านการอบรมทุกคน ไม่เพียงแต่ได้รับความรู้จากการอบรมเพียงเท่านั้น แต่ยังได้มิตรภาพที่ดีจากครูฝึกและเพื่อนร่วมรุ่น อีกด้วย

พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวให้โอวาทผ่านระบบวิดีทัศน์ว่า การดำเนินการ อบรม การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเลในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายให้ชาวประมงและผู้มีอาชีพทำการประมง ในท้องถิ่น ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลต่าง ๆ จว.ตราด ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน มีความรู้ทางวิชาการที่ได้รับจากการอบรมไปประกอบอาชีพให้เกิดผลดีต่อตนเองต่อเศรษฐกิจของชาติ สามารถเป็นเครือข่ายเป็นหูเป็นตาในการให้ข่าวสารกับทางราชการ ร่วมมือในกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รู้จักบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชิกศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความเสียสละ และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติบ้านเมืองต่อไป


ภาพ/ข่าว  กองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ยะลา - ศปก เบตง เปิดพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน หลังครบ 14 วัน ในการสอบสวนโรคไร้ผู้ป่วยเพิ่มตั้งเป้าเปิดเมือง

ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเบตง เปิดพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนที่ปิดตามคำสั่ง ศบค.ยะลา เพื่อผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมภายหลังถูกปิดพื้นที่เสี่ยงเพื่อทำการสอบสวนโรคครบ 14 วัน ไร้ผู้ป่วยเพิ่ม นายอำเภอเบตงกำชับอย่าประมาทให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายภายในเดือนตุลาคมนี้ ประชาชนในพื้นที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เมืองเบตงในการเตรียเปิดเมืองเพื่อรองรับการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.64 ที่จุดปิดพื้นที่เสี่ยงชุมชนกุนุงจานอง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตงและผอ.ศปก.อ.เบตง เป็นประธานเปิดหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงหลังปิดครบ 14 วัน เพื่อทำการสอบสวนโรค โดยมี นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อม สมาชิกสภาเทศบาล คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สาขาเบตง ผู้นำชุมชน หัวหน้าส่วนราชการ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ร่วมทำพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอให้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เกิดความสงบสุขและผ่านพ้นภัยจากโรคไวรัสโควิด-19 โดยเร็ว

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่าสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 244 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในอำเภอเบตง 242 ราย พบใน state Quarantine 2 ราย กำลังรักษา 108 ราย รักษาหายแล้ว 131 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย พร้อมทั้งแผนการฉีดวัคซีนทุกกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่อำเภอเบตง เดือนกรกฎาคม 2564 ให้ได้จำนวน 6,582 คน ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 6,427 คน คิดเป็น 17% จากเป้าหมาย 37,087 คน และตั้งเป้าหมายภายในเดือนตุลาคมนี้ ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เมืองเบตงในการเตรียมพร้อมเปิดเมืองรองรับการท่องเที่ยว

ส่วนมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ได้มีการคัดกรองเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่อื่น ๆ ณ ด่านตรวจคัดกรอง กม.23 การตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงระหว่างวันที่ 5-11 กรกฎาคม 2564 ในชุมชนและหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยง มาตรการควบคุมดูแลการขนส่งสินค้าเข้า-ออกระหว่างประเทศและการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านพรมแดนเบตง พร้อมกำชับแคมป์ก่อสร้าง โรงงานงดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่

นอกจากนี้ในวันนี้ได้ทำการเปิดพื้นที่เสี่ยง จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.บ้าน กม.32 ม.2 ต.อัยเยอร์เวง 2.บ้านธารมะลิ ม.4 ต.อัยเยอร์เวง 3.บ้านบาแตตูแง ม.2 ต.ธารน้ำทิพย์ 4.ชุมชนบูเก็ตตักโกร ต.เบตง 5.ชุมชนกือติง ต.เบตง และ 6.ชุมชนกุนุงจนอง ต.เบตง เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลังจากปิดพื้นที่มาแล้วกว่า 14 วัน

สำหรับมาตรการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมตามคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ 132/2564 ขณะนี้มีร้านค้าและสถานประกอบการในพื้นที่ที่ได้ยื่นคำร้องและผ่านการประเมินแล้วจำนวน 8 ราย หากร้านค้าหรือสถานประกอบการใดที่จะขออนุญาตเปิดกิจการสามารถยื่นคำร้องต่อ ศปก.อำเภอได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รวมทั้งมาตรการรับซื้อส่งออกผลไม้จังหวัดยะลาตามคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ 108/2564 ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนสถานประกอบการต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลาและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมมือกัน เบตงรวมพลัง DMHTTA (อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจหาเชื้อโควิด ใช้แอพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ) และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ 100%


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

นราธิวาส - "บิ๊กอู๊ด" ชี้ หากคุมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ มีโอกาสทยอยเปิดเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย

วันที่ 4 ก.ค. 64 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อมอบสิ่งของบำรุงขวัญและเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ 7 หน่วยงานหลัก ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก รวมไปถึงปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและช่องทางข้ามธรรมชาติ ที่ทุกหน่วยงานหลักมีความเสียสละ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่ตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดจากพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากบุคคลที่ลักลอบข้ามแดนจากช่องทางธรรมชาติ

ต่อมา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุป ณ ห้องประชุมชั้น 3 ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก นายปรีชา นวลน้อย ปลัด จ.นราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ฯลฯ

ซึ่งในที่ประชุมมีใจความพอสรุปได้ว่า ขณะนี้ประเทศมาเลเซียได้ประกาศปิดประเทศแบบไม่มีกำหนด โดยยอดผู้หลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติในปี 2563 ที่ผ่านมามีจำนวน 434 คน ส่วนปี 64 จากต้นปีถึงปัจจุบันมีผู้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติลดลง เหลือเพียง 172 คน จากมาตรการความร่วมมือของชาวบ้านที่ช่วยชี้เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ โดยพื้นที่ที่มีการลักลอบเข้าเมืองมากที่สุด คือ สุไหงโก-ลก คิดเป็นร้อยละ 75 และมีมาตรการคัดกรองโรคเข้มข้น จนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จากประเทศเพื่อนบ้านในขณะนี้ มีตัวเลขเป็น 0 และพบว่าที่ระบาดในขณะนี้เป็นการระบาดของกลุ่มบุคคลภายในประเทศเท่านั้น

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เราสามารถควบคุมบุคคลที่แอบลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติได้ แต่อย่าประมาทการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความเข้มงวด ปล่อยปะละเลยหรือละหลวมเมื่อใดเขาอาจจะจ้องแอบลักลอบเข้ามาในประเทศได้ และยากต่อการควบคุมหากโควิด19 จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาระบาดอีกครั้ง

หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เดินทางไปยังสะพานด่านพรมแดน โดยมี พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชกร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส นำชมการจัดกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางธรรมชาติ ที่มีแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 ถึง 70 เมตร เป็นเขตแบ่งพรมแดนกับพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งง่ายต่อการลักลอบเดินทางข้ามมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งปัจจุบันที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่สลับสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งก่อนเดินทางกลับ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า การทำงานนั้นต้องบูรณาการกันและเฝ้าระวัง สิ่งสำคัญถ้าพบเห็นการลักลอบเข้าเมืองนั้น ต้องมีมาตรการในการป้องกันประสานทาง จนท.สาธารณสุข โดยภาพรวมการทำงานมีความเข้มแข็งจากการบูรณาการทั้งจังหวัด

ส่วน ตม.เป็นการเสริมการป้องกันลักลอบเข้าเมือง นโยบายของรัฐบาลที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีมาตรการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องฉีดยาวัคซีนป้องกันครบโดส และต้องผ่านการตรวจหาเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง ถ้าได้ผลดีผมเชื่อว่าคงขยายไปเมืองท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ ถ้าป้องกันการแพร่ขายได้ก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะว่าต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยสร้างรายได้ให้กับคนไทยเรา


ภาพ/ข่าว  กรียา นราธิวาส

ยะลา - ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแนวชายแดน เน้นย้ำให้บูรณาการกับหน่วยกำลังในพื้นที่เพิ่มความเข้มแนวชายแดน ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.64 ที่สำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม มอบนโยบายการปฏิบัติราชการและให้โอวาทกำลังพล ขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา พร้อมมอบสิ่งของและชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 เพื่อบำรุงขวัญเป็นกำลังใจ แก่ข้าราชการตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอเบตง โดยมี พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.สมเจตน์ หนูชัยแก้ว สว.ตม.เบตง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรเบตง ตชด.445 นปพ.ยะลา32 ให้การต้อนรับ

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจดูที่บริเวณด่านพรมแดนเบตง พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่อำเภอเบตง ทั้ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธร ตชด. นปพ. รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ให้บูรณาการ ทั้งด้านการข่าว และในการปฏิบัติงานตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวตามช่องทางธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะแรงงานเหล่านี้อาจจะนำเชื้อไวรัสโควิด19 มาแพร่ในประเทศมากขึ้น จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้ม ให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม ยังขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบเห็นหรือทราบเบาะแส การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รีบเข้าควบคุมตัวและดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วน

พัทลุง - ทำนาริมทะเล 1 เดียวในประเทศไทย ความภาคภูมิใจของลูกหลานชาวบ้านปากประ

บ้านปากประ หมู่ที่ 8 ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง  ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ชีวิตออกเรือหาปลาเป็นอาชีพหลัก หารายได้มาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่บรรพบุรุษ บ้านเรือนก็ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ ซึ่งแต่ละรายมีที่ดินบนฝั่งเพื่อประกอบอาชีพเพาะปลูกน้อยมาก จึงคิดค้นหาวิธีการเพาะปลูกพืชในทะเลสาบ หรือริมฝั่งริมทะเลสาบเพื่อเป็นผลผลิตเลี้ยงครอบครัว บรรพบุรุษของชาวประมงนับร้อยปี  จึงได้คิดทำนาข้าวในทะเล โดยใช้พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลสาบที่ทอดยาวกว่า 9 กิโลเมตร และถ่ายทอดความรู้วิธีการปลูกข้าวในทะเลสาบมาจนถึงยุคปัจจุบัน

นายสายัณ รักดำ กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนวัดปากประ ดูแลงานกิจกรรมโรงเรียนและการทำนาเล เผยว่า การทำนาเลของจังหวัดพัทลุงเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ฤดูกาลในการทำนาเลเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมและจะเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายน เราจะเริ่มหว่านต้นกล้าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายนเว้นต้นกล้าอายุ 1 เดือน แล้วไปปักในทะเลใช้เวลาไม่เกิน 90 วันก็จะเก็บเกี่ยวได้เลย ทำไมเราต้องอาศัยช่วงนี้เป็นเพราะช่วงนี้ลมตะวันตกพัดมาฝั่งตะวันออกหรือที่บ้านเรียกกันว่าลมพลัด จะทำให้น้ำทะเลลดและหาดโคลนก็จะปรากฏขึ้นเป็นโคลนตมที่เหมาะกับการทำนาริมเล ส่วนพื้นที่ที่เหมาะในการทำนาเลก็คือแนวทะเลสาบสงขลาฝั่งจังหวัดพัทลุง ตั้งแต่หมู่ที่ 7 8 และ 11 ของตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ทำได้ปีละ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องฉีดยาไม่ต้องใส่ปุ๋ย อาศัยแร่ธาตุและซากพืชซากสัตว์จากโคลนตมที่น้ำทะเลพัดขึ้นมา

ในปีนี้พันธุ์ข้าวที่ใช้จะเป็นข้าวพัฒนาสายพันธุ์ได้แก่พันธุ์ กข.55 เพราะปีที่แล้วเราทดลองระหว่างพันธุ์ กข.43 กับ กข.55 ปรากฏว่าข้าวพันธุ์กข.55 ได้ผลผลิตมากกว่า ปีนี้เลยเน้นเป็นพันธุ์ กข.55 เหมาะสำหรับพื้นที่ทำนาเลตรงนี้ การทำนาเลนี้เป็นอาชีพเสริมรายได้ที่ทำก็เพื่อนำข้าวมาเก็บไว้ใช้กินเองในครัวเรือนไม่ได้ทำไว้ทางการพาณิชย์ ซึ่งปกติแล้วคนทะเลสาบสงขลาจะประกอบอาชีพรับจ้างและการทำประมง ส่วนการทำนาริมเลทำมาเป็น 100 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเป็นการสืบสานวัฒนธรรมทางการเกษตรในด้านการทำนาริมเล อีกอย่างที่นี่ชาวบ้านเขาก็ทำกันมานมนานแล้ว ซึ่งทางสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุงก็จะมาเน้นเป็นการท่องเที่ยวและเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ในแก่นักเรียนในเรื่องการทำนาเล ส่วนโรงเรียนที่มาเป็นประจำก็คือโรงเรียนสตรีพัทลุงและมหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุงรวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาเยอะพอสมควร ในด้านผลกระทบในการทำนาเลตรงนี้จะเป็นเรื่องดินและฝนฟ้าอากาศมากกว่า สมมติว่าปีไหนที่พายุเข้าเร็วแล้วข้าวยังไม่สุกดีข้าวก็จะล้ม แล้วถ้าน้ำเค็มเข้าข้าวก็จะลีบไม่เป็นเม็ด แต่โชคดีหน่อยปีที่ผ่านมาน้ำท่วมทำให้น้ำจืดดันน้ำเค็มไปในทะเล และผลจากการน้ำท่วมคลื่นในทะเลแรงเลยพัดเอาตมขึ้นมากองริมขอบชายฝั่งเยอะเลยเหมาะที่จะทำนาเป็นอย่างมาก

ส่วนปริมาณข้าวจะได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ชาวนาริมทะเลสาบสงขลา ไม่ต้องซื้อข้าวกิน และบางรายยังเหลือสามารถขายได้ด้วย “การทำนาริมทะเลแห่งเดียวในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวหากมีเวลาต้องไปสัมผัส” นี่คือความภาคภูมิใจของลูกหลานชาวบ้านปากประ ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้

กระบี่ - ธนบัตร 500 ปลอมระบาด !! ซ้ำเติมแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ ในพื้นที่ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดนไป 1 ใบ

วันที่ 28 มิ.ย.64 นางอำสา สกุลหลัง อ.58 แม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.1 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้นำธนบัตรฉบับละ 500 บาท ที่ได้จากลูกค้ามาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งลักษณะสีคล้ายของจริงมาก แต่ขนาดเล็กกว่า ใกล้เคียงกับธนบัตรใบละ 100 บาท ไม่มีลายน้ำ และหากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่รู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม ตอนแรกเข้าใจว่า เป็นธนบัตรใบละ 500 บาท ออกใหม่ แต่เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นของปลอม ถึงกับเข่าอ่อน เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ลูกค้ามีน้อย

ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้ตั้งแผงขายน้ำเต้าหู้และปลาท่องโก่ อยู่บริเวญตลาดคลองหิน ม.1ต.คลองหิน โดยแต่ละวันมีทั้งลูกค้าขาจรและขาประจำ แวะเวียนมาอุดหนุน มากบ้างน้อยบ้างไม่แน่นอน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้นำเงินจากกระเป๋าที่ได้จากการขายน้ำเต้าหู้ ฉบับละ 500 บาท ออกมาให้ลูกไปซื้อของที่ตลาด หลังจากนั้นลูกก็กลับมาบอกว่า ธนบัตรฉบับดังกล่าว มีลักษณะแปลก ๆ ได้ช่วยกันตรวจดูอย่างละเอียด โดยเทียบกับธนบัตรของจริง จึงพบว่าเป็นธนบัตรปลอม

เชื่อว่าเป็นของลูกค้าที่มาซื้อน้ำเต้าหู้อย่างแน่นอน เพราะตนไม่มีรายได้จากอื่นนอกจากการขายน้ำเต้าหู้และปลาท่องโก่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าได้มาเมื่อใด เพราะตนไม่ได้สังเกตุ มารู้ตอนที่ลูกสาวกลับมาบอก จึงได้สังเกตดู และแน่ใจว่าเป็น ธนบัตรปลอม เบื้องต้นได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมยามคลองหิน และอยากฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าให้ระมัดระวัง เพราะไม่อย่างนั้นจะตกเป็นเหยื่อได้เหมือนกับตน


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

กระบี่ - สื่อท้องถิ่นจิตอาสา ร่วม สาธารณสุขคลองท่อม ประชาสัมพันธ์เชิงรุก สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ สสอ.คลองท่อม พร้อมเผยทาง สสจ.กระบี่ กำลังรวบรวมหลักฐานสาวโรงงานซิอิ้ว จ.ตรัง แจ้งความเอาผิดฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่หน้าโรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์ นายอนันต์ ลู่เกียง สาธารณสุขอำเภอคลองท่อม พร้อมด้วยสื่อท้องถิ่น สถานีวิทยุกระเสียง รถแห่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพคลองท่อม ได้ร่วมกันปล่อยรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิงรุก จำนวน 4 คัน เพื่อประชาสัมพันธ์คำสั่งประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดกระบี่ ในพื้นที่อำเภอคลองท่อม เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารข้อมูลได้อย่างถูกต้อง พร้อมกันนั้นได้กระจายเสียงตามสถานีวิทยุท้องถิ่น หลาย ๆ คลื่น เช่น Fm 91.0 เหนือคลอง 95.0 พรุดินนา 102.75 คลองท่อม 101.0 ลำทับ ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนตระหนัก และให้ความร่วมือเข้าใจต่อสถานการณ์ในพื้นที่  

สืบเนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 คัตเตอร์ใหม่พบผู้ป่วยจำนวนมากในกลุ่มผู้ที่มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ วัดคลองท่อมซึ่งจัดงานในระหว่างวันที่ 12 ถึง 17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาและมีความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดในพื้น อ.คลองท่อม จ.กระบี่

ผลการตรวจวิเคราะห์ การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 11/1 ภูเก็ต จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก(Active case finding) ณ.วัดคลองท่อม วันที่ 26 มิถุนายน 2564 จำนวน 1287 ราย ผลปกติ 1286 ราย ติดเชื้อ 1 ราย ทางสาธารณสุขได้ดำเนินการประสานและดำเนินการเข้าสู่กระบวนการรักษา และสอบสวนโรค เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายอนันต์ ลู่เกียง สาธารสุขอำเภอคลองท่อม พร้อมเผยทาง สสจ.กระบี่ กำลังรวบรวมหลักฐานสาวโรงงานซิอิ้ว จ.ตรัง แจ้งความเอาผิดฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งได้ฝ่าฝืนเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดคลองท่อม เมื่อวันที่ 12-17 มิย 2564 ที่ผ่านมา และมีความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดไปยังผู้ปกครองครูพี่เลี้ยงเด็กและผู้ที่ไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพในพื้นที่ อ.คลองท่อม ตามวันเวลาสถานที่ดังกล่าว และยังคงรักษามาตรการอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อย ๆ จนกว่าผ่านสถานการณ์นี้ จนถึงวันที่ 9 กรกฏาคม 2564 จากคำสั่งประกาศคณะกรรมการควบคุมโรค จ.กระบี่ ฉบับที่ 23/2564 โดย พ.ต.ท มล.กิติบดี ประวิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ 


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่  รายงาน

ชุมพร - "จับจริง" ลงตรวจสอบทุเรียนอ่อน เตรียมพร้อมลงกล่องส่งต่างประเทศ

จับจริง ฝ่าฝืนมีโทษ ทั้งจำทั้งปรับ  ลงตรวจทุเรียนอ่อนเตรียมพร้อมบรรจุลงกล่องส่งต่างประเทศระบาดหนัก  พร้อมให้ทีมงานไปค้นหาทุเรียน อ่อนหนีไปบรรจุลงกล่องส่งต่างประเทศที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกด้วย

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของนายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายปกาสิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอหลังสวน ได้มอบหมายให้ นาย ชยันต์รัฐ รุ่งโรจวรารักษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอหลังสวน พร้อมด้วย นายดุสิต ศักดิ์รกานต์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ปลัดอำเภอหลังสวน เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดชุมพร และสมาชิก อส.

ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานประกอบการรับซื้อ - ส่งออกทุเรียน  "ทรัพย์สิริพงศ์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด โกดังมาโนช ระยอง" โดยได้ทำการสุ่มตรวจวิเคราะห์ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่บรรจุลงกล่องเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ จำนวน 4 ตัวอย่าง ผลตรวจพบว่า ตัวอย่างที่ 1 วัดค่าได้ 25 เปอร์เซ็นต์  ตัวอย่างที่ 2 วัดค่าได้ 33 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างที่ 3 วัดค่าได้ 30 เปอร์เซ็นต์ มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

นราธิวาส - จับมือมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 จำนวน 380 เตียง

ด้านผู้ว่าฯนราธิวาส ตรวจเยี่ยมสถานที่ในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส เตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่ม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้เพียงพอ

วันที่ 25 มิ.ย. 64 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 ที่โรงยิมเนเซี่ยม สนามกีฬามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเขือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยมี นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส  ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสฯ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีฯ

ทางด้านนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน  มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันในโรงพยาบาล สะสมจำนวน 1,745 ราย กำลังรักษาจำนวน 543 ราย แยกเป็น รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดนราธิวาส จำนวน 192 ราย และ รักษาตัวโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนาม ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติด และ โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก จำนวน 351ราย

ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยยืนยันคลัสเตอร์มัรกัส ซึ่งขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่งของจังหวัดนราธิวาส ไม่เพียงพอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ในฐานะฝ่ายรับผิดชอบทางด้านการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จึงได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 5 ณ โรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วย COVID-19 คลัสเตอร์มัรกัสเป็นการเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันจำนวน 180 ราย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ประกอบด้วย แพทย์ 5 คน พยาบาลวิชาชีพ 7 คน และพนักงานทำความสะอาด 2 คน โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย บุคลากรปลอดภัย และจังหวัดนราธิวาสปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเร็ว

ขณะที่จังหวัดนราธิวาสมีผู้ป่วยรายใหม่ตกประมาณวันละ 100 คน เพราะฉะนั้นในภาพรวมเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เตียงประมาณ 1,400 เตียง ซึ่งตอนนี้เรามีเตียงทั้งหมด 1,000 เตียง ซึ่งหลังจากที่เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 วันนี้ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 380 เตียง เราถึงจำเป็นที่จะต้องหาพื้นที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีก 500 เตียง ซึ่งในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จัดไว้เพื่อดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่มาจากมัรกัสยะลา มัรกัสยี่งอ และมัรกัสศรีสาคร จึงออกแบบเพื่อให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมและการดำรงชีวิตที่ไม่กระทบกับวิถีชีวิตปกติ 

และในส่วนของการกระจายวัคซีนจากส่วนกลางมาที่จังหวัดนราธิวาสมีวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดนราธิวาสก็เป็นจังหวัดลำดับต้น ๆ ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน ซึ่งโดยภาพรวมก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้จัดตั้งไว้ โดยศักยภาพเต็มที่ของโรงพยาบาลทั้ง 13 แห่ง สามารถฉีดได้ประมาณวันละ 7,500 คน ซึ่งตอนนี้ฉีดไปแล้ว 40,000 กว่าคน ส่วนพื้นที่ที่มีการระบาดก็จะเพิ่มเติมก็จะมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นด้วย

และขณะนี้มีการเปิดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ที่ใช้ในโรงพยาบาลสนามฯ เช่น เตียงนอน หมอน มุ้ง ขนมขบเคี้ยวต่าง  สามารถมาร่วมบริจาคสมทบได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 073-532059

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ระลอกเดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน เกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคลัสเตอร์ต่าง ๆ และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์มัรกัส และในกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งขีดความสามารถของโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ ทั้ง 2 แห่งของจังหวัดนราธิวาส รองรับในการรับดูแลรักษาผู้ป่วยอาจไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการควบคุม ป้องกันโรค และการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไรที่จะสามารถควบคุม จำกัดการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายไปสู่พื้นที่วงกว้างในชุมชน และกระจายไปทั่วจังหวัด

ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบริเวณสวนเปี่ยมสุขนราธิวาส และหอประชุมกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อเตรียมใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ ในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างเพียงพอ


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top