Sunday, 8 June 2025
อีสานไทม์

มุกดาหาร - แถลงข่าวการจัดงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ ณ วัดรอยพระพุทธบาทภู โดยงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ Miracle Mukdahan จะจัดขึ้น 3 แห่ง คือ ลานกิจกรรมแก่งกะเบา, ลานกิจกรรมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว, และวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เวลา 18.30 น นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมแถลงข่าวจัดงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ พร้อมผู้ร่วมแถลงข่าว พระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร นายศศิพงศา จันทรสาขา รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร และนายกสมาคมเครือข่ายมุกดาหาร เมืองสามธรรม นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม และประชาชนชาวมุกดาหารเกือบ 200 คน ทั้งนี้ภายในงานยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม นาฏยนาคีศรีมุกดา การแสดงศิลปวัฒนธรรมรำมวยโบราณ และฟ้อนหางนกยูง เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมที่สวยงามของจังหวัดมุกดาหารอีกด้วย

สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวเมืองสามธรรม "ย้อนตำนาน พญานาคราชออนซอนกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร" และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยว เมืองสามธรรมในวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหารสู่ความยั่งยืน ก่อให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย สำหรับนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อความศรัทธา เรื่องพญานาคในลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 รวมทั้งรุ่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเมือง 3 ธรรม (ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม) ในวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหารสู่ความยั่งยืนสืบไป


ภาพ/ข่าว  ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

สุรินทร์ - แถลงข่าวและประมูลทุเรียนเมืองช้างการกุศล สบทบทุนจัดซื้อรถยนต์รับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

ที่ห้องประชุมช้างใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิตติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นางจันทร์เพ็ญ กิตติภัทย์พิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และแพทย์หญิงดวงแก้ว  ตัณฑประภา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมกันแถลงข่าว กิจกรรมสาธารณกุศล การประมูลทุเรียนเมืองช้าง โดยจังหวัดสุรินทร์ได้จัดขึ้น เพื่อสมทบทุนจัดซื้อรถยนต์รับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ มอบให้แก่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยทุเรียนที่จะนำมาประมูลเป็นทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์เป็นต้นแรก ๆ

ในขณะเดียวกันจังหวัดสุรินทร์ ได้ขับเคลื่อนโครงการ สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์  และกิจกรรมอีกโครงการที่สำคัญคือ การส่งเสริมการปลูกทุเรียนเมืองช้าง โดยจังหวัดสุรินทร์เริ่มมีเกษตรกรปลุกทุเรียนครั้งแรกในพื้นที่อำเภอบัวเชด มาเป็นเวลากว่า 20 ปี และปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ปลูกในพื้นที่ 13 อำเภอ ส่วนใหญ่จะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว ซึ่งทุเรียนเมืองช้างของจังหวัดสุรินทร์จะมีเอกลักษณ์สำคัญคือ “สีนวลดั่งงาช้าง รสสัมผัส หอมเย็น หวานละมุน

โดยในการประมูลจะจัดขึ้นจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการประมูลย่อยจัดขึ้นในวันนี้ (29 มิ.ย. 64) ที่ห้องประชุมช้างใหญ่ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยมีผลทุเรียนมาจาก 5 สวน  เข้าร่วมประมูลจำนวนทั้งสิ้น 13 ลูก ซึ่งสามารถประมูลลูกทุเรียนได้ในราคาตั้งแต่ลูกละ 25,000 – 110,000 บาท ได้เงินเข้าการกุศลในครั้งนี้รวมเป็นเงินกว่า 498,000 บาท โดยทุเรียนที่ประมูลได้ราคาสูงที่สุดคือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จากสวน นางฉลอม  จุดาบุตร บ้านโคกกะลัน ตำบลปาสารททนง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ประมูลได้ในราคา 110,000 บาท และจะมีการประมูลทุเรียนเมืองช้างอีกครั้ง โดยจะมีการประมูลครั้งใหญ่ในงานเปิดตัวทุเรียนเมืองช้าง ในวันที่ 15 กรกฏาคม 2564 ที่บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์  โดยจะมีกิจกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านสุรินทร์  การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ของชุมชน และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การประมูลทุเรียนเมืองช้าง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนเมืองช้าง และที่เป็นไฮไลท์ของงานคือการแข่งขัน ปอกทุเรียนลีลา สร้างความสนุกสนาน และให้ทุกคนรู้จักกับทุเรียนเมืองช้างในครั้งนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

 

สุรินทร์ – สองสามีภรรยาเมืองช้าง ผลิกชีวิตปลูกต้นอินทผลัม 3 ไร่ ยอดขายวันเดียวทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

อําเภอโนนนารายณ์ สองสามีภรรยาลาออกจากบริษัทใน กทม.นําเงินที่เก็บหอมลอมริบหันมาปลูกต้นอินทผลัมในไร่เนื้อที่ 3 ไร่ ใช้เวลาปลูกดูแลรักษาเพียง 3 ปี สามารถเก็บผลผลิตสู่ท้องตลาด เพียงเปิดไร่ให้ลูกค้ามาแวะมาชมมาซื้อเพียงวันเดียวมีลูกค้าในอําเภอ และอําเภอข้างเคียงแห่จองขายวันเดียวยอดขายทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

วันที่ 28 มิถุนายน 64 ช่วงเช้านี้ ผู้สื่อข่าวลงไปที่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 2 บ้านระเวียง ต.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ โดยมีนายธนกฤต ไสว อายุ 48 ปีและนางชัทราณี สุขประสงค์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา ได้ทําสวนอินทผลัม ในเนื้อที่ 3 ไร่ ใช้เวลาปลูกเพียง 3 ปี ก็เก็บผลผลิตส่งขายลูกค้าสั่งจองวันเดียวยอดขายทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

นายธนกฤต ไสว อายุ 48 ปี เจ้าของสวนเล่าว่า ตนและภรรยาเคยทํางานบริษัทในแถว กทม.ก่อนจะลาออกจากงานได้เงินมาก้อนหนึ่ง พาภรรยากลับมาอยู่บ้านแล้วหันมาทําไร่ที่พ่อแม่แบ่งมรดกให้ทํากิน 3 ไร่ โดยครั้งแรกตนและภรรยาปลูกมันสําประหลังแต่ราคามันตกตํ่าขายไม่ได้กําไรและต้นทุน จึงหันมาปลูกต้นทุเรียนแต่ก็ไม่ประสบความสําเร็จ เพราะต้นทุเรียนตายหมด

จากนั้นตนไม่หมดความพยายามได้ศึกษาพืชเศรษกิจตัวใหม่ในเน็ต จึงมีแรงจูงใจอีกครั้งพบว่าอินทผลัมคือพืชเศรษกิจตัวใหม่เหมาะสําหรับพื้นที่และอากาศบ้านเราจึงได้เดินทางไปขอดูงานที่สวนอินทผลัมในเขตอําเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา จนชื่นชอบและก็ได้สั่งซื้อเนื้อเยื้อพันธุ์บาฮีและพันธุ์อัมเดนดาฮาน มาปลูกจํานวน 150 ต้นในเนื้อที่ 3 ไร่ โดยใช้ระยะเวลาปลูกและดูแลรักษาเพียง 3 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตชุดแรกได้ผลโตรสชาติหวานติดลิ้น กรอบอร่อย เปิดขายในราคาลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮี ขายกิโลละ 400 บาท

ลูกอินทผลัมพันธุ์อัมเดนดาฮาน ขายกิโลละ 600 บาท  ชึ่งทางตนได้เปิดไร่สวนอาชาผาลัมขายวันอาทิตย์ 27 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา วันเดียวมีลูกค้ามาสั่งจองและแวะมาเที่ยวชมมาซื้อที่สวนจนคึกคักตลอดทั้งวัน จนมียอดขายวันเดียวทะลุเกือบ 3หมื่นบาทเลยทีเดียว และหากท่านใดสนใจสั่งซื้อหรือจะมาดูงานชมสวนติดต่อมาได้ที่ เบอร์ 092-692-6259 (ขาว) ยินดีต้อนรับ


ภาพ/ข่าว  บุญเรือง เกสรจันทร์

ขอนแก่น - หอการค้าขอนแก่น ประกาศฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรร ชิโนฟาร์ม ให้ 2,400 โดส “ชาญณรงค์” ย้ำชัด ไทยเปิดประเทศ ทุกคนต้องเตรียมพร้อม เร่งประสาน สธ. พิจารณาจุดออกพาสต์ปอร์ตวัคซีนในระดับภูมิภาค ครอบคล

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มิ.ย.2564 นายชาญณรงค์  บุริสตระกุล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้แจ้งยืนยันในการจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับหอการค้าขอนแก่นแล้วจำนวน 2,400 โดส สำหรับการฉีดให้กับบุคลากรในองค์กร 1,200 คน โดยคาดว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้น หอการค้าจะได้รับภายในสุดสัปดาห์นี้และเตรียมที่จะดำเนินการฉีดได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยที่ได้มีการประสานงานร่วมกับ รพ.ราชพฤกษ์ ในการเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในองค์กรตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ทำให้ขณะนี้คณะทำงานด้านวัคซีนหอการค้า จ.ขอนแก่น จะมีการประชุมพิจารณาบุคลากรที่จะเข้ารับวัคซีนดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนเพื่อจัดส่งรายชื่อให้กับราชวิทยาลัยฯรวมทั้ง รพ.ราชพฤกษ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางและนโยบายที่รัฐบาลกำหนด โดยผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนนั้นจะเน้นหนักในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ

“รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ขณะที่ มาตรการผ่อนคลาย จาก ศบค.และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติออกมาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงและประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน จนนำมาสู่ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ และยังคงมีประชาชนที่รอขั้นตอนการฉีดตามการจัดสรรวัคซีนตามที่รัฐกำหนด ขณะที่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เมื่อทุกอย่างผ่อนคลาย ภาคธุรกิจเอกชน การค้า และการลงทุน จะต้องทำทันที

ดังนั้นการจัดสรรวัคซีนทางเลือกนั้นจะเน้นหนักไปในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องเดินทางติดต่อประสานงาน ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่เป็นสมาชิกของหอการค้าขอนแก่น กลุ่มนักธุรกิจที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประเทศทันที กลุ่มธุรกิจขนส่งต่าง ๆ รวมไปถึงนักธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการค้าการลงทุนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและได้รับเอกสารยืนยันในการที่จะสามารถติดต่อ สื่อสาร เจรจาธุรกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ทำให้ในระยะนี้คือการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆของผู้ประกอบการที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหลังสถานการณ์ต่าง ๆ ได้คลี่คลายลง”

นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้การได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เริ่มมีอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดีหอการค้าจะมีการประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ในการพิจารณาการออกพาสปอร์ตวัคซีนระดับภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้การออกเอกสารดังกล่าวยังคงสามารถดำเนินการได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและการลดการเดินทางเข้าพื้นที่เสียง ภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนคณะทำงานในการออกเอกสารดังกล่าวในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจจะเน้นไปในพื้นที่จังหวัดหลักตามขออำนาจหน้าที่ที่กระรวงต่างประเทศรับผิดชอบที่มีการออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอรต์อยู่แล้ว ให้สามารถออกพาสปอร์ตวัคซีนได้ควบคู่กันไปด้วยตามระเบียบที่กำหนด โดยอาจจะเริ่มจากขอนแก่น-เชียงใหม่และสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานหนังสือเดินทางรวมทั้งสถานกงสุลจากนานาประเทศอยู่แล้ว

ขอนแก่น - ทน.ขอนแก่น อัดงบ 100 ล้านบาท ซื้อวัคซีน “ชิโนฟาร์ม” 100,000 โดส ให้กับคนในชุมชน “ธีระศักดิ์” ย้ำชัดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ลงลึกถึงกลุ่มเปราะบาง ตามระเบียบที่กำหนด วอนต้นทางชัดเจนและเร่งจัดสรรให้กับ อปท.เร่งด่วน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.2564 ที่สำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น หรือ ทน.นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ประชุมร่วมคณะทำงานด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือก จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตามระเบียบและข้อบังคับที่กำหนดภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้รับทราบถึงแผนการจัดซื้อดังกล่าวจากเทศบาลฯละพิจารณาอนุญาตให้ทำการจัดซื้อตามระเบียบและขั้นตอนต่าง ๆ ในการนำมาให้บริการกับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่น

นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดได้รับทราบและพิจารณาอนุญาตและสนับสนุนการดำเนินงานของเทศบาลฯในการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำหรับการนำมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลฯตามกลุ่มเป้าหมายหลักที่กำหนด โดยขั้นตอนจากนี้ไปคือการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ราชวิทยาลัยฯได้กำหนดออกมา ให้แล้วเสร็จจากนั้นก็จะเข้าสู่ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสม ซึ่งเทศบาลฯ จะทำการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จำนวน 100,000 โดส ในการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบจำนวน 50,000 คน ประมาณการวงเงินที่ใช้จ่ายประมาณ 100 ล้านบาท

“ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนในกลุ่มของวัคซีนทางเลือกที่เทศบาลฯจัดซื้อรวมจำนวน 50,000 คนนั้น ได้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ครู และบุคลากรทางการศึกษา ,กลุ่มผู้ค้าในตลาดและประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และ กลุ่มเปราะบางไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ทั้งหมดเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรการโรคติดต่อจังหวัดและระเบียบของราชวิทยาลัยฯ ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ จากนี้ไปคณะทำงานจะประสานงานร่วมทุกฝ่ายเพื่อให้การดำเนินงานนั้นเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะได้รับการส่งมอบวัคซีนในเดือน ต.ค. ซึ่งเทศบาลฯได้ประสานการทำงานร่วมกับ รพ.ศรีนครินทร์ มข.เป็นหน่วยงานบริการทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายตามบัญชีรายชื่อที่กำหนดไว้”

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าวัคซีนจากราชวิทยาลัยฯชุดแรก 400,000 โดสได้มีการจัดสรรให้กับหน่วยงานต่าง ๆ แล้วแต่ยังไม่มีปรากฎรายชื่อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดเลย จึงขอให้คณะกรรมการกลางได้พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลำดับต้น ๆ ด้วย เพื่อที่จะได้รับวัคซีนทางเลือกมาสนับสนุนวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดสรร จนนำไปสู่การให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันให้ได้อย่างครอบคลุมตามสัดส่วนที่รัฐบาลกำหนด ขณะเดียวกันรายชื่อของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ในส่วนที่เทศบาลฯรับผิดชอบนอกจากการลงพื้นที่สำรวจของคณะทำงานแล้ว จะยังคงมีการประสานรายชื่อกับระบบหมอพร้อม และขอนแก่นพร้อม เพื่อดำเนินการจัดระบบการฉีดวัคซีนครอบคลุมเป้าหมายที่กำหนดต่อไป

ศรีสะเกษ - ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมด้วย น.ส.รุ่งอรุณ เมธาภัทรกุล นายสุเทพ ศรบุญทอง นายคำโพธิ์ บุญสิงห์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และบุคลากรในสำนักงาน ได้ร่วมกันประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริต ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี นางวิไรรัตน์ เครื่องทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 มุ่งเน้นที่จะบริหารจัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสร้างความศรัทธาและเชื่อมั่นแก่สังคมว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นองค์กรธรรมาภิบาล ในฐานะผู้บริหาร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงขอประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ พร้อมรับผิดชอบและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวต่อไปว่า ตนขอให้บุคลากรทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริตภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้ ด้านความโปร่งใส คือ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และมีระบบการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน ด้านความพร้อมรับผิด คือ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติราชการอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้กฎหมาย ระเบียบ วิธีการที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อการตัดสินและการบริหารงาน และความพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

ด้านความปลอดจากการทุจริต คือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือรับสินบน ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร คือ ไม่ยอมรับการทุจริตทุกประเภทและไม่เพิกเฉยที่จะดำเนินการ เพื่อยับยั้งการทุจริตในหน่วยงาน และด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน คือ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน อำนวยความยุติธรรมและมีความโปร่งใสในการบริหารงานบุคคล การบริหารจัดการงบประมาณและการมอบหมายงาน ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ขอนแก่น – เกาะติดหน้าจอ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ยิ่งใช้ยิ่งได้ต่อเนื่อง พบการใช้งานไม่ยาก และมีระยะเวลาการใช้จ่ายชัดเจน วอนรัฐคลายล็อคเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายต่อวันให้มากกว่าวันละ 5,000 บาท เพราะสินค้าจำเป็นอย่างเครื่องซักผ้า-ทีวี-ตู้เย็น ราคามากกว่าวงเงินที่กำหนด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ของชาว จ.ขอนแก่น เพื่อรับสิทธิ์ตามมาตรการเยียวยาของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟู้เศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น โดยพบว่าวันที่ 2 ของการเปิดให้ลงทะเบียนนั้นยังคงมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและขอรับสิทธิ์กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทะเบียนในวันแรกเนื่องจากเกรงว่าคนจะเยอะและทำให้ระบบนั้นคลาดเคลื่อนจึงตัดสินใจลงทะเบียนผ่านเวปไซค์ที่กระทรวงการคลังกำหนดในวันนี้แทน ซึ่งก็สามาถลทะเบียนได้ในเวลาไม่นานมากนัก

น.ส.สุนิตรา  อุไกรษา อายุ 40 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีการศึกษาแล้วพบว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุด เนื่องจากต้องการได้รับเงินคืนจากโครงการ เพื่อนำไปใช้จ่ายในด้านต่างๆเนื่องจากครอบครัวต้องการที่จะซื้อสินค้ามาใช้ในการอุปโภคและบริโภครวมไปถึงสินค้าที่จำเป็นแต่ติดที่ว่าโครงการดังกล่าวนี้นั้นจำกัดวงเงินการใช้จ่ายวันละ 5,000 บาท ซึ่งหากตนเองจะซื้อทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กแม้จะจัดราคาโปรโมชั่นก็ไม่สามารถที่จะเลือกซื้อได้

“ระบบการลงทะเบียน นั้นง่ายมาก และใช้เวลาในการลงทะเบียนไม่นาน ซึ่งเป็นเพราะความคุ้นชินจากการที่ได้ศึกษาโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลและระบบการลงทะเบียน ที่มีการปรับปรุงแก้ไขและเข้าใจง่าย ซึ่งโครงการเยี่ยวยาที่รัฐบาลกำหนดออกมานั้น ยอมรับว่าสามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้อย่างมาก และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเข้าร่วมโครงการใดก็ได้เพียงโครงการเดียวตามที่ตนเองสนใจและเข้าเงื่อนไข ดังนั้นเมื่อวันนี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเสร็จและรอเปิดระบบใช้งานตามระยะเวลาที่กำหนดครอบครัวก็จะไปใช้จ่ายทันที”

น.ส.สุนิตรา กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ ศบค.ได้มีการปรับลดพื้นที่กลุ่มจังหวัด จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น ขณะที่หลายจังหวัดก็มีมาตรการคลายล็อค โดยเฉพาะร้านอาหาร และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการบริการต่าง ๆ จึงขอให้ร้านต่าง ๆ และทุกกลุ่มกิจการ ได้สมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆที่รัฐบาลกำหนด และขอให้ติดป้ายให้เด่นชด หรือแนะนำลูกค้าเมื่อเข้าไปใช้บริการเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ทุกสิทธิ์ได้ใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจะส่งผลต่อเม็ดเงินหมุนเวียนในระดับพื้นที่ได้อย่างมากขณะที่โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่เข้าร่วมโครงการนั้น แม้เงื่อนไขเวลาจะคืนเงินในทุกวันที่ 7 ของเดือน แต่ระยะเวลาใช้งานของโครงการที่สิ้นสุดในช่วงปลายปีและวงเงินคืนคนละไม่เกิน 7,000 บาทนั้นเพียงพอแล้ว

 

ขอนแก่น - พร้อมจัดประชุมใหญ่ พปชร. ตร-สธ.-ปกครอง คุมเข้มทุกมาตรการความปลอดภัย “เอกราช”ย้ำชัด สมาชิกพรรคที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง ใครไม่มีเอกสารยืนยันฉีดวัคซีนจัดรถตรวจหาเชื้อป้องกันโควิดถึงที่ ไม่ตอบใครจะนั่งเลขาพรรคคนใหม่ แต่มีการเปลี่ยน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17มิ.ย.2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือไคซ์ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4พร้อมด้วย นายเอกราช  ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ,พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น และนายโกเมศ ฑีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า และคณะทำงานพรรคพลังประชารัฐ ลงตรวจพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2564 พรรคพลังประชารัฐที่กำหนดจัดการประชุมขึ้นที่ จ.ขอนแก่นในวันพรุ่งนี้ (18มิ.ย.) 

โดยที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งระบบตรวจวัดอุณหภูมิและจุดคัดกรองตามมาตรฐานความปลอดัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โควิด-19อย่างเข้มงวด บริเวณทางเข้าห้องประชุม รวมทั้งการจัดเตรียมพื้นที่รับรองคณะผู้ติดตาม ส่อมวลชน รวมไปถึงสมาชิกพรรคที่จะมาร่วมในการประชุมพรุ่งนี้ไว้ในจุดที่กำหนดตามมาตรการของการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวดขณะที่ ศูนย์ประชุมฯได้มีการกำหนดทางเข้า-ออก ให้สามารถใช้งานได้เฉพาะประตู 2 เท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและการตรวจคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิเบื้องต้นก่อนที่จะเข้าสู่ที่ประชุมชั้นใน ตามจุดที่กำหนด รวมทั้งการตั้งจุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากในการประชุมครั้งนี้มีการตรวจเอกสารของผู้เข้าร่วมประชุมตามที่ได้รับเอกสารจากพรรคฯว่ามีการได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมประชุมจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดทันที

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานร่วมทุกฝ่ายเพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมอย่างเข้มงวด  ทั้งในด้านของการจัดการจราจร การรักษาความปลอดภัยด้านนอกสถานที่จัดการประชุม และภายในห้องประชุม ซึ่ง ภ.จว.ขอนแก่น และ บก.สส.ภ.4ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้ในภาพรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมในการเตรียมการประชุมพรรคถือว่าเราพร้อม 100% ในฐานะเจ้าภาพเจ้าของพื้นที่นั้นคณะทำงานทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ในการประชุมครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกันโควิดตามนโยบายของ ศบค. หรือการอำนวยความสะดวกเรื่องการคมนาคมการเดินทาง ที่พัก และยินดีต้อนรับ ส.ส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกคนที่เข้ามาร่วมประชุมที่ขอนแก่น ซึ่งยืนยันว่าสมาชิกมาครบอาจจะเกินบ้างในส่วนที่เป็นส.ส. หรือในนามตัวแทนเขต ซึ่งอาจจะเกินขึ้นไปถึง 400 คน

“หากประชาชนที่ทราบว่าระดับผู้นำประเทศเข้ามาในพื้นที่ก็อาจจะมีเรื่องการยืนหนังสือ ซึ่ง ถ้าหากว่าเป็นไปได้ไม่น่าจะสะดวกเพราะเป็นกิจกรรมของพรรคแต่อย่างไรก็ตามหากพี่น้องประชาชนมีความจำเป็นเดือดร้อนจะมายื่นก็ขอให้มีการประสานมาอย่างเป็นทางการประสานมาที่ตนเองก็ได้จะลำดับความสำคัญหรือดูจังหวะที่จะสามารถแทรกได้ เพราะเป็รการประชุมในระบอบประชาธิปไตยพรรคของเราเปิดเต็มที่รับฟังทุกความเห็นต่าง ดังนั้นกลุ่มเห็นต่างจะแสดงความคิดเห็นก็ขอให้อยู่ในกรอบอย่าละเมิดสิทธิของคนอื่นความเห็นต่างถือว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เราไม่ขัดข้องแต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบของแต่ละฝ่าย  ในฐานะของเจ้าภาพเราก็ต้องการเห็นความรักความสามัคคีและความเรียบร้อยในการจัดงานครั้งนี้”

นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า ในที่ประชุมจะเน้นเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเข็มหรือครบแล้วทั้ง 2 โดส เข้าสู่ห้องประชุมชั้นในแต่ถ้าใครยังไม่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วเราก็มีการตรวจหาเชื้อ หลังจากผ่านการคัดกรองเข้าไปถ้าหากว่าอุณหภูมิสูงหรือมีไข้ เราจะคัดออกมาและตรวจโควิด ในจุดที่กำหนดซึ่งจะทราบผลทันทีถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงกว่าศบค. กำหนด

อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้มีความกังวลและเป็นห่วงอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นเราปลอดเชื้อมาหลายวันแล้วและเป็นจังหวัดที่มีความปลอดภัยสูงจึงมีการมาจัดการประชุม ดังนั้นวันนี้การเตรียมงาน ที่ยึดตามแนวนโยบายของ ศบค.ในการป้องกันการเป็นคลัสเตอร์ใหม่และพรรคได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก มาตรการควบคุมและป้องกัน คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายได้ทำการคัดกรองมาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาถึงพื้นที่ จึงอยากให้ความสบายใจกับชาวขอนแก่นว่าพรรคได้รักษามาตรการและป้องกันเต็มที่

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นการเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ จะมี้ขึ้นในการประชุมนั้น นายเอกราช ไม่ขอแสดงความคิดเห็นและขอให้เป็นมติในที่ประชุมที่ ส.ส.ของพรรคทุกคนและสมาชิกพรรคนั้นพร้อมที่จะปฎิบัติตามมติคณะกรรมการบริหารพรรคในภาพรวม

นครพนม - อบจ.นครพนม ร่วมกับ ร.3 พัน.3 ส่งมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ ยากจน และด้อยโอกาส ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ,ร้อยเอก วันดี สีนวล นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ผู้แทน พันโท ศรณณัฐ นวลมณี ผบ.ร.3 พัน 3 และส่วนราชการในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

ส่งมอบบ้านเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้กับนายทองสูรย์ ภักดี บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 12 บ้านดอนถ่อน ตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

การดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติ ฯ เป็นการบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันแสดงความจงรักภักดี โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ร่วมกับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงครามฯพร้อม เป็น 3 หน่วยงานหลัก ในการขับเคลื่อนและดำเนินการก่อสร้างบ้านสำหรับประชาชนผู้ยากไร้ ยากจน และด้อยโอกาส เป็นผู้คัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมและจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ

กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้กำหนดการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 10 หลัง และในการส่งมอบบ้านให้กับบ้านหลังนี้เป็นหลังที่ 7 ที่ได้รับมอบบ้านให้อยู่อาศัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้คงอยู่สืบไปชั่วลูก ชั่วหลานต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

นครพนม - ชาวบ้านตื่น !! พบกรุพระพุทธรูปเก่า 200 ปี ซุกไหโบราณ แห่ส่องเลขเด็ด กว้านซื้อเกลี้ยงแผง

วันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ.วังกระแส หมู่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ามีผู้ขุดพบกรุพระพุทธรูปสมัยโบราณ ซุกอยู่ในไหขุดพบในที่นาของชาวบ้าน ขอให้มาตรวจสอบด้วยว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใด หลังข่าวแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ มีบรรดาเซียนหวย แห่ไปส่องดูตัวเลขในองค์พระกันเป็นจำนวนมาก

จึงเดินทางไปที่วัดศรีรัตนวราราม พบชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ และคอหวยจำนวนหนึ่ง กำลังส่องดูพระพุทธรูปที่ขุดพบได้  ทางวัดได้นำใส่ในกล่องกระจกแก้วใสสี่เหลี่ยมกว้าง 40 ซ.ม. ยาว 40 ซ.ม. สูง 30 ซ.ม. ชาวบ้านที่ทยอยแห่มามุงดูส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าอยากจะมาส่องดูตัวเลขในองค์พระหรือใต้ก้นพระ หวังไปลุ้นหวยซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 มิ.ย. เผื่อจะได้โชคและลาภลอยตามความเชื่อ

นายธีระพงษ์  จันทร อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.วังกระแส กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ขณะที่นายเศียร วารี วัย 53 ปี ได้ไปไถนาเนื้อที่ 5 ไร่ ห่างจากวัดราว 1 กิโลเมตร ขณะนำจอบไปขุดซ่อมแซมคูคันนา ได้ไปกระทบกับวัตถุสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นไหแตกร้าวกระจาย พบพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ อยู่ภายในไหที่แตกเป็นเสี่ยง 

ด้วยความตื่นกลัวว่าจะเป็นวัตถุโบราณล้ำค่าหรือไม่ นายเศียร เจ้าของที่นา จึงรีบมาแจ้งให้ตนไปตรวจสอบดูว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใดกันแน่ พบว่ามีพระพุทธรูปขนาดสูง 10 ซ.ม. 7 องค์ สูง 7 ซ.ม.ราว 11 องค์ เป็นเนื้อเงินบริสุทธิ์ ใต้ฐานเป็นดินสมัยเก่าอุดแน่นอยู่  และยังพระเนื้อชินองค์เล็กอีก 2 องค์ รวมเป็น 21 องค์ บางส่วนเศียรขาดแตกหัก สภาพเปื้อนโคลนตม เบื้องต้นจึงนำน้ำมาฉีดชะล้าง

ผู้ใหญ่บ้านวัย 53 ปี กล่าวต่อว่า จึงได้ประสานไปที่สำนักงานวัฒนธรรม จ.นครพนม เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าเป็นพระกรุ หรือพระพุทธรูปชนิดใด สร้างในสมัยใด และประเมินมูลค่าได้หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานดังกล่าวได้ประสานไปยังสำนักศิลปกรที่ 9 อุบลราชธานี  มาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยล้านช้าง ปางมารวิชัย คาดว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี จึงได้เก็บกู้ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดศรีรัตวนารามชั่วคราว

พระฉลอง ทินวโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้จากที่นาของนายเศียร จึงได้นำตู้กระจกคล้ายตู้บริจาคเก็บรักษาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑสถานร้อยเอ็ดมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พระพุทธรูปที่ขุดพบนี้คาดว่าน่าจะเป็นโบราณวัตถุ  ที่จะต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในสถานที่อย่างดี หากเก็บไว้ที่วัดคงไม่มีกล้องวงจรปิด และอาจจะมีหัวขโมยมาโจรกรรมไปได้

ด้านนายธนิตศักดิ์ อุ่นตา วัฒนธรรม จ.นครพนม กล่าวว่า ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญจากสำนักศิลปากรที่ 9 แล้ว พบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยเก่า มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับพระพุทธรูปทองคำที่ขุดพบในพื้นที่ บ.ศรีเวินชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม คาดว่าสมัยก่อนเกิดศึกสงคราม ก่อนมีผู้นำมาซ่อนไว้ในไหและฝังไว้ ที่ชาวบ้านเรียกว่ากรุเงินกรุคำในสมัยโบราณ ที่มักถูกขุดพบบ่อยครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางวัดได้นำพระพุทธรูปที่ขุดพบ 21 องค์ และชิ้นส่วนไหที่แตกมาตั้งไว้หน้ากุฏิเพื่อให้กราบไว้เป็นสิริมงคล โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยแห่มาดู บางรายนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายซูมส่องดูตัวเลขในองค์พระ บางราย ตรวจนับเศษไหที่แตกได้ 53 ชิ้น นำตัวเลข 53 ซึ่งตรงกับอายุเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านโดยบังเอิญ กว้านหาซื้อลอตเตอรี่ที่มีแม่ค้ามาขายในวัด หวังลุ้นโชควันหวยออกวันที่ 16 มิ.ย. จนเกลี้ยงแผงไปแล้ว  


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top