Thursday, 12 June 2025
POLITICS NEWS

ส.ส. ก้าวไกล บุกกรมราชทัณฑ์ จี้ตอบกรณีคุกคามผู้ต้องขังกลุ่ม ‘ม็อบ 3 นิ้ว’ กลางดึกในเรือนจำ ด้านรองอธิบดีฯแจง การตรวจโรคกลางดึกเป็น ‘เรื่องปกติ’ ส่วนชายชุดน้ำเงินไม่ติดป้ายชื่อ เป็นเรื่องของ ‘โอกาส’ ในการแต่งเครื่องแบบ

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่กรมราชทัณฑ์ ท่าน้ำนนท์ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางสาวเบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล, และนายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงต่อกรมราชทัณฑ์ ในกรณีเหตุการณ์คุกคามนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา “ไผ่ ดาวดิน” และนายภานุพงศ์ จาดนอก “ไมค์ ระยอง” สองผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร

โดยมีความพยายามนำตัวทั้งสองออกจากแดนคุมขังที่ 2 ในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร ออกจากแดนคุมขังกลางดึก โดยอ้างว่าจะนำไปตรวจโรคโควิด-19 โดยเป็นการกระทำหลายระลอก มีการใช้เจ้าหน้าที่พร้อมกระบองเสริมกำลังเข้ามากดดัน และมีการนำตัวบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน ไม่ระบุชื่อและสังกัด เข้ามาร่วมปฏิบัติการ ต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ไปจนถึงเวลา 03.00 น.ของเช้าวันที่ 16 มีนาคม 2564 แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม เนื่องจากเป็นการปฏิบัติที่ผิดปกติวิสัย ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังคดีการชุมนุมกลุ่มราษฎรในเรือนจำ

ซึ่งนางอมรัตน์ ได้เดินทางมาถึงกรมราชทัณฑ์ในเวลาประมาณ 14.00 น. พร้อมกับมีประชาชนผู้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าร่วมสังเกตการณ์และขอรับทราบข้อเท็จจริงร่วมกับนางอมรัตน์ด้วย โดยทางกรมราชทัณฑ์ ได้ส่งนายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าพบเพื่อรับหนังสือและอธิบายข้อเท็จจริงต่อนางอมรัตน์

โดยหนังสือของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสองกล้องวงจรปิดในห้องขังเรือนจำ และตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่เข้าออกเรือนจำกลางดึกเมื่อคืนนี้ และขอให้ชี้แจงกับประชาชนให้เกิดความกระจ่างและความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์

ด้านนายแพทย์วีระกิตติ์ ผู้ลงมารับหนังสือ ได้พยายามอธิบายข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่ากรณีดังกล่าว ทางกรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว การตรวจหาเชื้อโควิด-19 กลางดึกในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งผู้ต้องขังในกลุ่มอื่นๆด้วย ความพยายามนำตัวผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรทั้งสองออกจากแดน ไม่ใช่การนำออกไปที่อื่น แต่เป็นการนำไปรับการตรวจในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเอง ซึ่งมีสถานที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อยู่แล้ว

การมีหลายระลอก เพราะระลอกแรกผู้ต้องขังเข้ามาถึงเรือนจำในเวลาประมาณ 19.00 น. เข้าไปห้องกักเดียวกันกับผู้ต้องขังที่มาจากพื้นที่เสี่ยงโดยบังเอิญ จึงได้ขอเจรจาว่าจะนำผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรแยกไปอยู่ในห้องกักอื่นที่ยังว่างอยู่

เมื่อมีการปฏิเสธจึงต้องมีการป้องกันความปลอดภัยทางสุขภาพของผู้ต้องขัง คือการตรวจหาโรคโควิด-19 โดยเร็วที่สุด จึงได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อเข้าไปขอทำ swab เป็นเจ้าหน้าที่ ๆ มีใบประกอบโรคศิลป์ ซึ่งทั้งสองคนได้ปฏิเสธ ในขณะที่ผู้ต้องขังรายอื่นๆให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งหมดเป็นไปตามความชอบธรรมของนโยบายการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีการปฏิบัติกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เมื่อทั้งหมดไม่ยอมตรวจ ทางกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรอีก เพราะไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้า มีเพียงการนำผู้ต้องขังรายอื่นที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วออกจากห้องขังนั้นไป

ส่วนบุคคลชุดน้ำเงินที่เข้ามา เป็นชุดปฏิบัติการปกติของกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำผู้ต้องขังอื่นๆที่อยู่ร่วมกันและให้ความร่วมมือออกไปจากห้องขัง ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายหรือการกระทำอื่นใดผู้ต้องขังทั้งสิ้น

“เรื่องป้ายชื่อเนี่ยมันเป็นโอกาสที่เขาจะใส่ชุดใดๆ ซึ่งเครื่องแบบชุดนั้นผมไม่ได้สังเกต แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีการทำร้ายหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น เราได้บันทึกภาพ บันทึกอะไรต่าง ๆ ไว้หมด แล้วในกรณีนำไปเปรียบเทียบกับหมอหยองไม่ได้ เพราะหมอหยองไม่ได้อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพก่อนเกิดเหตุ มันเป็นความชอบธรรมในเรื่องนโยบายโควิด เพราะคุกมันมีความแออัด มีคนตั้ง 3 - 4 พันคน การตรวจโควิดเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ” นายแพทย์วีระกิตติ์กล่าว

จากนั้น นางอมรัตน์จึงได้ซักถามเพิ่มเติม กรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ผู้ต้องขังระหว่างการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อีกรายหนึ่งจากกรณีการชุมนุมกลุ่มราษฎร ถูกแยกตัวออกไปคุมขังร่วมกับนักโทษเด็ดขาด (นักโทษประหาร) ว่าเป็นความปกติหรือไม่

นายแพทย์วีระกิตต์ ตอบเพียงว่าเป็นความปกติ เรื่องนี้เป็นเรื่องในทางปฏิบัติและทัณฑวิทยา โดยไม่อาจให้รายละเอียดของเหตุผลได้ เมื่อความพยายามอธิบายของนายแพทย์วีระกิตติ์ ยังคงไม่สามารถทำให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังข้อเท็จจริงเกิดความสิ้นสงสัยได้ ทั้งในกรณีข้ออ้างการตรวจโรคโควิด-19 กลางดึก และกรณีของนายพริษฐ์ จึงเกิดการโต้แย้งแสดงความไม่พอใจออกมา จนทำให้นายแพทย์วีระกิตต์รับหนังสือจากนางอมรัตน์และเดินกลับเข้าไปในกรมราชทัณฑ์ทันที

หลังจากการยื่นหนังสือ นางอมรัตน์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และประชาชนที่มาร่วมชุมนุมติดตามการชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์ในวันนี้ โดยระบุว่าทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายเบื้องต้นแล้ว ยังคงไม่มีการแสดงหลักฐานอื่นใดจากทางกรมราชทัณฑ์ แม้ทางรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะระบุว่ามีภาพหลักฐานทุกอย่างที่พร้อมนำมาแสดง ส่วนที่ยังไม่ได้รับความกระจ่างนักคือกรณีเจ้าหน้าที่ในชุดสีน้ำเงินที่ไม่ได้ติดป้ายระบุชื่อและสังกัด ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็คงจะต้องออกมาแถลงสร้างความกระจ่างให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งให้สิ้นความสงสัยต่อไป

“เป็นเหตุการณ์ที่ดูแล้วไม่ปกติ เราห่วงใยในความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี ยังไม่ได้ถูกตัดสิน ยังไม่ได้เป็นนักโทษ วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ท่านช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสองการเข้าออก และให้ท่านได้ชี้แจงให้สังคงกระจ่างด้วยว่าเหตุการณ์นี้มันปกติหรือไม่ เพราะในยามวิกาลจะมีคนแปลกหน้าในชุดสีน้ำเงินมาพยายามนำตัวผู้ถูกคุมขังออกไป ก็ขอให้ท่านชี้แจงกับสังคมให้กระจ่างด้วย ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” นางอมรัตน์กล่าว

รมว.ยุติธรรม ปัด ไม่เคยเห็นจดหมาย ‘ทนายอานนท์’ ขอความช่วยเหลือ ชี้! ให้เจ้าหน้าที่แจงรายละเอียด ปมนำผู้ต้องขังออกนอกแดน ยามวิกาล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเผยแพร่จดหมายของนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำราษฎร เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวออกนอกเเดนในยามวิกาล ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบและยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเป็นเรื่องรายละเอียดที่ตนไม่ได้ติดตามและยังไม่เคยได้ยิน เพราะตั้งแต่เช้าก็เตรียมตัวที่จะมาฉีดวัคซีนและประชุมครม. ดังนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าตามกฎของเรือนจำสามารถนำตัวผู้ต้องขังออกไปนอกแดนในยามวิกาลได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ไม่ได้ยิน และไม่ทราบเรื่องระเบียบของเรือนจำ แต่ถ้ามีความจำเป็นก็เห็นยังเข้าออกในเวลากลางคืนได้ เช่น เวลาฝากขังก็เห็นทำได้ แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ทำกันในยามวิกาล เพราะหากเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ก็ควรจะทำกลางวัน เว้นแต่มีกรณีจำเป็นเท่านั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีการนำจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผยอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ยังไม่ได้ตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็มีประเด็นแบบนี้เรื่อย ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เขาก็ทราบว่าเรื่องอะไรที่ควรจะชี้แจงบ้าง แต่ตนไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ"

เมื่อถามว่าในเรือนจำสามารถเขียนจดหมาย และส่งออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ก็ต้องผ่านผู้คุม แต่ในกรณีนี้ไม่ทราบว่าผ่านหรือไม่ ส่วนเนื้อหาจดหมายตอนหนึ่งอ้างว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวออกไปตรวจโควิด-19 เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ ถ้าเอารายละเอียดทุกประเด็นมาพูดก็คงสับสน ขอให้เจ้าหน้าที่เขาตอบถ้ามีกรณีดังกล่าวจริงเพราะถือเป็นหน้าที่ของเขา"

ประกันสังคม เผยโครงการ ม33เรารักกัน ตรวจสอบสิทธิ 15 - 28 มี.ค.64 กดยืนยัน 15 - 21 มี.ค.64 สำหรับผู้ยื่นทบทวนสิทธิยื่นได้ตั้งแต่ 15-28 มี.ค.64 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึง การดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ที่ลงทะเบียนรับสิทธิเงินเยียวยาจากรัฐบาล ผ่านโครงการ ม33เรารักกัน เข้าตรวจสอบสิทธิการรับเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 - 28 มี.ค. 64 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com และกดยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 15 - 21 มี.ค.64

ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับวงเงินผ่าน Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 22 , 29 มี.ค. 64 และ 5 ,12 เม.ย. 64 ครั้งละ 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาท โดยจะสามารถเริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ได้ในวันที่ 22 มี.ค. - 31 พ.ค.64

สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนตรวจสอบสิทธิแล้วไม่ได้รับสิทธิตามโครงการ ม33เรารักกัน สามารถขอทบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ได้ตั้งแต่ 15 - 28 มี.ค.64 ในเวลา 06.00 - 23.00 น. โดยขอให้ผู้ประกันตนกดเข้าไปที่เมนู “ทบทวนสิทธิ” (ปุ่มสีเหลือง) หลังจากนั้นกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการทบทวนสิทธิให้ละเอียดชัดเจน เช่น ชื่อสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสหลังบัตร วันเดือนปีเกิด จังหวัดที่พักอาศัย เบอร์โทรศัพท์

จากนั้นคลิ๊กปุ่ม “ขอทบทวนสิทธิ” ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสถานะผู้ได้รับสิทธิผ่านทางเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com พร้อมกดยืนยันตัวตนผ่าน Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 5 - 11 เม.ย. 64 ผู้ประกันตนจะได้รับวงเงินเข้า Application “เป๋าตัง” ในวันที่ 12 เม.ย. 64 จำนวนเงิน 4,000 บาท เพื่อให้ผู้ประกันตนเริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ในวันที่ 12 เม.ย. - 31 พ.ค. 64

นายทศพล กล่าวในตอนท้ายว่า "สำนักงานประกันสังคมได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานทบทวนสิทธิ ม33เรารักกัน ที่สำนักงานประกันสังคม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องประสานงานทบทวนสิทธิและอำนวยความสะดวกพร้อมให้คำแนะนำปรึกษารับเรื่องการลงทะเบียน ให้ผู้ประกันตนในโครงการ ม33เรารักกัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ทุกวัน หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)"

รมว.สาธารณสุข การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค แต่ไม่กล้ารับปาก ได้เล่นสงกรานต์หรือไม่ รอ ทีมแพทย์รายงาน ศบค.ใหญ่ก่อนเคาะอีกที วอนประชาชนอย่าการ์ดตก

รมว.สาธารณสุข การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค แต่ไม่กล้ารับปาก ได้เล่นสงกรานต์หรือไม่ รอ ทีมแพทย์รายงาน ศบค.ใหญ่ก่อนเคาะอีกที วอนประชาชนอย่าการ์ดตก

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บางแค ว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมแพทย์ลงไปตรวจเชิงรุกที่ตลาด และตามไปตรวจผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด รวมถึงชุมชนที่มีการติดเชื้อมากเป็นพิเศษ และนำผู้ที่ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลหลักคือโรงพยาบาลบางขุนเทียนของกทม. และในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน เผื่อกรณีที่กทม. เริ่มเต็ม ก็ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อสนับสนุนเอาไว้พร้อมแล้ว แต่ยังเชื่อว่าเราจะสามารถควบคุมอยู่ในวงจำกัดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าคลัสตเตอร์บางแค จะส่งผลกระทบ ต่อการพิจารณาผ่อนคลายในช่วงของเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ทุกอย่างจะส่งผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และอยู่ที่ความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก การพิจารณาอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่พิจารณาอยู่บนความสนุก ที่เราทำมาทั้งหมดทุกวันนี้ก็เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และยังต้องยึดหลักนี้อยู่

ทั้งนี้ต้องดูว่าจากช่วงนี้ไปจนถึงสงกรานต์ ที่เหลือระยะเวลาอยู่ประมาณ 1 เดือนนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเราก็สามารถควบคุมได้ แต่ว่าช่วงนี้ อาจจะการ์ดตกกันบ้าง ก็ขอให้กลับมาที่เราเคยทำ คือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างล้างมือ หากเราปฏิบัติตามหลักนี้ได้ การแพร่เชื้อก็จะถูกจำกัดวง ให้แคบมาก ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์"

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแสดงว่าถึงเวลานี้ยังไม่กล้ารับปากประชาชนใช่หรือไม่ว่าจะได้เล่นน้ำสงกรานต์หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยแต่ถ้าถามอย่างนี้ตนไม่ตอบดีกว่า เพราะไม่มีการรับปากรับคำอะไรทั้งสิ้น เราทำทุกอย่าง อยู่บนความตั้งใจที่ดีที่สุด แล้วอยู่บนความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก เมื่อถามว่า ในการประชุมศบค.วันที่ 19 มีนาคมนี้ประเด็นเรื่องการผ่อนคลายเทศกาลสงกรานต์จะถูกหยิบยกเข้าไปหารือด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ไม่ทราบ ทางศบค.จะเป็นผู้นำเสนอ เราต้องดูสถานการณ์ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด"

‘เพนกวิน’ แถลงอึดอัดใจ ระหว่างศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุม 19 กันยา ทำบรรยากาศส่อวุ่น ‘คนกรีดร้อง ปาขวดน้ำในศาล’ กร้าวจะขออดข้าวประท้วง

รายงานว่าระหว่างศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุม 19 กันยายน ทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี แต่มีผู้เกี่ยวข้องในคดี ผู้สังเกตการณ์ และผู้เดินทางมาให้กำลังใจส่วนหนึ่งได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี

นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำราษฎรนนทบุรี หนึ่งในจำเลย ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการพิจารณาคดีว่า ภายในห้องพิจารณาคดี "เพนกวิน" นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้ขออนุญาตแถลงต่อศาลถึงความอึดอัดที่อยู่ในใจ แต่ศาลไม่อนุญาตให้พูดในที่เปิดเผย

จากนั้น มีเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น เพนกวินจึงประกาศความอึดอัดใจว่าเหตุใดศาลไม่ให้ประกันตัว ทั้งที่ยังไม่มีคำตัดสิน โดยเทียบเคียงกับคดี กปปส. ที่ตัดสินแล้วว่ามีความผิดแต่ได้ประกันตัว และไม่ต้องตัดผม พร้อมประกาศขอประท้วงด้วยการอดข้าว ดื่มแต่น้ำ จนกว่าจะได้รับการประกันตัว ซึ่งบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีได้เกิดความวุ่นวาย มีมวลชนที่ได้เข้าไปร่วมฟังการพิจารณาระบายอารมณ์ด้วยการกรีดร้อง และเขวี้ยงขวดน้ำลงพื้น เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเพนกวินและจำเลย ลงไปควบคุมที่ห้องควบคุมจำเลยด้านหลัง

นายชินวัตร ระบุด้วยว่า หวังให้ศาลมีความยุติธรรม และป.อาญา มาตรา 112 เป็นข้อหาที่ทำร้ายประชาชน ส่วนตนเองในช่วงบ่าย จะถูกไต่สวนในคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถ่ายรูปร่วมกับนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ในห้องเวรชี้ และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย อีกทั้งมีคดีละเมิดอำนาจศาลของนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่ถ่ายรูปนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ผ่านหน้าจอแล้วไปโพสต์อีกด้วย ซึ่งในส่วนของตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาเตือน


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2050476

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า #อนุทินและธนาธรใครโกหกประชาชน มีเนื้อความว่า

ผมได้อ่านรายละเอียด ความขัดแย้งในคลับเฮาส์ ระหว่าง นายอนุทิน และนายธนาธร เรื่องการฉีดวัคซีน

โดยนายธนาธรกล่าวหานายอนุทินว่า โกหกประชาชน เรื่องแผนการฉีดวัคซีน ด้านนายอนุทินก็ชี้แจงไปว่า สิ่งที่นายธนาธรพูดนั้นข้อมูลเก่า

เมื่อผมติดตามศึกษา รายละเอียดเพิ่มเติมที่ทีมแพทย์แถลง ผมเชื่อนายอนุทินครับ เพราะแผนงานต่าง ๆ นั้นสามารถปรับได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ต่างจากโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ 3,000 บาทถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจน มีประชาชนลงทะเบียนมา 3 ล้านคน จ่ายเงินจริงแค่ 2,427 คน ที่สำคัญ มีการเอาเงินบริจาคไปทำอย่างอื่นอีก แบบนี้ถึงจะเรียกว่า โกหกประชาชน

ขอรบกวนคุณหมอท่านใด ที่สนับสนุนนายธนาธร(เพราะหมออย่างผม เขาคงไม่ฟัง) ช่วยเตือนเขาด้วยว่า อย่าเอาการเมือง มายุ่งกับงานวิจัยทางการแพทย์ วัคซีนและการรักษาพยาบาล เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของจริยธรรม คนที่ไม่มีจริยธรรมจะไม่ค่อยเข้าใจ


ที่มา: https://www.facebook.com/1635406246730420/posts/2867414883529544/

ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจา 'จุรินทร์' ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับ ครม. แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เจรจาพรรคร่วม

‘จุรินทร์’ ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับครม.แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เป็นตัวแทนเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 11.45 น. ที่มัสยิด กามาลุดดีน บ้านไสเจริญ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการแลกโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีข้ามกระทรวง ว่า ตนยังไม่ได้ได้ยินการปรับครม.ในสูตรดังกล่าว ขอให้ไปสอบถามจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เผื่อมีการประสานมา

ทั้งนี้ การเจรจาเรื่องใดก็ตามกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ เป็นตัวแทนพรรคในการเจรจา โดยตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากนายเฉลิมชัยว่านายกรัฐมนตรีให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรี ในโควตาพรรคฯ เมื่อใด และคงต้องรอหลังการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นครศรีธรรมราชก่อน

“การเจรจาใด ๆ ได้มอบให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์แล้ว เมื่อได้รับแจ้ง ต้องรายงานให้ผมรับทราบ ซึ่งเรื่องใดต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ก็ต้องใช้ ถ้าเรื่องใดไม่ต้องก็ไม่ต้อง เช่น ถ้าเป็นเรื่องเสนอรายชื่อรัฐมนตรีคนใหม่ หรือตำแหน่งทางการเมือง ต้องนำเข้าที่ประชุมกก.บห. ก่อนนำเข้าที่ประชุมร่วม กก.บห. และ ส.ส. ของพรรค ตามที่ข้อบังคับกำหนด”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวถึงการปรับครม.ในตำแหน่ง รมช.คมนาคม จำเป็นต้องเป็นโควตาจ.สงขลาหรือไม่ ว่าไม่จำเป็น แต่ถือเป็นโควตาภาคใต้ ส่วนจะเป็นใคร สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมของพรรค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top