Sunday, 22 June 2025
POLITICS NEWS

'ชัยวุฒิ' ปัดตอบ!! สูตรรัฐบาล 265 เสียง 'ไร้กก.-พรรค 2 ลุง' ชี้!! การเมืองเป็นเรื่องตัวเลข ทำให้เกิดได้หลายสูตร

(1 ส.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งรัฐบาล 265 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรค 2 ลุง คือ พรรค พปชร. และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า...

สูตรการเมืองมีได้หลายสูตร เกิดได้จากหลายกลุ่มหลายคน และเกิดได้ทุกสูตร เพราะการเมืองเป็นเรื่องของตัวเลข แต่ต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะสรุปออกมาอย่างไร และเวลานี้ยังไม่รู้จะชัดเจนอย่างไร ยังตอบไม่ได้ว่าสูตรดังกล่าวจะเกิดได้หรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นสูตรดังกล่าว พรรคพปชร.มีแนวทางที่จะยกมือโหวตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกันในพรรค พปชร.ก่อน และต้องรอดูท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่จะหาหารือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาเป็นอย่างไร เวลานี้ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร และเสียงสนับสนุนในสภามีเพียงพอหรือไม่

เมื่อถามว่า หากตั้งรัฐบาล 265 เสียงโดยไม่มีพรรค 2 ลุง รวมถึงพรรคก้าวไกล จะลดแรงต้านของสังคม ทั้งฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องถามว่าสังคมไหน สังคมของใคร เพราะในสังคมก็มีหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ตนไม่ทราบว่าจะลดแรงเสียดทานสังคมหรือไม่ เพราะสังคมก็มีหลายกลุ่มที่มีเป้าหมายต่างกัน ดังนั้นต้องรอให้มีเหตุการณ์ตามที่มีกระแสคาดการณ์เกิดขึ้นก่อน

‘ไผ่ ลิกค์’ ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้!! ต้องมีกฎหมายรองรับ หลังเยาวชนเริ่มใช้อย่างแพร่หลาย

(1 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด 

"ผมจึงขอเสนอให้สภาฯ มาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น" นายไผ่ กล่าว

'สุกัญญา มิเกล' ลั่น!! อีก 4 ปี ค่อยจ่ายภาษี จ่ายแล้วไม่ได้ประโยชน์

เมื่อวานนี้ (31 ก.ค. 66) ดารานักร้องเสียงห้าว สุกัญญา มิเกล มาร่วมพิธีบวงสรวง ซีรีส์ High School Bully ที่ ม.กรุงเทพ รังสิต หลังจากเสร็จพิธีกรเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ตั้งแต่ออกมาคอลเอาท์ก็โดนบูลลี่หนัก

ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่มั้ย? “ก็ยังมีเรื่อยๆ นะ เราอยู่ในโหมดกีฬาสีเหลืองแดงนี่โดนประจำ อยู่ทางไหนอีกฝั่งก็ถล่ม เป็นเรื่องปกติ”

พอก้าวผ่านมาได้แล้วยังเจ็บปวดอยู่มั้ย? “นี่ไปบำบัดจิตมานะ ถ้าไม่ไปบำบัดจิตน่าจะไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังเหลือเชื้อบ้าง บางอย่าง คือพอดีมีครูลี่เป็นนักบำบัดไปเรียนมาจากต่างประเทศ เราก็เลยได้ไปอยู่ 3 ครั้ง เหมือนเข้าคอร์สสำหรับเคลียร์จิตใต้สำนึกเลย

หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าเรามองหาสิ่งที่เป็นข้อดีของตัวเรา ดังนั้นเวลาที่เขาบูลลี่หรือด่าเรา เราจะไม่รู้สึก เพราะมันไม่ใช่ความจริง สิ่งที่เป็นจริงคือสิ่งที่เรารู้อยู่ว่าเราทำอะไร และตั้งมั่นว่าเรารับรู้อย่างชัดเจนว่าเราทำอะไร และเราทำเพื่ออะไร มันเป็นผลร้ายหรือผลดีกับใคร

พอเรารับรู้แล้วมันก็เป็นเสียงภายนอก เป็นมุมมองของแต่ละคน ซึ่งเราก็เคารพ ก็ว่าจะฟ้องหลายทีแล้ว แต่ยังไม่กล้าฟ้องใครเลย ชาวเน็ตนี่แหละ พอไปดูโปรไฟล์แล้วแต่ละคนก็น่าสงสารพอๆ กับเราเลย (หัวเราะ)”

พอเราออกมาคอลเอาท์เรื่องการเมืองบ่อยๆ โดนหนักเลยมั้ย? “ก็โดนหนัก เรื่องของงานบางทีบางคนก็อยากได้งานจากเรา แต่พอบรรดาผู้บริหารเห็นก็ไม่เอาก็มี หรือบางร้านที่อยากเอาเราไปเล่นก็กลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะมาสร้างปัญหาภายในร้าน ก็เลยไม่เอาเราไปเล่นก็มี”

คิดจะเพลาๆ ลงมั้ย? “เพลาเพื่อ เรายังจ่ายภาษีอยู่ ถ้าไม่จ่ายและมันไม่เอาภาษีเราแล้ว เราจะหยุด บอกว่าไม่จ่ายแล้วไม่ผิดเราจะหยุดเลย อย่างเลือกตั้ง 4 ปีครั้งนึงเนี่ย กะว่าอีก 4 ปีค่อยจ่ายภาษี เพราะจ่ายไปแล้วมันไม่ได้ประโยชน์อะไร เลือกไปแล้วไม่ได้มา”

ตอนนี้สภาพจิตใจกลับมา 100% หรือยัง? “ค่อนข้าง 100 จะมีบางช่วงที่เครียดมากๆ พอเครียดมากๆ อาการดิ่งก็จะกลับมา แต่ดิ่งล่าสุดคือเกี่ยวกับเรื่องชีวิต เรื่องที่อยู่อาศัย แต่มันน้อยมากเลยถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนี้จะเป็นตลอดเวลา เรียกว่าเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

แต่คนข้างนอกไม่รู้ เพราะเราไม่เคยไปบอกใคร และเวลาที่ไปออกทีวีมีรายการมาเชิญไป เราก็ทำตามหน้าที่ที่เขามีเป้าหมายให้เราไปออก ดังนั้นเราก็เลยไม่เคยแชร์สิ่งที่มันเป็นความจริงของเราเลย

ดังนั้นคนภายนอกก็จะไม่รู้ว่าเกิดสถานการณ์อะไรกับเราบ้าง และเราก็มองว่าคนรุ่นวัยเรา ศิลปินไม่ได้มีหน้าที่มาร้องโวยวายหรือเรียกร้องอะไร มีหน้าที่คือมีงานมาก็ทำตามหน้าที่ และเวลาเจอแฟนคลับ เราดูแลเขา เราให้ความสุขกับเขา ไม่ใช่เอาความทุกข์ของเรามาให้เขาแบบ เราคิดแบบนี้นะ ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง”

เรื่องที่อยู่อาศัยคือยังไง? “คือเวลาที่เราไปเป็นฝั่งประชาธิปไตย แล้วเขาไม่พอใจ ก็อยากให้เราออกเร็วๆ ก็ไม่เป็นไร อันนั้นเรื่องของเรา ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องเคลียร์อยู่ ต้องเป็นไปในทางที่ดีสิ (ยิ้ม)”

แฟนหรือคนรอบข้างมีส่วนช่วยมั้ย? “ช่วยมากนะ ลูกชายจะคอยฮีลใจเรา เวลาที่เราย่ำแย่ เขารู้แหละ พอเรามีสถานการณ์ที่เริ่มบีบเรา เขาก็จะมาบอกว่าหม่ามี้ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมันต้องผ่านไปนะ เขาจะคอยทำเรื่องตลกๆ ให้เราสบายใจ คือไม่ทำตัวสร้างปัญหาให้เราเครียดมากขึ้น

อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูกช่วยแม่ได้ ลูกชายตอนนี้ก็วัยรุ่นแล้ว 14 แล้ว เขาเข้าใจมาตั้งแต่ 6-7 ขวบแล้วแหละ เวลาเราถามเขาว่าหนูรู้สึกแย่มั้ย เขาก็จะบอกว่าผมไม่ๆ อย่างนึงเขาอาจจะรู้สึกแหละบางเรื่อง แต่เขาก็พยายามจะแข็งแรงเพื่อเรา”

‘เพื่อไทย’ ลุยทำการบ้าน!! นัดประชุม สส. 3 ส.ค.นี้ เตรียมความพร้อมโหวต ‘เศรษฐา’ ชิงเก้าอี้นายกฯ

(31 ก.ค. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรค พท. เป็นแกนนำ ที่ผ่านมาพรรค พท. ได้ไปทำการบ้านรับฟังเสียงจากทั้ง สส. และ สว.ในมุมมองเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลตามที่ 8 พรรคร่วมมอบหมาย ซึ่งขณะนี้งานใกล้เสร็จสิ้นแล้วเราจะนัด 8 พรรคพูดคุยกันอีกครั้งแต่ยังไม่กำหนดวันแน่นอนเพราะต้องรอถามความพร้อมของทุกฝ่าย แต่สิ่งที่มีกำหนดแน่นอนแล้ว พรรคเพื่อไทย ที่จะมีการประชุม สส. วันที่ 3 ส.ค. ที่รัฐสภา เตรียมความพร้อม สส. ก่อนการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายชื่อที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอเพื่อโหวตเป็นนายกฯ ต่อรัฐสภาวันที่ 4 ส.ค. คือ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ นัดถก ‘8 พรรคร่วม’ 2 ส.ค.นี้ ก่อนโหวตนายกฯ หลังซาวเสียง ‘สส.-สว.’ ลั่นตรงกัน ย้ำ!! ต้องไม่มีก้าวไกล

(31 ก.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดประชุม 8 พรรคร่วมภายหลังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมออกวาระการประชุมรัฐสภา เพื่อเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ว่า เบื้องต้นจะนัดประชุม 8 พรรคร่วมในวันที่ 2 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากวันที่ 1 ส.ค.ยังคงเป็นวันหยุด หลายคนยังอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกมาร่วมประชุม

อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับทั้ง สว.และ สส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ ทั้ง สส.และ สว. ยังแสดงความเห็นตรงกันว่าพร้อมจะยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล อยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ พวกเขาก็ยังยืนยันว่าจะไม่ให้เสียงสนับสนุน

'อานันท์' ชี้!! ตอนนี้ 'สังคมไทย' อยู่ในสภาพที่ไม่ปกติที่สุด ยกกรณี 'สว.' โหวตนายกฯ

(31 ก.ค. 66) จากเพจ ‘Gong Paramet Bhuto’ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…

คุณอานันท์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง ก็ล้วนแต่มาจากเหตุการณ์ที่ไม่ปกติของสังคมไทย เพราะถ้าเหตุการณ์ปกติ คุณอานันท์ ก็จะไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งแรกปี 2534 ได้เป็นเพราะคณะรัฐประหารไม่กี่คน เห็นว่าท่านภาพลักษณ์ดี ตั้งมาเป็นนายกฯ คงช่วยเรื่องการยอมรับจากสังคม

ครั้งที่ 2 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ก็มาแบบไม่ปกติอีก เพราะคนจากพรรคเสียงข้างมาก แต่งชุดขาวรอประกาศ แต่สุดท้ายกลายเป็นชื่อ ‘นายอานันท์’ แทน ซึ่งกระแสตอนนั้น ก็ไม่มีใครว่าคุณอานันท์ ออกจะดีใจด้วยซ้ำไป ซึ่งมองอีกมุมคุณอานันท์ก็ได้พิสูจน์ว่า นายกฯ มาจากไหนไม่สำคัญ สำคัญว่ามาแล้วได้ทำประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองบ้าง ซึ่งคนแบบคุณอานันท์คงไม่มีทางได้เป็นนายกฯ ในสถานการณ์ที่ปกติได้ เพราะท่านไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง

และหากจะว่าไปแล้ว การรัฐประหารเมื่อปี 34 มีเหตุผลและความชอบธรรมน้อยกว่า การรัฐประหารเมื่อปี 57 มาก เพราะปี 34 หยิบยกข้ออ้างเรื่องนักการเมืองคอรัปชั่น เรื่องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นหลัก ไม่ได้มีสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรง มีการสูญเสียชีวิตประชาชน และมีแนวโน้มสู่สภาวะมิคสัญญี เหมือนปี 57 แม้แต่น้อย

แต่ท่านก็ยินยอมพร้อมใจรับตำแหน่งนายกฯ บนวิถีทางไม่ปกติทั้ง 2 ครั้ง ความจริงแล้วหลายคนคาดหวังว่า ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ และการผ่านโลกมาเกือบจะศตวรรษของท่าน น่าจะเข้าใจเหตุปัจจัยและบริบททางการเมืองของไทยที่เป็นจริงมากกว่าพวกนักท่องตำราที่มีอยู่ดาษดื่นในสังคม

'สส.อรรถกร-พปชร.' ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯ ตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ  ช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้ง 'ปัจจัยรุมเร้า-นำเข้าจาก ตปท.พุ่ง'

(31 ก.ค. 66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคากุ้งเลี้ยงตกต่ำอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งหลังจากการที่ คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) หรือบอร์ดกุ้งอนุมัติการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียเข้ามา โดยอ้างว่าเกษตรกรไทยมีโครงการประกันราคากุ้งอยู่แล้ว

"ปัญหาการขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร เกิดมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูง และ มีโรคระบาดในกุ้ง ประกอบกับราคาประกันขั้นต่ำที่ห้องเย็นตั้งไว้นั้นเท่ากับราคาต้นทุนการผลิตที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้เกษตรกรขายในราคาขาดทุน ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน" นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า แม้ราคากุ้งจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) แต่ราคาของจริงไม่ได้ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด จึงต้องการให้รัฐช่วยลดภาระต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เช่น ค่าอาหารกุ้ง ค่าปู่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หากภาครัฐไม่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาอาจบานปลายได้ 

"ผมจึงขอให้สภาฯ ตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยโดยเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคง ของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยญัตติที่ผมเสนอไปได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ทันท่วงที" นายอรรถกร กล่าว

‘บิ๊กป้อม’ ควง ‘ธรรมนัส’ ทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ  ด้าน ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจ ตะโกนเรียกนายกฯ คนที่ 30

(30 ก.ค. 66) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ร่วมพิธีด้วยทั้งนี้ ก่อนที่พลเอกประวิตร จะเดินทางมาถึงที่วัดมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่พลเอกประวิตร และคณะมาถึงฝนก็ได้หยุด และมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังขอถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอวของพลเอกประวิตร พร้อมส่งเสียงเชียร์บอกให้สู้ๆ และเรียกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร มีสีหน้า สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

ต่อมาในเวลา 13.19 น. พลเอกประวิตร พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส และนายสุรทิน ได้ร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถฯ จนเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางคำกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” จากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก จากนั้นพลเอกประวิตร ได้นำคณะไปปลูกต้นพยุง ไม้มงคล และร่วมพิธีเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงทำพิธีดังกล่าว ทางวัดขอให้สื่อมวลชนออกไปรอภายนอกโบสถ์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี

มีรายงานว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว พลเอกประวิตร ยังได้ทักทายประชาชนที่รอให้กำลังใจ ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
 

‘ทนายบอน’ ชงใช้ กม.ฟอกเงิน ปราบพวกทำลายความมั่นคงชาติ จี้!! สาวไส้คนบงการขบวนการตั๋วปารีส พร้อมเช็กบิลย้อนหลัง

(30 ก.ค. 66) นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ‘ทนายบอน’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อเรื่อง “ความผิดในการบ่อนทำลายความมั่นคงราชอาณาจักร ต้องใช้ ‘กฎหมายฟอกเงิน’ สาวไส้ ทลายรัง แบบ Forex-3D” โดยระบุรายละเอียดว่า

“ทุกวันนี้ในการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดที่บ่อนทำลายความมั่นคง บ่อนทำลายสถาบัน มักสาวไปไม่ถึงตัวบงการ ทั้ง ๆ ที่ตามพฤติการณ์ เราเห็นตัวการผู้ยุยง แต่ทำอะไรไม่ได้ พวกนี้จึงยุยงส่งเสริมคนอื่นออกมารับโทษแทน ทำตัวเป็นผู้บงการข้างหลัง อย่างเลือดเย็น ไม่เว้นแม้แต่หลอกใช้เด็ก เรื่องมาเริ่มชัดขึ้นกับไอ้ตั๋วปารีส แต่ก็เห็นว่ายังเฉยๆ และดูท่าว่ายังจะสาวไม่ถึงไอ้ตัวบงการ อีกแล้วหรือ ผมมีข้อเสนอให้บัญญัติฐานความผิด ‘ความมั่นคงของราชอาณาจักร’ ให้เป็นความผิดมูลฐานของ ‘การฟอกเงิน’ เพื่อเพิ่มอาวุธสาวไส้ขบวนการชั่วพวกนี้ทำนองเดียวกับคดียาเสพติด คดีการพนันออนไล์ คดีค้ามนุษย์ และคดีก่อการร้าย ถ้าให้ทันสมัยหน่อยก็แบบคดี Forex-3D ที่สาวได้ทุกธุรกรรม”

ทนายบอน ชี้ว่าเมื่อกำหนดให้เป็น ‘ความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน’ ปปง.จะตรวจสอบทะลุทุกธุรกรรม ทุกเครือข่ายความเชื่อมโยง ซึ่งสามารถนำไปสู่การ ‘สาวไส้ ทลายรัง’ ได้ พวกค้ายาเสพติด พวกค้ามนุษย์ โดยเฉพาะพวกพนันออนไลน์ สยองเหลือเกินกับกฎหมายนี้ เพราะโดนตามยึดทรัพย์ทลายรัง ไม่มีเหลือ ถ้ากำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เช่น มาตรา 112 หรือ มาตรา 120 สมคบกับต่างชาติทำลายความมั่นคงเป็น ‘ความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน’ จะสามารถทะลวงได้ถึงทุกธุรกรรม ทุกเครือข่าย สาวไส้ ทลายรัง ได้ทั้งขบวนการ ใครจ่ายเงินให้ใครไปหมิ่นสถาบัน ใครจ่ายเงินให้ใครไปชุมนุมก่อความไม่สงบ รู้หมด ถึงทุกไส้ ทุกรูขุมขน และสาวไส้ได้ ‘ย้อนหลัง’ ตั้งแต่ริเริ่มขบวนการ

ทนายบอน ระบุอีกว่า “นอกจากยึดทรัพย์แล้ว เราจะได้เห็นโครงข่ายเชื่อมโยงของขบวนการทั้งหมด เปิดหน้ากากตัวบงการได้ซะที เราจะรู้ได้ทั้งหมดใครบงการบ่อนทำลายสถาบันฯ ใครอยู่เบื้องหลังตั๋วปารีส ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ต้องอาศัยการเสนอแก้ไขกฎหมายในสภาฯ แล้วเชื่อไหมระหว่างการแก้ไข เราจะได้เห็นโฉมหน้าตัวบงการ โฉมหน้าขบวนการแนวร่วมได้ง่ายขึ้น ก็คือไอ้พวกที่คัดค้านหัวชนฝาในสภาฯ นั่นล่ะ และหลังจากแก้ไขกฎหมายได้แล้ว จะได้เริ่มสาวไส้ เปิดหน้ากาก ยึดทรัพย์ ดำเนินคดีอาญา ทะลวงรังซะที เห็นด้วยช่วยกันส่งเสียง จะได้เอาไปขับเคลื่อนกันต่อครับ”

‘กกต.’ จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย ‘นครชัย’ สส.ระยอง ก้าวไกล เหตุต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ชี้!! รู้อยู่แล้วไม่มีสิทธิ แต่ยังฝืนลงสมัคร

(30 ก.ค. 66) สืบเนื่องจากกรณีที่ ‘นครชัย ขุนณรงค์’ หรือ ‘ไอซ์ สส.ระยอง’ พรรคก้าวไกล เขต 3 หลังกกต.ระยองส่งข้อมูล ให้กกต.กลาง หลังพบข้อมูลต้องคดีลักทรัพย์ ช่วงปี 42 - 43 โทษศาลสั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน กระทั่งต่อมา ไอซ์ สส.ระยอง ประกาศลาออก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดมีรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยกรณี นายนครชัย ขุนณรงค์ สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการเป็น สส. เนื่องจากเคยเป็นต้องโทษจำคุกในคดีลักทรัพย์ว่า กรณีนี้ ถือเป็นกรณีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) (เคยต้องคำพิพากษาจนถึงที่สุดในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา) ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาการพ้นโทษไว้ ดังเช่นมาตรา 98 (7) (ระบุว่าเคยได้รับโทษจำคุกยังไม่พ้น 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง) เนื่องจากกฎหมายกำหนดบทความผิดไว้เป็นการเฉพาะว่า ความผิดในฐานใดบ้างที่ต้องห้ามดำรงตำแหน่ง สส. ดังนั้น หากผู้สมัคร สส.เคยกระทำความผิดตามฐานความผิดที่ระบุไว้ จะถือเป็นลักษณะต้องห้ามการสมัครรับเลือกตั้ง สส.

โดยกรณีดังกล่าวหากเห็นว่าผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่า ตนเองไม่มีสิทธิสมัคร แต่มาสมัครรับเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายต้องรับโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 151 และอาจต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420

พร้อมกันนี้ นายอิทธิพร ยังกล่าวอีกว่า ตามที่ สส. คนดังกล่าวได้ประกาศทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งว่า จะมีการลาออกจากตำแหน่งในสัปดาห์หน้า จึงคาดว่าจะมีการยื่นหนังสือลาออก และมีผลในช่วงสัปดาห์หน้าเลย

ซึ่งกรณีนี้ กกต.รับทราบเรื่องแล้ว และอยู่ในขั้นตอนที่ส่วนกลางกำลังพิจารณาจัดทำความเห็นเพื่อเสนอต่อ กกต.ต่อไป ซึ่งจะมีประเด็นเรื่องความผิดทางอาญา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วย สส. มาตรา 151 รวมทั้งอาจมีการพิจารณาฟ้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายในการจัดเลือกตั้งใหม่ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top