Wednesday, 14 May 2025
NEWSFEED

‘หนุ่มไทย’ เจ๋ง!! ได้ร่วมงานกับ ‘อาร์เซนอล’ ยอดทีมพรีเมียร์ลีก คว้าตำแหน่งนักวิเคราะห์เกมแห่งวงการลูกหนัง ค่าตัวสูงลิ่ว!!

เป็นอีกครั้งที่คนไทย ได้ร่วมงานกับสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ ‘อธิคุณ ปิ่นทอง’ หรือ ‘คุณเลี้ยง’ ที่เรียนและทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัวว่าเวลานี้ได้เข้าร่วมทำงานกับสโมสร ‘ไอ้ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล รองแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย อธิคุณในวัย 23 ปี ก่อนหน้านี้ เคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์เกมฟุตบอลให้กับทีมชุดยู-18 ของ ‘อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด’ ทีมในลีกวัน และทีมชุดยู-18 ของเซาแทมป์ตันมาก่อน กระทั่งล่าสุด คุณเลี้ยงได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘Liang Pinthong’ ได้ประกาศว่าเขาได้ทำงานกับอาร์เซนอลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาจะทำหน้าที่ดูแลชุด ยู-13, ยู-14 เป็นหลักและช่วยชุดอื่นๆ เป็นบางครั้งบางคราว โดยมีข้อความดังนี้

“ผมอยากประกาศว่า ผมได้ทำงานนักวิเคราะห์เกมให้กับสโมสรอาร์เซนอล อยากใช้โอกาสตรงนี้ ขอบคุณป๊ากับม๊าที่สนับสนุนเลี้ยงมาตลอดไม่ว่าจะส่งเลี้ยงเรียน, พลาดสัมภาษณ์งานหลายๆ ที่จนได้งานนี้”

ทั้งนี้ ตำแหน่งนักวิเคราะห์เกม นับเป็นบทบาทที่มีความสำคัญในโลกลูกหนังมากขึ้นเรื่อย ๆ หน้าที่ของพวกเขาคือ การรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของทีมตัวเองและทีมคู่แข่ง เพื่อนำไปมอบให้โค้ชของสโมสรนั้นๆ พิจารณาเป็นแนวทางในการทำทีม ซึ่งอัตราจ้างสโมสรในระดับแชมเปี้ยนชิพหรือลีกรองลงมา จะอยู่ที่ราว 20,000 ปอนด์ต่อปี (ราว 880,000 บาท) ซึ่งถ้าเป็นในระดับที่สูงขึ้นมาอย่างพรีเมียร์ลีก ก็จะมีค่าจ้างสูงขึ้นอีก 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว

‘เปิ้ล ไอริณ’ เผยมุมมองเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ ใจศรัทธาถือว่าไม่ผิด พร้อมแนะ!! สิ่งที่ควรเคารพ-ศรัทธามากที่สุด คือ ‘ตัวเราเอง’

(15 ส.ค.66) ว่าด้วยเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ มันก็แล้วแต่ความศรัทธาและความเชื่อส่วนบุคคลจริงๆ อย่างล่าสุด ‘เปิ้ล ไอริณ’ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงมุมมองส่วนตัวในเรื่องนี้ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ฝากไว้ให้คิด โดยระบุว่า…

"Morningg!! ว่าด้วยเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ คนวงในสายมู ย่อมรู้จัก อ.สุชาติ ผู้ตั้งศาลครูกายแก้วดี อ.สุชาติ ท่านเป็นผู้ตั้งศาลใหญ่ ๆ ระดับประเทศ อย่างพระตรีมูรติที่เซ็นทรัลเวิลด์ และพระพิฆเนศที่ห้วยขวาง เหล่าดารา นักแสดง และไฮโซ ต่างก็รู้จัก อ.สุชาติ ดี

เราเองเคยเจออาจารย์ครั้งแรก ท่านทัก "เห็นมันเซ็กซี่ แต่ไอ้นี่ไม่ง่ายนะ" เราว่าท่านแม่น

ในมุมมองเรา ถือว่าครูกายแก้ว ไม่ได้มีพิษมีภัยใด ๆ เพราะองค์พญาครุฑ พญานาค ที่พวกเรานับถือ ก็มีความเป็นเทพกึ่งชั้นบนโลกมนุษย์ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงเขียนในพระกัณฑ์ไตรปิฎกไว้ว่า เรามีถึง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเลือกเคารพศรัทธาสิ่งใด ตามสัญญาเก่า ตามภพภูมิบารมีของตน ก็ไม่ถือว่าผิด!

แต่อีกด้านหนึ่ง คนศึกษาเรื่องจิตวิญญาณต่างรู้ดีว่า "เราจะมีรูปลักษณ์ กายภาพ คล้อยตามสิ่งที่เราศรัทธา เคารพบูชา" สังเกตง่าย ๆ สำนักสงฆ์ชีบางที่ ที่เราไปปฏิบัติธรรม แม่ชีทั้งวัด ก็ตัดผมทรงเดียวกับแม่ชีที่เป็นผู้นำที่ยังไม่ปลงผม ลูกศิษย์ในโซเชียล ก็จะแต่งกาย ทำผม มีลักษณะ ความคิดจิตวิญญาณ คล้อยตามโค้ชชิ่งต่าง ๆ

ถ้าถามว่า เรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอะไร? เราเลือกศรัทธา บูชาสิ่งที่มีเรื่องราว มีตัวตนจริง ๆ ที่ได้สร้างคุณงามความดี มีคำสอนที่ดี เราจึงศรัทธา บูรพกษัตริย์ต่าง ๆ บนหิ้งบูชาบ้านเรา มีเสด็จพ่อร.5, ร.9 พระนเรศวร พระเจ้าตากสิน และพระสงฆ์สาวก พระอรหันต์ ที่มีอภิญญา อย่างหลวงพ่อสด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ถือเป็นสามเด้ง ได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ได้เคารพศรัทธา และได้ระลึกแสดงความกตัญญูรู้คุณ ต่อสถาบันหลักของชาติด้วย ถือว่าเป็นมงคลของชีวิต

จะบอกว่า "การรัก และเคารพศรัทธาสิ่งใด เรากำลังมอบพลัง อำนาจ ที่เรามีอยู่ ให้กับสิ่งนั้นค่ะ" ครู อาจารย์ โค้ชต่าง ๆ ถึงได้ดูดี มีพลัง รวยขึ้น สวยขึ้น แม่ที่รักลูก รักสามีหมดใจ จะปล่อยให้ตัวเองโทรมลง เพราะยกพลังอำนาจ ความรัก ความศรัทธาตน ให้ครอบครัวหมด สุดท้ายสามีและลูก จะไม่ค่อยรักแม่!!

เรามีเคล็ดลับเพิ่มพลังความรักความศรัทธาตน มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ สิ่งที่เราควรรัก และศรัทธาที่สุด คือ ‘ตนเอง’ หมั่นให้พลังตัวเอง ลองตั้งรูปตัวเอง ช่วงที่ชอบที่สุด ช่วงที่ดูดี และมีความสุขที่สุด มองบ่อย ๆ จุดกำยานหอม ๆ เคลียร์พลังงาน แล้วพูดบวก ๆ ให้พลังตัวเอง ยามส่องกระจก ก็มอง แล้วพูดบ่อย ๆ "ฉันรักเธอนะ ฉันศรัทธาในตัวเธอ เธอผ่านหลายอย่างมาด้วยความเก่ง และปัญญา และฉันขอสัญญากับเธอในอนาคตว่า ฉันจะพัฒนาตัวเอง ให้ดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ชั้นจะทำทุกอย่าง ที่เธอหวังตั้งใจไว้ ให้สำเร็จให้ได้!!" พูดเลย พูดบ่อย ๆ ค่ะ

อย่าลืม เวลายามเสียใจ ยามทุกข์ยาก ยามล้ม ยามเจ็บป่วย ใครเช็ดน้ำตา ใครดูแลเราคะ?? เพราะฉะนั้นบนโลกนี้ คนที่คุณควรรัก เคารพ และศรัทธาให้มากที่สุด คือ "ตัวคุณเองค่ะ!!
#ฝากไว้ให้คิด"

‘มดดำ’ เอ่ยปากชี้นิ้วไล่ ‘น็อต วรฤทธิ์’ ให้ไปยืนไกลๆ หลังทั้งคู่ถกประเด็นร้อน ปมการจัดตั้งรัฐบาลใส่กัน

(15 ส.ค.66) ก่อนหน้าเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล หลัง ‘น็อต วรฤทธิ์’ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการเมือง ในรายการ แฉ พร้อมกับถกประเด็นร้อนดังกล่าว กับเพื่อนรักที่หันมาเอาดีด้านการเมืองอย่าง ‘เพชร กรุณพล’ ที่ตอนนี้เป็น สส. และรองโฆษกของพรรคก้าวไกลอีกด้วย การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ต่างกันสุดขั้ว ทำให้เกิดดรามาตามมา ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่า ไม่ได้เกลียดกัน พร้อมยอมรับความเห็นที่แตกต่าง และยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

สำหรับข่าวการจัดตั้งรัฐบาลในตอนนี้ กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ล่าสุดในรายการ แฉ เทปวันที่ 14 ส.ค. 66 ซึ่งมีพิธีกรอย่าง มดดำ คชาภา , น็อต วรฤทธิ์ , แจ็ค แฟนฉัน และ อ๊อฟ ชัยนนท์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้พูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว โดยบางช่วงบางตอนของรายการ มดดำ ได้กล่าวว่า จะจัดตั้งรัฐบาลได้ วันนี้ต้องมีลุงอยู่ ด้าน น็อต แทรกขึ้นมาว่า อาจจะมี 1 หรือ 2 ได้ยินดังนั้น มดดำ จึงบอกต่อว่า ต้องมี สมการใหม่ต้องมี

น็อต : จะบอกว่า สมการใหม่มี แต่ลุงอีกลุงเขายังไม่ตกปากรับคำไม่ใช่เหรอ อ้าว พอไม่มี ก็จะให้มี ยัดเยียดอะ
มดดำ : ตูก็ไม่ได้อยากให้มีค่ะ แต่เขาบอกว่าจะต้องมีค่ะ ถ้าไม่มีมันจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ สว.ไม่ยกให้ค่ะ อีน็อต!
น็อต : เดี๋ยวดูก่อน สว. เขาไปคุยกันก่อน
มดดำ : เอาอย่างนี้ น็อตไปอยู่นู่น (พร้อมกับชี้นิ้วไล่)

งานนี้ทำเอาพิธีกรร่วมทั้ง อ๊อฟ ชัยนนท์ และ แจ็ค แฟนฉัน ถึงกับหัวเราะลั่น โดย แจ็ค ยังได้เอ่ยปากแซวทั้งคู่อีกด้วยว่า เริ่มแล้วๆ

‘ใบเฟิร์น’ หลุดปากเรียก ‘นาย’ ว่า “ที่รัก” กลางไลฟ์ คนโสดกรี๊ด!! อยากลงไปดิ้นให้รู้แล้วรู้รอด

(15 ส.ค.66) ต้องบอกเลยว่าเป็นทริป One Day ที่มีความหวานเกินต้านมากสำหรับคู่ของ ‘นาย ณภัทร’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ บอกเลยว่าหวานจนมดแทบขึ้น และนอกจากนี้ยังมีช็อตที่ทำเอาเป็นแฟนหลายคนถึงกับใจละลาย

ขณะไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แล้วไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนๆ และก็มีจังหวะที่ ‘ใบเฟิร์น’ หลุดปากเรียก ‘นาย’ ว่า “ที่รัก” บอกเลยว่าทำเอาแฟนคลับที่กำลังนั่งดูไลฟ์สดอยู่ถึงกับฟินเกินไปตามๆกันจ้า

‘นุ่น วรนุช’ ระเบิดความเซ็กซี่ เล่นกล้องถ่ายรูปแบบยั่วๆ สวมบราตัวจิ๋วโชว์กล้ามท้อง ทำแฟนคลับใจกระเจิงกันหมด

(15 ส.ค.66) เรียกว่าทำเอาแฟนๆ ใจกระเจิงกันเลยทีเดียว เมื่อล่าสุดนางเอกดัง ‘นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี’ ออกมาโพสต์โมเมนต์น่ารักๆ ปนความเซ็กซี่ขยี้ใจแต่เช้ารับวันใหม่ ด้วยการอวดความแซ่บท่อนบนสวมชุดชั้นในแบรนด์ดัง ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้น เล่นกล้องถ่ายรูปแบบยั่วๆ อื้อหือ! ทำเอาชาวเน็ตร้องว้าวบอกใจไปหมดแล้ว บ้างก็ส่งอิโมจิรูปไฟลุกมาให้

‘แอ้ม ชลธิชา’ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุ รถพุ่งชนศาลาข้างทาง หลังคุณแม่มีอาการหลับใน

(15 ส.ค.66) เรียกได้ว่าหลายคนคงคุ้นชื่ออยู่บ้าง สำหรับ ‘ชลธิชา ไชยมณี’ หรือชื่อในวงการคือ ‘แอ้ม ชลธิชา’ เป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงชาวไทยสังกัดแกรมมี่โกลด์ เธอเป็นที่รู้จักจากผู้ชนะเลิศ 21 สมัยจากรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ดวลเพลงชิงทุน ทางช่องวัน 31 และมีผลงานเพลงหลังจากการประกวดในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ในชื่อ คำสัญญาที่ชานุมา

ก่อนอื่นต้องขอส่งกำลังใจให้ ‘แอ้ม ชลธิชา’ นักร้องลูกทุ่งดัง เเละครอบครัว หลังประสบอุบัติเหตุ รถพุ่งชนศาลาข้างทาง โดยงานนี้เพจดังได้โพสต์ระบุข้อความว่า “เมื่อสักครู่ คนลูกทุ่ง ได้รับรายงานจากสายข่าวเกี่ยวกับ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ที่มุกดาหาร โดยรถของ 'แอ้ม ชลธิชา' ที่เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ โดยแม่เป็นคนขับ และน้องแอ้ม นอนหลับที่เบาะข้างคนขับ ได้เสียหลักพุ่งชนศาลาข้างทาง จนรถและศาลาเสียหาย

ในขณะนี้ 'แอ้ม ชลธิชา' ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลับอยู่ในรถ ส่วนสาเหตุ คุณแม่ของแอ้ม หลับในทำให้รถพุ่งชนข้างทาง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประกัน ล่าสุด 'แอ้ม ชลธิชา' มีอาการระบมตามตัว จากแรงกระแทก กำลังเดินทางไปโรงพยาบาล” ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาส่งกำลังใจเเสดงความเป็นห่วงอย่างมากมาย

‘แน็ก ชาลี’ ตามประกบ ‘เก๋ไก๋’ ซ้อมร้องเพลงไม่ห่าง!! โชว์ลูกคอร้องเพลงคู่แฟนสาวเบาๆ หวังช่วยติวอีกแรง

(15 ส.ค.66) หลังจากเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ของวงการไปได้ไม่นานสำหรับหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี’ ที่ประกาศชัดว่า ไม่โสดแล้ว พร้อมกับการเปิดตัวคบหากับสาว ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ หรือ ‘ณัฐธิชา นามวงษ์’ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ทั้งคู่ก็มีโมเมนต์สวีตกันอยู่ตลอด และทำเอาแฟนๆ ฟินกันเป็นแถว

ล่าสุด ‘เก๋ไก๋’ โพสต์คลิปในติ๊กต็อก เป็นคลิปที่ทั้งคู่ร้องคาราโอเกะ เพลงสิ่งสำคัญ พร้อมเขียนแคปชันสั้นๆ ว่า "ฉันพูดได้เพียง…" โดยในคลิปจะเห็นว่าหนุ่มแน็กคอยซัพพอร์ต และบอกให้เก๋ไก๋มั่นใจ พร้อมส่งสายตา ส่งพลังให้ตลอดเวลาเลยทีเดียว

‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ ช้ำใจ หลังแม่อ้างชื่อทักไปยืมเงินคนอื่นอีกแล้ว ทั้งที่ให้ใช้เดือนละ 3 หมื่น ทนมา 4 ปี ลั่นตรงนี้!! ขอไม่รับผิดชอบ

(15 ส.ค.66) เคยตกเป็นข่าวดัง เมื่อเดือนเม.ย. ในปี 65 เหตุ ‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ หรือ ‘ดาราภัช ทวินันท์’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่าจะไม่ขอใช้หนี้แทนแม่อีกต่อไป ยอมให้คนด่าว่าเป็นลูกอกตัญญู เหตุ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องตามใช้หนี้แทนแม่หลักล้าน ก่อนเรื่องจะเงียบเพราะธัญญ่ากับแม่สามารถเคลียร์ใจกันได้

แต่ดูเหมือนล่าสุด ‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ เจอเรื่องลำบากใจอีกแล้ว หลังจากที่คุณแม่ได้ทักไปยืมเงินอีกแล้ว โดยคราวนี้เจ้าตัวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าจะไม่ขอรับผิดชอบทุกกรณี เพราะที่ผ่านมาตนให้เงินเดือนแม่ เดือนละ 3 หมื่นทุกเดือน

“มันคงต้องเกิดขึ้นอีกครั้งจริงๆ ขอโทษผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือทุกท่าน ที่แม่หนูทักไปยืมเงิน ก่อนอื่นต้องบอกตรงนี้นะคะ ว่าหนูไม่ได้เดือดร้อนอะไร หากแม่ทักไปบอกว่าหนูไม่มีเงิน ขอยืมเงินใคร และใครให้ยืม หนูขอไม่รับผิดชอบนะคะ และหนูได้ให้เงินเดือนแม่ เดือนละ 3 หมื่นทุกเดือน ทำหน้าที่ลูกอย่างดีมาตลอด ไม่เคยขาดตกบกพร่อง เลือกที่จะทำแบบนี้อีกครั้ง ขอโทษทุกคนอีกครั้งนะคะ #จะพยายามรักตัวเองและเดินหน้าต่อให้ไหวเหมือนทุกครั้งตลอด4ปีที่เกิดขึ้นมาตลอด”

‘แม่น้อย’ ขอโทษลูกสาว ทำร้านส้มตำขาดทุน 2 ล้าน ด้าน ‘หญิง รฐา’ เข้าใจ ขอแค่แม่ให้มีความสุขก็พอ

‘หญิง รฐา’ ควงสามี ‘ตุลย์ ตุลยเทพ’ พร้อมคุณแม่สุดที่รัก ‘น้อย โพธิ์งาม’ มาเปิดชีวิตครอบครัวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มี ‘พีเค ปิยะวัฒน์’ และ ‘บูม สุภาพร’ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

>>ออกรายการพร้อมกัน 3 คนครั้งแรก?
หญิง : ใช่ไม่เคยออกรายการมีพี่ตุลย์ แม่ หญิง เลย

>>แต่งมา 2 ปี เรือนหอเสร็จแล้ว?
หญิง : ยังไม่ 100%
ตุลย์ : ยังไม่ได้ตกแต่ง

>>สาเหตุที่ไม่ย้ายไปอยู่เรือนหอ เพราะยังไม่เสร็จหรือติดแม่?
หญิง : รวมๆ แต่ก่อนบ้านพี่ตุลย์จะอยู่กับคุณพ่อ พี่สาว พอคุณพ่อเสีย พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เราไม่อยากให้พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เลยให้พี่ตุลย์กลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วย ส่วนคุณแม่ เราอยู่ติดบ้าน เป็นคนชอบอยู่บ้านตัวเอง ก็เลยเป็นลักษณะ 3 วันอยู่บ้านพี่ตุลย์ อีก 4 วันมาอยู่บ้าน แต่ก็มีซื้อคอนโดเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ตกแต่ง

>>ลูกสาวติดคุณแม่ ได้ยินแบบนี้อิ่มเอิบไหม?
แม่น้อย : ไม่ต้องได้ยินหรอก การกระทำมันห่างแม่ไม่ได้ ยังบอกเธอมีสามีแล้วนะ เธอยังให้ฉันเกาหลังอยู่ เขาเกาไม่เหมือนแม่เกา เอ้า...จะมีผัวทำไม มันก็มาอ้อนเรื่อยๆ

>>ตกลงลูกสาวติดแม่ หรือแม่ติดลูกสาว?
แม่น้อย : ก็ทั้งคู่ เหมือนกันเลย แม่ก็ไม่มีใคร มีหญิงคนเดียว แล้วมามีลูกชายนี่แหละ จะไม่ให้รักมากได้ยังไง
หญิง : มีหญิงคนเดียว หญิงไม่ใช่ลูกนะ แล้วมีลูกชาย

>>เห็นว่าคนรักลูกชายคนนี้ แม่เคยหนีพี่ตุลย์มาก่อน?
แม่น้อย : ไม่ใช่หนีพี่ตุลย์ คือมันมีเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่ คือเราจะรู้ไหมว่าลูกเราไปคบกับใคร ก็มันไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้ เราก็เลยงอนลูก ขับรถหนีลูกไปเลย รู้ว่าพี่ตุลย์จะมาขับรถหนีลูกไปเลย ไม่รู้ฉันยังไม่พอใจ เพราะข่าวออกมาอย่างนั้น แล้วลูกเรา เราก็คิดมาก พอตุลย์มาพูดเท่านั้นสยบทุกอย่างเลย

>>แม่น้อยหวงลูกสาว ตอนนั้นรู้อยู่แล้วไหม?
ตุลย์ : รู้ครับ แต่ไม่ได้กังวลอะไรมาก ถ้าเรามีความตั้งใจดี การกระทำดี ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอะไร เราไม่ได้เข้ามาเพื่อมาหลอกลูกสาวเขา คุยกับหญิงเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้พิชิตใจคุณแม่ได้ แค่เราเป็นตัวของเราเอง แล้วทำอย่างที่เราทำให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราคบกันจริง เราตั้งใจจริง แล้วเราไม่ได้ทำให้หญิงเสียใจ สักวันคุณแม่จะเข้าใจ

>>คุณแม่สตาร์ตรถไปกี่ครั้งกว่าจะได้เจอ?
ตุลย์ : ไม่ได้นับครับ
แม่น้อย : เขาไม่เห็น
หญิง : พาร์ตนี้พี่ตุลย์จะไม่รู้เลยว่าแม่ไม่อยู่บ้าน แม่ไม่อยู่เป็นระยะเวลานานเหมือนกันนะ
แม่น้อย : จนกระทั่งเรื่องมันเงียบ

หญิง : เหมือนเขาจะขับมารับ มาส่ง ไปกินข้าว ดูหนัง แต่ว่าเขาจะไม่เคยเจอแม่เลย เขาส่งเขาจะอยู่แต่ชั้นล่าง
แม่น้อย : แล้วข่าวมันแรงไง เขาบอกว่าหญิงไปทำให้เขาแตกกัน แม่ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใคร แล้วทำให้เขาแตกกัน ฉันก็ใส่ลูกเลย แกทำอะไรเนี่ย แกทำแบบนี้เพื่ออะไร แกคิดดีแล้วเหรอ แกทำงานมาตลอดชีวิต หญิงก็บอกว่า พ่อก็มีลูกมาก่อน แต่ฉันก็ย้อนไปว่า แม่คิดได้ตอนพ่อมีลูกเขา 7 ขวบแล้ว เขาเลิกกันมาแล้วมาเจอแม่ พอเขาพูดมาแม่สะอึก เฮ้ย..ดวงลูกจะเหมือนเราหรือเปล่า
หญิง : เขากลัว คือต้องยอมรับว่าแม่มีปมในใจเรื่องนี้ว่าแบบ ตัวเขาเองคุณพ่อเคยมีครอบครัวมาก่อน แล้วคุณแม่เข้ามา

แม่น้อย : ทีแรกเราไม่รู้
หญิง : สุดท้ายคุณแม่เป็นคนที่สองแต่ได้แต่งงาน คราวนี้เขาเลยกลัวว่าชีวิตเราจะเหมือนเขา เขาเลยมาถามเราว่า เขาเลิกกันจริงๆ แล้วใช่ไหม เรารู้อะไรบ้าง เรายังไง หญิงบอกหญิงตอบแม่ไม่ได้หรอก คนที่ตอบได้คือพี่ตุลย์

>>หญิงนัดตุลย์มาหาแม่เลย?
หญิง : ใช่ ตอนนั้นค่ำๆ แล้วแม่ก็ไล่หญิงขึ้นบ้านไปเลย แม่ขอคุยกับตุลย์
แม่น้อย : แม่นั่งเฉย ๆ พูดคำแรกเลย ตุลย์จำได้หมด ตุลย์รู้ไหมแม่มีลูกสาวคนเดียว แล้วตั้งแต่เล็กจนโตหญิงทำงานอย่างเดียวเลย แล้วหญิงไม่เคยมีประวัติอะไรเลย แม่พูดไปตั้งยาว เขาไม่พูดอะไรสักคำ พอแม่หยุด ตุลย์บอกว่า ครับ ผมจะไม่ทำให้แม่กับน้องเสียใจ ผมจะดูแลแม่และน้องไปตลอด แค่นี้เองแล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรเลย

>>ความกังวล ความโกรธ ความเครียด?
แม่น้อย : ไม่มี หายหมดเลย
หญิง : แม่ก็เคลียร์ด้วยแหละว่าเลิกกันไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แล้วพี่ตุลย์ก็ยืนยัน
แม่น้อย : เราถามเขาด้วยว่ามันเป็นยังไง เขาบอกว่าผมอยู่มา 2 ปีแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันเลย

>>ตอนนั้นเราตอบประโยคสั้น ๆ แล้วทุกอย่างจบเลย ทำไมถึงตอบแบบนั้น?
ตุลย์ : จริง ๆ เป็นคนที่ไม่ได้พูดเก่ง ไม่ได้พูดเยอะด้วย ก็เลยคิดว่าพูดแค่สิ่งที่เรามั่นใจดีกว่า บอกคุณแม่ว่าผมอาจจะรักหญิงไม่เท่าที่คุณแม่รัก อาจจะไม่ถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้หญิงกับคุณแม่เสียใจ

หญิง : หลัก ๆ คุณแม่แค่อยากรู้ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริง ๆ หรือเปล่า พอเขาเคลียร์ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริง ๆ แยกกันอยู่คืออยู่คนละบ้าน เขาก็สบายใจแล้ว เขาต้องการความมั่นใจ
แม่น้อย : การที่แม่พูดบ่อย ๆ ว่าใครก็ได้ ไม่ต้องเป็นอะไรมา ชั้นฟ้า แผ่นดินไหนก็แล้วแต่ให้รักลูกฉันครึ่งนึงของฉันก็พอ แต่นี่มันเกินครึ่งนึงของฉัน

>>ลูกเขยคนนี้เหมือนกับหนึ่งของขวัญพอเศษที่เบื้องบนส่งมาเลยไหม?
แม่น้อย : แม่ยอมรับตรงนั้น มันมีอะไรที่มาเติมเต็มบ้านเรา บ้านเราไม่มีผู้ชาย

>>แล้วจุดไหนที่แม่เริ่มรักลูกเขยมากกว่าลูกสาว?
แม่น้อย : ฉันทำอะไรเขารับประทานหมดเลยทุกอย่าง ส่วนหญิง คำ สองคำ แล้วมันวางบอกว่าอร่อยแค่นั้นเอง แล้วคนที่กินหมดมันน่าชื่นใจไหม เราต้องคอยดูเลยว่าวันไหนลูกเขยจะมาบ้าน วันไหนจะคอยถาม ตุลย์ทำอย่างนี้คงที่ตลอด พอวันศุกร์เขาจะมาบ้าน ฉันจะเอาหมาของเขาไปอาบน้ำ คอยตุลย์มา แล้วเจ้าหมาก็รักพ่อ รักแม่มัน เราก็ทำให้สะอาด ตู้ปลา บ้านช่อง ที่นอน เราก็ทำให้สะอาดหมดเลย ลูกชายกับลูกสาวมานอนจะต้องหอม ห้องน้ำฉันไปล้างเองนะ

>>แม่น้อยทราบเมื่อไหร่ว่าตุลย์เขาไม่สามารถแกะเม็ดเงาะเองได้?
แม่น้อย : แม่เกตุเขาเม้าธ์มา แม่เขารักเขานะ เนี่ยเลี้ยงมาขนาดไหน มันไม่กินนะผลไม้ ไม่เลาะเม็ดให้มัน มันไม่กิน ฉันก็ไปซื้อมีดที่คว้านมา บาดมือทำไม่เป็นเลยได้มา 4-5 ชิ้น นางก็กินหมด ลูกฉันเนี่ยลองกองอย่างเดียว

>>พี่ตุลย์ แม่ทำให้ขนาดนี้ หลงเราขนาดนี้?
ตุลย์ : ก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ขอบคุณแม่น้อยครับ ทำมาตลอด ผลไม้ไม่ใช่จานเล็กๆ คือเป็นถาด ใส่เหมือนของโรงแรมมา เราก็เกรงใจ
แม่น้อย : เขาทานหมด
ตุลย์ : ถ้าทานไม่หมดเดี๋ยวคุณแม่เสียน้ำใจ

>>แม่น้อยบ่นเราเรื่องแม่ศรีเรือน?
หญิง : ด้วยความที่หญิงอยู่กับแม่มาตลอด เวลาอยู่บ้านตัวเองแทบจะไม่ต้องทำอะไร เหมือนมีคนทำให้ตลอด เขาจะรู้สึกว่า เราทำอะไรไม่เป็นเลย ถ้าเราไปเมืองนอก ไปต่างจังหวัดกับพี่ตุลย์แล้วเราทำอาหารให้เขากินเป็นไหม แต่เขาไม่เคยมาเห็นหญิงไงว่าหญิงทำอาหารเช้าให้พี่ตุลย์กินนะ ตื่นมาหญิงปูเตียง หญิงเก็บเตียงนะ เขาไม่รู้

แม่น้อย : ฉันจะไม่รู้ได้ไง อยู่บ้านเธอลงมาถามคุณแม่อยู่ไหน แล้วก็ขึ้นไป พอมันออกไปใครปูที่นอน นี่ๆ ปูเตียง เช้ามาตุลย์มาชงกาแฟ แล้วน้องหญิงไปไหน น้องหญิงเข้าห้องน้ำครับ ยังไม่เสร็จ เขามาเอากาแฟขึ้นไปให้

หญิง : เราสลับกัน

>>หญิงบอกทำอาหารเช้าให้ตุลย์ แต่แม่บอกตุลย์ทำอาหารเช้าให้หญิง?
ตุลย์ : ถ้าอยู่ที่บ้านคุณแม่ หญิงไม่ต้องทำ เพราะมีคนทำให้ แต่ถ้าไปเที่ยวกันเมืองนอก บางวันเขาตื่นมาทำอาหารเช้า ทอดไข่ ทำเบค่อน

หญิง : นั่นเป็นเรื่องนึง แต่อีกเรื่องที่แม่ชอบบ่น หญิงเป็นคนที่เพื่อนกะเทยเยอะ แล้วมันกลายเป็นว่าสำเนียงหรือวิธีการพูดกับสามี มันจะไม่หวาน เราเหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ตั้งแต่คบ ตั้งแต่จีบกันมันไม้ได้มีโมเมนต์สวีตมากเหมือนคนรู้จักกันอยู่แล้ว หญิงดูเป็นผู้ชายมากกว่าพี่ตุลย์อีก แบบพี่ตุลย์เดี๋ยวขึ้นข้างบนแล้วนะ แม่ก็จะแบบว่าทำไมพูดจาแบบนี้กับพี่เขา คะ ขา มันหายไปไหนหมด หญิงก็แบบหญิงต้องพูดคะด้วยเหรอวะ แบบพี่ตุลย์คะ มันก็เขิน

แม่น้อย : เขาก็เปลี่ยนเบาลงแล้ว

>>แม่น้อยรู้สึกกลัวพี่ตุลย์อายว่าแม่ขายส้มตำ?
แม่น้อย : เขาทำงานบริษัทใหญ่ ๆ เขาทำของเขา เราไม่รู้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ เขาปูพื้นมาคบค้าสมาคมกันยังไง แล้วพอได้แม่ยาย แม่ยายตำส้มตำ แล้วดิฉันติดดิน ฉันเคยถามเขา ว่าแม่ไปตำส้มตำ ตุลย์ว่าอะไรไหม ตามสบายเลยครับ แม่ทำที่แม่สบายใจ แม่ทำเลยครับ คำนี้เท่านั้นเองฉันจบเลย ได้ใจฉัน มึงไม่มีลูกไม่เป็นไร ฉันตำส้มตำไป แต่ถ้าให้ฉันหยุดก็มีหลานให้ฉัน

>>ถ้าสองคนนี้มีลูกแม่น้อยเลิก เลี้ยงหลานอย่างเดียว?
แม่น้อย : จ๊ะ

>>แต่ถ้าไม่มีลูกตำไปตลอดชีวิต?
แม่น้อย : จนกระทั่งฉันถือไม่ไหว

หญิง : อีก 2 ปีก็ถือไม่ไหวแล้ว

แม่น้อย : ฉันเพิ่ง 68 เอง

>>ใจพี่หญิงจริงๆ อยากให้คุณแม่เลิกตำส้มตำ?
แม่น้อย : อย่าถามมัน
หญิง : คำว่าเลิกตำส้มตำ มันไม่ใช่อยู่ดี ๆ แค่ยืนตำอย่างเดียว มันต้องดู ซื้อของ คุยกับคน ถือของ เตรียมของ มันมีดีเทลเยอะ สั่งของต้องสั่งแต่เช้าตรู่ เราเห็นเขาทำก็รู้สึกว่าเขาเหนื่อย

>>ก็อีกออปชั่นถ้าอยากให้แม่หยุด ต้องมีหลาน?
หญิง : อายุมากแล้ว อย่ามีเลย
แม่น้อย : ข้ออ้างเธอเปล่า

>>จากการทำร้านส้มตำ มีเรื่องนึงที่แม่น้อยไม่บอกหญิง เพราะกลัวหญิงจะไปปิดร้านส้มตำ?
แม่น้อย : แม่ทำร้านขาดทุน 2 ล้าน (น้ำตาไหล)

หญิง : รู้อยู่แล้ว รู้มาตลอด

แม่น้อย : วันที่โควิด ขอโทษนะ มันไม่มีหนี้สินแล้ว โควิดมา เขาควักเงิน 5 แสนไปจ่ายตรงนั้น (ร้องไห้) มันจบแล้วไง แต่ทีนี้พอเปิดมามันก็ไม่ได้อย่างนั้น มีขาดทุนบ้าง แต่ไม่อยากให้ลูกรู้ ยิ่งพอมาแต่งงานกับตุลย์แม่เตรียมทุกอย่างเลย ไม่อยากให้ใครรู้ แม่รีบหาเงิน ขยันมาก ตอนนั้นยังไม่ได้ออกบูทด้วยนะ วันนึงจะขายได้เท่าไหร่ คิดทุกอย่าง ผลสุดท้ายมันก็ไม่หลุด จนคนนี้ต้องไปเคลียร์อย่างเดิม แม่เจ็บใจตรงนี้แหละ

หญิง : แต่ก็ห้ามไม่ได้ ยังทำอยู่

แม่น้อย : เขาให้เลิกหลายครั้งแล้ว แต่แม่ไม่เลิก

หญิง : คือมันไม่ใช่หรอก คือเรารู้อยู่แล้ว ต้นทุนที่ทำร้านก็เป็นเรา ทุกวีกต้องเบิกเราเพื่อไปซื้อของเข้าร้าน สุดท้ายพอขายของไป มันต้องไปจ่ายค่าเด็ก ค่าเช่าที่ มันไม่ได้อะไร แต่ทุกวันนี้ที่หญิงให้เขาทำ เพราะหญิงรู้สึกว่ามันคือความสุขเขา เรามีกำลังไปซัปพอร์ตเขา ณ วันนี้ก็ซัปพอร์ตเขาไป หญิงถึงบอกว่า อีก 2 ปีคงหยุดแล้วแหละ

>>เงินที่หายไปเราไม่ติดตรงนี้อยู่แล้ว?
หญิง : หนูไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว คือทุกวันนี้สิ่งที่เขาทำมันคือการหมุนนะ ถามว่ากำไร คือเวลาลงทุนต้องได้กำไร แต่หญิงเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้กำไรมาทั้งชีวิตเลย แต่กำไรหญิงมันเป็นกำไรจากทางอื่นมากกว่า หญิงยังมีงานทำ หญิงรู้สึกว่านี่คือกำไรในชีวิตของหญิงแล้วแหละ แต่ในส่วนของเขา เขาทำแล้วมีความสุข เขาได้ตำ คนบอกของเขาอร่อย มันเป็นความสุขของเขา หญิงรู้สึกว่าเขาคงสนุกของเขาในแบบนั้น แล้วมันไม่ใช่ก้อนที่มันมหาศาลหรืออะไรก็ยังให้เขาหมุนไปเรื่อย ๆ ที่เขาทำ

>>ข้อตกลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องแม่กับร้านส้มตำ อยากได้ยังไง?
หญิง : เอาจริง ๆ หญิงทำใจแล้ว เอาจนเขาเริ่มเหนื่อยแล้วเขาหยุดเอง จะไม่บ่นแล้ว

น้อย : (จูบแก้มลูก)
หญิง : บ่นไปก็เท่านั้น (หัวเราะ)

>>พี่หญิงเคยปรึกษาไหม เรื่องแม่ลูกทะเลาะกัน?
ตุลย์ : มีตลอดเลยครับ ส่วนมากจะเป็นเรื่องงอนกัน

หญิง : ถ้าแม่งอนก็จะฟีลตึง ๆ สมัยก่อนเราจะซื้อของที่เขาชอบมาให้กิน เขาก็จะไม่กินบ้าง ทิ้งไว้ในตู้เย็นบ้าง พอเรามีพี่ตุลย์เรารู้แล้วว่าเขาจะยอมคนนี้ เขาไม่ยอมเรา เราก็จะสะกิดลงไปดูให้หน่อยดิ

ตุลย์ : สมมติอยู่ข้างบน คุณแม่อยู่ข้างล่าง คุณแม่งอน ก็แบบพี่ตุลย์ลงไปดูให้หน่อย แม่หายยัง พอลงไป คุณแม่ครับทานหรือยังครับ เออ ทานแล้วล่ะ เดินขึ้นมา ยังตึง ๆ อยู่

>>อยากได้ลูกไหม?
ตุลย์ : ไม่ ทั้งคู่นะครับเคยคุยกันแล้วว่าไม่อยากมี คือเป็นห่วงเขาด้วย ถ้าเรามีเขาแล้ว เราเลี้ยงเขาด้านนึง แต่อีกด้านเขาต้องออกไปเจอข้างนอก ซึ่งเอาจริง ๆ ทุกวันนี้มันก็ไม่น่าเจอเท่าไหร่ ก็จะสงสารเขามากกว่า

แม่น้อย : แต่สมัยนี้ แม่เริ่มปล่อยวางแล้ว เราควบคุมเขาไม่ได้ ต่อให้พ่อแม่ดีขนาดไหน ถ้าเด็กมันเป็นไปดึงไม่อยู่เหมือนกัน

หญิง : หญิงรู้สึกว่าการจะมีก็แล้วแต่บุญ แล้วแต่กรรม แล้วแต่วาสนาเลย ถ้ามีต้องมีธรรมชาติเท่านั้น นั่นแปลว่าเขาส่งมาให้เรามี แต่ ณ วันนี้เมื่อมันไม่เกิดและมันไม่มี แปลว่าหญิงอาจจะจบที่ชาตินี้แล้วหรือเปล่า

>>ก่อนหน้าที่จะแต่งงานพี่หญิงทำทุกอย่างเพื่อแม่น้อย ปลดหนี้ทุกคนก็ทราบดีว่าเป็น 10 ล้าน?
แม่น้อย : ทุกคนพูดว่าคุณรู้ตัวไหม คุณได้ลูกสุดประเสริฐจริง ๆ ก็บอกว่าขอบใจมากที่ให้เกียรติกับน้อย แต่จริง ๆ น้อยจะบอกตามตรง น้อยโคตรโชคดี ถูกรางวัลไม่รู้กี่พันล้านได้ลูกคนนี้มา

>>ใจลึก ๆ แม่รู้สึกผิดมาก?
แม่น้อย : รู้สึกผิดมาก ทำแต่เรื่องให้ลูกตลอด เดี๋ยวใช้หนี้ให้ จะทำยังไงให้ลูกเรามีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นแม่ถึงบอกว่าใครก็ได้ที่รักได้ครึ่งของฉันเอาไปเลย

>>แม่อยากจะบอกอะไรลูก?
แม่น้อย : ทำให้แม่แค่นี้พอแล้ว (เสียงสั่นเครือ) ต่อไปลูกก็ตักตวงความสุขให้มาก ๆ ไม่มีแม่ก็ไม่ว่า แต่ที่แม่พูดไปคืออย่าห้ามแม่ทำส้มตำ แม่ก็จะไม่ขัดขืนอะไรทั้งสิ้น แม่หมดแรง แม่ก็หยุดเอง เพราะเราไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ลูกดูแลแม่อย่างดีที่สุด แม่ขอบคุณตุลย์ด้วย ไม่ต้องมาทำอะไรให้แม่มากแล้ว ดูแลซึ่งกันและกัน ลูกเป็นแบบนี้ตลอดไป แม่ชื่นใจที่สุดแล้ว แม่รักลูก ไม่ได้รักพี่ตุลย์คนเดียว ไม่ต้องน้อยใจ ขอบคุณแม่เกตุมาก ๆ ที่เรามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงน้อยจะไม่สบายเหมือนแม่เกตุ แต่ก็ทุกสิ่ง ทุกอย่าง น้อยได้สิ่งที่ดีมา ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้เกียรติกับครอบครัวของน้อย

หญิง : หญิงเห็นแม่เป็นคนแบบเต็มที่กับทุกอย่าง แต่เหมือนเขาทำอะไรมันไม่เป็นหรือเทียบเท่ากับแรงที่เขาลงไป อยากให้เขาได้เจอความสำเร็จในเรื่องที่รัก เรื่องส้มตำ เรื่องร้าน ถ้าหญิงมีกำลัง มีแรง (ร้องไห้) หญิงก็จะพยายามช่วยเขาให้มากกว่านี้ หญิงก็รู้ในใจลึก ๆ เรามีความต่อต้านในสิ่งที่เขาทำ อยากให้เขาพักแล้ว แต่ว่าเราก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เขายังเชื่อมั่นในตัวเอง มันเป็นความเชื่อมั่นของเรา เราไม่อยากไปทำลายหรอก อยากให้เขาทำให้เต็มที่ไปเลย และหลัก ๆ ให้ดูแลสุขภาพ เพราะช่วงหลังเห็นเขาทำงานหนัก มันจะมีเรื่องแบบเจ็บขา แล้วชอบใส่ถุงเท้าเดินในบ้าน มันลื่น หญิงก็บอก อะไรที่เราเตือนอยากให้ฟังบ้าง เขาก็แบบทุกวันนี้ใส่ถุงเท้านั่งเล่นในบ้าน เข้าห้องน้ำมันลื่น เขาเผลอล้มหลายที

แม่น้อย : แม่บอกเด็กไม่ต้องบอกน้องหญิง แม่แข็งแรงไม่ได้เป็นอะไรมากมาย มันรักแม่ที่สุด หญิงคือชีวิตแม่ อยู่เพื่อลูกจริง ๆ

หญิง : ดูแลสุขภาพ อยู่กันไปนาน ๆ

แม่น้อย : ลูกก็เหมือนกัน ให้รักกันตลอดชีวิตนะ รักกันให้มากๆ แม่ฝากลูกแม่ไว้ด้วย

>>ล่าสุดแม่มีฝ้าในปอด?
แม่น้อย : มันมีจุดเล็กๆ จะเป็นวัณโรคเหรอ มันก็มี เอ้า...น้อยไม่สูบบุหรี่ น้อยไม่กินเหล้า คุณน้อยเล่นตลกมากี่ปีแล้ว สมัยก่อนมันจะสะสม คนที่อยู่ใกล้ควันบุหรี่

>>หมอบอกการรักษาไหม?
หญิง : หลัก ๆ ก็คือเลี่ยงทุกอย่างที่แพ้ พวกไรฝุ่น ที่นอนเขาต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ มีช่วงปีแรก ๆ ห้ามไปที่ชื้น ที่เป็นหนักไอหนักก็ไม่ได้ไปต่างประเทศ จนหลังโควิดพาไปญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้น แล้วเขาก็เริ่มไม่ค่อยไอ

>>ขนหมาแพ้ไหม?
แม่น้อย : ขนหมาก็แพ้

หญิง : ไม่แพ้

แม่น้อย : มันรักแม่ มันเลยเอาหมาไปอยู่ข้างนอก

หญิง : กลางวันอยู่ข้างนอก แต่กลางคืนให้นอนในห้อง แล้วมีห้องที่อยู่ในบ้านให้เขานอน เป็นห้องที่มีกระจก มีหน้าต่าง เปิดพัดลมให้เขา ต้องแยกส่วนกับห้องแม่ ต้องมีกระจกกั้นอีกที

‘ปาล์มมี่’ เอ็นดู!! ‘แฟนคลับตัวน้อย’ ให้ทิปเพราะสวย ลั่นกลางงาน!! “ทำยังไงดี ถ้ามี่รับ มี่ก็เสียผู้ใหญ่”

(15 ส.ค.66) เป็นนักร้องตัวตึงของจริง ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนมีเรื่องให้ได้เม้าธ์มอยสนุกสนานตลอด ล่าสุด ‘ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ’ ไปเล่นคอนเสิร์ตที่โคราช ก็มีแฟนคลับตัวน้อยยื่นเงินให้หน้าเวที ทำเอาพี่มี่ถึงกับงง ว่าต้องทำอย่างไร โดยติ๊กต๊อกรายหนึ่งได้โพสต์คลิปสุดประทับใจ ที่ปาล์มมี่การเผยกลางงานว่า 

“ถ้ามี่รับมี่ก็เสียผู้ใหญ่ ทำยังไงดีกับจุดนี้ อันนี้ให้ด้วยเหตุผลอะไรเหรอคะ” ก่อนอุ้มแฟนคลับมาถามบนเวที ว่ายื่นเงินให้น้ามี่ทำไมคะ แฟนคลับตัวน้อยบอกว่าให้เพราะสวย ทำเจ้าตัวอดขำไม่ได้ ต่อมาปาล์มมี่ก็รับเงินก่อนส่งเงินคืนบอกให้เอาไปกินขนม แต่หนูน้อยส่ายหน้าปฏิเสธ งานนี้ปาล์มมี่ก็เลยมอบตุ๊กตาตัวใหญ่ให้แทน ทำเอาคนในงานต่างพากันเอ็นดูทั้งคู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top