Wednesday, 14 May 2025
NEWSFEED

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ประกาศยุติความสัมพันธ์ ‘ ท็อป Lazyloxy’ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยบอก ‘เข้ากันได้ดี’ แต่ตอนนี้บอก ‘เราต่างกันมาก’

เลิกกันแล้วอีกหนึ่งคู่สำหรับนักร้องสาว เบียร์ เดอะวอยซ์ และ ท็อป Lazyloxy โดยสาวเบียร์เป็นคนประกาศเองผ่านสตอรี่อินสตาแกรมว่า "เบียร์กับท็อปเรากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วนะคะ ถึงเราจะรักกันหรือพยายามกันมากแค่ไหน แต่ Lifestyle ของเราต่างกันมาก

และเราต่างมีหน้าที่และความฝันต้องไปตามหา ถึงเราจะอยู่ในฐานะแฟนไม่ได้แต่เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ค่ะ ถึงจะเสียใจมาก แต่เราต้องทำเพื่อตัวเราเองทั้งสองคน เราทั้งคู่เต็มที่แล้วจริงๆ ไม่ว่าทั้งดีและร้ายอย่างน้อยเราก็ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมทุกข์และสุขด้วยกัน และเป็นบทเรียนให้กันค่ะ @reallazylife"

หากย้อนบทสัมภาษณ์ สาวเบียร์ เคยเปิดใจเรื่องรักครั้งนี้ เธอเคยเผยถึงตัวตนของ หนุ่มท็อป และไลฟ์สไตล์ที่ตรงกันเข้ากันได้ จนตัดสินใจคบ โดยเผยในรายการ ยังไงไหนเล่า EP. 58 บอกว่า "พอได้รู้จักกันจริงๆ พบว่าเขาดีอย่างไม่น่าเชื่อ อ่อนโยนกว่าที่ทุกคนคิดมาก

เวลาเขาอยู่ด้วยกัน เขาจะดูแลเหมือนเราเป็นเด็ก รู้สึกว่าอยู่กับเขาไม่ค่อยเหนื่อย เขาดูแลเราดี ความสัมพันธ์ของเบียร์กับท็อป เริ่มจากเป็นเพื่อนกันได้ ชอบไปเที่ยวเหมือนกัน ชอบฟังเพลง ชอบร้องเพลง ไลฟ์สไตล์มันเข้ากันได้ จนมันค่อยๆ จนกระทั่งอยากเป็นแฟนก็พัฒนามาเป็นแฟนกัน"

จากบทสัมภาษณ์ ที่ผ่านมา ทำหลายคน งง!! ตอนแรกบอกเข้ากันได้ แต่ทำไมตอนเลิกบอกไลฟ์สไตล์ต่างกันมาก 

เปิดมุมมืดในอเมริกา อันตราย ต้องระวังตัวไว้  ต้องมีสติในการท่องเที่ยว และต้องดูแลตัวเองให้ดี

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า bemolibeam (เบโมลิบีม) ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีใจความว่า ...

รวมมุมมืดในอเมริกา 
1 ทุบรถคือเรื่องปกติ สามารถพบเจอเศษกระจกได้โดยทั่วไปแจ้งตำรวจก็ไม่ได้ความคืบหน้า ไม่ค่อยจะได้อะไรเท่าไหร่ ที่ท่องเที่ยว แม้จะคนเยอะแต่ก็ไม่ปลอดภัย อาจจะต้องจ้างคนเฝ้ารถไว้ตลอดเวลา เราจึงไม่ควรเลือกขับรถเที่ยวที่ซานฟรานซิสโก 
2 คนไร้บ้านคือเรื่องปกติ สามารถพบเจอคนไร้บ้านทะเลาะกับคนกวาดถนนได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะทำอะไรเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพราะบางคนอาจจะมาตื้อขอเงิน 
3 รถไฟฟ้าใต้ดินเก่าและน่ากลัวมากๆ เป็นที่เสียขวัญของเรามากที่สุด จากประสบการณ์ที่ได้เข้าเมืองมาจากสนามบิน ก็ได้พบเจอกับแก๊งคนผิวสีที่ถือวิทยุและเปิดเพลงดังๆ กำลังรีดไถเงินคนอเมริกา อยู่ 
4 ถนนไม่ค่อยสะอาด สามารถเจอเศษอาหาร คราบขนม หรือบางครั้งก็เป็นรอยของสีที่คนเอามาสาดเล่น 
5 บางครั้งย่านอันตรายก็อยู่ติดกับย่านที่ปลอดภัยแค่เพียง 1 ช่วงตึก 
6 ป้ายรถเมล์ไม่มีบอกว่าเป็นป้ายรถเมล์ มีแค่กระดาษติดไว้แค่แผ่นเดียว ถ้าไม่มองให้ดีก็จะไม่เห็น 
7 อย่าเดินคนเดียวตอนกลางคืนเพราะยิ่งดึกยิ่งไม่ปลอดภัย 
8 เจอรถตำรวจเปิดไซเรนวิ่งอยู่ตลอดเวลา สำหรับที่นี่คือเรื่องปกติเพราะอาชญากรรมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ต้องดูแลตัวเองให้ดี 
9 ตามสถานที่ท่องเที่ยวชอบมีคนมาพ่นสี เลยทำให้สถานที่สวยงามต้องเสียไปหมด 

และนี่คือตัวอย่างแต่ถ้ามีสติและดูแลตัวเองให้ดี ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมาก

เผย 5 จุดที่สกปรกที่สุด บนเครื่องบิน ของใกล้ตัว ที่เราต้องสัมผัสทุกครั้ง ที่ขึ้นเครื่อง

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า pilotdeawairbus นักบินหมอเดียว ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ บริเวณจุดที่สกปรกบนเครื่องบิน โดยมีใจความว่า ...

5 จุดที่สกปรกที่สุดบนเครื่องบิน ข้อมูลนี้ มาจาก Travelmath.com ซึ่งเขาได้ส่งนักจุลชีวะขึ้นไปส่ง ตรวจ บริเวณจุดต่างๆบนเครื่องบิน โดยไม่เปิดเผยสายการบิน ซึ่งมีหน่วยในการวัดเชื้อโรคนี้ เป็น CFUs (Colony Forming Unit)  ซึ่งก็คือดูว่า ความหนาแน่นของเชื้อโรคต่อตารางนิ้วนั้นมีเท่าไหร่ อันดับ 5 ก็คือบริเวณหัวของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งมีค่า 230 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 4 ก็คือปุ่มกดชักโครกในห้องน้ำ มีค่า CFUs ที่ 265 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 3 ช่องแอร์บริเวณเหนือศีรษะของผู้โดยสาร มีค่า CFUs ที่ 285 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 2 ปุ่มกดน้ำอัตโนมัติในสนามบิน มันอยู่นอกเครื่องบินแต่มันก็อยู่ในสนามบิน มีค่า CFUs อยู่ที่ 1,240 CFUs ต่อตารางนิ้ว และอันดับ 1 ก็คือ โต๊ะพับขาดอาหารบนเครื่องบินที่อยู่ต่อหน้าเรา โดยมีค่า CFUs ที่ 2155 CFUs ต่อตารางนิ้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะขึ้นเครื่องบินก็ขอแนะนำ ให้มีแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย จะเป็นเจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แอลกอฮอล์อะไรก็ได้ เพื่อเช็ดทำความสะอาดป้องกันเชื้อโรค  

เปิดสเปค สาวเกาหลี ดูจากรายได้ ของฝ่ายชายเป็นหลัก ขั้นต่ำต่อปี ต้องมี 1 ล้านอัพ และถือครองอสังหาริมทรัพย์ อีกต่างหาก

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า priminseoul ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ สเปคของสาวเกาหลี ในการที่จะหาคู่ครอง และแต่งงาน โดยมีใจความว่า ...

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมไม่เคยเห็นผู้หญิงเกาหลีเป็นแฟนหรือว่าแต่งงานกับผู้ชายไทยเลย.. ยังไงก่อนจะบอกสาเหตุ มาดูอัตราการแต่งงานของคนเกาหลีกับคนต่างชาติ ถ้าเป็นผู้ชายเกาหลี สัญชาติของผู้หญิงต่างชาติที่ผู้ชายเกาหลี จะแต่งงานด้วยมากที่สุด ก็คือจีน เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่นและคนอื่นตามลำดับ ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงเกาหลีจะแต่งงานกับผู้ชายสัญชาติจีน อเมริกา เวียดนาม แคนาดา อังกฤษ และอื่น ๆ ตามลำดับ

ทุกคนเห็นไหมผู้ชายเกาหลีส่วนใหญ่ จะเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่มาจากเอเชีย แต่ถ้าผู้หญิงจะเลือกแต่งงานกับคนอเมริกา ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ จากผลสำรวจปี 2020 พบว่าคู่ครองที่ผู้หญิงเกาหลีอยากได้เนี่ย ก็จะดูจากสิ่งพวกนี้เป็นหลัก แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ รายได้กับทรัพย์สินที่ผู้ชายต้องมี ขั้นต่ำต่อปีต้องเริ่มที่ 40 ถึง 60 ล้านวอน ต้องมีทรัพย์สินหรือถือครองอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ 200 ล้านวอนซึ่งถ้าผู้ชายต่างชาติหรือผู้ชายคนนั้นคนไหนที่มีคุณสมบัติตรงตามนี้ ก็ถือว่าน่าจะเป็นไปได้

แต่ก็อย่างที่รู้กัน รายได้ขั้นต่ำของประเทศเราเนี่ย แทบเทียบไม่ติดเลย หรือที่จะเป็นไปได้ก็จะเป็นพวกนักธุรกิจ ดารานักแสดง พวกนี้ เป็นไงบ้างคะ พอเห็นสเปคของสาวเกาหลีแล้วหนุ่มไทยยังสู้อยู่ไหมคะ

ดร.ไอรีน’ โพสต์คลิป เล่าชีวิต ในแดนกิมจิ เหตุใด คนรุ่นใหม่ ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก

ผู้ใช้ TikTok ที่ชื่อว่า dr.irenekorean ดร. ไอรีน สะใภ้เกาหลี ได้โพสต์คลิปสั้น เล่าถึงชีวิตของคนในเกาหลี โดยมีใจความว่า ...

รู้ไหมทำไมโอปป้าจำนวนมากถึงไม่แต่งงานและไม่มีลูก นั่นก็เพราะคนเกาหลีจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่คิดว่า เกาหลีคือนรก หรือที่เรียกว่า Hell Joseon นรกเกาหลี ซึ่งสาเหตุก็คือ 

1 ความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวย สาวๆเกาหลีได้ดูหนังเรื่อง ซึ่งถ้าสาวๆเกาหลีได้ดูหนังเรื่อง พาราไซต์ (Parasite) ซึ่งได้รับรางวัลมากมาย ในหนังออกแนวเสียดสีเรื่องความจนกับความรวยของคนในเกาหลีอย่างเช่นเรื่องบ้าน บ้านของคนจน บ้านจะอยู่ใต้ดิน เวลาน้ำท่วมน้ำก็จะไหลเข้าไปในบ้าน ซึ่งในปัจจุบันบ้านในลักษณะนี้ก็ยังมีอยู่จริงๆ ในขณะที่บ้านของคนรวยจะหรูหรามากเลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างชนชั้นของคนในเกาหลีอย่างมาก 


2 ค่าครองชีพสูงมาก ยังเด็กจบใหม่แค่ค่ามัดจำบ้านค่าเช่าบ้าน ถ้ากินข้าวอยู่ก็แทบไม่พอใช้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการเดทสาวหรือมีครอบครัวเลย เวลาไปเดทสาวแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงิน อย่างเช่นค่าอาหาร อย่างน้อยก็ 20,000 วอน ค่ากาแฟก็อาจจะ 15,000 วอน ค่าดูหนังก็ประมาณ 2-3 หมื่นวอน รวมๆกันแล้วก็น่าจะประมาณ 70,000 วอน หรือประมาณ 2,000 กว่าบาทแล้ว นี่ขนาดแค่ค่าเดทครั้งเดียว ไหนจะค่าของขวัญ ให้สาวทุกวันสำคัญอย่างเช่นวันเกิด วันครบรอบวันเดท ครบรอบ 100 วัน 200 วัน 300 วัน วันวาเลนไทน์ และวันสำคัญต่างๆอีกมากมาย ซึ่งของขวัญที่จะให้สาวเกาหลี เขาก็อยากได้ของแบรนด์เนม ซึ่งโอปป้าก็ต้องเก็บเงินกันข้ามปี เพื่อจะซื้อของขวัญให้สาวๆ 


3 คนตกงานเยอะ ถ้าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยดังๆอย่างเช่นสกาย (Sky) ก็มีแนวโน้มที่จะหางานได้ง่ายกว่า แต่ถ้าไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก็ใช่ว่าจะหางานได้ง่ายๆ บางคนหางานมาตั้งหลายปีแล้วก็ยังหาไม่ได้เลย 


4 ค่านิยมที่มองแต่ภาพลักษณ์ภายนอกหรือว่าหน้าตา คนเกาหลีเชื่อว่าถ้าหน้าตาดีจะได้เปรียบมากกว่าเช่น ในการหาคู่ครองในการจะได้งาน ในการได้รับการยอมรับในสังคม แถมป้องกันการถูกบูลลี่ได้ด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ก็อยากจะคบกับคนที่หน้าตาดี จริงๆประเทศไทยก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่สุดโต่งแบบนี้

ครู - นักเรียน โรงเรียนศรีแสงธรรม ร่วมทำกิจกรรม ปลูกป่าแบบประหยัดน้ำ

พระปัญญาวชิรโมลี นพพร เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม บ้านดงดิบ ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าเป็น พระนักพัฒนา จากการที่เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกิจกรรมการปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ หรือการปลูกป่าแบบประหยัดน้ำ ไว้โดยมีใจความว่า ...

นักเรียนจิตอาสาปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ 
คณะครูและนักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรมได้ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง บนโพนปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ และธนาคารน้ำใต้ดินแบบหลุมขนมครก ณ พุทธอารยเกษตรวัดป่าศรีแสงธรรม บริเวณรอบพระบรมธาตุศรีแสงธรรมมหาวชิรโมลี กว่า 300 ต้น ที่นำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง ร. 9 มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องดินไม่มีคุณภาพ ทำให้การเพาะปลูกไม่ค่อยได้ผลผลิต

ทางวัดได้พัฒนาเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เห็นคุณค่าในตัวเอง มีความรู้คู่คุณธรรมนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดปัญหาสังคมที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้้น ถ้าหากนำความรู้ที่ดี มีปูชนียบุคคลเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตหรือการทำงานก็จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
การปลูกพืชแบบประหยัดน้ำ หรือเพอร์มาร์คัลเจอร์ที่วัดป่าศรีแสงธรรมมีหลายโมเดล ทั้งโพนผักหวานป่า โกโก้ และไม้ยืนต้นเช่น พะยูง ยางนา พะยอม ที่ได้รับเมตตาต้นกล้าไม้สูงเกือบ 2 เมตรจากหลวงปู่ขนมาจากบึงกาฬมาให้ลูกหลานได้ช่วยกันปลูกป่า ต่อไปที่นี่จะเป็นแหล่งอาหาร แหล่งยาสมุนไพร แหล่งป่าไม้หายาก และเป็นสสถานที่ร่มรื่นเหมาแก่การบำเพ็ญภาวนา เป็นป่า หนอง นา ที่รายรอบพระบรมธาตุศรีแสงธรรมมหาวชิรโมลีที่กำลังก่อสร้าง

กิจกรรมใหญ่ในครั้งต่อไปคือการลงแขกดำนากล้าต้นเดียวคืองาน เฉลิมพระเกียรติพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ทางวัดจะจัดกิจกรรม พลังบวรจิตออาสา เขียนศาสตร์พระราชาลงบนตำราของแผ่นดิน ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ท่านใดจะมาร่วม ดำนา ปลูกป่ารีบแจ้งล่วงหน้า
ขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในทรัพยากรดินภายใต้แนวคิด อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน หรือ Soils, where food Begins. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพียงเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรดิน ภายในครัวเรือน ชุมชน หรือ ที่ทำงาน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) พร้อมติดแฮชแท็ก #โคกหนองนาอารยเกษตร (Hashtag) #WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood และตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดิน และการฟื้นฟู และพัฒนาดิน สู่การเป็นแหล่งสร้างอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)#หลักปรัชญาโลกพอเพียง

‘ชาตรามือ’ ของไทย โกอินเตอร์ไปเวียดนามแล้ว เปิดขายวันแรก ต่อคิวซื้อกันยาว ล้นออกมาถึงถนน

เฟซบุ๊ก Thailand Lover ได้โพสต์ข้อความ ถึงร้านชาตรามือ ของคนไทย ที่ไปเปิดร้านขาย ใจกลางนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยมีใจความว่า ...

ก่อนหน้าที่ 'ชาตรามือ' ชาแบรนด์ดังจากประเทศไทยจะเปิดอย่างเป็นทางการที่เวียดนาม เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวเวียดนามคนไหนที่เคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยต่างต้องแวะซื้อชาตรามือกลับไปฝากญาติพี่น้องแทบทั้งสิ้น 

แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว เมื่อชาเจ้าดังจากประเทศไทยมาเปิดที่เวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกวันนี้ (9 มิ.ย. 66) ใจกลางนครโฮจิมินห์ โดยร้านชาตรามือตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 52 ถนนโงดึ๊กเก๋ เขต 1 นครโฮจิมินห์ เพื่อน ๆ สามารถแวะไปอุดหนุนกันได้ ตามโลเคชั่นด้านล่าง

Location: https://goo.gl/maps/3Y5Axqvyrh24d38G6

‘ซุปเปอร์บอน’ ตวัดเตะปลายคาง น็อก ‘ไทฟุน’ หลับกลางอากาศ

(10 มิ.ย. 66) จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยกับศึก ONE Fight Night 11 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ท่ามกลางแฟนกีฬาต่อสู้เข้าชมแน่นทั้งชิดขอบสังเวียนและรับชมการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง

ในคู่ประกอบรายการ แต่เป็นไฮไลต์ที่แฟนมวยหลายคนรอคอย เมื่อตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยของอีเวนต์นี้อย่าง "ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน" อดีตราชันคิกบ็อกซิ่งที่ตั้งใจกลับมากู้ศรัทธา ประจันหน้ากับ "ไทฟุน ออสแคน" นักชกหมัดหนักชาวตุรกี-ดัตช์ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.)

เริ่มเกมทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างหาจังหวะออกอาวุธใส่กัน เมื่อเข้ายกสอง "ไทฟุน" เร่งเกมเดินใส่ ส่วนอดีตแชมป์โลกตั้งรับเหนียวแน่น สาดแข้งถีบสกัดพายุหมัดของ "ไทฟุน" ก่อนจะสบโอกาสตวัดแข้งซ้ายเข้าเต็มปลายคาง ส่ง "ไทฟุน" หลับกลางอากาศ ชนะน็อกในนาทีที่ 1:46 ของยกสอง จนบิ๊กบอส "ชาตรี" อดใจไม่ไหวรีบเบิกบัญชีสั่งจ่ายโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ให้ทันที

Soft Power ที่สร้างสรรค์ ไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณ มีให้อร่อยกันแล้วที่ร้าน Arun Cafe ในวัดอรุณ

ศิลปะของไทยนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของความวิจิตรงดงามและประณีตเป็นอย่างมาก ซึ่งในยุคสมัยนี้หากจะทำให้คุณค่าของงานศิลปะยังคงอยู่ การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ดั่งเช่นเรื่องราวที่เราจะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้กับไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณ ที่ถูกเผยแพร่โดยคุณ Vipavee Kittitien ซึ่งได้ไปเที่ยวที่วัดอรุณและซื้อไอศกรีมนี้ที่ร้าน Arun Cafe ในวัดอรุณ

ตัวไอศกรีมจะมีลวดลายคล้ายกับกระเบื้องที่ประดับบนพระปรางค์วัดอรุณ มีความละเอียดอ่อนช้อยสวยงาม จนแทบจะไม่กล้ากินกันเลยทีเดียว

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่สร้างสรรค์ และทำออกมาได้อย่างสวยงาม หากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีโอกาสมาซื้อทานก็จะได้เห็นถึงความสวยงามของศิลปะไทยในไอศกรีมไปด้วย
ไอศกรีม 3 มิติลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณนี้จะมีขายเฉพาะที่ในวัดอรุณเท่านั้น หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยววัดอรุณ ก็อย่าลืมแวะไปอร่อยกันได้

‘โซลโฮต๊อก’ ขนมดังจากเกาหลี มีขายแล้วในไทย แวะไปอร่อยกันได้ ที่สามย่านมิตรทาวน์

ผู้ใช้ TikTok ที่ชื่อว่า zuperming นักชิม ลิ้นมังกร ได้โพสต์คลิป โชว์ความอร่อยชีสไหลเยิ้ม ของขนม ‘โซลโฮต๊อก’ ขนมดังจากเกาหลี แป้งรูปหัวใจ อร่อยแป้งนุ่ม โดยในคลิป 
zuperming นักชิม ลิ้นมังกร ได้บรรยายถึงความอร่อยไว้ โดยมีใจความว่า ...

ขนมร้านดังจากเกาหลีมาแล้ว ใช่เลยมันคือสาขาแรกของโซลโฮต๊อก ขนมแป้งต๊อกทอดนุ่มๆ บอกเลยว่าร้านนี้เป็นร้านดังมาจากเกาหลี แต่เขามาเปิดสาขาแรกกันที่สามย่านมิตรทาวน์ วันนี้เราก็เลยจะมาลองกัน มีทั้งเครื่องดื่มแล้วก็ signature ของเขาสั่งปุ๊บเขาก็จะกด ลงบนแม่พิมพ์ทันที มันคือแป้งต๊อกรูปหัวใจ เดี๋ยวมันลุ้นกันนะครับว่าข้างในจะเป็นไส้อะไร ส่วนน้ำนมธัญพืช เขาก็บอกว่าเป็นสูตรพิเศษจากเกาหลี ใครที่เป็นสายสุขภาพชอบดื่มนมผมว่าเหมาะเลยนะ ส่วนของเด็ดที่จะต้องลองก็คือแป้งต๊อกทอดรูปหัวใจของเรา แนะนำว่าสั่งปุ๊บกินปั๊บเลยครับ แป้งตอนร้อนๆนี่มันอร่อยดี มันนุ่มแล้วมันสู้ฟันเคี้ยวแล้วสนุก จัดไปคำแรกเจอไส้เลยนะ ที่เราสั่งไปเป็นไส้แฮมชีส ชีสเยิ้มขนาดนี้ก็เลยต้องบอกว่าฟินเลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top