Wednesday, 14 May 2025
NEWSFEED

‘บุ๋ม ปนัดดา’ สุดแฮปปี้ ‘สามี’ ยื่นลอตเตอรี่ให้แบบงงๆ  แต่หลังตรวจรางวัลแล้ว ถึงกับกรี๊ดลั่นเลย

เป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมากๆ สำหรับพิธีกรสาวคนเก่ง บุ๋ม ปนัดดา ที่ตอนนี้พ่วงตำแหน่งคุณแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอดลูกชาย น้องอเล็กซ์ มีโมเมนต์น่ารักๆ ออกมาให้เห็นอยู่เสมอ รวมถึงสามีแสนดีที่คอยช่วยภรรยาเลี้ยงลูกชายและดูแลประคบประหงมภรรยาเป็นอย่างดีอีกด้วย  

ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา ได้เผยภาพความน่ารักของสามีที่ได้ยื่นลอตเตอรี่ปึก 5 ใบแบบที่เจ้าตัวยังๆ แต่หลังจากที่ได้ตรวจผลรางวัลคุณแม่ถึงกับกรี๊ดดังๆ เลยทีเดียว ซึ่ง บุ๋ม ได้เขียนบอกเล่าไว้อย่างแฮปปี้สุดๆ ว่า "ผัวให้โชค 628 คือ 3 ตัวหน้างวด 16 มิ.ย. ที่ผ่านมาตัวเองซื้อไม่เคยถูก แต่เวลาที่พี่เขาถูกเค้าจะโยนมาให้ทุกครั้ง ขอบคุณนะคะ #กรี๊ดสิคะรออะไร"

หลายคนเห็นแล้วถึงกับเข้ามาแสดงความยินดีกันยกใหญ่ พร้อมๆ กับบอกว่า แม่บุ๋ม ถูกรางวัลที่หนึ่งแล้วนะคะ เพราะมีสามีที่แสนดีมากๆ และน่ารักมากเช่นกัน

ดาราหนุ่ม ‘ปกป้อง ปริธี บุญศักดา’ โพสต์บ่น ผ่อนบ้าน 4 ปี เหลือหนี้อีก 10 กว่าล้าน เจอดอกเบี้ยปีละ 5 แสน

เริ่มมีชาวเน็ตหลายราย ออกมาโพสต์พ้อเกี่ยวกับดอกเบี้ยมหาโหด ซึ่งเป็นปัญหาหนักของคนผ่อนบ้าง ล่าสุด “ปกป้อง ปริธี บุญศักดา” นักแสดงหนุ่มและนักรีวิวเจ้าของเพจดัง ก็ได้มีการโพสต์บ่นถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า

“ผ่อนบ้านมาแล้ว 4 ปีกว่า เหลือหนี้ผ่อนบ้าน 10 กว่าล้าน จ่ายทุกเดือน 71,900 เงินต้น 27,256 ดอกเบี้ย 44,643 เท่ากับดอกเบี้ยปีนึง 535,716 เงินต้นเพิ่งหายไป 327,072 เอง แบบนี้ถือว่าธนาคารเอากำไรเกินไปไหม”

“ทุกคนหลังจากโพสต์ไป มีเพื่อน ๆ มาเตือนให้รีไฟแนนซ์ หรือ รีเทนชั่นทุก 3 ปี ไม่งั้นดอกจะแพง ในรูปคือผมกับแฟนลืมไปรีหลัง 3 ปี ตอนกู้ได้ดอก 2.5% พอเลย 3 ปีกลายเป็น 5.3% แล้วจ่ายเรตนี้มาปีกว่า แทนที่จะเสียดอก 250,000 กลายเป็นต้องเสียดอก 530,000 ขอเตือนไว้สำหรับคนที่จะกู้บ้านครับ”
“รีเทนชั่นคือไปบอกกับแบงก์เดิม ว่าขอลดดอกเบี้ยหลัง 3 ปี ส่วนรีไฟแนนซ์คือย้ายธนาคาร อาจจะได้โปรดีกว่าเดิม แต่ต้องยื่นเอกสารใหม่หมดเหมือนเริ่มกู้ใหม่ สะดวกอันไหน ไปอันนั้น จะได้จ่ายดอกเบี้ยถูกลงนะครับ”

“ไม่ใช่มีแค่เราที่บ่น หลายคนก็บ่น เพราะดอกเบี้ยมันโหดจริง ๆ ล่าสุดข่าวออก กู้บ้าน 13 ล้าน แต่เจอดอกเบี้ย 20 ล้าน สรุป เป็นหนี้ 33 ล้าน พอมานั่งคูณดู เจอดอกเบี้ยปีละ 5 แสน เข่าแทบทรุดอะคับ”

‘บังสรร’ ประมูลกางเกง-นวม นำเงินไปทำบุญ ได้ยอดทะลุเป้า ปิดไปที่ 30,000 บาท

เพจเฟซบุ๊ก มวยสดได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการประมูลกางเกงมวยและนวม ของเสกสรร อ.ขวัญเมือง โดยได้ระบุว่า ...


"คนไม่ยอมคน" เสกสรร อ.ขวัญเมือง ล่าสุดโชว์ฟอร์มเดือดไม่เลิก ถล่ม นาธาน แบรนดอน ฟาดโบนัสชนิดดับเบิ้ลจาก บอสชาตรี หลังจากที่คว้าโบนัสมาแบบสวยงามสุดประทับใจ บังสรร ได้ประกาศประมูล กางเกงและนวม ที่ใส่ในวันชก เพื่อนำยอดเงินไปทำบุญตามที่ตั้งใจเอาไว้

โดยสถาการณ์ปัจจุบัน  กางเกงและนวม ของบังสรร ได้ถูกประมูลไปในมูลค่าถึง 30,000 บาท จาก Panich Settapongpanich แฟนมวยตัวยง

"กางเกงมวยและนวมที่ผมได้ทำการเปิดประมูลไปเมื่อวานผมขออนุญาติทำการปิดประมูลก่อนเวลาที่กำหนดไว้ เพราะยอดที่ประมูลกันเข้ามามันเกินเป้าที่ผมตั้งไว้มาก ผมต้องขออภัยทุกท่านที่มาร่วมประมูลประมูลด้วยนะครับ และยอดที่ผมปิดประมูล 30,000 บาทครับ ขอบคุณครับน้องที่ประมูลมา 30,000บาท" บังสรร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

‘ปุ๊ก อาภัสรา’ เปิดภาพล่าสุด ‘หม่อมโจ้’ ลูกชายคนแรก พาหลานขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์เที่ยว

เรียกได้ว่านานๆจะออกมาเผยโฉมหน้าอันหล่อเหลาออกสื่อบ้าง สำหรับ “หม่อมโจ้” หรือ “มล.รุ่งคุณ กิติยากร” ลูกชายคนแรกของคุณแม่คนสวย “ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล” นางสาวไทย พ.ศ. 2507 และนางงามจักรวาล ค.ศ. 1965

ล่าสุดคุณแม่ “ปุ๊ก อาภัสรา” ได้ออกมาโพสต์รูปภาพของลูกชายหม่อมโจ้ ที่ได้พาลูกชาย “น้องกัสสป” ขึ้นรถเมล์ไปนั่งรถไฟฟ้าเที่ยวอย่างเรียบง่าย โดยระบุแคปชั่นเอาไว้ว่า “กัสสปะนั่งรถไฟฟ้าไปเที่ยวกับ คุณพ่อครับ”
 

‘พิม พิมประภา’ แจงประเด็นดราม่า ไม่อยากให้พ่อเครียด เชื่อแม่ยังรักมาก มีวันนี้ได้เพราะแม่ผลักดัน พาเรียนร้องเพลง-การแสดง 

หลังจากที่วันก่อน “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” ถึงขั้นร้องไห้ หลังถูกแม่โพสต์ฉะแรง ทั้งอกตัญญู ตัดแม่ตัดลูก ไม่ขอเจอกันอีกในชาติหน้า ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าขอไปเคลียร์กันหลังบ้านดีกว่า ต่อมา “แม่ศศิกานต์” ก็ออกมาโพศต์สยบดรามา ขอทุกคนอย่าไปถามลูกๆ ถึงเรื่องนี้อีก ยอมรับที่โพสต์เพราะน้อยใจลูก

ล่าสุดในงานประกาศรางวัล MAYA TV AWARDS 2023 พิม พิมประภา ก็เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้พยายามเข้มแข็งให้มากที่สุด ไม่อยากลงลึกรายละเอียดกับสิ่งที่แม่โพสต์ล่าสุดแล้ว แต่เชื่อแม่ก็ยังรักตนมาก

“ก็พยายามที่จะเข้มแข็งมากที่สุดค่ะตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าก็พิมได้รับกำลังใจที่ดีมากๆ จากทุกคน รวมถึงจากคนที่บ้านด้วย ก็ถือว่าเราก็พยายามที่จะเข้มแข็งให้ได้ แล้วก็พยายามที่จะมองคนที่เรารักให้เยอะๆ เลยตอนนี้ คือเราใช้เวลากับคนที่เรารักให้มากที่สุด พยายามรับพลังบวกจากคนในครอบครัวเยอะๆ

ที่ได้เห็นน้ำตา จริงๆ มันก็ถือว่าเป็นแผลสดเนอะ เราไม่ได้เอฟเฟกต์ว่าจะต้องตอบคำถาม ในเวลาอันใกล้ขนาดนั้น ไม่รู้สิ มันก็สดมาก ถามว่าหลังจากวันนั้น คนในครอบครัวตอนนี้ พยายามที่จะไม่พูดเรื่องเครียดกันเลย คือเราพยายามที่จะให้กำลังใจกัน พูดกันแต่สิ่งดีๆ เรื่องนี้มันสร้างบาดแผลให้กับทุกคนในบ้านเลย พิมก็คือเป็นพี่คนโต เราก็อยากที่จะให้ทุกคนแฮปปี้ และเป็นปกติให้ได้ไวที่สุด”

ส่งผลกระทบต่อจิตใจ เซนซิทีฟที่สุดในชีวิต
“ก็ยอมรับตรงๆ ว่ามีผลกับสภาพจิตใจเรามากๆ เลย จริงๆ เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟที่สุดสำหรับชีวิตพิมแล้ว พิมก็มองนะ ว่าถ้าพิมผ่านเรื่องนี้ไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาอีก พิมจะผ่านมันไปได้ทุกเรื่อง”

เชื่อมีทางออกสำหรับครอบครัว
“พิมเชื่อว่าครอบครัวทุกครอบครัว ยังไงก็คือครอบครัวค่ะ มันจะมีทางออกเสมอ แล้วตอนนี้พิมโฟกัสแค่ความสุขของคนในครอบครัวเลย อะไรก็ตามมีที่ทำให้เขามีความสุขและแฮปปี้ พิมทำได้ทุกอย่างเลย”

อ่านสิ่งที่แม่โพสต์แล้ว ไม่อยากพูดถึงอีก สร้างบาดแผลให้ทุกคนในบ้านมากแล้ว
“ได้อ่านแล้วค่ะ พิมรู้สึกว่าพิมไม่อยากที่จะลงรายละเอียด และไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะพิมว่าเรื่องนี้มัน…อย่างที่บอกคือมันสร้างแผลให้กับคนในบ้านมากแล้ว พิมเป็นพี่คนโต ตอนนี้พิมอยากจะที่นำ และเป็นเสาให้กับทุกคนๆ ให้ได้ ก็พยายามที่จะเข้มแข็งให้มากที่สุด”

แม่ยังฝากให้ติดตามผลงาน เชื่อยังรักมาก
“ถูกต้องค่ะ คืออย่างที่พิมบอก ครอบครัวก็คือครอบครัว ถึงจะมีการไม่เข้าใจกันอะไรก็แล้วแต่ แต่พิมเชื่อเสมอว่าคุณแม่รักพิมมาก อันนี้คือเรื่องที่พิมเชื่อมาตลอด แล้วตั้งแต่เด็กพิมก็ได้รับความรักจากแม่มาเสมอ พิมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ แม้กระทั่งวันนี้พิมได้เข้าชิงรางวัลที่มันเป็นเกียรติขนาดนี้ ส่วนใหญ่ๆ เลยก็เพราะแม่พิมผลักดันพิมมาถึงทุกวันนี้ได้ ไม่งั้นพิมจะไปเรียนร้องเพลง ไปเรียนการแสดงยังไง ถ้าเกิดเขาไม่พาพิมไป”

พ่อเครียดเพราะเห็นตนเครียด จากนี้จะเข้มแข็งและแฮปปี้ให้พ่อดู
“ท่านก็เครียดค่ะ ก็ต้องบอกว่าเขาเครียด แต่ว่าอย่างที่บอก ถ้าพิมเครียด เขาเครียดตาม เพราะฉะนั้นตอนนี้พิมจะเข้มแข็งและแฮปปี้ให้เขาดูให้มากที่สุด เพราะถ้าพิมแฮปปี้ เขาแฮปปี้แน่นอน ไม่ใช่แค่ปาป๊าอย่างเดียว ที่พิมร้องไห้ออกไปจากการสัมภาษณ์ครั้งที่แล้ว พิมไม่ได้แฮปปี้กับสิ่งนั้นที่พิมทำไปนะ พิมเชื่อว่าคุณแม่ดู คุณแม่ก็ไม่แฮปปี้ พิมเชื่อว่าคุณแม่ดู คุณแม่ก็เครียด อย่างน้อยๆ พิมรู้จักเขาดี เขาน่าจะต้องร้องไห้ตามพิมแน่ๆ แล้วพิมไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว พิมอยากที่จะเข้มแข็งให้ได้มากที่สุดค่ะ”

‘เบส คำสิงห์’ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ขัดผิวทุกวัน อยากให้ดูดีเพื่อคนใหม่ ไม่ได้มีสเปกตายตัว ขอแค่คุยกันรู้เรื่อง นิสัยดี

โสดแล้วสวย โสดแล้วแซ่บ สำหรับ “เบส คำสิงห์” หรือ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ลูกสาวคนเก่งของ “สมรักษ์ คำสิงห์” โดยในงานประกาศรางวัล MAYA TV AWARDS 2023 เจ้าตัวเผยสวยขึ้นเพราะอยากดูแลตัวเองให้ดูดีเพื่อแฟนใหม่

“เราก็ดูแลตัวเองค่ะ เพราะว่าว่าง ตอนไม่โสดไม่ว่างเพราะอยู่กับแฟนไง เราเป็นผู้หญิงติดแฟน แต่ตอนนี้หนูตื่นมาออกกำลังกายทุกเช้า แล้วก็ดูแลผิว สครับ ขัดผิวทุกวัน (อยากให้ดูดีขึ้นเพื่อคนที่เข้ามาใหม่?) เพื่อเขาด้วย คนใหม่ก็ต้องภูมิใจที่มีแฟนเป็นเรา (หัวเราะ) เราต้องพัฒนาขึ้นไง เขามาคบเราแล้ว เราก็ต้องพัฒนาในเรื่องของความคิด ทัศนคติ รูปร่างด้วย หุ่นด้วย”

โสดแล้วแซบได้ ชินโดนแซะ คงไม่หนักเท่าปีก่อนแล้ว
“ตอนนี้โสดก็แซบได้ สเปกเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยน จริงๆ หนูก็ไม่ได้มีสเปกตายตัวนะ แค่คุยกันรู้เรื่อง นิสัยดีก็โอเคแล้ว ส่วนคนคอมเมนต์แซะก็ปกติค่ะ เป็นเรื่องปกติมาก เพราะว่าเราเป็นผู้หญิง เราก็ต้องโดนอยู่แล้ว คือก่อนหน้านี้เราโดนมาหนักมาก ช่วงปีที่แล้ว ไปออกรายการ ทำอะไรก็โดนไปหมด ความรู้สึกเรามันอยู่ตัวแล้ว ก็คงไม่มีอะไรหนักเท่าปีที่แล้วแหละ
ตอนนี้ก็ยังอ่านคอมเมนต์นะ แต่ว่าถ้าใครว่าเรา เราก็ไปอ่านคนที่ชมเรา เราไม่ได้อิกนอร์นะ ถ้าเกิดเขาบอกว่าเราอ้วน เราก็จะลดน้ำหนัก แต่ถ้าด่าว่าเราไม่สวย เราก็จะไปส่องกระจกที่บ้าน ถ้าส่องแล้วรู้สึกว่าก็ดูดีนะ ก็ไม่ได้ไม่สวยขนาดนั้น เราก็ข้ามไป เวลาอ่านเจอคอมเมนต์ไม่ดีก็ไม่โกรธ เพราะว่าหนูเจอมาหนักมากเลยค่ะปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยไม่ค่อยเท่าไหร่ ปีที่แล้วกว่าจะผ่านมาก็ยาก ก็หนักเหมือนกัน”

เคยถามคนเคยฟ้อง แต่ไม่เคยทำ และยังไม่เคยคิด
“ก็เบาๆ ค่ะ คอมเมนต์กันเบาๆ (หัวเราะ) แต่เรื่องฟ้องร้องไม่มีค่ะ ไม่เคยคิดเลย แต่ถามพี่ๆ นักแสดงเหมือนกัน ว่ามันได้เงินจริงเหรอคะ ใช้เวลานานไหม ก็ถามเฉยๆ แต่ไม่เคยทำค่ะ”

โดนด่าเพราะจริต เป็นคนตรงๆ
“อาจจะเป็นจริตหนูด้วย เราเป็นคนตรงๆ อาจจะบอกว่าหนูออกตัวแรงด้วย หลายๆ อย่างค่ะ แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวเองลงมาเยอะมากแล้ว หนูแทบไม่ลงสตอรี่เลยด้วยซ้ำ คือเวลามีปัญหาถ้าเกิดเป็นปัญหาเล็กๆ มันก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่บางทีเรื่องเล็กๆ แต่ทำไมปัญหามันใหญ่จัง เราก็ซีเรียสนิดหนึ่ง เลยระวังตัวเอง”

แฟนใหม่จะเปย์เหมือนเดิม เปรยขำๆ อาจดาวน์รถให้ก็ได้ แถมไม่เอาคืน
“ก็เปย์นะ ก็แฟนเรา ก็เป็นคนคลั่งรัก มันไม่ได้ให้ถึงขั้นหมดตัว แบบไปกินข้าว เราก็เลี้ยงได้ แต่ถ้าเขาอยากได้รถ ก็ใหญ่ไป แต่หนูอาจจะดาวน์ให้ก็ได้ (หัวเราะ) หนูว่าการเป็นแฟนกันมันเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งหนูให้หนูก็ไม่ได้จะเอาคืน ให้ก็คือให้ ให้แล้วก็จบไป ส่วนคนมองว่าน่าจะเป็นผู้ชายเปย์ มันก็อยู่ที่เขา เราไม่สามารถพูดได้ ว่าพี่จ่ายอันนี้ให้หน่อย แต่ถ้าเกิดเขาอยากให้เรา เราก็รับ แต่เราอยากให้มากกว่า เราดูเหมือนเราอยากให้มากกว่า (หัวเราะ)”

ไม่หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ผู้ชายคนใหม่ต้องดีกว่าเดิม
“ไม่ค่ะ เรายังพัฒนาขึ้นเลย ผู้ชายคนใหม่ต้องดีกว่าเดิม ลิมิตในการให้ของใครก็มี ก็ไม่ใช่ว่ามีล้านจะให้ล้านขนาดนั้น ก็บอกอยู่ว่าให้ครึ่งหนึ่ง(หัวเราะ) เดี่ยวเราหาใหม่ ถามว่ากลัวเขาหลอกไหม ไม่หรอกๆ เหมือนคนที่เข้ามาเขาไม่ได้หวังอย่างนั้น”

มั่นใจดูคนเป็น
“เราก็ดูคนเป็นอยู่ เราดูคนออกอยู่ ก่อนที่จะมาเป็นแฟนมันก็ต้องคุยกันมาก่อน ตอนคุยกันเราก็ดูออกประมาณหนึ่งอยู่แล้ว ต้องเป็นแฟนถึงเปย์ ต้องมีสถานะแฟน ทำไมไม่มีใครถามหนูว่ามีใครมาเปย์หนูหรือยัง
(แล้วมีหรือยัง?) ยังค่ะ (หัวเราะ)”

ลุ้นไม่ขึ้น “ซิม คิวเท โอปป้า” แค่เพื่อน แรงเชียร์ไม่เคยได้ผล
“เป็นเพื่อนกัน แต่เขาสายเปย์อยู่แล้ว หนูไปกับเขาไม่ต้องพกกระเป๋าตังค์เลยนะ คิวเทจ่ายให้หมด ถามว่าลุ้นขึ้นไหม ไม่ค่ะ เป็นเพื่อนกันเลย ถามไปก็ไม่ได้อะไรหรอก เพราะว่าคนเชียร์มาก่อนหน้านี้นานแล้ว ก็ไม่เคยได้ผล หนูว่าให้เป็นความน่ารักแบบเพื่อนกันดีแล้ว เป็นเพื่อนกันค่ะ”

ไม่บอกโสด
“ไม่บอก (หัวเราะ) โสดค่ะ แต่ไม่อยากบอกเฉยๆ”

ที่มา :  https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000057346

‘ก้อง ห้วยไร่’ ถอดกางเกงกลางเวที เมื่อแฟนคลับทุ่มเงิน ‘ครึ่งแสน’ เพื่อประมูล

จัดเต็มทุกงานตลอดสำหรับนักร้องชายชื่อดัง ก้อง ห้วยไร่ ที่เจ้าตัวนั้นไปแสดงงานคอนเสิร์ตที่ไหนเจ้าตัวจัดเต็มตลอด ทั้งการร้องเพลง เอนเตอร์เทน ไม่มีบกพร่องกันเลยทีเดียว อีกทั้งเจ้าตัวไปแสดงคอนเสิร์ตที่ไหนก็มันจะได้เหล่าบรรดาของขวัญแปลกๆ จากแฟนคลับอยู่บ่อยครั้งจนเป็นกระแสทุกครั้งเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าเจ้าตัวนั้นเป็นที่รักของเหล่าบรรดาแฟนคลับมาโดยตลอด แต่ล่าสุดเป็นต้องอึ้งเหมือนเหล่าบรรดาแฟนคลับของเจ้าตัวทุ่มเงินถึงครึ่งแสนในการประมูลกางเกงตัวที่เจ้าตัวนั้นใส่แสดงคอนเสิร์ตอยู่นั่นเอง

ล่าสุดในเฟสบุ๊กส่วนตัวของนักร้องชายชื่อดังอย่าง ก้อง ห้วยไร่ ได้ออกมาโพสต์รูปพร้อมข้อความที่เจ้าตัวนั้นได้ไปแสดงคอนเสิร์ตในที่แห่งหนึ่ง โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความไว้ว่า “เมื่อ แฟนเพลงขอประมูลกางเกง 50,000 บาทกูจะเก็บไว้เพื่อ เอาไปเลยน้อง ภาพที่ท่านเห็นคือกล้ามขานะครับผมเป็นคนที่แข็งแรงมากอย่ามองเป็นอย่างอื่น” ซึ่งสำหรับรูปที่เจ้าตัวโพสต์นั้น “เป็นรูปด้านหลังที่เจ้าตัวกำลังก้มถอดกางเกงจนเหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีขาวนั่นเอง” จนเหล่าบรรดาแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์แซวสนั่น เช่น โอ้ยตกใจเหมิด ป๊าด ไข่ออกบ่พี่555 แว๊ปแรก นึกว่าย้อย55555 จ้วดๆ แว๊ปแรก เห็นเป็น…อิหลีนิหละจ้า
 

รู้จัก ‘Stüssy’ พี่ใหญ่แห่งวงการสตรีตแวร์ แบรนด์เก่าแก่แต่ครองใจศิลปิน-คนรุ่นใหม่

ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชัน นับว่าเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งสูง เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดค่อนข้างสูง ตั้งแต่เสื้อผ้าแฟชันราคาถูกจับต้องได้ ไปจนถึงเสื้อผ้าหรู แบรนด์เนม… งานหนักจึงมาตกอยู่ที่บรรดาเจ้าของแบรนด์ที่ต้องตาม ‘เทรนด์’ การแต่งตัวของผู้คนที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หรือบางครั้งก็ต้องเทิร์นตัวไปเป็นผู้นำแฟชันเองซะเลยก็มี

อย่างไรก็ตาม แม้ในตลาดเสื้อผ้าแฟชันจะมีการแข่งขันสูง แต่ก็ยังโชคดีที่แบรนด์ต่าง ๆ ที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะ ก็มักจะเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นของตัวเองได้ไม่ยาก เฉกเช่นเดียวกับแบรนด์ ‘Stüssy’ (อ่านว่า สตูซี) แบรนด์สตรีตแวร์สุดเก๋า ที่ถือกำเนิดมาแล้วกว่า 44 ปี หรืออาจเรียกได้อย่างเต็มปากเลยว่าเป็น ‘พี่ใหญ่แห่งวงการสตรีตแวร์’ นั้น...ยังยืนตระหง่านในเวทีนี้ได้แบบไม่ตกยุค

… และแน่นอนว่า เหตุผลที่อยากหยิบยก Stüssy แบรนด์สตรีตสัญชาติอเมริกามาเล่า เพราะล่าสุดเขาได้มาเปิดสาขาเป็นของตัวเองเป็นแห่งแรกในไทยแล้ว โดยมีพิกัดอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 2 ซึ่งบอกเลยว่า วันเปิดขายวันแรกนี่ทำเอาห้างแตก ลูกค้าต่อคิวยาวล้นออกมานอกห้าง เพราะลูกค้าจำนวนมากต้องการเข้าไปซื้อสินค้าราคาป้ายไทย รวมถึงเสื้อยืดลายพิเศษ ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา Bangkok Chapter เท่านั้น

เอาล่ะ!! พักเรื่องคามร้อนแรงของ ‘Stüssy’ ในไทยไปก่อน และขอย้อนพาไปดูเส้นทางสู่ความร้อนแรงแห่งสตรีตแฟชันรายนี้ ที่ THE STATES TIMES จะลองขยายประวัติและต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ให้ทราบกันพอสังเขป… ซึ่งขอบอกเลยว่าแบรนด์นี้ไม่ได้ขายเสื้อผ้าตั้งแต่แรก… แต่จะขายอะไรมาก่อน เชิญติดตาม!!

ย้อนกลับไปในปี 1979 แบรนด์ Stüssy ถือกำเนิดขึ้นจากชายที่ชื่อว่า ‘Shawn Stussy’ ผู้ที่หลงใหลในการเล่นกระดานโต้คลื่น หรือเซิร์ฟบอร์ด จึงตัดสินใจเปิดธุรกิจผลิตและออกแบบเซิร์ฟบอร์ดเป็นของตนเอง อยู่แถวชายหาดลากูนาบีช ที่แคลิฟอร์เนีย โดยเขาได้นำลายเซ็นนามสกุลของเขามาเป็นโลโก้ประจำแบรนด์ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและจดจำง่าย

ทั้งนี้ ดีไซน์โลโก้ของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากข้อความกราฟิตี ศิลปะการพ่นลวดลายบนกำแพง ตามสไตล์ชาวพังก์ร็อกและฮิปฮอปที่เขาชื่นชอบ และสื่อถึงจิตวิญญาณความเป็นศิลปินอันแสนขบถ ในช่วงแรก คุณ Stussy เน้นขายสินค้าเฉพาะเซิร์ฟบอร์ดเท่านั้น 

แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดปิ๊งไอเดีย โดยลองนำโลโก้ Stüssy มาสกรีนลงบนเสื้อยืด และนำไปขายควบคู่กับเซิร์ฟบอร์ด ที่งาน Action Sports Retailer ในปี 1982 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ เจตนาแรกเขาแค่ต้องการใช้เสื้อยืดสกรีนมาเป็นตัวกระตุ้นยอดขายให้กับเซิร์ฟบอร์ดเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าเสื้อยืดเป็นสินค้าที่ขายดีแทน โดยเพียงแค่ 3 วัน เขาสามารถขายเสื้อยืดไปมากกว่า 1,000 ตัว

เมื่อกระแสตอบรับเสื้อยืดดีเกินที่คาดไว้ คุณ Stussy จึงเพิ่มไลน์เสื้อผ้าแนวสตรีตแวร์ในร้านของเขา เป็นการขยายธุรกิจและสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
.
แม้ยอดขายเสื้อยืดจะดีเลิศ แต่ในความเป็นจริง คุณ Stussy ไม่ได้มีความรู้เรื่องการทำการตลาดมากนัก ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจชวน Frank Sinatra เพื่อนสนิทที่เล่นเซิร์ฟด้วยกัน มาเป็นหุ้นส่วนของร้าน การร่วมมือของพวกเขาทั้งสอง ทำให้แบรนด์ Stüssy ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทและเป็นที่รู้จักในวงกว้างกว่าเดิม หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆ ลดการขายเซิร์ฟบอร์ดลง และหันมาพัฒนาเสื้อผ้าแทน

เวลาผ่านพ้นไปจนกระทั่งปี 1991 พวกเขาก็ได้เปิด Flagship Store แห่งแรกของแบรนด์ในเมืองนิวยอร์ก โดยได้ James Jebbia มาเป็นผู้จัดการร้าน แต่ภายหลังเขาลาออกไปสร้างแบรนด์ของตัวเองชื่อ ‘Supreme’

แต่หลังจากนั้นประมาณ 5 ปี คุณ Shawn Stussy ก็ได้ตัดสินใจวางมือจากแบรนด์ Stüssy เพื่อกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว โดยได้ขายหุ้นของบริษัทให้กับคนตระกูล Sinatra ทำให้จวบจนถึงปัจจุบัน แบรนด์ Stüssy อยู่ภายใต้การบริหารงานของครอบครัว Sinatra

แม้ผู้ก่อตั้งแบรนด์คนแรกจะไม่ได้เป็นผู้บริหารแบรนด์เองแล้ว แต่โลโก้แบรนด์ Stüssy ที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ และได้รับความสนใจจากผู้มากมาย โดยมีร้านแบบ Stand Alone และตัวแทนจำหน่ายอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้แตกไลน์สินค้ามากขึ้น เช่น หมวก เสื้อแจ๊กเก็ต กระเป๋า ถุงเท้า แว่นตา และอื่นๆ ด้วย

อ่านมาถึงจุดนี้ ก็อาจจะพอรู้แล้วว่าสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Stüssy คือความเป็นพังก์ร็อก และฮิปฮอป เนื่องจากผู้ก่อตั้งอย่าง Shawn Stussy หลงใหลในวัฒนธรรมเหล่านี้ และเขารู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีสไตล์การแต่งตัวแบบไหน หรือเทรนด์กำลังจะเปลี่ยนไปเป็นแบบใด ส่งผลให้สินค้าของแบรนด์ Stüssy ที่ออกมาถูกใจคนกลุ่มนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งการรู้ใจผู้บริโภคและมีสินค้าตอบโจทย์ความต้องการ ทำให้แบรนด์ประสบความสำเสร็จและครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ฐานลูกค้ายังชื่นชอบและเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ Stüssy ก็คือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงในการผลิต อีกทั้งยังคงใส่ใจรายละเอียดการตัดเย็บ การดีไซน์ที่คงอัตลักษณ์ของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ แบรนด์ Stüssy ยังได้ออกสินค้ารุ่นลิมิติดอิดิชันร่วมกับแบรนด์ชื่อดังอื่นๆ ด้วย เช่น Nike Supreme, VANS, CONVERSE, Levi's®, New Balance, G-Shock, COMME des GARÇONS หรือแบรนด์หรูอย่าง Dior ซึ่งการร่วมมือกับแบรนด์อื่นออกสินค้า เสมือนเป็นการพาแบรนด์ออกแนะนำตัวสู่สาธารณะ เปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ทำความรู้จักแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ ไอเดียใหม่ๆ ให้กับแบรนด์

เท่านั้นยังไม่พอ เหล่าศิลปินไอดอล และคนดังระดับโลก เช่น ลิซ่า BLACKPINK, IU, Kendall Jenner, Travis Scott และ ศิลปินวง BTS ต่างก็เลือกสวมใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ Stüssy ด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นแรงเสริมให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ในโลกธุรกิจ โอกาสคือสิ่งสำคัญ เพราะในบางครั้ง Passion ที่หวังไว้ อาจจะไม่ได้พาเราไปถึงปลายทางที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ ฉะนั้นการคว้าโอกาสและต่อยอดโอกาสอย่างจริงจัง ในบางครั้งก็มีความจำเป็น เหมือนกับ ‘Stüssy’ ที่ใครจะคิดว่า ไอเดียจากการนำโลโก้เซิร์ฟบอร์ด ที่มาเพ้นต์ลงเสื้อยืดเพื่อสร้างแรงกระตุ้นยอดขายเซิร์ฟบอร์ด จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นตำนานสตรีตแฟชันแห่งยุคได้อย่างลงตัว 

พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ให้แง่คิด คติสอนใจ เรื่องการมองเห็นคุณค่าของชีวิต

“ดินก้อนหนึ่ง จะมีคุณค่ามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับใครเป็นคนปั้น เพราะฉะนั้น ขอให้เราแต่ละคนจงเพียรปั้นดินแห่งชีวิตของตัวเองให้ดี ให้งดงาม ให้มีคุณค่า ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่ง”
 

รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น หรือ ‘รัศมีแข’ นักแสดง พิธีกร และนักวอลเลย์บอลลูกครึ่งไทย-เซเนกัล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงวอเลย์บอลทีมชาติหญิง

“ขอบคุณมากครับสำหรับวันนี้…และยังคงเหมือนเดิมนะเด็ก….รักนะครับ และศรัทธาเคารพวอเลย์บอลทีมชาติหญิงเสมอ…ขอบคุณสำหรับความสุขก่อนนอน….เชียร์สนุกมากครับ…แล้วเจอกันนะ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top