Monday, 9 June 2025
Soft News Team

คุณมี่ โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ | THE STUDY TIMES STORY EP.2

บทสัมภาษณ์ คุณมี่ โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ และ ผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
เพราะนิสัยรักการอ่าน คือคลังความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้

โดยพื้นฐานแล้ว คุณมี่เป็นคนคลุกคลีหนังสือ หรือตัวอักษรมาตั้งแต่เกิด เพราะคุณพ่อทำสำนักพิมพ์มายาวนานกว่า 40 ปี เรียกได้ว่าวิ่งเล่นอยู่กับกองหนังสือ มีโอกาสได้ใกล้ชิดนักเขียน สัมผัสและอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก

“การอ่านทำให้การพูดและการเขียนเป็นระบบ สวยงาม ใช้ประโยชน์จากวงศัพท์ได้ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตในด้านการทำงานอย่างสูง”

คุณมี่เปรียบเทียบให้ฟังว่า หนังสืออยู่กับเราตั้งแต่ก่อนเกิด ไปจนกระทั่งเราหมดลมหายใจ นึกภาพก่อนเราเกิด ในคุณพ่อคุณแม่ที่ใส่ใจเลี้ยงดูบุตรหลาน ก็จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังระหว่างที่ตั้งครรภ์ เป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างลูกและพ่อแม่ เมื่อลูกเกิดมา คุณพ่อคุณแม่ก็จะยังเล่านิทาน มีการวิจัยว่า การที่พูดกับลูกในครรภ์ หรือเมื่อลูกเกิดมา แล้วมีการพูดคุย เล่านิทานให้ลูกฟัง จะทำให้การสื่อประสาทของเด็กไวขึ้น การพูดและการใช้ชีวิตของเด็กในช่วง 5 ขวบ การใช้สื่อที่สัมผัสได้ ที่ไม่ใช่เฉพาะดิจิทัล จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม 

ตัวอย่างจากยุโรป อย่างนอร์เวย์และสวีเดน พยายามที่จะปลี่ยนห้องเรียนให้กลายเป็น E-Classroom แต่ปรากฎว่าใช้ได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ด้วยการใช้หนังสือที่เป็นเล่มประกอบกับคอนเท้นต์ที่เป็นดิจิทัลร่วมกัน ถึงจะได้ผลสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น การเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ อาจจะใช้หนังสือในการอ่าน ค้นคว้า ประกอบกันการอ่านออนไลน์ ใช้มัลติมีเดียเรียนรู้เรื่องเซลล์ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดมากขึ้น การอ่านหนังสือจะทำให้การจดจำของเด็กแม่นยำขึ้น และช่วยให้สารสื่อประสาทเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น

งานวิจัยที่ทาง TDRI ได้นำมาพูดคุยกับคนในวงการหนังสือ เผยว่า การเปิดหนังสือสักเล่มแล้วพลิกไปพลิกมา จะทำให้เราเห็นถึงการพลิกหน้าหนังสือ การอ่านแล้วจดจำจากความหนาของหนังสือ เรื่องราวประมาณไหน เป็นบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อสมอง ซึ่งดีต่อการพัฒนาของสมอง 

ส่วนในช่วงวัยทำงาน ตัวหนังสือก็มีความจำเป็น อย่างตอนที่เราต้องการพัฒนาตัวเอง หรือต้องการพลิกวิกฤติช่วงเศรษฐกิจตก เช่น ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 ที่เศรษฐกิจมีความผันผวน แต่แวดวงของหนังสือกลับยอดโตขึ้น คุณมี่เผยว่า เพราะเป็นช่วงที่คนแสวงหาข้อมูลความรู้ใส่ตัวเอง ไม่ว่าจะมีสื่อเกิดขึ้นมากมายแค่ไหน แต่หนังสือก็ยังเป็นตัวเรื่องต้นทาง 

หรือแม้แต่วัยผู้สูงอายุเอง การมีเพื่อนเป็นหนังสือ ไม่ว่าจะจากการอ่าน หรือ Audio Book หนังสือเสียง ก็มีโอกาสที่จะเรียนรู้และมีความสุขกับมันได้

แม้กระทั่งในแง่ของการจัดงานอภิธรรมที่วัด ก็พบว่าของชำร่วยมักมาในรูปแบบของหนังสือ ถือเป็นการมอบปัญญาให้แก่กัน จะเห็นได้ว่าหนังสืออยู่กับเราทั้งชีวิต เป็นเพื่อนกับเรา เวลาเกิดเหตุอะไรก็ตาม หลายคนอยากจะผ่อนคลาย พลิกอะไรบางอย่าง ไม่หาเพื่อนคุย ก็มักจะหาหนังสือคุยกับตัวเอง และทั้งหมดนี้ก็พอจะตอบได้ว่าหนังสือมีประโยชน์ต่อชีวิตของเราอย่างมหาศาล นิสัยรักการอ่าน จึงเปรียบเสมือนคลังความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้

.


.

.

.

THE STUDY TIMES STORY สัปดาห์ที่สอง พบกับเรื่องราวชีวิตคนไทยในต่างแดน ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ

????THE STUDY TIMES STORY สัปดาห์นี้

????วันจันทร์ที่ 26 เมษายน - วันศุกร์ที่ 30 เมษายน

⏰ทุกวัน เวลา 2 ทุ่มตรง

พบกับเรื่องราวชีวิตคนไทยในต่างแดน ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ

????EP.6 วันจันทร์ที่ 26 เมษายน

คุณปอนด์ สุทธินันท์ ดวงภุมเมศร์ นักเรียนทุนรัฐบาล UIS ปริญญาโท Master of Public Administration, Cornell University, สหรัฐอเมริกา

????EP.7 วันอังคารที่ 27 เมษายน

คุณชาร์ต สืบศิษฏ์ ศานติศาสน์ ประถมศึกษา Hughes School, ออสเตรเลีย

ปริญญาโททุน JASSO รัฐบาลญี่ปุ่น The University of Tokyo, ญี่ปุ่น

????EP.8 วันพุธที่ 28 เมษายน

คุณตาล วัณย์ทิศากร พิณแพทย์ ตำแหน่ง Client form publishing generalist, Privat bank Julius baer, เมืองซูริค, สวิตเซอร์แลนด์

????EP.9 วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน

คุณชัช สิรวิชญ์ ทีวะกุล ปริญญาโท European Public Law Organization , กรีซ

กำลังศึกษาปริญญาเอก Université Toulouse Capitale , ฝรั่งเศส

????EP.10 วันศุกร์ที่ 30 เมษายน

คุณก้อย ดร. วรวสา ชัยวรกุล นักวิจัย Post-Doctoral Associate, University of Minnesota, สหรัฐอเมริกา

✅ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Head of Content Editor THE STUDY TIMES

????ช่องทางรับชม

Facebook: THE STUDY TIMES / THE STATES TIMES

YouTube: THE STATES TIMES

AQ (Adversity Quotient) ช่วยให้คุณปรับตัวได้เร็ว เมื่อโลกถูก Disruptions

AQ (Adversity Quotient) ช่วยให้คุณปรับตัวได้เร็ว เมื่อโลกถูก Disruptions คนที่รอดคือคนที่ปรับตัวได้เร็ว สามารถฟันฝ่าอุปสรรคและไปต่อได้ IQ และ EQ ไม่เพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไป

AQ (Adversity Quotient) คือ ความสามารถในการฟันฝ่าปัญหาอุปสรรค ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวในการเผชิญปัญหาได้ดี และมีความพยายามหาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างไม่ท้อถอย การเอาชนะอุปสรรคเพื่อบรรลุเป้าหมายในที่สุด

ความสามารถในการตอบสนองต่อปัญหาอุปสรรคนั้น มีทั้งความอดทนต่อความเจ็บปวด ทั้งด้านความยากลำบากทางกาย ความอดกลั้นทางด้านจิตใจ และจิตวิญญาณ ที่สามารถเผชิญและเอาชนะเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่มีความแน่นอน

ด้วยคุณสมบัติของ AQ จะช่วยให้ทุกคนมีศักยภาพในการดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

สตอลต์ (Paul G.Stoltz, Ph.D.) เป็นผู้เสนอแนวความคิด และแนวทางพัฒนาศักยภาพด้าน เอคิว (AQ) ขึ้น และปรับใช้กับวงการการศึกษา

ความเข้าใจแนวความคิดด้านเอคิว (AQ) ทำให้เข้าใจถึงวิธีที่บุคคลตอบสนองต่ออุปสรรคหรือสิ่งท้าทายตลอดทุกแง่มุมของชีวิต เปรียบได้กับการไต่เขา มีบันได 3 ขั้น ได้แก่

ขั้นที่หนึ่ง คือ การจินตนาการความเป็นไปได้ที่ดีกว่าที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ( Dream the Dream )

ขั้นที่สอง คือ แปลงสิ่งที่จินตนาการให้เป็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ( Making the Dream the Vision )

ขั้นที่สาม คือ การคงสภาพวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนนั้นจนกว่าจะดำเนินการจนบรรลุเป้าหมาย ( Sustaining the Vision )

อย่าลืมว่าหัวใจของเอคิว (AQ) คือดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ท้อถอย ดังเช่น โธมัส เอดิสัน ใช้เวลาถึง 20 ปี ทำการทดลองผลิตแบตเตอรีต้นแบบ ที่เบาทนทาน ด้วยการทดลองห้าหมื่นกว่าครั้ง มีผู้สงสัยว่าเขาอดทนทำเช่นนั้นได้อย่างไร เขาตอบว่า การทดลองทั้งห้าหมื่นครั้งทำให้เขาเรียนรู้ความล้มเหลว

ตั้งห้าหมื่นกว่าแบบ เป็นเหตุให้เขาประสบความสำเร็จดังกล่าวได้ จะเห็นได้ถึงทัศนคติที่เปี่ยมไปด้วยพลังของความอดทน ความพยายาม ไม่ท้อถอย ปรับตัวเพื่อรับมือต่ออุปสรรคนับครั้งไม่ถ้วน จนบรรลุเป้าหมาย

เทคนิคการสร้าง AQ ง่ายๆ ต้องมี Mindset อย่างไร?

“มองปัญหาให้เป็นโอกาส” คีย์สำคัญของการพัฒนา AQ

CORE

C = CONTROL สามารถควบคุมสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

O = OWNERSHIPS ความเป็นเจ้าของปัญหาอยู่ที่ตัวเรา

R = REACH คิดว่าปัญหาทุกประเภทมีทางแก้ไข ไม่ใช่หมดหนทางแล้ว

E = ENDURANCE มีความอดทน ทนทานต่อปัญหาต่างๆ มองโลกในแง่ดี ไม่วู่วาม

มาถึงตอนนี้คงจะเห็นได้แล้วว่า เอคิว (AQ) นั้น มีประโยชน์ต่อสังคมโลกอย่างไร

และหากเด็กได้รับการพัฒนาความคิดดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและสังคมอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ให้ความสำคัญต่อสิ่งนี้มาก นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาถึง อานิสงค์แห่งการคงไว้ซึ่งเอคิว (AQ) ใน 3 ลักษณะคือ

1.) ทำให้บุคคลนั้นมีความคล่องตัวอยู่เสมอ ไม่เหี่ยวเฉา กระตือรือร้นตลอดเวลา การฝึกสมองอยู่ตลอดเวลาทำให้เซลล์สมองพัฒนาการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทตลอดเวลา ทำให้มีความคิดความจำที่ดีอยู่ตลอด

2.) เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ มาติน เซลิกมาน (Martin Seligman) ได้ศึกษาตัวแทนประกันชีวิตเป็นเวลา 5 ปี พบว่าผู้มองโลกในแง่ดี มีผลงานขายประกันสูงกว่าผู้มองโลกในแง่ร้าย ถึงร้อยละ 88

3.) งานวิจัยด้านระบบจิตประสาทภูมิคุ้มกัน (Psycho- neuroimmunology) พบว่า วิธีการตอบสนองต่ออุปสรรค มีความสัมพันธ์ทางตรงกับ สุขภาพกายและสุขภาพจิต ผู้ที่มีจิตใจต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บป่วยดีขึ้น

ในอดีตที่ผ่านมา โลกของเรา ประเทศไทยของเรา ก็เคยผ่านวิกฤติมานับครั้งไม่ถ้วน เช่น สงครามโลก ภัยแล้ง โรคระบาด ทุกครั้งก็จะมีคนล้มหายตายจาก และทุกครั้งก็จะมีคนที่รอด ในครั้งนี้ โรคระบาดระลอกที่ 3 เราจะเป็นฝ่ายไหน ระหว่าง รอดกับไม่รอด

อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต จะมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเป็นทุนเดิม และคุณก็คือสิ่งมีชีวิต คุณเลือกได้ว่าจะต่อสู้ชีวิตเพื่อไปต่อ หรือจะพออยู่เพียงเท่านี้

เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์

#Talktonitima


อ้างอิงข้อมูล

https://www.stou.ac.th/study/sumrit/11-58(500)/page3-11-58(500).html

https://www.novabizz.com/NovaAce/Learning/Quatient_AQ.htm

คุณพ่ออ๊อด และน้องน้ำฟ้า คุณพ่อผู้สนับสนุนลูก ให้โดดเด่นตามศักยภาพที่แท้จริง | Click on Clever EP.12

พ่อและแม่คือครูคนแรกของลูก การเรียนรู้ศักยภาพที่แท้จริงของลูก เพื่อสนับสนุนเขาให้โดดเด่นในแบบฉบับของเขา คือสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่

.

.

คติประจำใจจาก "Jim Henson" (นักเชิดหุ่นและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน)

"Kids don’t remember what you try to teach them. They remember what you are."

"เด็กไม่จำว่าคุณสอนอะไรหรอก เค้าจำในสิ่งที่คุณเป็นอยู่"


- Jim Henson (นักเชิดหุ่นและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน)

‘โรวัน แอตคินสัน’ หรือ มิสเตอร์บีน ซุปตาร์ตลกชื่อดังของฮอลลีวูด เห็นคาแรคเตอร์ตลก ๆ แต่ใครจะรู้ว่า นอกจากผลงานการแสดงที่สร้างชื่อแล้ว โปรไฟล์ด้านการศึกษาของเขาก็ไม่ธรรมดา!!

โรวัน แอตคินสัน ซุปตาร์ตลกชื่อดังของฮอลลีวูด หลาย ๆ คนรู้จักเขาจากบทบาทการแสดงเป็น มิสเตอร์บีน ตัวละครที่มีเอกลักษณ์เปิ่น ๆ ฮา ๆ เขาเป็นตลกที่มีคุณภาพมาก ๆ คนหนึ่ง ทั้งในด้านคุณภาพฝีมือการแสดงการสร้างความบันเทิง

โดยได้รับการจัดอันดับจากหนังสือพิมพ์ดิออบเซิร์ฟเวอร์ให้เป็น 1 ใน 50 นักแสดงตลกของอังกฤษที่ตลกที่สุด และเป็นนักแสดงตลกชั้นนำ 50 คนแรกในปี 2005 จากผลการสำรวจความเห็นของผู้ที่ชมรายการตลก

นอกจากเป็นนักแสดงตลก เขายังเป็นนักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของอังกฤษ ผลงานการเขียนของเขา เช่น ซีรีส์ Not The Nine O’Clock News เป็นการเขียบทตลกแนวเสียดสี

ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนจริง ๆ ของเขาในด้านการศึกษา มีโปรไฟล์ที่ดีเยี่ยมมาก ๆ เพราะติดคาแรคเตอร์ตลก ๆ และเห็นแต่ผลงานการแสดง หลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าเขาเลือกเรียนเกี่ยวกับวิศวกรรม ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะจบปริญญาโทสาขา วิศวกรรมไฟฟ้า (MSc in Electrical Engineering) จาก The Queen’s College ของมหาวิทยาลัย Oxford เป็นมหาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และคณะวิศวกรรมที่แอตคินสันเลือกเรียนนั้นเป็นหนึ่งในคณะที่เรียนยาก แสดงว่าเขาต้องเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ มาก ๆ


ที่มา: https://campus.campus-star.com/variety/109578.html

ลูกเรียนรู้ช้า ไม่ใช่แค่ความขี้เกียจ แต่อาจมีสาเหตุมาจากความบกพร่องทางด้านสมอง แนะเทคนิคพ่อแม่ ส่งเสริมเด็กที่เรียนรู้ช้า

บางครั้งที่ลูกสอบได้รั้งท้ายของห้อง เรียนไม่ทันเพื่อน อ่านหนังสือไม่เข้าใจ พ่อแม่อาจมีความคิดว่าลูกขี้เกียจ ไม่ตั้งใจเรียน แต่สาเหตุของสิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจเสมอไป แต่เกิดจากความบกพร่องทางด้านสมอง

ครูแนน เจ้าของเพจ ครูแนนนักกิจกรรมบำบัด เล่าว่า ลูกเรียนรู้ช้า เกิดได้จาก 3 ปัจจัย 

1.) ความบกพร่องทางสติปัญญา (Intellectual Disabilities) หรือไอคิวต่ำ 

• ไอคิวต่ำ คือ ระดับไอคิวที่ต่ำกว่า 70 จัดได้ว่ามีสติปัญญาบกพร่อง
ครูแนนเล่าว่า เด็กที่มีไอคิวช่วงนี้จะแสดงให้เห็นชัดเจน พ่อแม่จึงไม่ค่อยกังวลเพราะทำใจไว้แล้ว

• ไอคิวระดับ 80 – 89 จัดได้ว่า ปัญญาทึบ
เป็นช่วงที่พ่อแม่มีความกังวลสูง เพราะจะอยู่ก้ำกึ่ง เด็กที่มีไอคิวระดับนี้ อยู่ในโรงเรียนปกติ แต่อาจสอบได้รั้งท้ายของห้อง หากผู้ปกครองทราบเร็วก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ผ่านคำแนะนำของคุณหมอหรือการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ

• ไอคิวปกติ อยู่ที่ระดับ 90 – 109 

• ไอคิว 130 ขึ้นไป จัดได้ว่า อัจฉริยะ

2.) ภาวะการเรียนรู้บกพร่อง (Learning Disabilities) เกี่ยวกับการทำงานของสมอง โดยส่วนใหญ่จะพบในเด็กชาย แบ่งได้เป็น 

• บกพร่องทางด้านการอ่าน โดยเป็นด้านที่พบได้มากที่สุด เด็กที่เป็น LD จะบอกว่า เหมือนเห็นตัวอักษรเคลื่อนไหวตลอด ซึ่งนักวิทยาศาตร์พยายามศึกษาถึงสาเหตุ เผยว่า สมองในช่วงขมับเชื่มโยงกับด้านข้าง ที่ทำงานเกี่ยวกับภาษาอย่างซับซ้อน เกิดความบกพร่อง ทำให้เกิดความยากลำบากในการอ่าน  

• บกพร่องทางด้านการเขียน ไม่ใช่เฉพาะเขียนไม่ดีเพียงอย่างเดียว เด็กที่มีปัญหาด้านนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้ทางด้านสายตา คือ มองแล้วเห็นสลับไปสลับมา เช่นเห็น ด เด็ก เป็น ค ควาย 

• บกพร่องทางด้านการคำนวณ เช่น สามารถบวกลบคูณหารได้ แต่คิดโจทย์ปัญหาไม่ได้

3.) พัฒนาการช้ารอบด้าน (Global Developmental Delay) เด็กบางคนมีการพัฒนาช้า เช่น ยังไม่นั่ง ยังไม่ยืน ยังไม่ยังไม่คลาน ยังไม่เดิน โดยอาจจะมีพัฒนาการช้าด้านอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา ไอคิว จึงเรียกว่า พัฒนาการช้ารอบด้าน 

หาจุดอ่อนและจุดแข็ง
เด็กที่เรียนรู้ช้า พ่อแม่ต้องทำการหาทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของลูก วิเคราะห์แบบเฉพาะเจาะจง เพื่อป็นเป้าหมายในการส่งเสริมความมั่นใจของเด็ก พ่อแม่ต้องเข้าไปช่วย ตั้งเป้าจากเล็กไปหาใหญ่ โดยพยายามหาจุดแข็งให้ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องเรียน แต่เน้นไปที่ความพยายาม ครูแนนเล่าว่า เด็กที่มีความต้องการพิเศษนั้น รู้ว่าพ่อแม่หวังดี และต้องการอะไรจากเขา แต่พวกเขาเองก็ต้องการการเข้าใจ และกำลังใจจากพ่อแม่เช่นกัน

ตั้งเป้าหมาย สร้างความมั่นใจให้เด็กที่เรียนรู้ช้า
1.) ฟังมากกว่าพูด ยอมให้เขาพูดระบายความรู้สึก รับฟังโดยไม่ตัดสิน
2.) เน้นในสิ่งที่พวกเขาทำได้ และไม่ตำหนิในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ อะไรที่เขาผิดพลาดให้ชวนคิด แต่ไม่ตำหนิ
3.) ชมในความพยายามมากกว่าชมในเรื่องของผลลัพธ์

เทคนิคในการส่งเสริมเด็กที่เรียนรู้ช้า 
1.) ให้แรงเสริมที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องของความพยายามของเขา
2.) พูดสั้น ๆ กระชับ แล้วให้เขาทวนกลับ
3.) จัดตารางเช็คลิสต์หรือตารางชีวิตประจำวันให้ชัดเจน
4.) สร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและเพื่อน 
5.) ทำกิจกรรมร่วมกับที่บ้านให้เยอะ 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : ลูกเรียนรู้ช้าพ่อแม่ยังไงดี
Link : https://www.facebook.com/watch/live/?v=3699317736772086&ref=watch_permalink

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย : ภารวี สุภามาลา

สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ประกาศผลสอบ GAT-PAT ปีการศึกษา 2564 แล้ว

2 ช่องทาง ประกาศผลคะแนน GAT/PAT ปีการศึกษา 2564

 

ช่องทางที่ 1 ระบบ GAT/PAT

1.) เข้าระบบ GAT/PAT ที่ http://www.gatpat.niets.or.th/GPS.Register.Web/Account/Login

2.) ไปที่เมนู ผลสอบ ของ การสอบ GAT/PAT

3.) ตรง การจัดสอบ เลือก การสอบ GAT/PAT ประจำปี 2564 (มีนาคม 2564)

 

ช่องทางที่ 2 ระบบ E-Score

เข้าระบบที่ http://escore.niets.or.th/escore/ เข้าระบบด้วย เลขประจำตัวประชาชน และ รหัสผ่านเดียวกับ ระบบ GAT/PAT

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ประกาศ การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.4 EPTS ปีการศึกษา 2564

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กำหนดรับบุคคลทั่วไปเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 โครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) ประจำปีการศึกษา 2564 ดังนี้

คุณสมบัติผู้สมัคร
1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 (โดยได้รับอนุมัติผล การจบการศึกษาก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564) 
2. เป็นผู้มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับดี (ทั้งนี้ต้องเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษ และผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่โรงเรียนกำหนด) 
3. เป็นผู้มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติเสื่อมเสียหรือการถูกตัดคะแนนด้านความประพฤติ จากสถานศึกษาเดิม 
4. เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคติดต่อร้ายแรงที่ขัดต่อการศึกษาใน สถานศึกษา 

จำนวนนักเรียนที่รับ ประมาณ 15 คน ประกอบด้วย 
แผนการเรียนที่ 1 คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ 
แผนการเรียนที่ 2 คณิตศาสตร์- ภาษาอังกฤษ 
แผนการเรียนที่ 3 ภาษาต่างประเทศ

กำหนดการรับสมัคร 
วันพฤหัสบดีที่ 22 - วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564 
กรอกข้อมูลการสมัครระบบออนไลน์ทาง www.satitpatumwan.ac.th พร้อม ชำระเงินค่าสมัครสอบ 1,000 บาท โดยพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน (ใบ pay-in) แล้วนำไปชำระเงินผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 
*การชำระเงิน pay-in ค่าสมัครผ่านธนาคารกรุงไทยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2564 เวลา 19.00 น. ถึงจะถือว่าการสมัครครบถ้วน สมบูรณ์ และเมื่อการสมัครและชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่มีการคืนเงินค่าสมัครไม่ ว่ากรณีใดๆ *

การตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบและพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ 
ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน - วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กำหนดการสอบคัดเลือก 
วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 
08.30 – 10.00 น. ภาษาอังกฤษ (สอบทุกแผนการเรียน) 
10.30 – 12.00 น. คณิตศาสตร์ (สอบเฉพาะแผนการเรียนที่ 1 และ 2) 
13.00 – 14.30 น. วิทยาศาสตร์ (สอบเฉพาะแผนการเรียนที่ 1)

ประกาศผลการสอบคัดเลือก 
วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.00 น. 
*การตัดสินผลการสอบคัดเลือก และการพิจารณารับเข้าเรียนถือการพิจารณาของ คณะกรรมการของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็นที่สิ้นสุด*

ดาวน์โหลดเอกสารการมอบตัว ใบ pay – in และชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทย 
วันจันทร์ที่ 10 – วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

มอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2564 
วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสาธิตปทุมวัน 4

อ่านประกาศฉบับเต็ม ประกาศรับสมัคร-ม.4-ปีการศึกษา-2564.pdf
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์โรงเรียน www.satitpatumwan.ac.th
 

ข่าวดี! ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบทุนเต็มจำนวน ตลอดหลักสูตร

ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Data, Tech and STEM) โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษา 100% ตลอดหลักสูตร

1. ระยะเวลาการรับสมัครทุนฯ
ช่วงรับสมัครทุนฯ รวมไปถึงช่วงของการสอบสัมภาษณ์ จะจัดขึ้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม เพื่อไปศึกษาต่อในต่างประเทศของปีนั้นๆ

เปิดรับสมัคร: วันนี้ - 30 เมษายน 2564
สัมภาษณ์: พฤษภาคม 2564
ประกาศผล: มิถุนายน 2564

2. คุณสมบัติของผู้สมัครรับทุนฯ
- อายุไม่เกิน 22 ปี นับถึงวันที่สมัครขอรับทุน
- ผลการศึกษาที่ผ่านมา อยู่ในระดับดี
- มีความประสงค์ที่จะสมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศในสาขาวิชาที่ธนาคารกำหนด

3. ขั้นตอนและวิธีการสมัครขอรับทุนฯ
- ผ่านขั้นตอนการสมัครโดยมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ธนาคารฯ กำหนด
- ผ่านการทดสอบ Online Test ตามที่ทางธนาคารฯ กำหนด
- ผ่านการสอบสัมภาษณ์จากคณะกรรมการ
- เกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินผู้มิสิทธิ์ได้รับทุนฯ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดใดยคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาและผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด

4. วงเงินอนุมัติทุนการศึกษา
- ธนาคารให้ทุนการศึกษาค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร 100%
- ธนาคารรับผิดชอบค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อการศึกษา
- ผู้ได้รับทุนจะได้รับเบี้ยเลี้ยงตามอัตราที่ธนาคารฯ กำหนดตลอดช่วงที่กำลังศึกษาอยู่

5. เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัครขอรับทุนการศึกษา
- ใบสมัครขอรับทุนฯ
- หนังสือรับรองผู้สมัครขอทุนฯ (Reference Letter)
- สำเนาใบแสดงผลการศึกษาระดับชั้นล่าสุด จำนวน 1 ชุด
- เอกสารรายละเอียดค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรจากทางสถาบันฯ
- เอกสารใบตอบรับจากทางสถาบันฯ
- สำเนาหลักฐานแสดงผลคะแนน TOEFL และ GMAT (ถ้ามี)
.
สมัครและรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
https://careers.scb.co.th/th/special-program/detail/scb-young-tech-scholarship/
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top