Sunday, 15 June 2025
POLITICS TEAM

สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ยันรัฐประหารในประเทศเมียนมา ไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การค้าชายแดนฝั่งไทย ย้ำผู้ประกอบการค้า การพาณิชย์ และการอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการตามปกติ ไม่มีผลกระทบใด ๆ

นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวถึงการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ว่ายังไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การค้าชายแดนฝั่งไทย

ซึ่งในช่วงนี้ผลผลิต พืชไร่ ในเมียนมากำลังจะมีการนำเข้ามาฝั่งไทย และในส่วนของภาคอุตสาหกรรมนั้น ผู้ประกอบการค้า การพาณิชย์ และการอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการตามปกติ ไม่มีผลกระทบใด ๆ

นายสุชาติ ตรีรัตน์รัตนา ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก และผู้ประกอบการค้ารายใหญ่ในพื้นที่ชายแดนแม่สอด กล่าวว่า ระยะแรก ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับระบบเศรษฐกิจธุรกิจ ที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ส่วนระยะยาวคงต้องดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ล่าสุดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ได้มีประชาชนได้มีการประท้วงกองทัพอย่างสงบ โดยแสดงออกถึงสัญญาลักษณ์การต่อต้านเท่านั้น

ครม.ปรับเกณฑ์ ‘เราชนะ’ อีกรอบ เปิดให้ร้านธงฟ้า - รถเร่ขายของ - สามล้อถีบ ร่วมโครงการได้ ลงทะเบียนถึง 12 ก.พ. แต่ห้ามใช้ซื้อทองคำ - อัญมณี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบมาตรการเยียวยาประชาชนในโครงการ "เราชนะ" ซึ่งทางสภาพัฒน์ฯได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย โดยสาระสำคัญคือ เดิมผู้ประกอบการที่เป็นธงฟ้าอาจจะมีข้อที่ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า ถ้าเป็นนิติบุคคลจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนถ้าเป็นธงฟ้าในรูปนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการได้

นอกจากนี้ ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งสามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ และผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน กองทุนชุมชนเมือง หรือผู้ประกอบการของชุมชนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นเดียวกัน รวมถึงผู้ประกอบการที่สามารถตรวจสอบหลักแหล่งได้แต่เป็นประเภทรถ เช่น สามล้อถีบก็สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งทั้งหมดสามารถไปลงทะเบียนร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์เราชนะตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 นี้

นายอนุชา กล่าวว่า "สำหรับกรณีที่จะใช้เงินในโครงการเราชนะไปซื้อสินค้า เช่น ทองคำ หรือร้านค้าที่ขายของประเภทของเก่าที่ขายพวกเพชร พลอย ทอง นาค เงิน หรืออัญมณี อันนี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ เนื่องจากดูแล้วไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพ"

เมื่อกรณีค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง กลายเป็นปัญหาใกล้ตัวที่คนกรุงเตรียมต้องเจอ หลังสเกลราคาเต็ม Max ตลอดสาย จะอยู่ที่ 104 บาท เริ่ม 16 ก.พ.2564 ทาง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จึงได้ออกมาเปิดแนวทางแนะวิธีช่วยลดค่าโดยสารให้ถูกลง

เมื่อกรณีค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง กลายเป็นปัญหาใกล้ตัวที่คนกรุงเตรียมต้องเจอ หลังสเกลราคาเต็ม Max ตลอดสาย จะอยู่ที่ 104 บาท เริ่ม 16 ก.พ.2564 ทาง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จึงได้ออกมาเปิดแนวทางแนะวิธีช่วยลดค่าโดยสารให้ถูกลงได้อย่างน่าสนใจผ่านเฟซบุ๊ก ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ว่า...

เรื่องอัตราค่าโดยสารใหม่ของ BTS คงเป็นเรื่องกังวลใจของพวกเราหลาย ๆ คน เพราะจำนวนคนที่ใช้รถไฟฟ้า BTS ก่อนโควิด มีถึงเกือบ 700,000 คนเที่ยวต่อวัน

แล้วมีทางไหนไหม ที่จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง?

วิธีหนึ่งที่หลาย ๆ ประเทศในโลกใช้กัน คือ เพิ่มรายได้ในส่วนของ Non-Fare

รายได้จากกิจการรถไฟฟ้าหรือ กิจการขนส่งทั่วๆ ไป เราอาจมีรายได้ในสองรูปแบบ คือ...

1.) Fare Revenue รายได้จากค่าตั๋วโดยสาร

2.) Non-Fare Revenue รายได้จากกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าโฆษณา ค่าเช่าพื้นที่ ประโยชน์จากการเชื่อมต่อสถานี

จำนวนผู้โดยสารที่ผ่านระบบมากถึง 700,000 คน - เที่ยวต่อวัน ทำให้พื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้า ในขบวนรถไฟฟ้า ราวจับ รวมถึงรอบตัวรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งเสาโครงสร้างรถไฟฟ้า มีมูลค่าสำหรับการโฆษณาสูงมาก

เราคงจะไม่เห็นพื้นที่ไหนที่มีการโฆษณามากเท่ากับพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าแล้ว

อย่างในกรณีของ MTR ของฮ่องกง ในปี 2017 มีรายได้จาก Fare Revenue 63% และ Non-Fare Revenue 37%

สำหรับในส่วนของกทม. ผมเชื่อว่าถ้าเราบริหารจัดการให้ดี ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนให้ดี เราสามารถนำรายได้ในส่วนของ Non - Fare มาช่วยเสริมรายได้จากค่าโดยสารอีกไม่น้อยกว่า 20%

จากข้อมูลของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เราพอจะหารายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อเปรียบเทียบคร่าวๆ ได้ดังนี้

รายได้จากค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ในส่วนสายหลักระยะทาง 23.5 กิโลเมตร (สายสุขุมวิท จากสถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุชและสายสีลม จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีสะพานตากสิน) ในปี 2562 - 2563 เก็บค่าโดยสารได้รวม 6,814.24 ล้านบาท

ในขณะที่รายได้จากการโฆษณาและให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีรถไฟฟ้า BTS ในปี 2562 - 2563 สูงถึง 2,183.89 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้จากค่าโดยสาร

ในอนาคต เมื่อสัมปทานปัจจุบันสิ้นสุดลง ถ้าเรามีการประมูลที่โปร่งใส ยุติธรรมกับทุกฝ่าย มีการนำรายได้อื่นๆ จากรถไฟฟ้ามาช่วยสนับสนุนค่าโดยสาร จะช่วยทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลงได้ครับ


ที่มา: https://www.facebook.com/532747176786139/posts/3864920170235473/

‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในนามพรรคพลังประชารัฐอีกรอบ หวังล้างตาสำเร็จ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 เดินทางมาเปิดตัวแสดงความพร้อม ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้มาแสดงความจำนง เพื่อขอลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนที่กรรมการบริหารพรรคจะประชุมเพื่อเลือกตามขั้นตอน โดยพร้อมแข่งขันไม่ว่าจะเป็นกับพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ เพราะคือวิถีทางประชาธิปไตย ที่จะต้องมีการเลือกตั้ง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

โดยไม่ได้คิดว่าจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือก ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น และส่วนตัวก็รู้จักนายเทพไท และน้องชายของนายเป็นอย่างดี เพราะทำงานในพื้นที่ก็ได้เจอกัน ส่วนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนได้คะแนนห่างจากนายเทพไท ไม่มาก ในครั้งนี้จึงเชื่อมั่นว่าประชาชนจะไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามว่าบรรยากาศการเลือกตั้งจะดุเดือดหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจะรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ นายอาญาสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการรักษาแชมป์ เพราะไม่ใช่นักมวย แต่มองว่าเป็นเรื่องของการทำงาน วัดกันที่ความดี ความสามารถ และประชาชนให้ความเชื่อถือ จึงขอเสนอตัวลงแข่งขันในครั้งนี้ และไม่กังวลว่าจะถูกกลั่นแกล้ง เพราะยึดหลักธรรมะ ปฏิบัติและพูดความจริง ไม่ไปกลั่นแกล้งใครและจะไม่ทำอะไรที่ขัดหลักประชาธิปไตย และขณะนี้ยังไม่ได้ไปแสดงตนที่จะลงสมัครกับพล.อ.ประวิตร เพียงแต่ทำตามขั้นตอนปฎิบัติเท่านั้น และไม่ทราบว่าพรรคจะเลือกใครลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ วันนี้เดินทางมาที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ก็เพื่อพบปะกับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ และยังไม่ได้พบกับพล.อ.ประวิตร

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ โต้ ‘ณฐพร โตประยุร’ เลอะเทอะ ไร้สาระ หลังยื่น กกต.ยุบพรรคก้าวไกล เหตุส.ส.ของพรรคใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 ชี้เป็นแค่คนในระบอบสืบทอดอำนาจ คสช. ที่ออกมาหาเรื่องเท่านั้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถึงกรณีที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นกกต.ยุบพรรคก้าวไกล ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 โดยระบุว่า

เลอะเทอะ

ผมได้ติดตามข่าวและได้อ่านเอกสารคำร้องที่คุณณฐพร โตประยูร ที่ได้ส่งให้ กกต. แล้ว ผมไม่มีอะไรจะพูดอะไรมาก นอกจากคำว่า ‘เลอะเทอะ’ และ ‘ไร้สาระ’

คุณณฐพร โตประยูร ชื่อคุ้นๆ เพราะเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวของกับคดีฟอกเงินที่ดินคลองจั่นเกือบ 5 ร้อยล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนระบอบสืบทอดอำนาจ คสช. และเขาก็ยังเป็นคนเดียวกับที่เคยยื่นให้ยุบพรรคอนาคตใหม่คดี ‘อิลูมินาติ’ ด้วย ซึ่งในคดีนั้นก็จบลงที่ศาลวินิจฉัยไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากไม่ได้มีการล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองแต่อย่างใด

คำร้องยุบพรรคที่คุณณฐพรเขียนมาวันนี้ ข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างมาก็ไม่มีส่วนไหนเลยที่สนับสนุนสิ่งที่ตัวเองกล่าวหา ซึ่งอ่านทั้งหมดแล้วก็รู้สึกว่าไร้สาระยิ่งกว่าคดี ‘อิลูมินาติ’ เสียอีก ดังนั้น ทางผมและพรรคกำลังพิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณณฐพร โตประยูร ในความผิดมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560

ในข้อหาที่ว่า “ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น...”

สุดท้ายนี้ เมื่อดูภาพรวมประกอบบริบทสถานการณ์แล้ว การยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกลแบบนี้ คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากความตั้งใจก่อกวนให้พวกเราเสียสมาธิในการทำงาน และเบี่ยงประเด็นกลบเกลื่อนความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาล ที่จะถูกแฉในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้

ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน อย่าลืมติดตามการประชุมสภาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป พรรคก้าวไกลพร้อมอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ พวกเรายืนยันจะทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ภาษีทุกบาททุกสตางค์ต้องถูกใช้อย่างคุ้มค่าและโปร่งใส

ครม.ไฟเขียวแก้กฎกระทรวงให้ ใส่ชื่อตัวเอง บนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ระบุให้ มีตัวอักษรผสมสระ และ วรรณยุกต์ ได้ เล็งเปิดประมูลเป็นการทั่วไป นำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หลัง "ขนส่ง" ประกาศใช้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบหลักการกำหนดแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ โดยกำหนดให้ผู้ที่อยากมีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่มีชื่อของตัวเองสามารถมีได้

หลังจากครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกจะไปออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของกฎหมาย เป็นการกำหนดให้ลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือ วรรณยุกต์ หรือตัวเลขได้ เพื่อนำลักษณะแผ่นป้ายดังกล่าวและหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่นิยมหรือเป็นที่ต้องการของประชาชนออกเปิดประมูลเป็นการทั่วไป เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ทั้งนี้ในปัจจุบันได้มีการกำหนดลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จะแบ่งออกเป็น 2 บรรทัด บรรทัดที่ 1 ประกอบด้วยตัวอักษรประจำหมวดตัวที่ 1 ตัวอักษรประจำหมวดตัวที่ 2 และหมายเลขทะเบียนไม่เกิน4หลัก บรรทัดที่ 2 เป็นตัวอักษรแสดงชื่อจังหวัด

"อย่างเช่นชื่อไตรศุลี ก็สามารถใส่เป็น ไตรศุลี 1 ศรีสะเกษ ได้" นางสาวไตรศุลี กล่าวยกตัวอย่าง

“บิ๊กป้อม” มึน แคนดิเดตผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช จ่อตบเท้าเข้าพบ โวยสื่อรู้ได้ไงทั้งที่ตนยังไม่เคยเจอเลย เผยเตรียมหารือเรื่องนี้กับกรรมการบริหารพรรค 4 ก.พ. นี้ ยัน ไม่แตกคอพรรคประชาธิปัตย์ หลัง ‘จุรินทร์” ออกมาระบุแกนนำรัฐบาลควรหลีกทาง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่มีข่าวว่าในส.ส.นครศรีธรรมราช และส.ส.ภาคใต้ของพรรคบางส่วน จะพานายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ไปเปิดตัวที่พรรคพลังประชารัฐ และจะนำเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ว่า “สื่อรู้ได้อย่างไร ผมยังไม่เจอเขาเลย สื่อที่ไหนรายงาน และการจะพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ จะต้องรอประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 4 ก.พ.นี้

ส่วนกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากเป็นแกนนำรัฐบาลจะให้เจ้าของพื้นที่เดิมส่งผู้สมัคร โดยไม่ส่งผู้สมัครแข่ง รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา จะไปรู้ด้วยได้อย่างไร สื่อถามอย่างนี้จะตอบอย่างไร เพราะไม่ได้ถามเรื่องของตน และเรื่องนี้เป็นเรื่องประชาธิปไตย ย้ำว่าที่ผ่านมาผู้สมัครของเราก็แพ้ไม่กี่พันคะแนน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาบานปลายกับพรรคประชาธิปัตย์ มีแต่พวกสื่อนี่แหละที่จะพูดและถามให้เป็นปัญหา เพราะเขาก็ระบุว่าใครจะลงสมัครก็ได้

เมื่อถามว่าต้องคุยกับนายจุรินทร์หรือไม่ เรื่องการส่งผู้สมัคร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะคุยอะไรก็พูดอยู่นี่ และคุยอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ไม่ต้องตกลงอะไรกัน เมื่อถามย้ำว่าถ้าพรรคพปชร.หลีกทางไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครฯ แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะหลีกทางไม่ส่งผู้สมัครสมัครผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่คิดจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ดังนั้นจะมาส่งในนามพรรคได้อย่างไร

ส่วนกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้องเรียนว่าถูกผู้บังคับบัญชาเรียกรับเงินโดยอ้างว่าเป็นเด็กเส้นของผู้ใหญ่ในรัฐบาล ว่า “เป็นเรื่องของเขา เขาทำด้วยตัวเขาเอง แล้วจะให้ผมทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมากำชับตลอดเวลา ซึ่งแต่ละคนเขาก็คิดไม่เหมือนกัน”

‘บิ๊กตู่’ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแลผู้ได้รับผลกระทบโควิดทุกกกลุ่ม มอบหน่วยงานออกมาตรการเก็บตกเป็นระยะ พร้อมสั่งคืนเงินผู้ปกครอง ถ้าพบเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง ช่วงเรียนออนไลน์

‘บิ๊กตู่’ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแลผู้ได้รับผลกระทบโควิดทุกกกลุ่ม มอบหน่วยงานออกมาตรการเก็บตกเป็นระยะ พร้อมสั่งคืนเงินผู้ปกครอง ถ้าพบเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง ช่วงเรียนออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การหารือวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้ง เรื่องวัคซีน การจัดสรรงบประมาณ และเรื่องแรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหากฎหมาย ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไปพิจารณาตรงนี้จะเห็นมาตรการต่างๆ ออกมา และไปเก็บตกในส่วนที่มีปัญหาอยู่ จึงจำเป็นต้องทยอยดำเนินการไปเป็นระยะ

ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือผู้ปกครอง โดยเฉพาะปัญหาการเรียกเก็บค่าเทอม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปิดให้มีการเรียนออนไลน์แต่เก็บค่าเทอมและค่าใช้จ่ายเต็ม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้มีการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีอะไรที่เกินความจําเป็นก็จะคืนเงินผู้ปกครองต่อไป โดยเฉพาะค่าจ่ายที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในการเรียนออนไลน์ เช่นค่าอาหารและค่ารถ

ขณะที่มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว

"จะเห็นได้ว่ามีมาตรการต่างๆทยอยออกมาเรื่อย ซึ่งเป็นการเก็บตกที่จะมีการออกมาตรการเรื่อย ๆ เป็นระยะ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

รมว.คมนาคม ระบุ จ่อชงแผนปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ 162 เส้นทาง รองรับการขยายตัวของเมือง เชื่อมต่อระบบขนส่งอื่นในอนาคต คาดนำเข้าครม.พิจารณาพร้อมแผนฟื้นฟูขสมก

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2564 วานนี้ (1 ก.พ. 2564) ว่า ที่ประชุม คจร.เห็นด้วยกับแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 162 เส้นทาง แบ่งเป็น เส้นทางของ ขสมก. จำนวน 108 เส้นทาง และเส้นทางของเอกชน จำนวน 54 เส้นทาง เพื่อพัฒนาโครงข่ายเส้นทางรองรับการขยายตัวของเมือง และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นตามความจำเป็นในอนาคต

อย่างไรก็ตามในส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความเป็นห่วงผู้ที่มีรายได้น้อย และเคยเสียค่าโดยสารน้อยกว่า 30 บาท จะทำอย่างไรนั้นมองว่า เป็นประเด็นเดียวกับที่กระทรวงคมนาคมให้การดูแลอยู่แล้ว โดยเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เป็นผู้พิจารณาค่าโดยสาร

โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ คือ ตั๋วเที่ยวเดียว ราคา 15 บาท ซึ่งคิดราคาบนพื้นฐานอัตราค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศตามระยะทางในปัจจุบัน (ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ. 2561) ราคาค่าโดยสารขั้นต่ำสุดสำหรับรถปรับอากาศ (ใหม่) คิดที่ ระยะทาง 0 - 4 กม. ราคา 15 บาท

"มติที่ประชุม คจร. ให้เพิ่มเติมข้อความเกี่ยวกับราคาค่าโดยสาร เป็นราคาค่าโดยสาร 30 บาท/วัน และให้คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณากำหนดราคาค่าโดยสารให้เหมาะสมกับทุกกลุ่ม" นายศักดิ์สยาม กล่าว

รายงานข่าวข่าวแจ้งว่าสำหรับแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 162 เส้นทาง นั้นกระทรวงคมนาคมจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาพร้อมแผนฟื้นฟู ขสมก.

อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ‘ณฐพร โตประยูร’ ยื่น กกต. ยุบพรรคก้าวไกล ปมประกันตัวม็อบแก้ ม.112 ระบุเป็นพฤติกรรมปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ยันหลักฐานชัดเจนครบถ้วน

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้กกต. พิจารณาวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกลมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จากกรณีการแสดงความเห็นทางการเมือง การเข้าร่วมกับผู้ชุมนุม และการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

รวมทั้งกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112, ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560, และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับไอลอว์ ซึ่งการกระทำของพรรคก้าวไกล ถือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย และเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

นายณฐพร กล่าวว่า ที่มายื่นร้องเนื่องจากพรรคก้าวไกลมีการกระทำใน 2 ประเด็น ยุยงส่งเสริม สนับสนุนให้มีการชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และมีการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 มีการเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งการกระทำเหล่านี้ตนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมานาน และมีหลักฐานครบทั้งหมด จึงมายื่นให้ กกต.พิจารณา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าหลักฐานดังกล่าวเป็นความผิดที่สามารถสั่งยุบพรรคได้หรือไม่

ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นการตรวจสอบการทำงานของพรรคการเมือง ในฐานะประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 51 กำหนด ส่วนที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการประกันตัวผู้ต้องหาและการเสนอแก้ไขกฎหมายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ตนขอถามกลับว่าหากตนไปหมิ่นประมาท แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.พรรคก้าวไกลจะประกันตัวให้ตนหรือไม่ ส่วนการแก้ไขมาตรา 112 การเป็นนักการเมืองจะทำอะไรก็ต้องศึกษา ว่ามาตราดังกล่าวมีผลร้ายต่อประเทศและประชาชนอย่างไร และกฎหมายมาตรานี้ไม่ใช่เพิ่งมีแต่มีมานานแล้ว และทั่วโลกก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุข เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาชุมนุมกัน ซึ่งการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ไม่ใช่เพียงเรื่องการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อขอแก้ไขกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีการโยงใยไปถึงการล้มล้างระบอบการปกครองซึ่งเรามีหลักฐาน

“พฤติกรรมหลายๆอย่างที่ทำมา มันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเช่น หัวหน้าพรรคก้าวไกลยื่นประกันตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความที่ละเมิดต่อมาตรา 6 ของกฎหมายอาญา ซึ่งการไปประกันตัวบุคคลพวกนี้ถือว่าละเมิดหรือไม่ แม้จะอ้างว่าศาลยังไม่ตัดสินแต่ความผิดซึ่งหน้ามันชัดเจนว่าทำผิด และยังมีการละเมิดสิทธิบุคคลอย่างกรณีสถาบันถูกละเมิดอย่างแรง กรณีการฉีกรูปพระบรมฉายาลักษณ์ อย่างไรก็ตามบอกได้เลยที่มายื่นวันนี้หลักฐานชัดเจน ไม่มีหลักฐานที่คลุมเครือ อันไหนที่ต้องตีความกันเราไม่ยื่น เอกสารหลักฐานต่างๆเราขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเรื่องการโอนเงินก็มีหลักฐานว่าพวกที่ชุมนุมได้เงินจากใคร ใครโอนเงินให้ ใครจ่ายเงินให้ จ่ายเงินที่ไหน เรามีหลักฐานครบทุกอย่าง ทั้งนี้เราเชื่อว่าเราจะพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าที่เรายื่นไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่มีหลักฐานเพียงพอ” นายณฐพร กล่าว

นายณฐพร ยังยืนยันว่า การยื่นยุบพรรคก้าวไกลในวันนี้ไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัวกับใคร แต่ทำในฐานะประชาชนที่มีหน้าที่ ที่รวบรวมพยานหลักฐานมานาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อนการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญตนก็ยื่นเสนอศาลรัฐธรรมนูญทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เราเอากฎหมายเป็นหลัก บ้านเมืองมีกฎหมายถ้าเรายกการบังคับใช้กฎหมายให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ก็จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ต้องจ้องยุบพรรค แต่มีกฎหมายชัดเจนว่าการทำหน้าที่ส.ส. ไม่ใช่จ้องล้มล้างสถาบันเพื่อจะเอาใจคนใดคนหนึ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top