Thursday, 12 June 2025
POLITICS TEAM

กระบี่-ปลุกพนักงานโรงแรมดัง สู้ ไวรัสโควิด - 19 นำเมนูอาหารก้นครัว เปิดตลาดนัดขายในราคาต้นทุน สร้างรายได้ช่วงนักท่องเที่ยวหดหาย

พนักงาน รร.โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมตัวกันนำสินค้าชนิดต่าง ๆ ทั้งอาหาร คาวหวาน เปิดตลาดนัด ริมชายหาดเกาะกวาง ม.3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชน ที่ผ่านไปมา โดยอาหารที่ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยว เป็นร้านจำหน่ายอาหาร ของโรงแรมโซฟิเทล ที่ได้นำขนม ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของโรงแรม มาจำหน่ายราคาต้นทุน โดยมีนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมตลาดนัดและให้กำลังใจ

นายสมศักดิ์ เตบบุตร ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองทะเล กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ กระทบกับการท่องเที่ยวอย่างหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่ มีจำนวนน้อยมาก ส่งผลให้โรงแรมที่พักหลายแห่งในจังหวัดกระบี่และในพื้นที่ชายหาดเกาะกวาง ต้องปิดกิจการ หรือต้องเลิกจ้างพนักงาน และบางแห่งก็มีการลดเงินเดือนพนักงานเพื่อความอยู่รอดของสถานประกอบการ จึงทำให้พนักงานหลายคนต้องประสบกับความเดือดร้อนเงินเดือนไม่พอกับค่าครองชีพในแต่ละเดือน จึงได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรมโซฟิเทลฯ เพื่อเปิดพื้นที่ให้พนักงานโรงแรมและชาวบ้าน ได้มีรายได้เพิ่ม จึงได้ขออนุญาต จากทางหลวงชนบท ใช้ฟุตบาทถนนริมชายหาด เปิดเป็นตลาดนัด ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00 น. เปิดมาได้ 2 ครั้ง ได้รับความสนใจจากพนักงานโรงแรมและชาวบ้าน นำสินค้ามาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก

นายจักรภัทร พิมลเกตุ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล รร.โซฟิเทลฯ กล่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะให้พนักงานเปิดตลาดนัดภายในโรงแรม โดยนำเมนูอาหารของโรงแรมมาจำหน่ายซึ่งรายได้ก็จะแบ่งกับให้พนักงานแต่หลังจากที่มีการพูดคุยกับผู้นำในพื้นที่ก็ได้ข้อตกลงกันว่าเปิดในพื้นที่สาธารณะดีกว่าเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาจับจ่ายสินค้าได้อย่างสะดวก จึงได้ทำการขออนุญาตเปิดริมฟุตบาตของชายหาดที่อยู่หน้าโรงแรม แจ้งเบื้องต้นก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมาเลือกซื้ออาหารและสินค้าที่จำหน่ายกันอย่างคึกคัก

สำหรับเมนูอาหารที่ทางพนักงานของโรงแรมนำมาจำหน่าย จะเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของโรงแรมโดยจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อให้ทุกคนสามารถจับต้องได้บาท ซึ่งเงินที่ได้ทางโรงแรมก็จะจัดสรรปันส่วนแบ่งให้กับพนักงานเพื่อเป็นรายได้ต่อไป


กระบี่ /// ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุระทึกขวัญที่ผู้คนทั้งประเทศต่างติดตามกันตลอดทั้งวัน เมื่อสถานีข่าวแทบทุกสำนัก รายงานข่าวว่า มีชายผู้หนึ่งนำอาวุธชนิดร้ายแรง ไล่กราดยิงผู้คนจนถึงแก่ความตายเป็นว่าเล่น

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา เป็นทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เจ้าตัวเกิดบันดาลโทสะ ยิงหัวหน้าสังกัดของตัวเองตาย ก่อนจะบุกเข้าไปขโมยอาวุธร้ายแรงในค่ายเพิ่มเติม แล้วออกเที่ยวไล่ยิงผู้คนที่ผ่านไปมา

ต่อมาเขาเดินทางไปยังห้างเทอมินอล 21 โคราช แล้วนำอาวุธกราดยิงผู้คน พร้อมกับใช้เฟซบุ๊กในการจับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ภายนอก และจับตัวประกันเอาไว้ 16 คน

เมื่อเวลาผ่านไปกว่าค่อนคืน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันในห้าง พร้อมยิงปะทะกับคนร้าย สุดท้ายคนร้ายถูกวิสามัญได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก่อนฟ้าสางของวันใหม่

จากเหตุการณ์ระทึกขวัญกว่า 17 ชั่วโมงนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 31 ราย (นับรวมทั้งเจ้าหน้าที่, ประชาชน และผู้ก่อเหตุ) และมีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 57 ราย นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่หลายฝ่ายต้องหันกลับทบทวนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนดูแลคนใกล้ตัวเรื่องปัญหาสภาพจิตใจ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุการณ์ร้ายๆ และสังคมต้องพบกับความสูญเสียเช่นนี้อีก

ยังไม่ทราบชะตากรรม 3 นักปีนเขา ที่ขาดการติดต่อกว่า 50 ชั่วโมง หลังพยายามพิชิตยอดเขา เคทู (K2) เทือกเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

จากกรณีที่นักปีนเขา 3 ราย ขาดการติดต่อกว่า 50 ชั่วโมง บริเวณเทือกเขา K-2 ล่าสุด Supinda Bunkoed ได้โพสต์เฟซบุ๊กอัพเดทปฏิบัติการค้นหา โดยระบุว่า

ข่าวร้ายมาหลายวัน ขอภาวนาให้ทุกท่านปลอดภัย

เฮลิคอปเตอร์สองลำของกองทัพปากีสถาน ได้เริ่มภารกิจค้นหาและกู้ภัย เพื่อค้นหานักปีนเขาสามคนที่หายไป ซึ่งประกอบด้วย Ali Sadpara, John Snorri และ Juan Pablo ที่ K-2 (จอนห์นี่ สนอรี่ เป็นเพื่อนของคุณทันเวียร์ นักปีนเขาชาวไอซ์แลนด์ด้วย)(ส่วนคุณอาลี ซัปพารา คนนี้ปลารู้จักเคยเจอกันระหว่างทางตอนออกทริป เป็นนักปีนเขาอันดับ 1 ของปากีสถาน)

นักปีนเขาทั้งสาม ขาดการติดต่อเป็นเวลากว่า 50 ชั่วโมง ในความพยายามครั้งสุดท้ายในการปีนยอด K-2 เทือกเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก

เฮลิคอปเตอร์ทำงานหนักมาก แต่ยังไม่พบนะคะ

อากาศช่วงนี้ ปลาบอกเลยว่าลมแรงและมีเมฆหนามาก

ขอเป็นกำลังใจให้หน่วยงานทหารปากีสถานหานักปีนเขาที่หายไปให้เจอ


ที่มา : FB : Supinda Bunkoed

‘บิ๊กตู่’ กำชับกรมการค้าภายใน ควบคุมราคาสินค้าช่วงตรุษจีน พร้อมสั่งตรวจตราทั้งออนไลน์ - ออฟไลน์ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ก.พ.นี้ โดยประชาชนนิยมออกไปเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบพิธีในการไหว้บรรพบุรุษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ดูแลควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ตรวจตราป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน พร้อมกำชับให้ร้านค้า ต้องปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อง่ายในการตรวจสอบราคาและความสะดวกของประชาชน นอกจากนี้ การไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ยังมีโทษตามกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ประเมินว่า ประชาชน จะเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น นายกรัฐมนตรี จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยตรวจสอบทั้งราคาและการโฆษณาเกินจริง ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค รวมถึงป้องกันมิจฉาชีพ โฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงประชาชน จึงให้ประชาชน ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนเลือกซื้อสินค้า หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) 1166

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในวันตรุษจีน วันที่ 12 ก.พ. นี้ รัฐบาลกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เชิญชวนประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการหมุดเวียนของเม็ดเงิน กระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด – 19 เพิ่มเติมอีก 2 คน ระบุเป็นผู้ที่อยู่ห้องติดกับผู้ป่วยรายแรกก่อนหน้านี้ และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกัน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ฉบับที่ 2/2564 ลงวันที่ 6 ก.พ. 64

ใจความว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ได้รับแจ้งว่ามีบุคลากรติดเชื้อโควิด-19 ดังประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน โควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ฉบับที่ 1/2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และขณะนี้บุคลากรคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคลากรคนดังกล่าวให้เข้ามารับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ และพบว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 2 คน ซึ่งพักอยู่ห้องติดกับผู้ป่วยรายแรกและมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกัน

คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 จึงกำหนดมาตรการในดำเนินการดังต่อไปนี้

1. สอบสวนโรคผู้ป่วย 2 คนใหม่โดยเร็วที่สุด

2. ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย 2 คนดังกล่าวให้เข้ามารับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ โดยทันที

3. สอบสวนวงจรการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยดังกล่าวเพื่อกำหนดให้ผู้ที่มีความเสี่ยงภายในระยะเวลา 14 วัน ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ลาหยุดเพื่อกักบริเวณดูอาการเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา และสามารถขอรับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริหารสุขภาพ จุฬาฯ โดยมหาวิทยาลัยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

4. ให้สำนักบริหารระบบกายภาพฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดตามมาตรฐานทางสาธารณสุขทั่วพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกรอบหนึ่ง

โดยมหาวิทยาลัยจะได้ดำเนินการมาตรการอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในฉบับที่ 1 ต่อไปด้วย

ทั้งนี้ตามแนวทางของกรมควบคุมโรค ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและต้องไปตรวจคัดกรองโรค คือ สมาชิกในครอบครัวเดียวกันกับผู้ป่วยที่มีการใกล้ชิดกัน ผู้ที่ได้พูดคุยกับผู้ป่วย 5 นาทีขึ้นไป ผู้ที่ผู้ป่วยมีอาการไอ จาม รด และผู้ที่อยู่ในสถานที่อับอากาศกับผู้ป่วยเกิน 15 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย สำหรับพฤติการณ์อื่น ๆ เช่น การพักอยู่อาคารเดียวกันกับผู้ป่วย การใช้พื้นที่สาธารณะเดียวกันกับผู้ป่วยนั้นมิได้เป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงสูง จึงไม่ควรตระหนกแต่ควรระมัดระวัง รักษาความสะอาด ไม่ไปในที่สาธารณะ และหมั่นประเมินสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ

ทัพบก เผย ยอดผู้สมัครเป็นทหารแบบออนไลน์ ต่อเนื่อง 6 วัน 1,466 คน ระบุ บางหน่วยมีผู้ยื่นความประสงค์ ขอเข้าประจำการเต็มจำนวนยอดทหารแล้ว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ กองทัพบก เปิดรับสมัครทหารกองเกินอายุ 18- 20 ปี และอายุ 22-29ปี สมัครเป็นทหารกองประจำการเป็นกรณีพิเศษ ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเว็บไซต์ เพื่อพัฒนาการตรวจเลือกให้สู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ตามแนวทางของกระทรวงกลาโหมและเปิดโอกาสให้ต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพนั้น

ข้อมูลการรับสมัคร 6 วันที่ผ่านมาพบว่า มีชายไทยสนใจเข้ายื่นความประสงค์อย่างต่อเนื่องกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคโดยส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบออนไลน์ด้วยตนเอง มีบางส่วนเดินทางมาประสานและขอใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จากหน่วยทหารหรือเจ้าหน้าที่สัสดีประจำอำเภอ/จังหวัด

โดยในช่วงวันที่ 1-6 ก.พ.64 มีจำนวนผู้สมัครเข้าสู่ระบบออนไลน์แล้ว 1,466 คน แยกเป็น กองทัพภาคที่ 1จำนวน 365 คน กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 405 คน กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 304 คน และกองทัพภาคที่ 4 จำนวน 392คน และผู้สมัครส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 18 - 20 ปี นอกจากนี้ มีบางหน่วยที่มีผู้ยื่นความประสงค์ขอเข้าประจำการเต็มจำนวนยอดทหาร

ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์นี้ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้มอบให้เจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอและจังหวัดลงพื้นที่ระดมประชาสัมพันธ์การรับสมัครทหารกองประจำการกรณีพิเศษแบบออนไลน์นี้ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับทหารกองเกิน และประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ผ่านเครือข่ายต่างๆในแต่ละพื้นที่ ทางสถานีวิทยุ สวท.ประจำจังหวัด วิทยุชุมชน เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล สถาบันการศึกษา การแจกเอกสาร การติดตั้งสื่อประชาสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเชิญชวนและส่งผ่านข้อมูลการรับสมัครให้เข้าถึงชายไทยที่มีคุณสมบัติได้พิจารณาอย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ สำนักงานสัสดีพื้นที่ต่างๆยังได้อำนวยความสะดวกให้คำแนะนำในการลงข้อมูลผ่านระบบออนไลน์กับผู้สมัครที่เดินทางมาติดต่อสอบถามที่สำนักงานสัสดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการรับสมัครจะยังคงมีต่อเนื่องจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านเว็บไซต์ rcm64.rta.mi.th

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะสมัคร ขอให้ได้อ่านคู่มือคำแนะนำและศึกษาเรื่องสิทธิคุณสมบัติให้ครบด้วนเป็นลำดับแรกก่อนที่จะกรอกข้อมูลสมัคร และเมื่อผู้สมัครได้กรอกข้อมูลในระบบครบถ้วนแล้วจะได้รับ “แบบตอบรับผลการรับสมัคร(แบบ กสด.64-1 )” นัดหมายไปเข้ารับการคัดเลือก ที่มณฑลทหารบก ที่เจ้าตัวสมัครไว้ในวันที่ 5 มีนาคม 2564 ต่อไป

กองทัพบกจึงขอเชิญชวน ทหารกองเกิน อายุ 18-20 ปี เกิด พ.ศ. 2644-2546 และผู้ที่มีอายุ 22-29 ปี เกิด พ.ศ.2535-2642 ที่ผ่านการตรวจเลือกแล้วแต่ไม่ได้เข้าประจำการเนื่องจากจับได้ “สลากดำ” หรือได้รับการ ”ปล่อยตัวเพราะมีผู้ร้องขอพอ”

โดยผู้ที่อยู่ในช่วงอายุข้างต้น สามารถสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ กรณีพิเศษ ทางออนไลน์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลชาติ พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และมีโอกาสต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพต่อไป “ สมัครเป็นทหาร มีงานมีความรู้ ร่วมดูแลแผ่นดิน”

‘เพื่อไทย’ เปิดตัวโครงการ ‘The Change Maker’ เฟ้นหาคนรุ่นใหม่ หาทางออก-สร้างความหวังประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของประเทศไทย

พรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการ “The Change Maker : นวัตกรรมทางการเมืองที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” (people-centric) ผ่านกิจกรรม “แฮกกาธอน” (Hackathon) หรือการสร้างนวัตกรรมแบบเร่งด่วน มาใช้ในการพัฒนาทางการเมืองจัดการเรียนรู้ผ่าน Interactive workshops หรือการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ แก้โจทย์ทางการเมือง โดยการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ 100 คน เข้าร่วมกระบวนการออกแบบนโยบายร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมลงพื้นที่จริงกับ ส.ส.ในพื้นที่ ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจริงตั้งแต่เริ่มเสนอปัญหา ไปสู่โปรเจคทดลอง (Pilot Project) เพื่อแก้ปัญหาระดับชาติได้จริงในอนาคต

นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โครงการ The Change Maker เป็นอีกก้าวหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยจะ Disrupt ตัวเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานของพรรคอีกครั้ง นับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เชื่อว่าโครงการนี้จะได้บุคคลและนโยบายใหม่ ๆ มาพัฒนาประเทศ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคยังคงแข็งแกร่ง และยังคงยึดมั่นในจุดยืนเดิมที่เป็นสมองของประเทศ ด้วยบุคลากรทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ และผู้มากประสบการณ์ ที่จะร่วมกันนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤตและพัฒนาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้

นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย และโครงการ The Change maker กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นการปลุกความหวังของคนในสังคมไทยให้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีคนรุ่นใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เข้ามาร่วมผนึกกำลังกับทางพรรคที่มี ส.ส. นักการเมืองที่มากประสบการณ์ และ Ecosystem ที่พร้อมสำหรับสถาบันทางการเมือง เพื่อสรรหานโยบายที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาของยุคสมัยได้

ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ที่ปรึกษาและ Mentor ของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเผชิญกับมหาวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวม 5 ด้านและเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ได้แก่ 1.วิกฤติการเมือง รัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งแบ่งข้างในสังคม 2.วิกฤติเศรษฐกิจที่หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเพราะกระทบทุกคนในสังคม 3.วิกฤติทางสังคม ความเหลื่อมล้ำมากขึ้นทุกที การศึกษาที่อ่อนด้อย 4.วิกฤติโรคระบาดซึ่งกระทบทั้งโลก สร้างความเสียหายยิ่งกว่าสงครามโลก และ 5.วิกฤติการดิสรัปต์ของเทคโนโลยี ทำให้เกิดภาวะชนชั้นไร้ประโยชน์ การตกงานอย่างกว้างขวาง ซึ่งมหาวิกฤติในครั้งนี้ ผู้รับผิดชอบไม่มีการเตรียมการรองรับแรงกระแทกอย่างเพียงพอและจริงจัง จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยเหลือพวกเรากันเอง ซึ่งโครงการ The Change Maker จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันคิดหาทางออกจากวิกฤติ และเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยให้แข็งแรงขึ้น มีภูมิต้านทานในการรับมือกับทุกเรื่องที่เข้ามาได้

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาด้านหลักสูตรของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า สถาบันการเมืองเปรียบเสมือนที่พึ่งที่หวังของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พรรคเพื่อไทยซึ่งมีเบ้าหลอมมาจากพรรคไทยรักไทย ถือเป็นพรรคการเมืองสามารถครองใจประชาชนมาตลอด 20 ปี โดยมี “เคล็ดลับครองใจประชาชน” 3 ชุด ได้แก่ 1.คน คิด เคลื่อน โดยพรรคไทยรักไทยสามารถรวบรวมบุคคลที่มีความสามารถ มุ่งมั่น ร่วมกันคิดเสนอนโยบาย แนวทางแก้ปัญหาที่ทำได้จริง เพราะคิดแนวทางการปฏิบัติไว้ถูกต้อง 2. ICE : โดย I (Inclusive) ระดมความเป็นเจ้าของและการมีส่วนร่วม ส่วน C (Collaborative) ร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ประสานประโยชน์อย่างเหมาะสม และ E (Empower) ทำให้ประชาชนมีอำนาจ มีสิทธิ์ มีศักดิ์ศรี ผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเท่าเทียม เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และการปรับทัศนคติว่าข้าราชการไม่ใช่ “นาย” แต่เป็น “ผู้ให้บริการ” เป็นต้น

นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า เคล็ดลับข้อที่ 3.คือ 3C ซึ่งเป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ โดย C ตัวแรกคือ Creative คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ คนรุ่นใหม่ พลังสร้างสรรค์สูงกว่า ผู้ใหญ่ต้องรับฟังและเลือกเป็น Communication เลือกสาระ เข้าใจเจตนาร่วม จึงจะบริหารประเทศ สำเร็จ และ Contest การแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้เกิดพลังที่สร้างสรรค์และท้าทาย เชื่อว่าหากนำเคล็ดลับนี้นำไปสร้างสรรค์โครงการ เพื่อระดมคน ความคิด และความร่วมมือ จะช่วยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้

โครงการ The Change Maker เปิดรับบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ช่องทาง Google Form ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดของการรับสมัครเพิ่มเติมและความคืบหน้าของโครงการได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ Telegram “THINKPHEUTHAI”

กระทรวงวัฒนธรรม ชวนนักท่องเที่ยวใช้แอปพลิเคชัน Treasure Trip Bangkok และ Pattaya เรียนรู้วัฒนธรรมไทยแบบชีวิตวิถีใหม่ เดินทางสะดวกและง่ายห่างไกลโควิด-19 ตอบโจทย์ ‘วิถีไทยในยุคดิจิทัล’

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคนา โควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบทำให้ประชาชนทั่วไปต้องเปลี่ยนรูปแบบวิถีชีวิตมาเป็นแบบ new normal หรือชีวิตวิถีใหม่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป สวธ.จึงร่วมมือกับบริษัท เน็คซ์ทูบี จำกัด ปรับปรุง แอปพลิเคชัน Treasure Trip เวอร์ชั่นใหม่ใน โครงการ“วิถีไทยในยุคดิจิทัล” การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วยนวัตกรรมดิจิทัล คือ Treasure Trip Bangkok และ Treasure Trip Pattaya ที่เพิ่มฟีเจอร์และฟังก์ชันใหม่ วางแผนเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายๆ และยังห่างไกล โควิด-19

นายชาย เปิดเผยต่อว่า Treasure Trip Bangkok และ Treasure Trip Pattaya คือ แอพพลิเคชั่นที่รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวในวิถีวัฒนธรรมไทยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร และท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่ครบถ้วน ประกอบด้วยสถานที่ อาทิ แหล่งเที่ยวชุมชน ร้านอาหารยอดนิยม ที่พัก วัด พิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปในที่ต่างๆด้วยตนเองได้ เพียงแค่ปลายนิ้วกดเลือกสถานที่ต่างๆที่ต้องการบนแอปพลิเคชันนี้ จะช่วยนำทางพาไปถึงจุดหมายปลายทางตามที่ต้องการทั้งยังแสดงข้อมูลรายละเอียดของสถานที่นั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนและตัดสินใจก่อนการเดินทาง และยังมีแผนการเดินทางแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางได้ง่ายๆ ตามเส้นทางที่ออกแบบไว้เป็นอย่างดี

“และในสถานการณ์ที่ประเทศไทยยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19 อยู่ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวจำเป็นต้องมีตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางให้ห่างไกลโรคติดเชื้อนี้ แอปพลิเคชัน Treasure Trip Bangkok และ Treasure Trip Pattaya ในเวอร์ชั่นอัพเดทใหม่ ที่พร้อมด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันในการติดตามข่าวสารการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ อ้างอิงข้อมูลตรงจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง โซนพื้นที่เฝ้าระวังใกล้สถานีรถไฟฟ้า ยอดผู้ติดเชื้อ ค้นหาโรงพยาบาลและสถานที่กักตัว ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ดาวโหลดใช้ได้แล้ววันนี้ใน แอฟสโตร์และเพลย์สโตร์” อธิบดีสวธ.เผย


เจนกิจ นัดไธสง รายงาน

ประชาธิปัตย์ เชื่อประชาชนไว้วางใจ เลือกคนของพรรค ในการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 3 ระบุผลงานเป็นที่ประจักษณ์ ผู้สมัครลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้าน ‘จุรินทร์’ สั่งลุยเต็มสูบ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พรรคได้ส่ง นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรค ว่า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้เรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในภาคใต้ พูดคุยเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการหาเสียง โดยกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดความสุจริตในการหาเสียง นำเสนอนโยบายและผลงานที่เกิดขึ้นเป็นประจักษ์แล้ว ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ

โครงการประกันรายได้ ที่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 ทราบดีว่าประกันรายได้ราคายางพารา เป็นอีกโครงการสำคัญที่ผ่านมาเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างมาก รวมถึงประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม พี่น้องเกษตรกรก็ชื่นชอบ พอใจในผลงานของพรรค ที่ทำให้วิถีชีวิตของพี่น้องเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เชื่อว่าผลสำเร็จในการทำงานของพรรคที่ไปทำหน้าที่ในรัฐบาลแทนประชาชน จะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจของพี่น้องในเขต 3

หัวหน้าพรรคย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนทุกรุ่น เรามีคนรุ่นใหญ่รุ่นอาวุโส รุ่นกลาง รุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าเราพร้อมทำงานให้ประชาชนทุกคนทุกรุ่น

นายราเมศ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวของนายพงศ์สินธุ์ ก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่น ที่คลุกคลีอยู่กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ผ่านการทำหน้าที่ การทำงานให้กับประชาชนมามาก ด้วยความ มุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท ถือว่าเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ในการเมืองระดับชาติ ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 3 ไว้วางใจให้เป็น ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช

รมช.ศธ. ชวน ส่งต่อความรัก-สานสัมพันธ์ในครอบครัว ผ่าน Facebook Live ในกิจกรรม “วาเลนไทน์สไตล์ wow wow” ปี 2 แบบล็อกดาวน์ ไม่ล็อกรัก เผยคนสองคนพบกันเพราะพรหมลิขิต อยู่ร่วมกันได้ต้องอาศัยความเข้าอกเข้าใจ

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีตรงกับวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก ซึ่งความรัก ถือเป็นสิ่งที่สวยงาม ไม่จำกัดรูปแบบเพศและอายุ ความรักสามารถส่งต่อให้กันได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง เป็นผู้ให้ความรัก ผู้รับความรัก หรือแม้แต่เป็นสื่อกลางให้กับคู่รักได้สุขสมหวังในความรัก ในปีนี้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาทั่วประเทศ พร้อมเป็นสื่อกลางในการแบ่งปันความรัก ในกิจกรรม “วาเลนไทน์สไตล์ wow wow” เพื่อส่งเสริมความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัวหลากหลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยจะมีการจัดกิจกรรมผ่านทางระบบออนไลน์ ที่จะมีการชวนคู่รักเล่นเกมส์ชิงของรางวัล ผ่านทาง Facebook Live ของแต่ละจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดนั้นก็จะมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เช่น ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดยะลา ที่มีการจัดกิจกรรม โพสต์ปุ๊บ ลุ่นรับปั๊บ กับกิจกรรม “One Picture million Feelings" ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสุมทรสาคร ที่มีการจัดกิจกรรม Valentine’s Online Style New Normal เป็นต้น

ครูพี่โอ๊ะขอชวนทุกคนมาร่วมกันส่งต่อความรัก แบบ “วันวาเลนไทน์สไตล์ WOW WOW แบบล็อกดาวน์ ไม่ล็อกรัก” เพราะการที่คนสองคนได้มาพบกันถือเป็นพรหมลิขิตและบุญพาวาสนาส่งที่คนสองคนมีต่อกัน แต่การที่จะครองรักครองเรือนให้ยั่งยืนต่อไปตราบนานเท่านาน ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ความรัก ความเข้าอกเข้าใจ ความใส่ใจ และยอมรับในกันและกันอย่างต่อเนื่อง” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top