Sunday, 30 June 2024
ไอติมก้าวไกล

'ไอติม' ชี้!! 'อำนาจกองทัพ - กม.ปิดปาก - ส.ว.แต่งตั้ง' มรดกตกทอดจาก 6 ตุลาฯ 19 ที่ต้องรื้อถอน

'ไอติม' ขึ้นเวทีเสวนา 46 ปี 6 ตุลา ชี้ระบบ ส.ว. แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร - กฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพหลายฉบับ - การแทรกแซงการเมืองของกองทัพ เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร 6 ตุลาฯ และยังส่งทอดมรดกมาถึงปัจจุบัน แนะต้องรื้อทิ้งเพื่อคืนความปกติให้บ้านเมือง

พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล ร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ “เหลียวหลัง 6 ตุลา แลหน้าสังคมไทย” ที่วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่ยังส่งมรดก 3 ประการมาถึงระบบการเมืองไทยในปัจจุบัน

โดยพริษฐ์ยกตัวอย่างประการแรก ซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ โดยรัฐธรรมนูญปี 2560 มีความคล้ายคลึงกับรัฐธรรมนูญปี 2521 ที่เขียนขึ้นหลังการรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 ในแง่ของเนื้อหาและการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร เช่น กลไกของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งแต่มีอำนาจในการกุมทิศทางประเทศ ผ่านการร่วมโหวตกฎหมายสำคัญ และร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส.

ประการที่สอง เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่ลิดรอนการแสดงเสรีภาพ ซึ่งมีหนึ่งในคำสั่งคณะรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 กว่า 47 ที่ยังมีผลบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน คือคำสั่งฉบับที่ 41 ที่แก้ไขกฎหมายหมิ่นประมาททั้งระบบ ให้เพิ่มโทษจำคุกฐานหมิ่นประมาททั้งบุคคลธรรมดา เจ้าพนักงาน ศาล ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยมีโทษหนักกว่าสากลและเปิดช่องให้ถูกบังคับใช้ด้วยมาตรฐานที่ไม่คงเส้นคงวา

'ไอติม' ซัด ส.ว. อย่าเลือกนายกฯ ตามความเชื่อส่วนตัว แต่ควรโหวตนายกฯ ตามเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.

(3 ม.ค. 66) พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวถึงท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่แสดงออกผ่าน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ที่ให้สัมภาษณ์ระบุว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบ ‘ปิดสวิตช์ ส.ว.’ และการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นไปตาม ‘ดุลยพินิจของสมาชิก’

พริษฐ์ระบุว่า การให้สัมภาษณ์ของประธานวุฒิสภาดังกล่าวนั้น แสดงให้เห็นถึงการละเว้นไม่พูดถึงสาระสำคัญของปัญหา เพราะแม้ ส.ว. จะเหลือวาระอีกไม่นาน แต่ระยะเวลาที่เหลือนั้นคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งในปี 2566 ทำให้ ส.ว. ยังคงสามารถแทรกแซงกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลไปอีก 4 ปีตามวาระรัฐบาลใหม่ ซึ่ง ส.ว. ไม่ควรเลือกนายกรัฐมนตรีตามความเชื่อของตนเอง แต่ควรเลือกจากบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง หากต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านบัตรเลือกตั้งจริง ๆ

พริษฐ์ยังกล่าวต่อไปว่า หาก ส.ว. อยากเห็นประเทศเดินหน้าตามวิถีประชาธิปไตย ที่เคารพ 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชนในการเลือกตั้ง ส.ว. ควรจะต้องทำ 2 เรื่องในอนาคตอันใกล้นี้ ประกอบด้วย 

1) ลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เพื่อยกเลิกมาตรา 272 และปิดสวิตช์ตนเองก่อนการเลือกตั้ง

‘ไอติม ก้าวไกล’ ติงแถลงนโยบายวันเดียวน้อยและรวบรัดเกินไป เกรงได้รายละเอียดไม่ครบถ้วน

เมื่อวานนี้ (6 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่า ส่วนตัวยังมีข้อกังวล 2 ส่วน คือ กรอบเวลาในการอภิปราย ขณะนี้มีข่าวออกมากว่าอาจจะเหลือการอภิปรายนโยบายเพียง 1 วัน โดยยังต้องรอการยืนยัน โดยมองว่า เป็นเวลาที่สั้นมาก หากย้อนดูในอดีตของการอภิปรายก็มักจะมากกว่า 1 วัน โดยจากรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกรอบอภิปราย 2 วัน ทั้งนี้ หากเหลือแค่เพียงวันเดียวจริง ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่รวบรัดจนเกินไปกับกระบวนการที่มีความสำคัญ

ส่วนข้อกังวลที่สอง ก็คือ เนื้อหาสาระของนโยบาย โดยต้องรอการยืนยันว่าเอกสารคำแถลงนโยบายที่หลุดออกมากเป็นเอกสารทางการหรือไม่ หากเอกสารที่ออกมาตรงกับเอกสารหลุดออกมาผ่านสื่อก็ยอมรับว่ายังขาดรายละเอียดนโยบายที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สื่อสารกับประชาชนก่อนหน้าการเลือกตั้ง โดยยังไม่พบนโยบายค่าแรง สภาร่างรัฐธรรมนูญที่ยังมีความคลุมเครือว่าจะจัดตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งหรือไม่

รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะออกมาบอกว่าจะมีการทบทวนดำเนินการภายใน 2 ปี แต่เมื่อไม่มีในเอกสารนโยบายก็ไม่มีหลักประกันกับประชาชนว่ารัฐบาลจะดำเนินการจริง โดยต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นสัญญาประชาคม และยิ่งเป็นรัฐบาลผสม ประชาชนก็จับตาว่านโยบายของแต่ละพรรคที่แตกต่าง ขัดแย้งกันบ้างจะตกผลึกขับเคลื่อนออกมาเป็นนโยบายส่วนใด

ขณะที่การอภิปรายในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการพูดคุยภายในของพรรคก้าวไกล เป็นหลักถึงปัญหาของประชาชนและแบ่งหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top