Friday, 17 May 2024
โลก

'ผศ.ดร.ธรณ์' แจง!! เมฆดำทะมึน เปลี่ยนเช้าให้เหมือนกลางคืน ผลพวงลมฟ้าอากาศสุดโต่งจากมนุษย์ ที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

จากเฟซบุ๊ก 'Thon Thamrongnawasawat' โดย ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้ไขข้อกระจ่างเมฆดำทะมึนบนท้องฟ้ากรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ (29 ส.ค. 65) ไว้ว่า...

ภาพเมฆดำทะมึน เปลี่ยนกรุงเทพตอนเช้าให้เป็นเหมือนตอนกลางคืน คงเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนธรณ์ตกใจ

นั่นคือเมฆโลกร้อน เกิดจากทะเลร้อน น้ำระเหยเยอะ อากาศร้อน จุไอน้ำได้มากขึ้น กลายเป็นเมฆจุน้ำมหาศาล พร้อมจะเททะลักลงมากลายเป็นฝนห่าใหญ่

เคราะห์ดีที่หนนี้ลมพัดผ่านไป ฝนตกไม่มาก แต่ยังมีหนหน้าและหนต่อไป เพราะนี่คือการเริ่มต้นของยุค Extreme Weather (ลมฟ้าอากาศสุดโต่ง)

สภาพภูมิอากาศสุดขั้วเกิดจากความแปรปรวนของโลก หลังจากที่มนุษย์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปสะสมกันมานาน และยังคงปล่อยต่อไป

กลายเป็นภัยพิบัติที่จะสร้างผลกระทบสาหัส โดยเฉพาะประเทศที่กำลังเปราะบางทางเศรษฐกิจ

ตัวอย่างเห็นชัด ปากีสถาน เจอมหาอุทกภัย จากสภาพอากาศเช่นนี้

ไม่ใช่เพียงฝนตกหนัก 8 สัปดาห์รวด ปริมาณน้ำจากฟ้ามากกว่าค่าเฉลี่ยเป็นเท่าๆ ยังรวมถึงธารน้ำแข็งบนหิมาลัยที่ละลายแบบไม่เคยเกิดมาก่อน

ปากีสถานเป็นประเทศที่มีธารน้ำแข็งมากที่สุดในโลก (ไม่นับแถบขั้วโลก) น้ำจากยอดเขาไหลทะลักมารวมน้ำฝน เกิดเป็นอุทกภัยทำให้ผู้เสียชีวิตนับพัน คน 33 ล้านคนเดือดร้อน แหล่งเกษตรเสียหายยับเยิน 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นนับว่าเกินความสามารถประเทศที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินไม่ดี จะรับมือได้ 

เมืองไทยเองก็กำลังเกิดน้ำท่วมใหญ่หลายแห่ง น้ำทางเหนือกำลังมา

ในขณะที่ลำธารและน้ำตกใกล้ภูเขา บางแห่งเจอน้ำป่าฉับพลัน ต้องปิดการท่องเที่ยวบางจุด

รวมไปถึงเมฆสีดำทะมึน ฝนตกรุนแรงในพื้นที่เล็กๆ เกิดน้ำท่วมรวดเร็ว 

คนเมืองเหนื่อยเหลือเกินกับการไปทำงาน/กลับบ้าน รถติด/น้ำเข้าบ้าน

นั่นคือบางตัวอย่างของ Extreme Weather ที่เราเจอและจะเจอต่อไป

'สว.วีระศักดิ์' ร่วมถกเสวนา 'ชุมชนกับภาวะโลกร้อน…โลกรอด…เรารอด' ชี้!! กทม.น่าห่วง 'ฝุ่นพิษ-มลพิษจากขยะ-อากาศแปรปรวน' รุม ควรเร่งแก้

ไม่นานมานี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้รับเชิญจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมลงพื้นที่พบปะและสนทนากับชาวชุมชนในกรุงเทพมหานคร เพื่อสนทนากับผู้นำชุมชนในเขตดุสิต ในหัวข้อสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพฯ ขยะ ฝุ่น PM2.5 ทางระบายน้ำ และภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่เกิดในกรุงเทพมหานครแล้ว

ในการนี้ นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานในกิจกรรม มี แพทย์หญิง วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ อดีตปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน, นางสาวรุจิรา อารินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต ร่วมในกิจกรรม

หลังจากเยี่ยมเยือนกลุ่มผู้เปราะบางตามบ้านพักในชุมชนบางกระบือแล้ว คณะได้จัดให้มีการเสวนารับฟังปัญหาของชาวชุมชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเขตดุสิต ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดจันทรสโมสร 

จากนั้นเปิดเวทีเสวนา 'ชุมชนกับภาวะโลกร้อน…โลกรอด…เรารอด' โดยมีนายทรงศัก สายเชื้อ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นวิทยากร ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดียิ่งจากชาวชุมชน ว่าเป็นประเด็นที่ใกล้ตัวกว่าที่คาดคิด มีทั้งมุมคิดทางแก้ไข และมุมคิดการปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะภูมิอากาศสุดขั้วที่มีแต่จะเพิ่มทวีรุนแรงขึ้นตามลำดับ

การเสวนานี้ดำเนินรายการโดยนายสรรเสริญ เริงฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตดุสิต อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดก่รน้ำจากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top