Sunday, 19 May 2024
โรงแรม

หาดใหญ่ตีปีก!!! 'สงขลา' คึกคักรับสงกรานต์ หลังยอดจองห้องพักทะลุ 80% อานิสงส์จาก 'ท่องเที่ยวฟื้น-พรรคการเมืองเลือกเป็นพิกัดประชุม'

ท่องเที่ยวสงขลาคึกคัก รับเทศกาลสงกรานต์ ยอดจองห้องพักแตะ 80% ชี้!! รับโหมดการเลือกตั้ง ส.ส. ช่วยผสมโรงดึงเศรษฐกิจหาดใหญ่คึกคัก

(2 มี.ค.66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับ จ.สงขลา กลับมาคึกคัก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 นี้ ทาง ททท. จึงได้ร่วมกับภาคเอกชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดงานเทศกาลสงกรานต์ 2 แห่ง คืองานมิดไนท์สงกรานต์ที่ อ.หาดใหญ่ และ งานเทศกาลสงขลา อ.เมืองสงขลา ในวันที่ 13-14 เม.ย.เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกร่วมกิจกรรมตามที่ชอบ

ด้าน นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.สงขลา กล่าวว่า การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ทำให้ อ.หาดใหญ่ จะมีนักท่องเที่ยวเกือบตลอดปี แม้ในบางช่วงจะมีมาก และบางช่วงมีน้อย แต่เชื่อว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะคึกคัดอย่างแน่นอน พิจารณาได้จากการจองห้องพักเฉลี่ยร้อยละ 80 คิดเป็นห้องพักในใจกลางเมืองร้อยละ 90 ในช่วงวันที่ 13-16 เม.ย.

โรงแรมผีสิง | TIME TO BELIEVE EP.11

TIMETOBELIEVE


💀 TIME TO BELIEVE ถึงเวลาหลอน EP.11
จะพาไปหลอนกับเรื่องราวของ คุณไกรสร บุญมา ผู้จัดการวง Thee With One ที่เคยเดินสายคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และต้องเข้าพักโรงแรมในต่างจังหวัดมากมาย จนวันหนึ่งเจอกับเหตุการณ์สุดหลอน ที่ไม่ได้เจอผีเพียงคนเดียวแต่เจอผีกันยกชั้น!!! แถมเจอกระดาษบนโต๊ะเครื่องแป้ง ‘อยากกลับบ้าน’ อีกด้วย เรื่องนี้จะน่ากลัวขนาดไหนติดตามได้ในคลิปนี้…

 

ดำเนินรายการโดย 'วายุ เอี่ยมรัมย์' ที่จะพาคุณไปพบเจอกับความหลอนจนนอนไม่หลับ

แขกรับเชิญที่จะผ่านไปหลอนกับ วง THREE WITH ONE

หลอนกับ TIME TO BELIEVE ตอนอื่น ๆ ก่อนได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyKp57Sp4n4g0w3Klvpe1SiT

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

กฎหมายที่ดินในเมียนมา ปมลับล้มดีลโรงแรมเซโดนา แรงปรารถนาของนักลงทุน ที่จนมุมกับค่าเช่ามหาโหด

เมื่อต้นเดือนก่อน (มีนาคม 66) มีข่าวหนึ่งที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก เกี่ยวกับการขายกิจการของโรงแรมเซโดนา โรงแรม 5 ดาวใจกลางเมืองย่างกุ้ง ติดกับทะเลสาปอินยา ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนที่เคยมาย่างกุ้งต้องเคยมาพักที่นี่

แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องดังกล่าว เอย่า ขอย้อนความ...ด้วยภาวะการระบาดของโควิด 19 ที่สั่นคลอนธุรกิจโรงแรมทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่เมียนมา ทำให้หลายโรงแรมเลือกที่จะยอมปรับตนเองเป็นโรงแรมกักตัวสำหรับชาวต่างชาติในช่วงที่มีการควบคุมของโควิด19

ทว่า 1 ในนั้นไม่ใช่ โรงแรมเซโดนา เพราะด้วยความที่โรงแรมเซโดนามีผู้เข้าพักแบบ Long stay มากเป็นอันดับต้นๆ ในเวลานั้น ทำให้ตัวโรงแรมพอมีรายได้อยู่บ้างแม้ไม่มาก แต่ก็เพียงพอที่จะไม่ต้องรับเป็นโรงแรมกักตัว เพราะในช่วงเวลานั้นๆ หลายคนก็ไม่มีใครอยากนอนในโรงแรมที่เป็นโรงแรมกักตัวด้วยเหตุที่ระบบแอร์เป็นระบบแอร์รวม ทำให้หลายคนกังวลว่าจะติดเชื้อผ่านทางระบบปรับอากาศได้

แต่แล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคม บริษัท Keppel Corp.​ ได้มาให้ข่าวว่าบริษัทแห่งนี้ได้บรรลุข้อตกลงในการขายกิจการโรงแรมพร้อมสิ่งปลูกสร้าางทั้งหมดของโรงแรมเซโดนา ย่างกุ้งให้กับกลุ่มบริษัท Spring Blossom Venture ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการบริการในสิงคโปร์ โดยตามแผนในข่าวระบุว่าดีลจะสิ้นสุดสำเร็จภายในครึ่งปีแรกของปี 2023 นี้ 

อย่างไรก็ตาม ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีข่าวเปรี้ยงออกมาให้คนตกใจว่าดีลนี้อาจจะไม่ได้จบง่ายๆเสียแล้ว เพราะติดปัญหาเรื่องความไม่ลงตัวกับเจ้าของที่ดินที่โรงแรมเซโดนาปลูกสร้างอยู่ กลายเป็นว่าดีลนี้จะสำเร็จไม่ได้หากไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของที่นั่นเอง

'อ.ต่อตระกูล' ชี้!! ความล้ำหน้าใหม่ทางอวกาศ เนรมิตโรงแรมนอกโลกได้ภายใน 6 เดือน

(10 ก.ค. 66) รองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ วิธีการสร้างสถานีอวกาศ ขนาดยักษ์ ด้วยระบบ SARGON โดยมีใจความว่า ...

วิธีสร้างสถานีอวกาศ ขนาดยักษ์ ด้วยระบบ SARGON ( The Space Automation & Robotics General cONtroller ) จะสร้างเสร็จได้ใน 6 เดือน 

หลักการใหญ่ของระบบ คล้ายคลึงกับ ระบบสลิปฟอร์ม ที่ใช้แบบเทคอนกรีตช่องลิฟท์อาคารสูง แบบที่แบบฟอร์มจะเลื่อนขึ้นสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ แต่ต่างกันทั้งวัสดุและรายละเอียด โดยระบบ Sargon ตัวแบบจะลอยอยู่แล้วผลิตชิ้นส่วนโลหะของสถานีอวกาศต่อออกไปเป็นทรงท่อกลวงโค้งจนครบเป็นสถานีอวกาศรูปวงแหวน (Torus-type station) ที่จะจุผู้มาท่องอวกาศได้ถึง 1,000 คน รวมนักบินและลูกเรืออีก 200 คนได้

บริษัท GATEWAY SPACEPORT ผู้เสนอโครงการก่อสร้างนี้ เสนอว่าระบบนี้จะสร้างได้รวดเร็ว และค่าก่อสร้างไม่สูง จึงคุ้มค่าทางธุรกิจที่จะลงทุนสร้างใช้เป็นโรงแรมลอยตัวชมวิวอวกาศนอกโลก ในราคาคนละ 500,000 $ US ที่จะมีลูกค้ามาต่อคิวจองห้องพักมากมาย

OR เล็งธุรกิจโรงแรมในสถานีบริการน้ำมัน วางเฟสแรก 20 แห่ง รายได้ 1,000 บาท /ห้อง/คืน

เมื่อเช้านี้ มีกระแสข่าวว่า OR กำลังสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อเปิดบริการในสถานีบริการน้ำมัน แบบราคาประหยัด 1,000 บาทต่อคืน

โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในสถานีบริการน้ำมัน โดนคาดว่าระยะแรกจะเปิดให้บริการ 20 แห่ง แต่ละแห่งมีห้อง 60-80 ห้อง คาดว่า จะมีรายได้ราว 1,000 บาทต่อห้องต่อคืน

รวมถึงการเข้าลงทุนในธุรกิจ Health & Beauty โดยนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในไทย

คำถาม คือ ถ้าเราเห็นธุรกิจโรงแรมในสถานีบริการน้ำมัน PTT จริงๆจะถือเป็น New S Curved มากแค่ไหนต่อกลุ่ม OR

คำตอบคือ ไม่ได้เยอะมาก ...

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มองว่าธุรกิจโรงแรมในช่วงระยะเริ่มต้น น่าจะสร้างรายได้ให้ OR ราว ๆ 200 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่า 1% ของรายได้ทั้งรวมทั้งหมด ทำให้ไม่มีนัยสำคัญอะไรมากนักในระยะสั้น จนถึงกลางต่อภาพรวมธุรกิจ

อีกทั้ง ธุรกิจนำเข้าสินค้าประเภท Health & Beauty ก็มีคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูง ไม่น่าจะสร้างกำไรที่มีนัยสำคัญอะไรให้กับ OR

ดังนั้น มีความเป็นไปได้ไหมที่เราจะเห็นโรงแรมในสถานีบริการน้ำมัน แต่ในภาพของธุรกิจ ไม่น่าจะส่งผลเชิงบวกมากนักในระยะแรก

CPN ปั้น ‘GO Hotel’ ยึดหัวหาด Premium Budget Hotel ผุด 4 ทำเลปัง เจาะกลุ่มคลั่ง ‘Bleisure’ 990 บาทต่อคืน

(18 ก.ย.66) นางสาวสุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า จากความเชี่ยวชาญของเซ็นทรัลพัฒนา และการมี Ecosystem ที่ดีเชื่อมต่อกันอย่างลงตัวภายในเครือทำให้เรามีความมั่นใจในการขยายธุรกิจโรงแรมไปยังทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ติดหรือใกล้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลหรือโรบินสัน รวมถึงการบุกเบิกพอร์ต Premium Budget Hotel ในชื่อ GO! Hotel โดยเรามุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การพักผ่อน สะท้อนได้จากการดีไซน์และการบริการที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพรองรับแนวโน้มความต้องการพักอาศัยใน Budget Hotel ที่เริ่มได้รับความนิยม

“เราได้เปิดบริการ GO! Hotel แห่งแรกที่บ่อวิน และขณะนี้ได้ขยายเพิ่มอีก 3 แห่งคือ GO! Hotel ชลบุรี, ศรีราชา ทั้งหมดอยู่ในจังหวัดชลบุรี และ GO! Hotel บ้านฉางในจังหวัดระยอง โดยทั้ง 4 โลเคชันเป็นการขยายแบบ Cluster Region ครอบคลุมภาคตะวันออก เจาะเขตเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อสร้างโรงแรม GO! Hotel ให้เป็น Strategic Hotel บน Strategic Location” นางสาวสุรางค์ กล่าว 

นายภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Investments and Operations บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เราตั้งใจปั้นให้ GO! Hotel เป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ ‘Bleisure’ เป็น Top of Mind ของการเดินทางทั้ง Business และ Leisure สำหรับนักเดินทางทั่วประเทศ GO! Hotel เปิดตัวที่แรกที่บ่อวิน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มี Occupancy Rate มากกว่า 80% ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญและการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ Premium Budget Hotel และพร้อมตอบรับการเติบโตของธุรกิจและขยายโรงแรมไปทั่วประเทศ”

“GO! Hotel เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับคนทุกรุ่น ทุกวัย และทุกจุดประสงค์ของการเดินทาง ด้วยการดีไซน์ห้องพักให้ตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน Relax และสะดวกสบายด้วยโลเคชั่นใกล้ศูนย์การค้า หรือนักเดินทางกลุ่ม Business ก็สามารถใช้โรงแรมของเราเป็นที่ทำงาน เพราะมีพื้นที่โต๊ะทำงานและปลั๊กพร้อมใช้งานได้ทั่วทุกมุมห้อง และยังมีจุดแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนร่วมงานบริเวณล็อบบี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถรองรับ กลุ่มนักท่องเที่ยวตาม Music Festival รวมถึงกลุ่ม Corporate หรือหน่วยงานราชการ ต่างๆ ที่เข้ามาในพื้นที่อีกด้วย” นายภูมิ กล่าว 

สำหรับ 5 จุดเด่นของ GO! Hotel ที่มากกว่าการพักผ่อน ประกอบไปด้วย…

1. สัมผัสประสบการณ์นอนดี ด้วยเตียงนุ่ม ขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมเครื่องนอนระดับพรีเมียม รวมถึงม่านหน้าต่างแบบมืดสนิทไม่รบกวนการพักผ่อน และ ประสบการณ์ผ่อนคลายระดับสปา ด้วยผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำจากแบรนด์ Let’s Relax Lifestyle (LRL), ผ้าขนหนูผ้าฝ้าย 100%, พร้อมไดร์เป่าผมทุกห้อง

2. งานดีไซน์ทันสมัย สไตล์โก! ตัวอาคารมีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็น GO! Hotel ได้อย่างชัดเจน ผสานแนวคิดการออกแบบภายใน ด้วยการเลือกชุดสี ที่ให้ความรู้สึกสดใส มีพลัง และสนุกสนาน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เข้ากันอย่างลงตัว

3. เป็นธุรกิจในเครือ Central Pattana ที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถืออันดับต้นของเมืองไทย และเป็นที่รู้จักในระดับสากล โลเคชันติดศูนย์การค้า และเป็นย่านธุรกิจ จะไปพักผ่อนหรือทำงานก็สะดวกสบาย ครบวงจร

4. Premium Budget ของ GO! ที่ไม่ใช่แค่โรงแรมราคาประหยัดทั่วไป ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียด เลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยม เพื่อให้คุณพักสบาย ในราคาสุดคุ้มค่า รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย เพื่อให้คุณได้พักผ่อนแล้วรู้สึกพร้อม GO! ไปยังจุดหมายหรือกิจกรรมต่อไปด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม

5. ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนชอบเที่ยว ไปพักผ่อนทั้งแบบส่วนตัวหรือแบบกลุ่ม มี Co-Working Space และ ชุดโต๊ะทำงานภายในห้องพัก พร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และจุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม 24 ชั่วโมง (Grab & GO) ตอบโจทย์คนทำงาน รวมถึง คอนเซปต์ Pet Friendly ตอบโจทย์ คนมีสัตว์เลี้ยง ให้คุณพาเพื่อนรัก 4 ขา มาเช็อินด้วยกัน 

'พฤกษา' จับมือ 'ออริจิ้น' ร่วมทุนปั้น 3 โปรเจกต์ 'โรงแรม-คอนโด-บ้านเดี่ยว' มูลค่า 8,700 ล้าน

(22 ม.ค. 67) นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ‘พฤกษา’ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ 3 บริษัทในเครือ ‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’ ได้แก่ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด หรือ PARK และบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เพื่อก่อสร้างและพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ 

(1) การร่วมทุนในธุรกิจโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และศูนย์บริการด้านสุขภาพ ทำเลสุขุมวิท มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้ านบาท 

(2) การร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ย่านพหลโยธิน มูลค่าโครงการ ประมาณ 2,800 ล้านบาท 

และ (3) การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ย่านเพชรเกษม มูลค่าโครงการประมาณ 980 ล้านบาท ในอัตราส่วนการลงทุน 50:50

“สำหรับการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้นับเป็นข้อตกลงที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท (Win-Win) และจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากการนำทรัพยากรและที่ดินของทั้งสองบริษัทที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาโครงการ แชร์เทคโนโลยีและโนว์ฮาวโดยนำจุดแข็งของกลุ่ม ‘พฤกษา’ ที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุน 

พร้อมมุ่งพัฒนาการอยู่อาศัยที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ ด้วยนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจในเครือที่หลากหลาย ทั้งธุรกิจพัฒนาและก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเฮลธ์แคร์ ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ พร้อมด้วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่พัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม MyHaus ตัวช่วยที่ส่งเสริมเรื่องที่อยู่อาศัย ให้ผู้คนมีชีวิตที่ง่ายและสะดวกขึ้น ไปจนถึงการสร้างที่อยู่อาศัยด้วยความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำจากอินโน พรีคาสท์ในเครือพฤกษา ประกอบกับความเชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง เมื่อผนึกกำลังกับจุดแข็งของ ‘ออริจิ้น’ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ 

จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพ และข้อได้เปรียบจากทั้ง ‘พฤกษา’ และ ‘ออริจิ้น’ จะร่วมกันส่งเสริมให้ทั้ง 3 โครงการร่วมทุนนี้ประสบความสำเร็จ ส่งมอบความอยู่ดี มีสุขให้คนในสังคม และจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ พฤกษาจะได้ประโยชน์จากการนำที่ดินที่มีอยู่ในมือมาใช้พัฒนาผ่านแบรนด์ใหม่เพื่อสร้างฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มช่องทางเพื่อการสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) อีกด้วย” นายอุเทน กล่าว

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า การได้พฤกษามาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการต่าง ๆ จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนวัตกรรม เทคโนโลยี องค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ระหว่างกัน และช่วยให้ยกระดับการพัฒนาคุณภาพการก่อสร้างโครงการ การออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ในอาคาร เติมเต็มความต้องการของการใช้ชีวิตในแต่ละทำเลได้อย่างยอดเยี่ยม

“ในไทยเราอาจไม่ค่อยเห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จับมือร่วมทุนกันเอง แต่ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น มีความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละรายต่างมีความถนัด ความเชี่ยวชาญในเซกเมนตฺและทำเลแตกต่างกัน โดยเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ฟังก์ชันและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการพักผ่อนของคนยุคใหม่ เช่น การพัฒนาคอนโดฯ สำหรับกลุ่ม Pet Lover การพัฒนาห้องแบบ Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร บ้านเดี่ยวที่ใส่ใจ Universal Design ทางด้านพฤกษาเองเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ มีความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง และประสบการณ์การพัฒนาโครงการมากมายจึงเชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถมาช่วยเติมเต็มความถนัดและโอกาสซึ่งกันและกันได้ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างออริจิ้นและพฤกษาในครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่บริษัทระดับท็อปของตลาด 2 ราย มารวมพลังกัน พัฒนาทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ยกระดับการพักผ่อนและการอยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว

สำหรับ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพ และการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับสองธุรกิจหลัง เพื่อสร้างรายได้ประจำ โดยปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

(1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮาส์ ซึ่งมีโครงการที่เปิดขายภายใต้ชื่อแบรนด์ ดังนี้ บ้านกรีนเฮาส์ (Baan GreenHaus) บ้านพฤกษา (Baan Pruksa) พฤกษาวิลล์ (Pruksa Ville) เดอะ คอนเนค (The Connect) และพาทิโอ (Patio)

(2) กลุ่มผลิตภัณฑ์บ้านเดี่ยว ภายใต้ชื่อแบรนด์ เดอะ แพลนท์ (The Plant) ภัสสร (Passorn) และเดอะ ปาล์ม (The Palm)

และ (3) กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนโดฯ ภายใต้ชื่อแบรนด์ พลัม คอนโด (Plum Condo) เดอะ ทรี (The Tree) แชปเตอร์ (Chapter) แชปเตอร์ วัน (Chapter One) เดอะ ไพรเวซี่ (The Privacy) และเดอะ รีเซิร์ฟ (The Reserve) โดยส่งมอบที่อยู่อาศัยเพื่อคนไทยไปแล้วมากกว่า 260,000 ครอบครัว 

สำหรับธุรกิจด้านสุขภาพมีโรงพยาบาลวิมุต เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของกลุ่มธุรกิจ และในปี 2564 วิมุตฯ ได้เข้าลงทุนในกิจการโรงพยาบาลเทพธารินทร์เพิ่มเติม และ PSH ได้ขยายธุรกิจใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซด้วยการก่อตั้งบริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด เพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการขยายธุรกิจ รวมทั้งก่อตั้งบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด เพื่อรองรับความต้องการด้านพรีคาสท์ในตลาดธุรกิจก่อสร้าง และมีการลงทุนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมและเพิ่มความสามารถในการสร้างผลกำไร สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย

1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 158 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2566) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) โซ ออริจิ้น (So Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge) นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill) ออริจิ้น เพลส (Origin Place) ดิ ออริจิ้น (The Origin) เคนซิงตัน (Kensington) แฮมป์ตัน (Hampton) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) บริกซ์ตัน (Brixton) และบริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 240,661 ล้านบาท

2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก

3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์

และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

‘ผู้จัดการ รร.จีน’ ขอโทษสังคม หลังจัดเกมโยนบ่วงชิงรางวัล รับขาดการคิดไตร่ตรอง ทำกระทบเกียรติ-ศักดิ์ศรี ‘แม่หญิงลาว’

รองผู้จัดการโรงแรมชาวจีน ที่จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวโยนบ่วงใส่พนักงานหญิงชาวลาว เพื่อชิงรางวัล ออกคลิปขอโทษเป็นภาษาลาว ยอมรับเป็นการกระทำที่ขาดสติ ขัดต่อวัฒนธรรมอันดีงามของลาว และเข้าข่ายดูหมิ่นศักดิ์ศรีแม่หญิง ยืนยันต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว

เมื่อไม่นานนี้ นายอาหลี ชาวจีน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเวียงจันทน์แม่โขง ในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้บันทึกคลิปกล่าวคำขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่โรงแรมเวียงจันทน์แม่โขง ได้จัดกิจกรรมโยนบ่วงคล้องพนักงานหญิงชาวลาวของโรงแรม เพื่อชิงรางวัลเมื่อคืนวาเลนไทน์ วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิกิจกรรมนี้อย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศลาว โดยนายอาหลีได้กล่าวเป็นภาษาลาว มีรายละเอียดดังนี้

“สะบายดี ข้าพเจ้าท้าวอาหลี ในนามรองผู้จัดการโรงแรมเวียงจันทน์แม่โขง ขอแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ปรากฏในสื่อสังคม สื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก ของวันที่ 16 ก.พ. 67 ที่ทางโรงแรมได้จัดกิจกรรมโยนบ่วงส่งมอบของขวัญ ที่ไม่ถูกต้องขึ้นด้วยการขาดสติ ขาดการค้นคิด ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ สปป.ลาว โดยรวม โดยเฉพาะส่งผลกระทบถึงเกียรติ ศักดิ์ศรี ของผู้หญิงลาว บรรดาเผ่า กระทบถึงวัฒนธรรม ฮีตคองประเพณี ที่มีคุณค่าอันดีงามของสังคมลาว เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ

ด้วยเหตุนั้น ข้าพเจ้า รองผู้จัดการโรงแรม จึงออกคำแถลงแสดงความรับผิดชอบต่อผลเสียหาย และขอโทษต่อประชาชนลาว บรรดาเผ่า ผู้หญิงลาว บรรดาเผ่า และให้คำมั่นสัญญาว่า

1.) โรงแรมจะปฏิบัติตามกฎหมาย และนิติกรรมของ สปป.ลาว อย่างเข้มงวด

2.) จะดำเนินธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตอย่างเข้มงวด

3.) จะไม่ทำผิดกฎหมาย ระเบียบการ ฮีตคองประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาติลาว และจะไม่ให้มีเหตุการณ์ใดที่มีลักษณะแบบเก่า หรือคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นอย่างเด็ดขาด

4.) ถ้าหากมีเหตุการณ์ และการประพฤติที่ผิดต่อกฎหมาย หรือนิติกรรม ของ สปป.ลาว เกิดขึ้นอีก พวกข้าพเจ้ายินยอมให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการระงับ หรือปิดกิจการอย่างถาวร

หวังอย่างยิ่งว่า หน่วยงานรัฐ สังคมลาว โดยเฉพาะประชาชน และผู้หญิงลาว บรรดาเผ่า จะให้อภัยพวกข้าพเจ้ามา ณ ที่นี้ด้วย ขอขอบใจ”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 67 ได้มีการเผยแพร่คลิปกิจกรรมของโรงแรมเวียงจันทน์แม่โขงไปทั่วชุมชนออนไลน์ของลาว ในคลิปเป็นภาพพนักงานหญิงของโรงแรมยืนเรียงเป็นกลุ่ม อยู่หน้าอาคารที่พัก แต่ละคนถือขวดเบียร์ ขวดเหล้า ขวดไวน์ฯลฯ เป็นของรางวัลให้แขกโยนบ่วงเข้าใส่ หากบ่วงตกไปคล้องเข้าที่ใคร รางวัลในมือของหญิงคนนั้นจะตกเป็นของผู้โยน

ผู้ที่ได้ชมคลิปนี้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิงลาว เข้าข่ายการใช้ความรุนแรง เสี่ยงจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่า หากผู้โยนพลาด อาจทำให้หญิงที่ยืนเป็นเป้า ปากแตก จมูกหัก หัวโน หรือตาช้ำได้

ที่ผ่านมา กิจกรรมการโยนบ่วงเพื่อเดิมพันหรือชิงของรางวัล เป็นการละเล่นที่มักจัดขึ้นตามงานเทศกาลต่างๆโดยใช้เป็ดเป็นเป้าให้คนโยนบ่วงลงไปคล้องคอเป็ด บ่วงที่นำมาโยนมีขนาดเล็ก เบา ต่างจากบ่วงที่นำมาโยนใส่พนักงานตามคลิปนี้ที่ทั้งใหญ่และหนัก สังคมจึงตั้งคำถามว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณีของลาว เข้าข่ายใช้ความรุนแรง หรือเป็นกิจกรรมการตลาดที่ขาดสติหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการไม่ให้เป็นแบบอย่างแก่สังคม

ต่อมารุ่งขึ้น ในวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา โรงแรมเวียงจันทน์แม่โขง ได้มีหนังสือชี้แจงไปยังหัวหน้าตำรวจท่องเที่ยว นครหลวงเวียงจันทน์ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 14 ก.พ. เพื่อสร้างความรื่นเริง ต้อนรับลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านอาหารของโรงแรมเท่านั้น ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น บ่วงที่นำมาโยนก็มีน้ำหนักเบา มีการทดสอบก่อนจะนำไปโยน ดังนั้น โรงแรมจึงพร้อมรับฟังคำแนะนำ เพื่อแก้ไขและป้องกันไม่ให้มีปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

โรงแรมเวียงจันทน์แม่โขงตั้งอยู่ที่บ้านโพนทัน เมืองไซเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นโรงแรมที่มีนักลงทุนชาวจีนเป็นเจ้าของ และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวลาว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top