Wednesday, 15 May 2024
โทรศัพท์

‘โนเกีย’ เปลี่ยนโลโก้ใหม่ครั้งแรกในรอบ 60 ปี สลัดภาพจำแบรนด์มือถือ ลุยธุรกิจเครือข่ายเต็มรูปแบบ

(27 ก.พ. 66) 'โนเกีย' ซึ่งเป็นบริษัทที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ในฐานะผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยอดนิยมในอดีต ได้เปลี่ยน' โลโก้' ใหม่ของบริษัท เพื่อสลัดภาพจำที่คนทั่วไปเข้าใจว่า 'โนเกีย' ผลิตแต่โทรศัพท์มือถืออย่างเดียว

เพ็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนเกีย ได้เปิดตัว 'โลโก้ใหม่' ของบริษัท ที่งาน Mobile World Congress ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งเป็นการออกแบบและเปลี่ยน 'โลโก้ใหม่' ครั้งแรกในรอบ 60 ปีของ 'โนเกีย' เพื่อสะท้อนกลยุทธ์การทำธุรกิจและทิศทางใหม่ของบริษัท ซึ่งคนทั่วไปยังคงเข้าใจว่าธุรกิจหลักของโนเกีย คือ การผลิตโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากในอดีต โนเกีย คือ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 จนกระทั่งถึงยุคของสมาร์ตโฟน จึงทำให้สินค้าของโนเกียได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อย ๆ

‘เนเธอร์แลนด์’ เตรียมออกกฏห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารในชั้นเรียน ป้องกันเทคโนโลยีทำเด็กสมาธิสั้น-ประสิทธิภาพการเรียนรู้ลดลง

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 66 เอเอฟพีรายงาน ว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เตรียมออกกฏห้ามการใช้โทรศัพท์มือถือในชั้นเรียน โดยหมายรวมถึงแท็บเล็ตและสมาร์ทวอทช์ด้วยเช่นกัน

รัฐบาลเปิดเผยรายงานว่า เครื่องมือสื่อสารเหล่านั้นรบกวนการเรียนรู้ของนักเรียน

“มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่าโทรศัพท์มือถือมีผลเสียในระหว่างชั้นเรียน และทำให้นักเรียนมีสมาธิน้อยลง ไปจนถึงประสิทธิภาพการทำงานลดลง” รายงานระบุ

“ด้วยเหตุผลนี้ โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต และสมาร์ทวอทช์ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในชั้นเรียนอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567” รัฐบาลกล่าว

ปัจจุบัน รัฐบาลกำลังเร่งทำความเข้าใจกับโรงเรียน และให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนแต่ละแห่งตกลงสร้างกฎภายในร่วมกับครูผู้สอน, ผู้ปกครอง และนักเรียน ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้

ถึงแม้รัฐบาลจะไม่ได้ออกคำสั่งห้ามอย่างเป็นทางการ แต่ขอสงวนสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นหลังจากวัดผลสัมฤทธิ์ในปีหน้า

รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเนเธอร์แลนด์กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า เขาหวังให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวนำไปสู่ ‘การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม’ ที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนซึ่งจะกลายเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า

‘Apple’ เปิดตัว ‘iPhone 15-iPhone 15 Pro’ พร้อมสเปกล่าสุด พอร์ต USB-C และจอ Dynamic Island ทุกรุ่น แถมปุ่ม Action ใหม่

(13 ก.ย. 66) ‘Apple’ จัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำปี 2023 ในชื่อ ‘Wonderlust’ โดยมี iPhone เป็นพระเอก มาครบทั้ง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max พร้อมบอกลาพอร์ต Lightning เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C แทน ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว

สรุปข้อมูล iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มีอะไรใหม่บ้าง?
รอบนี้ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ไม่มีรอยบากบนหน้าจอแล้ว แต่ได้เกาะหรรษา Dynamic Island มาแทน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ iPhone ในรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในซีรีส์ ‘Pro’ โดยจอภาพ Super Retina XDR มีขนาด 6.1 แล้ว 6.7 นิ้ว ตามลำดับ อัตรารีเฟรช 60Hz เท่าเดิม ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต

ภายใน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ขยับมาใช้ชิป A16 Bionic แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 14 Pro ซึ่งยังทรงพลังอยู่มาก แม้จะตกรุ่นไป 1 ปีแล้วก็ตาม

ข้อมูลด้านแบตเตอรี่ Apple ไม่ได้เปิดเผยความจุเป็นตัวเลขตรง ๆ บอกเพียงระยะเวลาการใช้งานแบบคร่าว ๆ แต่สาระสำคัญคือ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C แล้ว หลังจากที่โดนเรียกร้องมานาน

กล้องหลัก iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เป็นอีกจุดสำคัญที่ได้รับการอัปเกรด โดยเพิ่มความละเอียดขึ้น 4 เท่า เป็น 48MP รองรับเทคโนโลยี quad-pixel รวมแสง 4 จุดเล็ก เป็น 1 จุดใหญ่ มีระบบกันสั่น Sensor-shift และระบบโฟกัสครอบคลุมพื้นที่ 100% ของเซนเซอร์ แตะตรงไหนก็โฟกัสไวเท่ากัน ส่วนกล้องอัลตราไวด์มีความละเอียด 12MP ใช้สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอมุมกว้าง

สเปก iPhone 15
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 60Hz
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ :
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 171 กรัม

สเปก iPhone 15 Plus
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 60Hz
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 201 กรัม

สรุปข้อมูล iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีอะไรใหม่บ้าง?
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz และรองรับฟีเจอร์ Always On Display สำหรับดูเวลา สถานะ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ

ของใหม่ที่น่าสนใจคือ ‘ปุ่ม Action’ ใหม่ เป็นปุ่ม haptic feedback อเนกประสงค์ที่เข้ามาแทนปุ่ม Mute เดิม ปุ่มนี้รองรับการตั้งค่าเป็นชอร์ตคัตที่หลากหลาย ตามแต่ผู้ใช้งานกำหนด เช่น ปิดเสียง เปิดสั่น เปิดไฟฉาย เป็นต้น นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังได้พอร์ต USB Type-C ด้วยเช่นกัน โอนไฟล์เร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่า

นอกจากนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังเปลี่ยนวัสดุกรอบตัวเครื่องจากสเตนเลส เป็นไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ แข็งแรงกว่า ทนทานกว่า และที่สำคัญน้ำหนักเบากว่า ทำให้เป็นรุ่น ‘Pro’ ที่เบาที่สุดที่ Apple เคยทำมา

iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ขับเคลื่อนด้วยชิป A17 Pro รุ่นล่าสุด พร้อมจีพียู 6 แกนใหม่ รองรับ ray tracing ในระดับฮาร์ดแวร์ โดย Apple เคลมว่าแรงกว่าเดิมมาก ส่วนกล้องหลัง 3 ตัว ทุกเลนส์จะได้รับการโคตติงด้วยเทคโนโลยีนาโน ช่วยลดแสงแฟลร์หน้าเลนส์ กล้องแต่ละตัวประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2 กล้องอัลตราไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต 12MP ซูมไกล 3 เท่า ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max อัปเกรดกล้องเทเลโฟโต เซนเซอร์ใหญ่ขึ้น 25% ซูมออปติคัลไกลสุด 5 เท่า ระยะเทียบเท่า 120 มม.

สเปก iPhone 15 Pro
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ Always On Display
ชิป : A17 Pro
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องเทเลโฟโต 12MP, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 3 (สูงสุด 10Gb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 187 กรัม

สเปก iPhone 15 Pro Max
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ Always On Display
ชิป : A17 Pro
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 256GB / 512GB / 1TB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องเทเลโฟโต 12MP, ซูมออปติคัล 5 เท่า, ระบบกันสั่น OIS
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 3 (สูงสุด 10Gb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 187 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย
- iPhone 15 – ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
- iPhone 15 Plus – ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
- iPhone 15 Pro – ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max – ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท

Apple จะเริ่มเปิดให้พรีออร์เดอร์ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น ในวันที่ 15 กันยายน ตั้งแต่เวลา 19​:00 น. และจะวางขายตามปกติต่อไปในวันที่ 22 กันยายน

‘นร.ม.6’ คิดสั้น หลังเครียด ถูกหลอกซื้อ ‘ไอโฟน 13’ แบบผ่อนดาวน์ ด้าน ‘แม่เด็ก’ ใจสลาย เผย สิ้นเดือนนี้กำลังจะซื้อไอโฟนให้ลูกอยู่แล้ว

(17 ต.ค. 66) เกิดเหตุนักเรียนสาวชั้น ม.6 ตัดสินใจ ผูกคอตายในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดอาการเครียด เพราะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวง ให้โอนเงินค่าซื้อโทรศัพท์ไอโฟน เป็นเงินเกือบ 2 หมื่นบาท แต่สุดท้ายไม่ได้โทรศัพท์ จึงตัดสินฆ่าตัวตาย โดยเหตุการณ์เศร้าสลดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเกาะทวด ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 66 ที่ผ่านมาว่า มีนักเรียนหญิงผูกคอตาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ตำบลเกาะทวด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และแพทย์เวร

ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นางสาวอาทิยา ช่วยคง หรือ ‘น้องพลอย’ อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ใช้เชือกไนลอนส์ สำหรับเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารี ผูกคอตายกับขื่อห้องนอนในบ้านพัก จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า สาเหตุที่ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดจากความเครียด เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ผ่อนโทรศัพท์มือถือ ‘ไอโฟน13’ ทางระบบออนไลน์

โดยตำรวจ สภ.เกาะทวด ได้ทำการสอบปากคำพยาน 3 ปาก ที่เป็นเพื่อนสนิท และน้าสาวของผู้ตาย ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน พบว่า น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ ผู้ตายได้ติดต่อผ่อนซื้อโทรศัพท์ยี่ไอโฟน 13 ทางเฟซบุ๊กกับร้าน ‘hannah shop mobile’ ซึ่งตั้งอยู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยถูกทางร้านดังกล่าวหลอกให้ นส.อาทิยา โอนเงินดาวน์ค่าผ่อนโทรศัพท์ไอโฟนให้  โดยให้โอนเข้าบัญชีชื่อ น.ส.ดอกแก้ว แก้วเจิม ธนาคาร CIMB บัญชี 7013721050 ซึ่งเป็นบัญชีม้า จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 18,500 บาท  ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ พบหลักฐานเป็นแชตข้อความหลายข้อความ และสลิปการโอนเงินดาวน์ไปให้กับร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อาทิยา หลายข้อความด้วยกัน

ปรากฏว่า หลังจากที่ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ โอนเงินดาวน์เพื่อผ่อนซื้อโทรศัพท์ไปให้แล้ว กลับไม่ได้สินค้า ทำให้ น.ส.อาทิยา พยายามทวงถามสินค้าอยู่หลายครั้ง โดยมีหลักฐานเป็นแชตข้อความในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อาทิยา หลายข้อความด้วยกัน ซึ่งเป็นการโต้ตอบกับทางร้าน แต่เมื่อเห็นนานผิดปกติ น.ส.อาทิยา จึงแชททวงถาม และขอเงินดาวน์คืน แต่กลับถูกทางร้านดังกล่าวแชตข้อความกลับมา พร้อมกับให้โอนเงินค่าประกันเพิ่มอีก 2,000 บาท

กระทั่ง น.ส.อาทิยา หลงเชื่อ จึงได้โอนไปให้อีก 2,000 บาท แต่ทางร้านกลับเงียบหายไป และไม่โอนเงินคืนกลับมา ทำให้ น.ส.อาทิยา รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงพยายามแชททวงเงินคืนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ น.ส.อาทิยา เกิดความเครียดอย่างหนัก เพราะเงินส่วนหนึ่งที่โอนไป เป็นเงินที่หยิบยืมจากเพื่อนสนิท 2 คน และที่สำคัญกลัวถูกแม่ตำหนิ

จนกระทั่งเวลา 15.10 น. ของวันที่ 15 ต.ค. 66 น.ส.อาทิยา ได้แชตสุดท้ายกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งได้ระบุว่า ตนเองถูกร้านขายโทรศัพท์มือถือหลอก และถูกโกงเงินไปแล้ว ประกอบกับกลัวแม่จะตำหนิ จากนั้น น.ส.อาทิยา ก็เงียบหายไป ก่อนที่เพื่อนสนิทเห็นท่าไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์แจ้งญาติเข้าไปดูในห้องนอน แต่ประตูถูกล็อกจากด้านในอย่างหนาแน่น จนทางญาติต้องพังประตูเข้าไป และพบ น.ส.อาทิยา หรือน้องพลอย ผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของพ่อแม่ และบรรดาญาติๆ และเพื่อนๆ ที่เกิดเหตุการณ์เศร้าในครั้งนี้ 

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดช สว.สภ.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ทำการสืบสวนสอบสวน ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และเรียกพยานเพื่อนสนิทของผู้ตาย และญาติสนิทมาสอบปากคำเบื้องต้น พบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกให้เหยื่อ โอนเงินค่าดาวน์โทรศัพท์ไอโฟน 13 แต่ถูกโกงทำให้ น.ส.อาทิยา เกิดความเครียด และกลัวแม่ตำหนิเลยตัดสินใจผูกคอตายดังกล่าว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้มีการสอบสวนขยายผล พร้อมกับแจ้งอายัดบัญชีม้าดังกล่าวอีกด้วย

พร้อมทั้ง ตรวจสอบร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ที่ระบุว่าอยู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เบื้องต้นพบว่า ร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ไม่มีอยู่จริง เป็นการสร้างโปรไฟล์ขึ้นมา เพื่อหลอกลวงลูกค้า ซึ่งตำรวจ สภ.เกาะทวด ได้ประสานตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ และประวัติอาชญากรรมของ น.ส.ดอกแก้ว เจ้าของบัญชีม้า พร้อมทั้งประสานตำรวจไซเบอร์ ให้ช่วยเหลือในการทำคดี เพื่อติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายออนไลน์แก๊งนี้ต่อไปแล้ว

ล่าสุดเช้าวันนี้ (17 ต.ค. 66) ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ และใช้เป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.อาทิยาหรือน้องพลอย บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติและเพื่อนบ้าน มาช่วยจัดงานศพกันอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ จากการสอบถาม นางบุญเยือน อ่อนแก้ว หรือ ‘แม่แป๋ว’ อายุ 47 ปี มารดาของ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ไม่คาดคิดว่าครอบครัวของตนเองจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก ที่ผ่านเคยดูแต่ข่าวว่า มีเด็กนักเรียนฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน แต่ไม่คาดคิดว่า เหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้นซ้ำกับลูกสาวของตนเอง จึงอยากเตือนใจให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน ได้เฝ้าดูแลลูกๆ ในเรื่องนี้ให้ดี

สำหรับมูลเหตุเริ่มจาก น้องพลอย ลูกสาว เคยบ่นว่า อยากได้โทรศัพท์ไอโฟน 13 เพื่อนำไปใช้เรียนในชั้นมหาวิทยาลัยต่อในปีหน้า แต่มีปัญหาคือโทรศัพท์มีราคาแพงมาก ซึ่งตนก็ปลอบใจลูกสาว ว่าเดี๋ยวรอให้ถึงสิ้นเดือน แม่จะซื้อไอโฟน 13 ให้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ลูกสาวได้แอบไปสั่งซื้อ และผ่อนโทรศัพท์ไอโฟน 13 ทางออนไลน์เสียก่อน โดยพบหลักฐานข้อความแชตจำนวนมากที่ติดต่อกับทางร้านขายโทรศัพท์ปลายทาง และยังมีการหยิบยืมเงินจากเพื่อนสนิท เพื่อนำมาเป็นค่าเงินดาวน์ ในการซื้อโทรศัพท์ จนเมื่อลูกสาวรู้ว่าตัวเองถูกโกง จึงทำให้เกิดอาการเครียด และก่อเหตุผูกคอตายดังกล่าว

“หากลูกสาวแม่ มาบอกแม่ก่อน ว่าไปแอบผ่อนโทรศัพท์แล้วถูกโกง ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอน และแม่ขอยืนยันว่า จะไม่ตำหนิลูกสาวอย่างแน่นอน เพราะรักลูกสาวคนนี้มาก และสิ้นเดือนนี้แม่ก็จะซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 13 ให้ลูกสาว ซึ่งเพื่อนสนิทของลูกได้บอกกับแม่ว่า ลูกสาวเคยมาพูดเป็นลางสังหรณ์ให้เพื่อนสนิทฟังว่า หากถูกโกงซื้อไอโฟน 13 แล้ว จะฆ่าตัวตาย แม่จะเสียใจหรือไม่ เพื่อนสนิทได้พูดห้ามและปลอบใจ พร้อมกับแนะนำให้ไปแจ้งความกับตำรวจ” บุญเยือน กล่าว

นางบุญเยือน กล่าวอีกว่า อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจับกุม และปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องระบบออนไลน์ ที่จะต้องทำงานให้มากกว่านี้ สาเหตุที่ลูกสาวตัดสินใจฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ตนนึกไม่ถึงเลย ว่าลูกจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย หากตนรู้เรื่องก่อนหน้านี้ จะไม่ตำหนิลูกสาวเลย เพราะเข้าใจในตัวลูกสาวดีว่า ลูกสาวต้องการโทรศัพท์ไอโฟน 13 ไปใช้เรียนหนังสือในมหาลัยต่อไป ตนและญาติเศร้า และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างไปทำกับคนอื่นอีกต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top