Thursday, 4 July 2024
โครงการรับจำนำข้าว

‘ภูมิธรรม’ เตรียมตรวจข้าวสุรินทร์ ดึงทุกฝ่ายมีส่วนร่วม คาด!! เปิดประมูล 2 โกดัง ทำรายได้หลายร้อยล้าน

(1 พ.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 พ.ค.67 ตนจะนำคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อร่วมกันประเมินและตรวจสอบคุณภาพของข้าวใน 2 โกดังของคดีรับจำนำข้าว ที่จ.สุรินทร์ ซึ่งโกดังแรกมีปริมาณ 1 แสนกระสอบ และอีกโกดังมีอยู่ 32,000 กระสอบว่าเสียหายหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบในส่วนของตรงกลางกองข้าวด้วย จากนั้นคาดว่าจะนำข้าวดังกล่าวมาเปิดประมูลข้าวได้เร็วที่สุดภายในเดือนพ.ค.2567

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะเปิดให้ทุกส่วนที่สนใจเข้าร่วมตรวจสอบพร้อมกันกับเซอร์เวเยอร์ด้วย รวมทั้งร่วมกันประเมินราคา เพื่อนำมาพิจารณาในการทำเงื่อนไขในการเปิดประมูล (TOR) ข้าวในล็อตดังกล่าวให้มีความรัดกุม อีกทั้ง ให้เกิดความเป็นธรรมและมีความเหมาะสม หากบุคคลใดเกิดข้อสงสัยก็สามารถแย้งได้

“ประมูลรอบนี้คาดว่าจะได้รายได้จากการประมูลหลาย 100 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำมาพิจารณาชดเชยให้กับเจ้าของโกดัง ส่วนปริมาณเท่าไร ต้องรอการพิจารณาและคุยกันในรายละเอียด เพื่อให้เป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะปริมาณข้าวดังกล่าวเก็บมาเป็นเวลา 10 ปี เป็นภาระและทำให้เจ้าของโกดังเสียโอกาส เนื่องจากภายในโกดังยังมีพื้นที่ว่างบางส่วน”นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี เมื่อพิสูจน์ชัดเจนถึงคุณภาพข้าวแล้วว่า ไม่ใช่ข้าวเน่า ข้าวเสีย ก็สามารถเปิดประมูลข้าวที่คนสามารถทานได้ ไม่ใช่อาหารสัตว์หรือโรงงาน ซึ่งจะพยายามดำเนินการภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ที่ทำได้ รวมไปถึงเรื่องของคดีต่างๆ ในโครงการด้วย

สำหรับคลังสินค้าที่จัดเก็บข้าวในโครงรับจำนำข้าว บจก.พูนผลเทรดดิ้งหลัง 4 อ.เมือง ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 32,879 กระสอบ และคลังกิตติชัยหลัง 2 อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 112,711 กระสอบ

‘นายกฯ’ เผย!! กินข้าว 10 ปีแล้ว บอก!! เหมือนกินข้าวปกติทั่วไป

(9 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ 10 ปี ในโกดัง จ.สุรินทร์ มาให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับประทานในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้นั้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยคณะทำงานระบุว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายกฯ ได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยงกับคณะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยได้นำข้าว 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ในโกดังข้าวใน จ.สุรินทร์ มาหุงพร้อมรับประทาน ซึ่งมีเมนูกับข้าว ประกอบด้วย ไข่ลูกเขย กะเพราไก่ แกงเขียวหวานไก่ หมูทอดกระเทียม แกงคั่วเนื้อ และผัดผัก โดยนายกฯ ได้พูดกับทีมงานว่า "ข้าวก็อร่อยดีครับ" 

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้สอบถามไปยังนายกฯ ว่าหลังลองรับประทานข้าวแล้วเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายกฯ ระบุว่า ได้ลองกินแล้ว ความรู้สึกเหมือนกินข้าวปกติทั่วไป แต่เรื่องของสีข้าวอาจไม่ขาวเหมือนข้าวใหม่ แต่โดยรวมไม่ได้แตกต่างอะไร ทานได้

‘ชาญชัย’ ฟาดใส่ ‘ภูมิธรรม’ คิดสั้นเอาข้าวเก่า 10 ปี ส่งขายต่างประเทศ ชี้!! เป็น ‘รมว.พาณิชย์’ ไม่ใช่ ‘ทนายแก้ต่างให้ยิ่งลักษณ์’ เรื่องจำนำข้าว

(11 พ.ค.67) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีข้าวหอมมะลิเก่าค้างโกดังโครงการรับจำนำข้าว 10 ปี รวม 1.5 หมื่นตันที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีแนวคิดที่จะนำเข้าสู่ระบบข้าวเพื่อส่งออกไปขายให้แอฟริกานั้นว่า ข้าวที่ค้างโกดัง 10 ปี ในยุครัฐบาลนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี้เป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นอย่าเอาข้าวล็อตสุดท้ายจำนวน 1.5 หมื่นตันนี้ มาทำเล่นให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรชาวนา เพราะจะทำให้ต่างประเทศที่จะซื้อข้าวจากไทย ที่เราส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งหรือ อันดับสองของโลกต้องพลอยจะเสียชื่อของประเทศไทยไปด้วยว่า เราเอาข้าวเสื่อมคุณภาพเข้าระบบข้าว มาขายแล้วไปผสมให้เขา จะทำให้ต่างประเทศเขาสงสัยและเอาไปพูดต่อให้เสียหาย นี่เป็นเรื่องของการตลาดและความน่าเชื่อถือของข้าวไทย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าอยากจะช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้ยึดความจริง อย่าไปเอาเรื่องไม่จริงไปหลอกลวงให้คนอื่นสับสนวุ่นวาย และมันจะกระทบต่อภาพรวมของวงการค้าข้าวทั้งระดับประเทศ ระดับโลก

ท่านจะซื้อข้าวนี้ไปเอง จะซื้อไปเก็บ หรือจะซื้อไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ แต่อย่าเอามาเล่นเป็นการเมือง ผมขอฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่าคิดสั้น ให้คิดยาว คุณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย ไม่ใช่ทนายแก้ต่างให้คุณยิ่งลักษณ์ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ศาลท่านตัดสินแล้วว่าพวกคุณทำผิดกันและก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งมีการใช้หนี้ไปจำนวนมากแล้วโดยใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนมาชดใช้หนี้เสียจำนำข้าว ไม่ใช่เอาเงินของคุณยิ่งลักษณ์ หรือของตระกูลชินวัตรมาชดใช้ หรือเอาเงินของพรรคเพื่อไทยมาใช้หนี้แม้แต่บาทเดียว เพราะฉะนั้น ผมขอฝากชัด ๆ ว่า บ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของเล่น เราเป็นนักการเมืองเข้ามาอาสารับใช้ประชาชน ไม่ใช่มานั่งแก้ตัว หรือหาเรื่องค้าบ้านค้าเมือง หาผลประโยชน์กันต่อ ที่หาเรื่องถกเถียงในเรื่องที่ศาลฎีกาตัดสินไปแล้ว ถ้าคุณไม่ยอมรับว่า เรื่องที่ศาลตัดสินไปแล้วว่าถูกต้อง คุณก็กลับไปฟ้องว่า ใครเป็นผู้ที่ทำผิด

และถ้าเกิดคุณสงสัยว่าข้าวที่อยู่ในโครงการนี้ในอดีตที่ผ่านมาสมัย คสช.ใครไปทำผิด ผมแนะนำว่า คุณมีอำนาจ คุณไปจัดการสอบสวนและดำเนินคดีกับคนนั้น ถ้าใครทำผิดก็เอาไปจัดการ เอาเข้าคุกไปและไปยึดทรัพย์เลย ผมท้าให้พวกคุณไปทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนประชาชน ผมจะขอบคุณด้วยซ้ำ ถ้าสามารถจับได้ว่า ใครที่ทำผิด จะมียศนายพลใหญ่ขนาดไหน ก็ไปจัดการตามกฎหมายเอา ถ้าแน่จริงขอฝากไปถึงนายทักษิณ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และฝากถึงนายภูมิธรรม มือขวาของนายทักษิณด้วยว่า ถ้าแน่จริง ไปทำเลยถ้าไม่ทำก็แสดงว่า ไม่แน่จริง คุณกำลังเอาเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมือง เพื่อจะช่วยเหลือน.ส.ยิ่งลักษณ์ตามที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหรือไม่ สังคมกำลังติดตาม อย่ามาทำลายเกษตรกรชาวนาไทยด้วยวิธีนี้แค่ข้าว 1.5 หมื่นตัน มันเป็นเศษเสี้ยวของความเสียหายที่พวกคุณทำอะไรกันไว้ในอดีต ขอให้ยุติเรื่องพวกนี้และไปทำเรื่องอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองจะดีกว่า นายชาญชัย กล่าว

‘เจ้าของโรงสี’ ชี้ ข้าว 10 ปี ถ้าดูแลดี นำมาหุงกินได้ ผิดกับข้าวหน้าคลัง ‘อคส.’ ถูกทิ้ง 9 ปี ‘เน่าหมดสภาพ-กินไม่ได้’

(11 พ.ค.67) นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอปอเรชั่น จำกัด ต.ธำรงค์ อ.เมืองกำแพงเพชร ที่รับซื้อขายข้าวเปลือกและแปรรูปข้าวส่งออกจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งยังมีโกดังให้เช่า 15 หลัง นำสื่อมวลชนดูสภาพกองข้าว บริเวณหน้าโกดังคลังสินค้าหลัง A1 หรือที่เรียกกันว่าโกดังเก็บข้าว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 รวมระยะเวลา 9 ปี

ซึ่งเป็นกองข้าวสรรบรรจุในกระสอบและบิ๊กแบ็ก วางทับกันสูงประมาณ 3 - 5 เมตร ยาว 300 เมตร มีเมล็ดข้าวแตกออกจากกระสอบที่ผุพังและข้าวบางกองก็มีสภาพเน่าเสียจากการถูกน้ำฝนที่สาดเข้ามาหรือมีนกมาถ่ายมูลทิ้งไว้

นายมนต์ชัย เปิดเผยว่า สภาพของข้าวกองนี้เป็นข้าวที่เสียหาย หมดสภาพที่จะนำไปรับประทานได้ เนื่องจากไม่ได้ถูกจัดเก็บอย่างดีและไม่มีการดูแลคุณภาพข้าวตามมาตรฐาน ข้าวจึงอยู่ในสภาพที่นำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์หรือแปรรูปเป็นพลังงานได้เท่านั้น

ส่วน การที่จะนำข้าวที่มีอายุ 10 ปีมารับประทานได้หรือไม่นั้น ในความเห็นของผู้ประกอบการที่ทำโรงสีมานานกว่า 30 ปีมองว่า ขึ้นอยู่กับการดูแลคุณภาพข้าวสาร หากเป็นข้าวที่ได้รับการจัดเก็บอย่างถูกต้องและดูแลเรื่องของคุณภาพข้าวที่ได้ตามมาตรฐาน เช่น อยู่ในโกดังที่มิดชิด มีอากาศถ่ายเท อบรมยาดูแลคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถนำมาปรับปรุงใหม่ นำมารับประทานได้ แต่หากดูแลไม่ดี สภาพข้าวก็จะมีทั้งกลิ่นทั้งสีที่ไม่น่ารับประทาน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาคุณภาพข้าวของแต่ละพื้นที่แต่ละแห่งนั่นเอง

สำหรับกองข้าวที่ทิ้งไว้หน้าโกดัง A1 ของบริษัทนั้น นายมนต์ชัย บอกว่า เป็นข้าวที่ไม่ได้รับการเหลียวแล เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายก อคส.หรือองค์การคลังสินค้า ได้นำข้าวมาฝากเช่าที่โกดังแห่งนี้ และเมื่อปี พ.ศ. 2558 เกิดเหตุไฟไหม้กลางกองข้าวในโกดัง หลังจากระงับไฟได้แล้วข้าวบางส่วน อคส. และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ได้มาตรวจสอบ-คัดแยกข้าวเคลื่อนย้ายออกมาไว้ที่หน้าโกดัง ในกรณีนี้ทาง อคส. ได้รับค่าสินไหมจากบริษัทประกันภัยไปกว่า 10 ล้านบาท

ต่อมา อคส.ได้เปิดประมูลข้าวในโกดังเมื่อปี พ.ศ.2562 ผู้ชนะประมูลได้มาเคลื่อนย้ายข้าวดีภายในโกดังและที่หน้าโกดังออกไปบางส่วน ยังคงเหลือข้าวอีกกว่า 3,000 ตัน ถูกกองทิ้งไว้ ทางบริษัทได้ส่งหนังสือแจ้ง อคส.หลายครั้ง แต่กลับปฏิเสธข้าวกองนี้ แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสต๊อกคงเหลือปีละสองครั้ง

ซึ่งทางผู้ประกอบการโรงสีได้ร้องขอให้ทาง อคส. มาขนข้าวออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการประกอบการได้ แต่ได้รับการเพิกเฉย ทางบริษัทจึงอยู่ในระหว่างฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายต่อศาลปกครองกลาง รวมทั้งได้ยื่นหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหายจากการกระทำขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ดังกล่าวด้วย

‘ดร.เสรี’ ชี้ ‘ข้าว 10 ปี’ กินไม่ได้ เพราะมีสารพิษ เป็นอันตรายต่อร่างกาย ฟาด!! ‘ภูมิธรรม’ แสดงละครกินโชว์ หวังผลเอา ‘คนหนีคุก’ กลับประเทศ

(12 พ.ค.67) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีความพยายามในการจะนำเอาข้าวเก่า 10 ปี ออกมาขาย โดยได้ระบุว่า … 

อาจารย์เคมีนำข้าว 10 ปีไปทำการพิสูจน์ตามหลักวิชาการ ได้ผลออกมาบอกว่าข้าว 10 ปีกินไม่ได้ เพราะมีสารพิษ เป็นอันตรายต่อร่างกาย

หมอบอกว่ากินไม่ได้เพราะมี Aflatoxin ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง คนทำธุรกิจข้าวบอกว่าเกิน 2 ปี ก่อมีเชื้อราแล้ว เหม็นหืน กินไม่ดี 
คนส่วนใหญ่ซาวข้าว 1-2 น้ำเท่านั้นเพื่อทำความสะอาดข้าวและรักษาคุณค่าทางอาหารของข้าว ไม่มีใครซาวข้าว 15 น้ำ

รัฐมนตรีพาณิชย์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพรรคร่วม บอกว่ากินได้ และมีการกินโชว์ให้ดู สื่อมวลชนที่เป็นนายแบก นางแบกทั้งหลายก็ร่วมเป็นตัวแสดงในการแสดงละครนี้ด้วย กินโชว์แค่หนเดียวอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าชาวบ้านซื้อไปกินต่อเนื่องเป็นเดือนเป็นปี ผลลัพธ์อาจจะต่างกัน

กรมวิทยาศาสตร์บริการจะช่วยพิสูจน์ด้วยไหมคะ อย. จะมีบทบาทอะไรได้บ้างคะ นี่เป็นเรื่องอาหารนะ สคบ. จะคุ้มครองผู้บริโภคยังไงได้บ้างคะ

ถ้าพ่อค้าประมูลมาใส่ถุงขาย ประชาชนไม่รู้ ซื้อมากินต่อเนื่อง ถ้ามีปัญหาทางด้านสุขภาพกันมากๆ จะทำยังไง แล้วที่จะส่งไปขายAfrica ภาพลักษณ์ของข้าวไทยในตลาดโลกจะเป็นยังไง ลูกค้ายังจะเชื่อถือข้าวไทยอีกไหม

จะซักข้าว 10 ปี เพื่อซักผิดในอดีตคงไม่ได้หรอกนะ

นี่คือสารตั้งต้นของการเอาคนหนีคุกกลับประเทศหรือเปล่า อย่าทำอะไรล้ำเส้นมากเกินไปเลยนะ แค่นี้คนไทยก็เอือมระอาเต็มทนแล้ว

แทนที่จะ ‘ทำงาน’ ทำไมจึง ‘ทำแต่เรื่อง’ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่กันหน่อยนะคะ

‘หมอวรงค์’ ชี้ ‘ข้าว 10 ปี’ คือ มรดกการโกงจำนำข้าว ที่ทุจริตทุกขั้นตอน ฟาด!! ‘ภูมิธรรม’ ไม่โปร่งใส-ไม่ตรงไปตรงมา-พูดความจริงน้อยมาก

(25 พ.ค. 67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ ‘ข้าว 10 ปี’ ว่า …

#ข้าว 10 ปี มรดกการโกงจำนำข้าว

สิ่งที่น่าแปลกใจ นายภูมิธรรมพยายามพูดเสมอว่า นี่คือข้าวเก่า ข้าวหอมมะลิ และทางเจ้าของคลังดูแลอย่างดี ราคาประมูลตอนนี้ ยังไงก็ดีกว่า 5 บาท กลายเป็นของเน่าไป ข้าว 10 ปี ยังทำได้ ก็ต้องกลับไปทบทวน

นายภูมิธรรมพูดมีความจริงน้อยมาก เพื่อให้ประชาชนทบทวนความทรงจำ หลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกยึดอำนาจ มีข้าวในโครงการรับจำนำข้าวค้างคลัง 18.6 ล้านตันตามบัญชี แต่ปริมาณข้าวจริงประมาณ 17.7ล้านตัน

เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าว มีการทุจริตทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ช่วงต้นน้ำ มีการโกงความชื้น โกงตาชั่ง สิ่งเจือปน ขายสิทธิ์ใบประทวน ช่วงกลางน้ำ ปัญหาหลักคือเอาข้าวไม่ได้มาตรฐาน ข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวต่างชาติ เวียนเทียนข้าว

ในส่วนปลายน้ำ มีการระบายข้าวเป็นข้าวถุง แต่สุดท้ายข้าวไม่ถึงมือชาวบ้าน ถูกตรวจสอบพบการทุจริต จึงยุติโครงการ มีการส่อทุจริตไปแล้ว 1.1 ล้านตัน จากเป้าหมาย 2.5 ล้านตัน

อีกกรณีคือการระบายแบบจีทูจี ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ไม่สั่งระงับ ทั้ง ๆ ที่รู้การทุจริต จึงถูกศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี

ปัญหาของข้าวในโกดัง ที่เป็นการทุจริตกลางน้ำ จากการตรวจสอบข้าวในคลัง ของโครงการรับจำนำข้าว ข้อมูลของTDRI รายงานว่า มีข้าวไม่ได้มาตรฐานสูงถึง 85%

การระบายข้าวในสมัยพลเอกประยุทธ์ เนื่องจากมีข้าวไม่ได้มาตรฐานสูงถึง 85% จึงต้องแบ่งเกรดข้าว เป็น 1.ข้าวมาตรฐาน คือข้าวปกติทุกอย่าง 2. ข้าวเกรด A 3.เกรด B และ4.เกรด C

สิ่งที่นายภูมิธรรมพูดจริงบางส่วน คือข้าวที่ขายในราคากิโลละ 6 บาท ไม่ใช่ 5 บาท คือข้าวเกรด C ที่มีเชื้อราเป็นก้อน ๆ ในกระสอบข้าวสาร เขาจึงตีเป็นข้าวเกรด C ขายเพื่ออุตสาหกรรม เช่นทำปุ๋ยหรือแอลกอฮอล์

ที่สำคัญ ข้าวที่เหลือล็อตสุดท้ายนี้ (1.5หมื่นตัน หรือ1หมื่นตัน ตัวเลขยังไม่มีการชี้แจง) เคยขายในราคากิโลละ 27-28 บาท ผู้ชนะซื้อเป็นข้าวหอมมะลิ แต่มีข้าวขาวปลอมปน เขาจึงรับข้าวไปบางส่วน และไม่ยอมรับที่เหลือ

อย่างน้อยนายภูมิธรรมต้องรู้ว่า ข้าวล็อตสุดท้ายนี้ ไม่ได้ขาย 5 บาท ตามที่นายภูมิธรรมพูดแบบจินตนาการ ที่สำคัญก็เป็นการตอกย้ำ การสอดไส้ข้าว มรดกการโกงจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ ที่ยังหลงเหลืออยู่ ยังไม่นับรวมสิ่งที่กระทำแบบไม่ตรงไปตรงมา ไม่โปร่งใสยุคนายภูมิธรรม

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นศาลปกครองฟ้อง ‘ภูมิธรรม’ ฐานละเลยหน้าที่ ปมเปิดประมูลขายข้าว 10 ปี

(31 พ.ค.67) ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เข้ายื่นศาลปกครองฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ตามมาตรา 9 (1)(2) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ในข้อหาดำเนินการประมูลขายข้าวเก่า 10 ปี ขัดต่อประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณามีคำสั่งระงับหรือให้ อคส. กระทรวงพาณิชย์ หรือ นบข. สั่งทบทวนการจัดทำ TOR ประมูลขายข้าวเก่าดังกล่าวเสียใหม่ และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคต่อไป และในการยื่นฟ้องในวันนี้ ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือกำหนดมาตรการอย่างใด ๆ เพื่อคุ้มครองชั่วคราวด้วยการสั่งระงับการยื่นซองและเปิดซองประมูลข้าวดังกล่าวที่จะมีขึ้นในเดือนมิ.ย.2567 นี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนไว้ก่อนด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีรัฐบาลมีนโยบายนำข้าวสารเก่ามีอายุ 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในโกดังจังหวัดสุรินทร์ทั้ง 2 โกดัง ปริมาณ 15,000 ตันออกมาประมูลขาย โดยไม่ให้ผู้เข้าร่วมประมูลตรวจสอบคุณภาพข้าวอีก ทั้งที่มีข้อมูลที่ขัดกันระหว่างนักวิชาการจากสถาบันวิชาการต่าง ๆ กับข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ขัดแย้งกัน เกี่ยวกับคุณภาพของข้าวเก่า 10 ปีจะนำมาบริโภคได้หรือไม่ ประชาชนไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า มีนักวิชาการ และทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ออกมาบอกว่า ข้าวเก่าอายุ 10 ปี ไม่มีคุณค่าทางอาหาร รวมถึงมีความเสี่ยงในเรื่องของจุลินทรีย์ เชื้อโรค สารพิษ เพราะต้องมีการอบข้าว ๆ ทุก 6 เดือนอยู่แล้ว โดนอาจจะมีสารพิษเหล่านี้เจือปนอยู่ โดยรัฐบาลมีความพยายามแก้เกม โดยส่งตัวอย่างไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พิสูจน์ แต่กรมวิทย์ฯ ได้พิสูจน์แล้วก็มีบางส่วนที่ระบุว่าข้าวมีการเจือปนของตัวมอด แมลง ต่าง ๆ ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาเป็นอาหาร เพียงแต่ว่าสารพิษต่าง ๆ ที่มีคนวิตกนั้นไม่เกินไปกว่าที่มาตรฐานกำหนด แต่ในทางวิชาการ การหยิบสุ่มตรวจข้าวไม่มีใครรู้ว่าสุ่มจากจุดไหนของกองข้าว หรือนำมาจากแหล่งใด เพราะกรมวิทย์ฯ อยู่ที่สำนักงานของตัวเอง เขาไม่ได้ไปสุ่มตรวจที่โกดังข้าว จึงเป็นข้อสงสัยอาจนำข้าวจากที่อื่นมาให้กรมวิทย์ฯ สุ่มตรวจก็ได้

“การที่รัฐบาลผลักดันให้มีการออกมาจำหน่ายข้าว เพื่อให้ข้าวโครงการรับจำนำข้าวเมื่อปี 2555-2556 หมดไปอาจจะเป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่าคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะเงื่อนไขทีโออาร์ไม่มีข้อจำกัดให้ผู้ที่จะประมูลได้ดำเนินการนำข้าวดังกล่าวไปขาย หรือจำหน่ายให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวก็จะเป็นการดิสเครดิต คุณภาพ และชื่อเสียงของข้าวไทยที่สั่งสมมานำ 10 ปี 100 ปี” นายศรีสุวรรณ กล่าว

เมื่อถามว่าประชาชนยังไม่เชื่อมั่นผลการตรวจสอบสารปนเปื้อนข้าวของรัฐบาล ควรเปิดโอกาสให้แล็บเอกชน มาร่วมตรวจสอบได้หรือไม่นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจต่อประชาชน ควรจะตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา โดยเชิญนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาหรือแล็บทดสอบต่าง ๆ มาดำเนินการตรวจสอบคุณภาพเข้า โดยเริ่มตั้งแต่การไปสุ่มเก็บตัวอย่างให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ในการสุ่มเก็บตัวอย่างกองข้าวทั้งด้านข้าง ด้านกลาง ด้านใน ต้องเก็บตัวอย่างให้ครบทุกพื้นที่ ไม่ใช่หยิบเอาตัวอย่างจากไหนมาก็ไม่รู้แล้วมาอ้างว่าเป็นข้าวมาจากโกดังข้าว ซึ่งประชาชนไม่มีใครสนใจแล้ววันนี้

‘บ.ค้าข้าว 8 ราย’ ยื่นประมูลข้าวเก่า 10 ปี จับตา 3-4 ราย กล้าสู้ราคา-พร้อมปิดดีล

(10 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า(อคส.)เปิดให้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติของเอกชนที่สนใจยื่นประมูลข้าวหอมมะลิ 1.5 หมื่นตัน ตามโครงการรับจำนำ ที่มีอายุการเก็บ 10 ปี ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ปรากฏว่ามีจำนวน 8 ราย ส่งตัวแทนเข้ายื่นซอง ได้แก่

1)บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร
2)บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท
3)หจก.อุบลไบโอเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี
4)บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด(มหาชน) จังหวัดอุบลราชธานี
5) บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร จังหวัดนครสวรรค์
6) บริษัท ทรัพย์แสงทอง สุพรรณบุรี
7) บริษัท สหธัญ จังหวัดนครปฐม
8) บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จังหวัดนครสวรรค์

ทั้งนี้ อคส. จะตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เสนอซื้อและประกาศรายชื่อ ผู้เสนอซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งผู้เสนอซื้อสามารถตรวจสอบรายชื่อของผู้เสนอซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ www.pwo.co.th ขององค์การคลังสินค้า

จากนั้น ให้ผู้เสนอซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถยื่นซองเสนอซื้อได้ในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 12.00 น. ที่อคส.

สำหรับข้าวที่นำมาประมูล มีปริมาณ 15,000 ตัน จากโครงการรับจำนำข้าว ในปี 2556/57 แยกเป็น 1.คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รวม 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้ระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ 2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) ปริมาณ 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ

แหล่งข่าวในวงการค้าข้าว กล่าวว่า จากดูชื่อบริษัท คาดว่าการร่วมแข่งราคาประมูลในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ที่น่าจะให้ราคาดี 3-4 ร

“ดูจากตัวเลข 8 ราย ที่ยื่นซอง ถือว่าสูงกว่า คาดการณ์” แหล่งข่าว ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top