Wednesday, 15 May 2024
แอปหาคู่

ผลสำรวจ เผย!! ‘ไทย’ ติดอันดับ 4 ประเทศที่ ‘นอกใจ’ สูงที่สุด นิยม 'ความรักออนไลน์' ผ่านแอปหาคู่ แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจ

จากการจัดอันดับ “อัตราการนอกใจ” ประจำปี 2023/2566 ของ World Population Review ระบุว่า “ประเทศไทย” ติดอันดับ Top10 ประเทศที่มีอัตราการนอกใจสูงที่สุดในโลก!

นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันผู้คนส่วนมากให้ความนิยมในการหารักออนไลน์ผ่านแอพพ์หาคู่เดตหรือเว็บไซต์หาคู่ที่มีกลาดเกลื่อน โดยผลสำรวจจาก iResearch ระบุว่า ในประเทศไทย มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ รวมกันไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000,000 คน ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกันกับอัตราการนอกใจและการหย่าในไทยที่สูงขึ้นหรือไม่ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ได้วิเคราะห์สถานการณ์ไว้ดังนี้

ผลจัดอันดับ 10 อันดับประเทศทั่วโลกที่พบอัตรานอกใจสูงสุด ไทยติดอันดับที่ 4

อันดับประเทศที่มีการนอกใจสูงสุด คือ 1.สหรัฐอเมริกา 71% 2.เยอรมนี 68% 3.สหราชอาณาจักร 66% 4.ไทย 61% 5.บราซิล 57% 6.ฝรั่งเศส 57% 7.รัสเซีย 53%  8.ญี่ปุ่น 49% 9.โรมาเนีย 46% 10.ออสเตรเลีย 44%

โดยในปีนี้ 2566 ไทยครองอันดับที่ 4 มีอัตราสูงถึง 61% พร้อมขยายความไว้ว่า คนไทยมักจะนอกใจไปกับ “คนแปลกหน้า” ซึ่งทางแม่สื่อบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ขอให้คำจำกัดความคนแปลกหน้านี้ให้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งก็คือการนอกใจในรูปแบบความสัมพันธ์ประเภท One Night Stand ที่เน้นถูกใจฉาบฉวยเพียงข้ามคืนโดยไม่ต้องสนใจทำความรู้จักกันก่อนนั่นเอง และสำหรับคู่รักที่แต่งงานกันไปแล้วก็หนีไม่พ้นการนอกใจด้วยเช่นกัน เพราะผลสำรวจยังพบว่าคนไทยส่วนมาก เคยนอกใจอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้จะอยู่ในฐานะแต่งงานแล้วก็ตาม เชื่อมโยงกับสถิติการหย่าในไทยที่พุ่งสูงขึ้นกว่าเก่าเกือบ 1.4 แสนคู่

สำหรับ 5 สาเหตุ ต้นตออาการนอกใจ ที่มักพบได้เป็นสาเหตุหลักๆ ในคนที่มีคู่ หรือกระทั่งแต่งงานแล้ว ได้แก่

1.ขาดความใกล้ชิดทางอารมณ์ เมื่อคู่รักขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์ ทำให้พยายามแสวงหาความลึกซึ้งทางอารมณ์จากที่อื่นมาทดแทนเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

2.รสนิยมทางเพศไม่ตอบโจทย์ ความรักมาพร้อมกับความแนบชิดทางกาย หรือความพึงพอใจทางเพศ รสนิยมทางเพศที่สอดรับกัน ทำให้บางคนใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างในการหาความตื่นเต้น หรือหาคู่นอนที่ตอบรับรสนิยมของตัวเอง

3.ต้องการความแปลกใหม่ ในบางคนไม่มีเหตุผลอะไรซับซ้อนนอกจากนิสัยในการชอบลองอะไรที่ตื่นเต้น แปลกใหม่ ชอบอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง นอกใจคู่รักเพื่อความตื่นเต้นท้าทายส่วนตัว โดยเฉพาะในปัจจุบันมีสิ่งเร้าที่มากกว่ายุคก่อนๆ เพียงแค่เปิดมือถือขึ้นมาก็สามารถสร้างโลกอีกใบของตัวเองขึ้นมาได้ ทำให้คนใฝ่หาสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ หนึ่งในนั้นก็คือการนอกใจคู่รักผ่านโลกออนไลน์ และบนแอพพ์ และเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ

4.ความเบื่อหน่ายและปัญหาซ้ำๆ รอยร้าวในความสัมพันธ์เป็นประเด็นที่อาจนำไปสู่ปัญหาการนอกใจได้เช่นกัน เพราะเมื่อย้อนนึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา ก่อให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เหน็ดเหนื่อยกับปัญหาเดิมๆ อยากหาทางออก จึงเลือกการพาตัวเองไปเจอกับคนใหม่ หาความสนุกแบบใหม่ให้กับชีวิต

5.ความไม่มั่นใจในตัวคู่รัก บางคนอาจมีความเคลือบแคลง สงสัย ไม่มั่นใจในตัวคนรัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างอนาคต ด้านการเงิน หรือด้านบุคลิกนิสัย เมื่อเกิดความไม่เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ก็ไม่แปลกที่จะมองหาคนที่สามในความสัมพันธ์เพื่อตามหาคนที่คิดว่าใช่มากกว่า หรือมีอะไรที่ทำให้มั่นใจมากกว่าคนรักของตัวเอง

ส่วนการใช้ “แอพพ์หาคู่” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนนอกใจจริงหรือไม่นั้น บริษัทจัดหาคู่ระดับ Bangkok Matching ยกเอาผลสำรวจจากบริษัทวิจัย Global Web Index ที่เคยทำการสำรวจผู้ใช้งานแอพพ์หาคู่ชื่อดังผ่านผู้ใช้งานทั้งหมด 47,000 ราย และได้พบว่า 42% ที่ใช้งานแอพพ์หาคู่นั้นเป็นคนที่ “ไม่โสด” แถมยังแบ่งเป็นคนที่แต่งงานแล้วถึง 30% และกำลังมีความสัมพันธ์หรือมีคู่แล้ว 12% และต่อมาในปี 2018 นักวิจัยทีมเดิมก็ได้ทำการวิเคราะห์ผลสำรวจรวมถึงปัจจัยประกอบต่างๆ ทำให้ได้ข้อสรุปว่า “แอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์นั้นมีแนวโน้มถูกใช้เป็นหนึ่งในช่องทางสำหรับผู้ที่มีคู่อยู่แล้ว และทำให้เกิดการนอกใจกันขึ้น”

ซึ่งบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ขยายปัจจัยย่อยๆ ที่ทำให้แอปหาคู่ หรือเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์กลายเป็นช่องทางหนึ่งที่เพิ่มอัตราการนอกใจ โดยวิเคราะห์จากประสบการณ์ในการดูแลและให้คำปรึกษาคู่รักมาอย่างยาวนานของเรา ดังนี้

ส่วนสำคัญหนึ่งที่ทำให้คนที่ตั้งใจหลอกลวงผู้อื่นเลือกใช้แอพหาคู่และเว็บหาคู่ออนไลน์นอกจะเป็นจากความสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน ตั้งแต่การสมัครเข้าใช้งาน เพราะแอพหาคู่เดตหรือเว็บไซต์หาคู่ 90% มักใช้การคัดกรองโดยระบบอัตโนมัติ ผ่านการตั้งค่าที่เซ็ตไว้ ไม่ได้มีการตรวจสอบ/เช็กประวัติ หรือสัมภาษณ์ด้วยมนุษย์ ทำให้ใครๆ ก็สมัครได้ ทำให้ขาดการตรวจสอบคุณสมบัติที่แท้จริง

อีกทั้งการตั้งค่าประวัติ bio รวมถึง status ต่างๆ ที่มีให้เลือกนั้นก็มักเอื้อต่อการสร้างความคลุมเครือมากกว่าความชัดเจน นำไปสู่ความสัมพันธ์ลับซ่อนเร้น เพราะระบบมักไม่มีการตรวจสอบว่าสถานะโสดที่ตั้งไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง รวมถึงการพูดคุยผ่านแชต ตัวอักษร หรือวิดีโอแชต ไม่สามารถยืนยันความจริงใจของคู่เดทได้ 100% ทำให้เกิดการ “ถูกหลอก” หรือการเข้ามาเพื่อ “หลอกลวง” ผู้อื่น

ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบัน ด้วยความฉลาดล้ำลึกของ AI ยังสามารถช่วยมิจฉาชีพหรือคนที่ตั้งใจจะสร้างตัวตนขึ้นมาหลอกลวงคนโสดที่หาคู่จริงจังคนอื่นๆ บนโลกออนไลน์อย่างเว็บแอพพ์หาคู่ ด้วยการสร้างคนเสมือนจริงมาวิดีโอคอลกับคุณได้อีกด้วย

ทั้งนี้ อัตราการหย่าในไทยพุ่งสูงขึ้นทุกปี โดยมีสาเหตุจากการ “นอกใจ” โดยจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สถิติการหย่าร้างประจำปี 2565 ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมีอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ ถึง 1.4 แสนคู่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่นำโด่งมาเป็นอันดับ 1 (17,635 คู่) ลากยาวมาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2566 กรุงเทพฯ ก็ยังติดอันดับ 1 ทำสถิติหย่าร้างไป 2,955 คู่ แล้วในช่วงต้นปี

สาเหตุในการหย่า มักพบว่าจะมี 4 สาเหตุหลักที่ทำให้คู่รักตัดสินใจหย่าร้างกัน คือ 1.ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง จนลามไปสู่การไม่เข้าใจกัน การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้คู่รักตัดสินใจเลิกราหย่าร้างกัน 2.ปัญหาการนอกใจ เป็นปัญหาใหญ่รองลงมาที่ทำให้คู่รักไปต่อไม่ได้ เพราะการนอกใจเมื่อเกิดขึ้นหนึ่งครั้งแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่เกิดครั้งต่อๆ ไป แถมในปัจจุบันนี้การนอกใจยังทำได้ง่ายและหลายช่องทาง เช่น แอพพ์หาคู่ออนไลน์ เว็บหาคู่ไทย/ต่างชาติ กลุ่มหาคู่ ฯลฯ

3.ขาดความรับผิดชอบ เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดการเบื่อหน่าย ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในด้านของบทบาทการรับผิดชอบด้านต่างๆ ในชีวิตคู่ที่ไม่ลงรอยกัน และ 4.ปัญหายาเสพติด การใช้ยาเสพติดในครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่และเรื้อรังมานาน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรง ความไม่ปลอดภัยในครอบครัว

สำหรับการป้องกันไม่ให้ “แอปหาคู่ออนไลน์” ทำลายความสัมพันธ์ แม่สื่อมืออาชีพ Bangkok Matching มีข้อแนะนำดีๆ เพื่อรักษาความรักของคุณมาแนะนำ ว่า

1. หมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ

การหมั่นเติมความหวานและความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทริปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ การมีค่ำคืนโรแมนติกที่แตกต่างจากวันธรรมดา หรือการหาอะไรที่พิเศษมอบให้กันและกันช่วยเติมความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันได้ เมื่อรู้สึกเติมเต็มก็จะทำให้คู่รักไม่อยากหันหน้าไปพึ่งคนอื่น การเติมความรู้สึกดีๆ จึงเป็นคีย์สำคัญที่แนะนำให้คู่รักหมั่นเติมให้กันบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดความห่างเหินในความสัมพันธ์

2.ทำสัญญาใจ ให้ความมั่นใจต่อกัน

ในการคบหากันแม้จะไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัว แต่คู่รักควรจะต้องหันหน้าพูดคุยซึ่งกันและกันเพื่อมอบความเชื่อใจ มั่นใจ ว่าเมื่อมีปัญหาหรือมีความไม่พอใจใดๆ ต่อกันจะต้องพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจ หาทางออกร่วมกัน ไม่ซุกปัญหาไว้ใต้พรมและหันหน้าไปพึ่งแอพพ์หาคู่เดทออนไลน์เพื่อหาเพื่อนคุย หาที่ระบาย หรืออื่นๆ ใดที่เป็นการกระทำสื่อไปในทางนอกใจ

3.จริงใจ เปิดเผย ไม่มีอะไรซ่อนเร้นปิดบัง

พฤติกรรมที่โปร่งใสไม่ซ่อนเร้น ไม่แอบเล่นแอพพ์หาคู่หรือแอบคุยซ้อนกับคนอื่นขณะที่อยู่ในความสัมพันธ์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจให้กับคู่รักได้ เพราะการโกหกและถูกจับได้ภายหลังจะสร้างความหมางใจ รอยร้าวฝังลึกในความสัมพันธ์ที่ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีทางลืมได้ลงและอาจกลับกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตจนทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงไปได้

4.พบผู้ช่วยบำบัดความสัมพันธ์เมื่อมีปัญหา

อย่ามองข้ามการจูงมือคู่รักเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ หรือนักจิตวิทยาเฉพาะด้าน เพราะการพูดคุยกันเองเมื่อเกิดปัญหาระหว่างกันนั้นมักไม่ได้คำตอบหรือทางออกที่เหมาะสม เพราะต่างคนก็ต่างมองจากมุมของตัวเอง แต่ถ้ามีคนกลางเป็นคนรับฟังและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์พังทลายลงไปได้

นับได้ว่า “แอพพ์หาคู่” เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้เกิดการนอกใจและเพิ่มเปอร์เซ็นต์หย่าร้างในไทย

สาวร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ล่าตัวหนุ่มอเมริกันที่รู้จักในแอปหาคู่ หลอกให้รัก ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม แอบถ่ายคลิปไปขาย

เวลา 10.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาหญิงสาว 1 ใน 3 ราย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูก หนุ่มอเมริกันล่าแต้มในแอปฯ หาคู่ หลอกคบหาสร้างฝันมีครอบครัวที่อบอุ่น ก่อนมีความสัมพันธ์แอบถ่ายคลิป ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม และเอาคลิปไปเผยแพร่ขายในกลุ่มต่างๆ โดยขอให้ติดตามตัวหนุ่มอเมริกันรายนี้มาดำเนินคดี เพราะถือเป็นภัยร้ายของผู้หญิง หวั่นเอาคลิปสาวๆ ไปขายกลุ่มลับ คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายไม่กล้าออกมาแจ้งความ 

เหยื่อเล่าว่า รู้จักนายโทมัส อายุ 34 ปี อ้างเป็นทหารปลอดประจำการ ผ่านทางแอปหาคู่ เมื่อ 6 ธันวาคม มีการใช้ภาพเป็นทหาร หน้าตาดี เข้ามาพูดคุย อยากสร้างครอบครัว และ อนาคตด้วย จึงขอแต่งงาน แต่ยังไม่ตัดสินใจ จึงคบหาเป็นแฟนกัน และเคยไปพบฝ่ายชาย ที่บ้านเช่าย่านนนทบุรี แต่ระหว่างคบหากัน พบฝ่ายชายมีอารมณ์ร้อน ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนสุดทน เมื่อขอเลิกก็ถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งโทรไปขอให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ มาช่วยเหลือ นอกจากนี้ฝ่ายชายยังได้เอาโทรศัพท์มือถือของเธอไป แต่ไม่แน่ใจว่ากรณีของเธอถูกแอบถ่ายคลิปไว้ขาย เหมือนกับผู้เสียหาย 2 รายก่อนหน้านี้หรือไม่ 

โดยหลังเกิดเหตุไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายโทมัสในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.บางใหญ่ ทั้งนี้ นายโทมัสจะเน้นหลอกผู้เสียหายเป็นสาวที่อยู่ในประเทศแถบเอเชีย มีการศึกษาดี หน้าตาดี และฐานะดี


นอกจากนี้ เหยื่อยังเล่าถึงผู้เสียหายรายอื่นอีก 2 ราย ที่ถูกกระทำคล้ายกัน เพราะหลังเกิดเหตุ ได้รวมกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในทวีปเอเชีย ซึ่งผู้เสียหายรายแรก ถูกนายโทมัสหลอกลวงผ่านแอปฯ หาคู่ เช่นเดียวกันในปี 2565 

โดยนายโทมัสเดินทางมาที่ประเทศไทยช่วงเดือนเมษายน และคบหากัน 4 เดือน ผู้เสียหายได้เช่า โรงแรมย่านพระโขนง และระหว่างนั้นนายโทมัสได้ทำร้ายพร้อมถ่ายคลิปไว้ ก่อนนำไปประจานผ่านทางโซเชียล ด้วยการสร้างแอคเคาท์ปลอม และส่งคลิปไปยังกลุ่มต่างๆ ซึ่งผู้เสียหายรายที่ 2 ก็ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน แต่รายนี้ถูกหลอกให้จดทะเบียนสมรสด้วย และยังถูกขโมยสร้อยคอทองคำน้ำหนักสองสลึงไปด้วย จึงได้แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยายามขอฟ้องหย่า ทำให้นายโทมัสไม่พอใจและเอาคลิปไปประจานในพื้นที่ส่วนตัวและที่ทำงาน ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ที่ภูเก็ต นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติ เช่น ชาวอินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า คนร้ายจะใช้แผนประทุษกรรมเดิมๆ ในลักษณะคล้ายกับแก๊งโรแมนสแกม หลอกให้รักออนไลน์ กรณีนี้เป็นการรู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ เนื่องจากรู้จุดอ่อน กลุ่มคนที่อยู่ในแอป เป็นคนโสดและต้องการผู้ชายมาดูแล มีการสร้างสตอรี่ต่างๆ หลอกสร้างอนาคต หลอกมีความสัมพันธ์ ถ่านคลิปไปขายในเว็บโป๊ 

ล่าสุดมีรายงานว่านายโทมัส เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ปลายทางที่เวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เร่งรัดในการออกหมายจับ พร้อมประสานอินเตอร์โพลในการล่าตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังการเดินทางเข้าของนายโทมัส หากพบตัวให้จับกุมทันที 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้เตือนภัยสาวไทย ให้ตรวจสอบประวัติของชายหนุ่มที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ให้ดีก่อนตัดสินใจคบหากัน เพราะอาจตกป็นเหยื่อถูกหลอก ถูกถ่ายคลิปไปประจานเพื่อเรียกร้องทรัพย์สิน หรือถูกนำคลิปแบล็กเมลไปขายในช่องทางต่างๆ

ทั้งนี้ จากการตรวจประวัติ พบนายโทมัส เดินทางเข้าออกไทยตั้งแต่ปี 2565 ใช้วีซ่าท่องเที่ยว เฉลี่ยเดินทางเข้าออกไทย ปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สหรัฐ พบว่ามีประวัติลักทรัพย์

‘ลูกย่าโม’ เดือด!! แอปฯ หาคู่ดัง ทำป้ายโฆษณาส่อดูถูกสาวโคราช ซ้ำ!! ด้อยค่าของดีอย่าง ‘ผัดหมี่’ ชี้!! ถ้าสำนึก ควรปลดป้ายออก

(20 มี.ค.67) กลายเป็นภาพที่ถูกแชร์ต่อไปอย่างมากในโลกออนไลน์ สำหรับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า ‘ของอร่อยนครราชสีมา’ แล้วต่อด้วยตัวเลือก 2 ข้อ คือ ผัดหมี่โคราช มีเครื่องหมายกากบาทต่อท้าย ผู้สาวโคราช มีเครื่องหมายถูกต่อท้าย โดยด้านล่างมีโลโก้ของแอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดัง

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าข้อความดังกล่าวต่อไปในทางเจตนาดูถูกเหยียดหยามเพศสตรีชาวโคราช สร้างความไม่พอใจให้กับชาวโคราชเป็นอย่างมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าป้ายดังกล่าวติดอยู่บนอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ริมถนนโพธิ์กลาง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ไม่ถึง 500 เมตร โดยเป็นตัวอักษรภาษาไทยสีขาว พื้นหลังสีแดง โดดเด่น ดึงดูดสายตาผู้ที่ขับรถผ่านไปมาเป็นอย่างมาก และยังพบพื้นที่อื่น ๆ ในตัวเมืองอีกมาก

น.ส.ชัญญานุช สุรฉัตร แกนนำปกป้องสิทธิสตรีโคราช กล่าวว่า ตอนแรกที่เห็นคนแชร์ในโซเชียล ยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อตั้งใจอ่านอย่างถี่ถ้วน ส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติหญิงสาวโคราชเลย เพราะคำว่าอร่อยใช้ได้กับอาหารเท่านั้น แต่การนำมาใช้กับหญิงสาวโคราชนั้นไม่เหมาะสม

โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา เป็นเมืองหญิงกล้า ผู้หญิงชาวโคราชทุกคนเป็นลูกหลานย่าโม มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่เมื่อได้เห็นคำโฆษณานี้แล้ว ทำให้ทุกคนรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ที่มีใครบางคนหวังแค่ผลประโยชน์ โดยการนำเกียรติและศักดิ์ศรีของสาวโคราชมาย่ำยีเหยียดหยามเช่นนี้ ถ้าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ควรให้เกียรติผู้อื่น

การนำผัดหมี่โคราช แล้วมากากบาทว่าไม่อร่อย เป็นการด้อยค่าของดีโคราช เพราะผัดหมี่โคราช ถือว่าเป็นหนึ่งในคำขวัญของจังหวัด คือ ‘เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน’ ดังนั้นไม่ควรด้อยค่าผัดหมี่โคราช จากนี้ถ้าเจ้าของแอปพลิเคชันสำนึก ควรปลดป้ายนี้ออกไป ส่วนจะออกมาแสดงความขอโทษชาวโคราชหรือไม่นั้น อยู่ที่จิตสำนึกของเขา ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่ขอให้นำป้ายนี้ออกไปก่อน เพื่อให้ทุกคนสบายใจ

‘สภาสตรีโคราช’ กังวลต่อป้ายโฆษณาแอปฯ หาคู่ จี้!! ให้ปลดออก เหตุสื่อความหมายสองแง่สองง่าม อาจทำให้คนเข้าใจสับสนได้

(22 มี.ค.67) จากกรณีสื่อชาวโซเชียล มีการแชร์ต่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความว่า ‘ของอร่อยนครราชสีมา!’ แล้วต่อด้วยตัวเลือก 2 ข้อ คือ ผัดหมี่โคราช มีเครื่องหมายกากบาทผิดต่อท้าย และมีข้อความผู้สาวโคราชและมีเครื่องหมายถูกต่อท้าย และด้านล่างมีโลโก้ของแอปพลิเคชันหาคู่เจ้าหนึ่ง  

ป้ายโฆษณาดังกล่าวอยู่บนอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ริมถนนโพธิ์กลาง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ราว 500 เมตร โดยเป็นตัวอักษรภาษาไทยสีขาว พื้นหลังสีแดง โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านแจ้งว่าป้ายลักษณะนี้ ยังมีติดอยู่หลายพื้นที่ของ ซึ่งจากข้อความดังกล่าว สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวจังหวัดนครราชสีมา  

ด้าน นางสุทิน ชาติพุดซา ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า อยากให้เจ้าของป้ายขยายข้อความสื่อสารให้ถูกต้อง หรือไม่ก็ปลดป้ายลง ซึ่งคำว่าสาวโคราชตามด้วยเครื่องหมายกากบาท เป็นการสื่อความหมายสองแง่สองง่าม และในส่วนของผัดหมี่โคราช ถือว่าเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อที่ทุกคนที่มาโคราช ซึ่งเป็นคนต่างพื้น ต้องมากิน และป้ายโฆษณาจะมาทำเครื่องหมายกากบาทผิด อาจทำให้คนอื่นไม่เข้าใจและสับสนได้ จึงวอนอยากให้ปลดป้ายโฆษณาออก เนื่องจากจะทำให้คนต่างพื้นที่เข้าใจสับสนและเมืองนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีสตรีท้าวสุรนารี ที่มีความกล้าหาญเป็นแบบอย่างให้กับสตรีชาวโคราช


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top