Saturday, 4 May 2024
แม่น้ำโขง

“ผบ.ทร.”  ตรวจพื้นที่ทางยุทธวิธีในแม่น้ำโขง ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง 

พล.ร.อ.สมประสงค์  นิลสมัย  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นางศิริรัตน์  นิลสมัย นายกสมาคมภริยาทหารเรือ  คณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ และคณะผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ณ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เมือง จ.นครพนม โดยมี พล.ร.ต.สมบัติ  จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง  ตลอดจนกำลังพลหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงให้การต้อนรับ

จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือได้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมทั้งให้โอวาทและขอบคุณกำลังพล หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละมุ่งมั่นทุ่มเทจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยมีใจความสำคัญจอนหนึ่งว่า

"หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เป็นหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ มีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ ตามลำแม่น้ำโขง และให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ  ผมได้ติดตามการปฏิบัติงานในการจับกุมยาเสพติด แรงงานเถื่อน และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนมาก นับเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมของกองทัพเรือที่สามารถรายงานหน่วยเหนือได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจ ซึ่งการปฏิบัติงานตามภารกิจทั้งกลางวันและกลางคืนเหล่านี้ กำลังพลทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ อดทน และเสี่ยงอันตราย ทำให้ภารกิจต่าง ๆ สำเร็จเรียบร้อยด้วยดีจนเป็นที่ประจักษ์ตลอดมา

ผมขอให้กำลังพลของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทัพเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่แห่งนี้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  รักในเกียรติและศักดิ์ศรี  ไม่ประพฤติตนหรือกระทำการอันใดที่เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยสติรู้ตัว  ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยให้กับประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและกองทัพเรือที่เรารักตลอดไป "พล.ร.อ.สมประสงค์ กล่าว  

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้เดินทางไปยัง สถานีเรือนครพนม เพื่อตรวจพื้นที่ปฏิบัติการ และชมการสาธิตการปฏิบัติการทางเรือ ของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ที่จัดขึ้นเพื่อให้เห็นถึงความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภารกิจการลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย คุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่าง ๆ ตามหลักมนุษยธรรม ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง รวมทั้งสนับสนุนกำลังทางบกในการรักษาความมั่นคงและป้องกันประเทศ  

โดยผู้บัญชาการทหารเรือและคณะได้ ชมแปลงเกษตรริมโขงของ สถานีเรือนครพนมก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุป เพื่อรับทราบถึงผลการปฏิบัติ ตลอดจนอุปสรรคข้อขัดข้องในการดำเนินงาน

มุกดาหาร - นรข.เตือน!! นักท่องเที่ยวและประชาชน ไม่ออกไปตั้งวงดื่มกิน – เล่นน้ำ ตามเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง อาจเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและอาจผิดกฎหมาย ย้ำ!พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว

ณ สถานีเรือมุกดาหาร นาวาโท เฉลิมศักดิ์ ไชยกิจ หน.สน.เรือ นรข.มุกดาหารเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำเเม่น้ำโขง สถานีเรือมุกดาหาร (นรข.) ออกประกาศเตือนเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยว เรื่องของสันดอนเกิดใหม่บริเวณกลางแม่น้ำโขงเนื่องจากปัจจุบันแม่น้ำโขงได้มีการลดระดับของน้ำลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีสันดอนเกิดใหม่เป็นจำนวนมากทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าสามารถลงไปทำกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวได้เพราะเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยยังไม่ชัดเจนเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศล่าสุดเจ้าหน้าที่ นรข.มองเห็นนักท่องเที่ยวพากันออกสนุกสนานกันที่สันดอนทรายซึ่งเกิดจากบริเวณกลางแม่น้ำโขง โดยไม่มีพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งติดต่อกันกับริมฝั่งโขงของประเทศไทย

ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่บริเวณนี้ อยากจะบอกกับประชาชนและนักท่องเที่ยวว่ามันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวล่าสุดมีนักท่องเที่ยวบรรทุกเรือติดเครื่องยนต์ความเร็วมาที่ จ.มุกดาหารแล้วพากันขับเรือออกไปตั้งวงดื่มกินและเล่นน้ำอยู่สันดอนทรายกลางแม่น้ำโขงเนื่องจากระดับน้ำผันผวนหนักระดับน้ำจะหนุนขึ้นลดลงแต่ละวันไม่แน่นอน อาจเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้และสุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

นาวาโท เฉลิมศักดิ์ ไชยกิจ หน.สน.เรือมุกดาหาร เปิดเผยว่า ในส่วนของสันดอนทรายมีสันดอนที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นมันมีความแตกต่างกันกับหาดทราย ซึ่งหาดทรายจะต้องเป็นหาดทรายที่เกิดขึ้นจากฝั่งไทย เวลาน้ำลงก็จะเป็นหาดทรายยื่นออกมา โดยมันต่างจากสันดอนซึ่งเกิดจากบริเวณกลางแม่น้ำโขง โดยไม่มีพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งติดต่อกันกับริมฝั่งโขงของประเทศไทย ทั้งนี้ในส่วนพื้นที่บริเวณนี้ อยากจะบอกกับประชาชนว่ามันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งล่าสุดมีนักท่องเที่ยวบรรทุกเรือติดเครื่องยนต์ความเร็วมาที่ จ.มุกดาหาร แล้วพากันขับเรือออกไปตั้งวงดื่มกินและเล่นน้ำอยู่สันดอนทรายกลางแม่น้ำโขงซึ่งสุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศย้ำพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว เพราะอาจผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

นรข. เข้ม!! ตามแนวชายแดนนครพนม ยึดยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ไอช์ 45 กรัม และกัญชา 690 แท่ง

บริเวณหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พันตำรวจเอก สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอกหญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนมและเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานที่ได้มีการบูรณาการความร่วมมือเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ภายใต้แผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ประจำปี 2565 จนนำไปสู่การตรวจยึดยาบ้า จำนวน 638,000 เม็ด ยาไอช์ 45 กรัม และกัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง/กิโลกรัม ที่อำเภอท่าอุเทน และกัญชาอัดแท่ง จำนวน 690 แท่ง/กิโลกรัม ที่อำเภอธาตุพนม

โดยเหตุการณ์ตรวจยึดยาบ้า เป็นการดำเนินงานที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านหาดทรายเพ ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จึงได้มีการตรวจสอบข่าวพร้อมจัดชุดลาดตระเวนทางบกเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ กระทั่งเวลา 18.30 น. พบเห็นชาย 1 คนอยู่บริเวณถนนริมเขื่อนท่าทางมีพิรุธ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ในระยะไกลก็ได้วิ่งหลบหนีลงไปที่เรือกีบแล้วติดเครื่องยนต์แล่นข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบกระสอบวางอยู่ริมเขื่อนจำนวน 2 กระสอบ ภายในเป็นยาบ้าจำนวน  638,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 45 กรัม และกัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่เหตุการณ์ตรวจยึดกัญชาที่อำเภอธาตุพนมเป็นการดำเนินงานของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงที่ได้บูรณาการประสานข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคง และได้จัดกำลังพลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ กระทั่งเวลา  20.55 น. ได้มีการตรวจพบเรือกีบต้องสงสัย จำนวน 1 ลำ ดับเครื่องลอยไหลมาตามกระแสน้ำทางทิศเหนือและเข้าเทียบฝั่งไทย ที่บริเวณหาดแห่ บ้านน้ำก่ำ ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม ซึ่งห่างจากจุดซุ่มประมาณ 800 เมตร เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้ากระชับพื้นที่ แต่เมื่อใกล้ถึงกับพบว่ากลุ่มบุคคลที่มากับเรือกีบ 3-4 คน ได้วิ่งออกจากป่าแล้วรีบขึ้นเรือกีบขับหายไปในความมืดด้วยความชำนาญทันที เมื่อไม่อาจติดตามได้ทัน เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังซุ่มตามจุดต่าง ๆ บริเวณโดยรอบพื้นที่ที่คาดว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยเอาไว้

‘อลงกรณ์’ นำทีมเกษตรลุยอีสานผนึกเครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดแก้ปัญหาผลกระทบภาคเกษตรและประมงจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการเกษตรและประมงจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขง ครั้งที่ 1/2566 (เฉพาะกิจ) และติดตามผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาด้านการเกษตรและด้านประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ.2566 – 2570 ณ โรงแรมบลู โฮเทล  นครพนม จ.นครพนม ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้องและขับเคลื่อนแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570 ประกอบด้วย 2 แนวทาง ได้แก่ แนวทางที่ 1 การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง และแนวทางที่ 2 การบริหารจัดการด้านการประมงและทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืนและคงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรม (AIC) ประจำจังหวัด ภาคประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำโขง  

สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้นับเป็นการประชุมเฉพาะกิจนอกพื้นที่ครั้งแรกร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ด้านการประมงและด้านการเกษตร แบ่งเป็น ด้านการประมง รวมจำนวน 31 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 13,012,140 บาท พื้นที่ดำเนินการ 8 จังหวัด ได้แก่ 

จังหวัดเชียงราย เลย หนองคายบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อาทิ โครงการการจัดการระบบนิเวศปลาหน้าวัด, โครงการธนาคารผลผลิตเกษตรด้านการประมงสนับสนุนธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม, กิจกรรมส่งเสริมเยาวชนนักเพาะเลี้ยง, โครงการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทย (ปลาเอิน) ในแม่น้ำโขง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา,  โครงการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงปลาตะเพียนขาวในบ่อดิน เป็นต้น สำหรับด้านการเกษตรสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สป.กษ.) ได้สรุปแผนงาน/โครงการภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนระดับจังหวัด ปี 2566 – 2570 (ฉบับทบวน) รวมจำนวน794 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 7,770,595,287 บาท แบ่งเป็น งบจังหวัด/กลุ่มจังหวัด 304 โครงการ งบประมาณ1,124,048,495 บาท งบปกติ 375 โครงการ งบประมาณ 6,600,923,240 บาท และงบอื่น ๆ 70 โครงการ งบประมาณ 45,623,552 บาทโดยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาบรรจุแผนงาน/โครงการไว้ในคำของบประมาณประจำปีของหน่วยงานต่อไป

ที่ประชุมยังได้หารือและรับทราบในเรื่องอื่น ๆ ได้แก่ 

1. แนวทางการดำเนินการรักษาพันธุ์ปลาบึกในแม่น้ำโขง โดยกรมประมง ซึ่งมี 2 แนวทาง ดังนี้ 1.1) การอนุรักษ์นอกถิ่นแม่น้ำโขง โดยการปล่อยลงในแหล่งน้ำภายในประเทศ ซึ่งกรมประมงจะใช้แม่พันธุ์ปลาบึกรุ่น F1 เพื่อผลิตปลาบึกรุ่น F2 ที่ยังคงความหลากหลายทางพันธุกรรมและยังคงสามารถรักษาไว้ได้จากเดิมให้มากที่สุด โดยปลาบึกรุ่นลูกF2 นี้ สามารถนำไปเลี้ยงไว้ในอ่างเก็บน้ำเพื่อเป็นการนกษาพันธุ์ปลาลึกไว้นอกแหล่งที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์เพื่อการเพาะเลี้ยงต่อไปได้ในอนาคต และ 1.2) สนับสนุนการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ให้แก่เกตรกร เนื่องจากปลาบึกมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง 

2. ความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนทบทวนแผนพัฒนาการเกษตร ในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน โดย สำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สป.กษ. ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 8 จังหวัด รับทราบและดำเนินการตามแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ.2566 – 2570 และแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570 แล้ว 

3. ความก้าวหน้าการศึกษาพลับพลึงแม่น้ำโขงและแผนการนำพลับพลึงแม่น้ำโขงกลับไปปลูกคืนถิ่นเดิม โอกาสนี้นายอลงกรณ์ ได้มอบต้นพันธุ์พลับพลึงแม่น้ำโขง (Crinum viviparum) (ที่เพาะพันธุ์จากเมล็ด) ซึ่งถือเป็นพืชเฉพาะถิ่นหายาก และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ จำนวน 30 ต้น ให้แก่ นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา ผู้แทนสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสานและ1จังหวัดภาคเหนือคือเชียงรายเพื่อนำไปจัดกิจกรรมให้ชุมชนในการปลูกในพื้นที่อาศัยเดิม ตำบลหาดคัมภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลย ตามแผนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุ์พลับพลึงแม่น้ำโขงของกรมประมงที่ทำการเก็บรวบรวมตัวอย่างต้นพันธุ์จากธรรมชาติ ตั้งแต่ปี 2564 และนำไปศึกษาเพาะเลี้ยงในระบบโรงเรือน และห้องปฏิบัติการจนได้ต้นพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ในปัจจุบัน 

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันและสนับสนุนการพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ พัฒนาขีดความสามารถในทุกด้าน เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนและเกษตรกร และคงความหลากหลายของทรัพยากรประมงในแม่น้ำโขงได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายอลงกรณ์ กล่าว

13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ไทยเสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้ ฝรั่งเศส แลกการถอนทหารออกจากเมืองจันทบุรี

วันนี้ เมื่อ 120 ปีก่อน ไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ตรงข้ามเมืองจำปาศักดิ์ และเมืองมโนไพรฝั่งให้ฝรั่งเศส แลกกับเมืองจันทบุรี ที่ฝรั่งเศสยึดไว้ตั้งแต่เหตุการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2437)

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2411-2453) การแผ่อิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตกรุนแรง และแข็งกล้า ยิ่งกว่าสมัยใดๆ..... มหาอำนาจตะวันตกที่คอยคุกคามไทยทางด้านตะวันออกคือ.....ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสได้ขยายอำนาจมาทางตะวันออกของแหลมอินโดจีน จนครอบครองญวนทั้งประเทศ รวมทั้งเขมรส่วนนอก ทั้งหมดด้วย แต่ความต้องการของฝรั่งเศสไม่ได้หยุดนิ่งแค่นั้น ยังมีความต้องการที่จะครอบครองดินแดนที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นมีดินแดนบางส่วนที่อยู่ภายใต้ครอบครองของไทย การขยายตัวของฝรั่งเศส จึงสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยเรื่อยมา.......โดยเฉพาะ.. ความพยายามที่จะ แทรกแซงในดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ โขง ในระยะแรกฝรั่งเศสได้แทรกแซงโดยวิธีการทูต แต่เมื่อเห็นว่าไม่ประสบผลสำเร็จจึงใช้นโยบายเรือปืนข่มขู่ไทย บริเวณปากแม่น้ำ ในที่สุดก็นำไปสู่วิกฤตกาลที่เรียกว่า "วิกฤตกาล ร.ศ. 112" เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2536 ผลของการรบปรากฏว่าฝ่ายไทยยอมจำนน และทำสัญญาสงบศึกกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2436

น้ำลดฮวบ!! ‘แม่น้ำโขง’ น้ำลดจน ‘พระธาตุกลางน้ำ’ โผล่เห็นชัดเจน คนแห่กราบไหว้ขอพร ฝากเตือน!! ขับเรืออย่างระมัดระวัง

(12 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.หนองคาย ว่าระดับน้ำโขงช่วงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย วัดโดยส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ วัดได้ 0.91 เมตร ระดับน้ำโขงลดลงในช่วงนี้จากสถานการณ์เข้าสู่หน้าแล้ง ระดับน้ำโขงจะลดลงมากส่งผลให้การสัญจรทางเรือข้ามแม่น้ำโขงระหว่างไทย -ลาว ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

ทั้งนี้ โดยเฉพาะการล่องเรือสักการะพระธาตุกลางน้ำ บริเวณชุมชนวัดธาตุ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ซึ่งระดับน้ำโขงที่ลดลงทำให้มองเห็นฐานองค์พระธาตุชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้พุทธศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพร ทั้งการกราบไหว้บนฝั่ง และแม้กระทั่งการลงเรือไปขอพรที่องค์พระธาตุอย่างใกล้ชิด คนขับเรือเองต้องเพิ่มความระมัดระวัง

‘สกายวอล์ก เชียงคาน’ สูงเทียบเท่าตึก 30 ชั้น เช้าชมทะเลหมอก เย็นเห็นพระอาทิตย์ตกหลังเขา

สกายวอล์ก เชียงคาน หรือ สกายวอล์ก ภูคกงิ้ว จุดชมวิวแม่น้ำ 2 สี แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ต้องไปเช็คอิน ตั้งอยู่ที่ ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งเป็นแผ่นดินจุดแรกของภาคอีสานที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน มีความสูงกว่าระดับแม่น้ำโขง 80 เมตร หรือเทียบเท่าได้กับตึกสูง 30 ชั้น ทางเดินนั้นทำด้วยกระจกใสยาว 100 เมตร กว้าง 2 เมตร โดยบนสกายวอล์กนั้น จะสามารถมองเห็นแม่น้ำที่ไหลมาบรรจบกัน เป็นแนวพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่าง ประเทศสปป.ลาวกับประเทศไทย เกิดเป็นแม่น้ำ 2 สีที่สวยงามมาก

ทางด้านหลังของสกายวอล์กแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่ภูคกงิ้ว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพรขนาดใหญ่ มีความสูงกว่า 19 เมตร หล่อขึ้นด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่น ฐานขององค์พระพุทธรูปนั้นเต็มไปด้วยธูปเทียน และบายศรีดอกไม้ ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว นำมาวางสักการะไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

หากมาเที่ยวชมในยามเย็น ก็จะเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามหลังภูเขา แต่ถ้าหากมาในยามเช้า ก็จะเห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดบริการทุกวัน 7.00-180.. น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/VAjc1ZLSKRTxBjz86 
ค่าเข้าชม : ค่ารถขึ้น-ลง ราคา 20 บาท , รองเท้าสำหรับเข้าสกายวอล์ค 30 บาทต่อคู่

เตือน!! 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง เตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์ ‘น้ำ-ฝนตกหนัก’ 10-15 ส.ค.นี้

(9 ส.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำ เพื่อลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง พบว่ามีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10-15 สิงหาคม 2566 โดย กอนช. ได้คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ดังนี้

1.สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 5.42 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 7.38 เมตร เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.40 - 0.60 เมตร

2. สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 12.26 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.74 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.0 - 2.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 - 3.50 เมตร

3. สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.35 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 5.05 เมตร

4. สถานีนครพนม จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีระดับน้ำ 9.46 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.54 เมตรคาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.5 - 3.5เมตร และคาดการณ์ระดับน้ำจะมีแนวโน้มล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 11 - 15 สิงหาคม 2566

5. สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.98 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.52 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.00 - 2.50 เมตร

6. สถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีระดับน้ำ 10.60 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1.00 - 1.50 เมตร

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว และกำชับจังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี เร่งประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top