Thursday, 2 May 2024
แม่ทัพภาคที่4

‘แม่ทัพภาคที่ 4’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี วัดนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม - ส่งเสริมความรักความสามัคคีในพื้นที่

ที่ วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัด ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ตลอดจนอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ โดยมีพลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด การทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ มียอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญทั้งสิ้น จำนวน 770,000 บาท

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า " สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมา อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ากองการดูแลพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับกิจกรรมการทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดนาทวี วันนี้ ก็จะได้นำยอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญ ไปมอบให้กับวัดที่ไม่มีโอกาสได้ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า นำไปซ่อมแซม บูรณะ ถาวรวัตถุภายในวัด ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้กิจกรรมดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่"

 

เปิดประวัติ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เจ้าของฉายา ‘นักรบกล้าใต้สุดสยาม’

หลังเกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพภาคที่ 4 ร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านคลองยน ตำบลวังใหญ่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) โดยมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และ "พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์" ตำแหน่ง "แม่ทัพภาคที่ 4" ติดอยู่ภายในเครื่อง รวม 7 นาย โดยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือออกมาได้ ล่าสุดทุกคนอาการปลอดภัย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเทพา และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นความโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต โดยโลกโซเชียลต่างช่วยกันภาวนาให้ทุกท่านปลอดภัย บางส่วนตั้งฉายาให้ทหารทุกนาย โดยเฉพาะพล.ทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับฉายาแม่ทัพกระดูกเหล็กไปแล้ว

หากจะย้อนประวัติของท่านในอดีต ต้องบอกว่านายทหารผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เคยผ่านสมรภูมิมามากมายสมกับคำว่า "ชายชาติทหาร"

สำนักข่าว SPMC สื่อเพื่อสันติ ให้ข้อมูลว่า เมื่อครั้งเป็น ร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ ทำหน้าที่ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4203 กรมทหารพรานที่ 42  จู่โจม ได้มีผลงานด้านยุทธการไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เขตงาน พัทลุง-ตรัง-สตูล การปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ และนี่คือหนึ่งในหลายยุทธการของท่าน
 
เมื่อ 15 ก.พ.31 กรมทหารพรานที่ 42 (จู่โจม) ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจกวาดล้างทำลายที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ตามแผนยุทธการทักษิณของกองกำลังผสมเฉพาะกิจไทย ซึ่งกรมทหารพรานที่ 42 (จู่โจม) โดยพันเอกพงษ์ศักดิ์ เอกบรรณสิงห์ ผู้บังคับการกรม ได้มอบหมายภารกิจดังกล่าวให้กองร้อยทหารพรานที่ 4203 มีร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย และกองร้อยทหารพรานที่ 4207  มีร้อยโทจรูญ เพ็ชรวา เป็นผู้บังคับกองร้อย เข้ารับผิดชอบปฏิบัติตามแผนฯ

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 บินสำรวจทางอากาศในพื้นที่ตำบลมูโน๊ะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งในปีนี้มีปริมาณน้ำท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนสูงกว่าทุกปี แม้จะมีการแจ้งเตือนจากหน่วยงานในพื้นที่แล้ว แต่ด้วยมวลน้ำที่เข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วและมากกว่าทุกปี จึงทำให้พี่น้องประชาชนไม่สามารถเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงได้อย่างทันท่วงที ขณะนี้ได้สั่งได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ บูรณาการกำลังกับทางอำเภอสุไหงโก-ลก เข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่ ยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง เทศบาลเมืองสุไหงโก ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้อพยพจากเหตุอุทกภัย พบปะพูดคุยและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว ร่วมตักอาหารบริการพี่น้องประชาชนที่มารอรับอาหารและเครื่องดื่มไปรับประทาน ซึ่งมีระบบการจัดการ และการจัดระเบียบในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างดีเยี่ยม มีบัตรคิวสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ และส่งตัวแทนรับของช่วยเหลือ ทำให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างครอบคลุม 

ในส่วนของบริเวณถนนเจริญเขตซอย 19 ชุมชนบือเรง ตำบลสุไหงโกลก อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ขณะนี้รถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางได้ มีผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กว่า 500 ครัวเรือนแล้ว โดยส่วนใหญ่อาศัยมัสยิดบือเรงเป็นที่พักพิงชั่วคราว และมีพี่น้องประชาชนบางส่วนต้องเดินทางฝ่ายน้ำไป-กลับกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อออกมารับถุงยังชีพ และซื้อของใช้ที่จำเป็น 

สตูล ย้ำกำลังทหารไม่เดินทางหลังนักการเมือง รอมฎอนนี้ปฏิบัติงานบนความไม่ประมาท ขณะลงเปิด อาคารเกริกเกรียงไกร และมัสยิดภายในค่ายทหาร

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมแม่ทัพภาคที่4 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 พร้อมคณะเดินทางมาร่วมเปิด 'อาคารเกริกเกรียงไกร' ซึ่งเป็นอาคารเอนกประสงค์สำหรับใช้ทำประโยชน์ในภารกิจต่างๆ ให้กับกำลังพลและข้าราชการ และร่วมเปิดมัสยิดสมันตรัฐบุรินทร์ ภายในค่ายโดยมีพ.อ.เรวัต เซ่งเข็ม ผบ.ร.5 พัน 2 ค่ายสมันตรัตน์บุรินทร์ กล่าวรายงานและให้การต้อนรับพร้อมนายอำเภอละงู และประธานคณะกรรมการอิสลาม นายกอบจ.และแขกผู้มีเกียรติ

โดยมัสยิดสมันตรัฐบุรินทร์ เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนขวัญกำลังใจให้กำลังพลในการประกอบศาสนกิจทางศาสนาโดยเฉพาะในช่วงของเดือนรอมฎอนถือศีลของมุสลิม เพื่อให้กำลังพลที่นับถือศาสนาอิสลามได้ทำศาสนกิจทางศาสนาและใช้ในการอบรมในห้วงเวลาที่ว่างเว้น อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองกำลังพลได้มั่นใจว่าให้ความเท่าเทียมในการนับถือศาสนาที่พบว่ามีกำลังใจเกิน 55 เปอร์เซ็นต์หรือ 300 นายภายในค่ายที่นับถือศาสนา

แม่ทัพภาคที่ 4 ยันรัฐบาล กองทัพ พร้อมช่วยเหลือนักศึกษาคนไทยในซูดาน อย่างเต็มที่ศักยภาพ พร้อมกลับสู่มาตุภูมิ

พลโทศานติ สุกลตนาต แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กล่าวถึงความคืบหน้า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซูดาน สงครามกลางเมืองที่ลากยาวมาเป็นสัปดาห์
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ถล่มโจมตีกันด้วยอาวุธร้ายแรง 

ล่าสุด ยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบโดยตรง ปัจจุบันมีคนไทยพำนักอยู่ในซูดานประมาณ 300 คน เป็นนักเรียนไทยมุสลิมประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ที่ International University of Africa ในกรุงคาร์ทูม ส่วนที่เหลือเป็นคนไทยที่ทำงานหรือสมรสกับชาวซูดาน

ตอนนี้ประเทศต่าง ๆ ก็พยายามจะอพยพคนของตนเองออกอย่างจ้าละหวั่น ของไทยเราเองนั้นทางกองทัพอากาศประกาศว่าได้เตรียมเครื่องบิน Airbus A340-500 และ C-130 พร้อมอพยพคนไทยในซูดานกลับประเทศ ส่วนกรณีนักเรียนไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มาเรียนในสาธารณรัฐซูดาน ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นหน่วยงานหลัก และแม่ทัพภาคที่ 4 ค่อยอำนวยความสะดวกในการส่งนักศึกษาให้ถึงภูมิลำเนา โดยเฉพาะการเทียบโอนหน่วยกิจการศึกษามายังสถานศึกษาในไทย หากไม่กลับไปเรียนต่อ พร้อมเปิดสายด่วน 1880 ให้ติดต่อด้วย

แม่ทัพภาคที่ 4 มอบรางวัลการประกวดการแต่งกายชุดท้องถิ่นมลายู และการประกวดซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน”(PINTU GERBANG) ของชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

ที่ ศาลาประชาคมอำเภอรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะประกวดซุ้มประตู 'ปีตูฆีรบาน' (PINTU GERBANG) และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1444 จัดโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ร่วมกับ อำเภอรือเสาะ ร่วมจัดกิจกรรมประกวดซุ้มประตู 'ปีตูฆีรบาน' (PINTU GERBANG) และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1444 ในพื้นที่ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 1 / 2566 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท เพื่อเป็นการสนับสนุนการแสดงออกถึงความเป็นอัตลักษณ์และการรักษาอัตลักษณ์ ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมลายูในพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการจัดให้มีการประกวด เพื่อสื่อให้ถึงความสวยงามของการแต่งกาย

รวมถึงความสวยงามของสิ่งปลูกสร้างที่ผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมที่มีความสำคัญเชิงอัตลักษณ์ของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้ สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น และถือเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ว่าในช่วงเดือนรอมฎอน เยาวชนและคนหนุ่มสาวในแต่ละหมู่บ้านจะร่วมแรง ร่วมใจ และรวบรวมกำลังทรัพย์ สามัคคีช่วยกันสร้างซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน” ขึ้นมาในพื้นที่หมู่บ้านตนเอง สร้างความภาคภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์มลายู และยังเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมสู่ชนรุ่นหลังให้ร่วมกันสืบทอดต่อไปอีกด้วย ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐร่วมทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยมี นายปรีชา  นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, นายณัฏฐ์กร  บุญโรภาคย์ นายอำเภอรือเสาะ, พันเอก สิทธิชัย  บำรุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 พร้อมด้วย ส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนที่ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดมลายูเข้าร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

สำหรับประชาชนผู้ได้รับรางวัลในกิจกรรมประกวดซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน” (PINTU GERBANG) มีชุมชนเข้าร่วมประกวดจำนวน 9 ตำบล จำนวน 71 ซุ้ม ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาท สำหรับรางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ มัสยิดกาจอปอรี บ้านบริจ๊ะ หมู่ที่ 7 ตำบลลาโละ รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 ได้แก่ มัสยิดฮีดายาตุลมุสลีมีน บ้านบาโงกือมา หมู่ที่ 1 ตำบลสาวอ รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 ได้แก่ มัสยิดดารุลนาอีม บ้านเจาะกือเเยง หมู่ที่ 9 ตำบลสามัคคี และมอบรางวัลชมเชยอีก จำนวน 9 รางวัล  และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชิงเงินรางวัลรวม 52,000 บาท ผู้ชนะการประกวดรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท 2 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท 2 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท 2 รางวัล และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล จำนวน 1,000 บาท 28 รางวัล ซึ่งรางวัลทั้งหมดมอบโดย แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมรับใบประกาศนียบัตร และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

แม่ทัพภาคที่ 4 กำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นหูเป็นตา แนะนำ ชี้แนะ ส่งเสริม สนับสนุนสิ่งที่ถูกต้อง ให้แก่เด็กเยาวชน ตลอดจนชุมชน เพื่อต่อยอดความคิดและพัฒนาคุณภาพชีวิต  พร้อมแจงคืบหน้าพูดคุยสันติสุข จชต.

ที่หอประชุมวิทยาลัยชุมชนจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ให้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบของจังหวัดนราธิวาส รวมถึงหารือแนวทางการทำงานร่วมกันของหน่วยกำลังในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี พลโท อุทิศ อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4, พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย นายสนั่น  พงศ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหัวหน้าส่วนราชการ, นายอำเภอ, ปลัดอำเภอ, กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ร่วมรับมอบนโยบายฯ

โดย พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ย้ำว่าผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกำลังสำคัญและเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันดูแลปกป้องประชาชน ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้นโยบายสำคัญเร่งด่วน คือการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พยายามที่จะมีการพบปะกับผู้นำทุกจังหวัดเพื่อมาพูดคุยหารือกัน จะเห็นได้ว่าภายหลังจากรับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 มีการแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุข เพื่อสร้างความสันติสุขคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

สิ่งหนึ่งที่ทางกองในการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อยากเรียนให้รับทราบ คือ ความคืบหน้าการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นหนึ่งในคณะทำงาน ได้มาสื่อสารให้กับพี่น้องกำนันผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบถึงความคืบหน้าในการพูดคุยและได้เห็นถึงความตั้งใจของภาครัฐในการพูดคุยสันติสุขเพื่อให้จังหวัดจะเดินภาคใต้เกิดสันติสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคสี่ส่วนหน้าได้มีการบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนใน การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินหน้าขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วน ช่วยเหลือกัน หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความสงบสุขเรา สิ่งสำคัญที่สุดที่มีความตั้งใจ คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ตัดวงจรผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติดทุกพื้นที่ภาคใต้ด้วยการบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่และทุกภาคส่วน ทั้งการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและการบำบัดฟื้นฟูรักษา

โดยใช้สภาประชาธิปไตยตำบลเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดควบคู่แนวทางการบำบัด Camp 35 ที่เชื่อมโยงกับกระบวนการชุมชนบำบัดยาเสพติด (CBTx) พร้อมย้ำว่าให้ชุมชนมีการเสริมสร้างการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพและต้านยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ได้สร้างความสามัคคี รักการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และส่งเสริมบทบาทกลุ่มสตรีที่มีความสามารถให้ผู้นำชุมชน ตลอดจนส่งเสริมการแต่งกายตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำ กำนันผู้ใหญ่บ้านดูแลพื้นที่ให้มีการดูแลพื้นที่ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งดูแลเส้นทาง ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรู้จักพื้นที่ รู้ว่ามีใครเข้าออกเคลื่อนไหวในพื้นที่รับผิดชอบ และต้องไม่เข้าข้างฝ่ายตรงข้าม หากตรวจพบว่าให้การสนับสนุนที่พักอาศัยแก่กลุ่มผู้ก่อเหตุในทุกกรณีถือว่ามีความผิดเทียบเท่า ผู้ก่อเหตุทุกประการ จะต้องถูกดำเนินการทางคดีอย่างเข้มงวด หากมีปัญหาต้องช่วยกันแจ้งเบาะแสไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 ขอรับรองสามารถโทรมาแจ้งเบาะแสได้ที่เบอร์ 061-1732999 ซึ่งเป็นเบอร์ของแม่ทัพภาคที่ 4 โดยตรง ขอให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่ให้สงบสุข ด้วยการแจ้งเบาะแสข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ซึ่งจะนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาต่างๆในพื้นที่ให้เกิดความสงบสุขเร็วยิ่งขึ้น


ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน และพระสงฆ์ ที่ได้รับบาดเจ็บขณะออกบิณฑบาต ในพื้นที่ อ.รือเสาะ พร้อมพบปะประชาชนไทยพุทธ-มุสลิม 

วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ โรงพยาบาลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เวลา 10.00 น.  พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะ เยี่ยมให้ขวัญกำลังใจ อาสาสมัครทหารพราน ศรีสุวรรณ์ ก๋าจุม และอาสาสมัครทหารพราน ไชยชิต นามเขตต์ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถตู้ขณะเดินทางนิมนต์พระสงฆ์เพื่อบิณฑบาต เหตุเกิดที่บริเวณปากซอยเจริญราษฎร์ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเช้าวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4603 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 และพระสงฆ์ จำนวน 3 รูป ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย พระ ฉันท์ แสนศิลา (ฉันทโก) อายุ 62 ปี, พระ อำนวย เข็มศิริ (วรปัญโญ) อายุ 72 ปี และพระ ดี ทองอยู่ (ปัญญาธโร) อายุ 70 ปี ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัย และดีขึ้นตามลำดับ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ ได้ลงไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณปากซอยเจริญราษฎร์ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเข้าไปสำรวจดูความเสียหาย และเข้าไปให้กำลังใจประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนหลายหลังที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลประสานความช่วยเหลือประชาชนเพื่อเยียวยาความเสียหายแล้ว

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ ได้พบปะ และมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่พี่น้องชาวไทยพุทธยังวัดไพโรจน์ประชาราม ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีพี่น้องชาวไทยมุสลิม และผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่มาร่วมให้กำลังใจพระสงฆ์ และพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการปลอบขวัญให้กำลังใจระหว่างประชาชนกันเอง 

ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวขอบคุณแทนพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ “ขอบคุณพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ให้ความช่วยเหลือดูแลให้กำลังใจกันไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งได้เห็นถึงความรักความสามัคคี และการอยู่รวมกันระหว่างไทยพุทธไทยมุสลิมที่ยังคงรักช่วยเหลือกันอย่างแน่นแฟ้น และให้คงอยู่ความเป็นพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งแบบนี้ไว้ ในนามในหน่วยงานภาครัฐ พร้อมให้การช่วยเหลือ ดูแล และจะเคียงข้างประชาชน มาให้กำลังใจขอให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมให้การช่วยเหลือกันไม่ทอดทิ้งกัน จะดูแลพื้นที่วัด ดูแลมัสยิด จะดูแล ประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิมให้เกิดความปลอดภัยขอให้มั่นใจ เจ้าหน้าที่พร้อมจะดูแล และปกป้องพื้นที่และประชาชนให้ปลอดภัย

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึก ร.5 พัน 2 และพบปะให้โอวาทแก่ กองกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่ จ.สตูล

วันนี้ 17 พฤศจิกายน 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4, พันเอกทวีพร คณะทอง เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 5, พ.อ.ชัยวุฒิ  พรมทอง ผบ.ร.5 พัน.2 ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ จ.สตูล,และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยฝึก ร.5 พัน 2 และเดินทางไปยังชุดเฝ้าตรวจชายแดน4301 ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล เพื่อพบปะกำลังพล และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ซึ่งจุดดังกล่าวมีกำลังตชด.436 จำนวน  22 นาย ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าตรวจแนวชายแดน และพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 เดินทางไปสักการะ กรมหลวงชุมพร ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล หลังจากนั้นเดินทางไปยัง มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.5021 อ.ควนโดน จ.สตูล เพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติงานตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา และมอบแนวทางการสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดน พร้อมทั้งได้มอบของบำรุงขวัญแก่กำลังพลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน 

นอกจากนี้พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ท่านเดินทางมาที่จังหวัดสตูล บ่อยครั้ง และท่านพร้อมคณะเข้าไปกราบไหว้สักการะ กรมหลวงชุมพร ที่จัดตั้งศาลาให้ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ มากราบไหว้ขอพร บางคนมาบ่นบานสานกล่าวไว้ และพบร่องรอยประทัดกองเต็มไปหมด เป็นสิ่งที่ศักดิ์ที่ทุกคนมาบูชากราบไหว้ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 มาจังหวัดสตูล ครั้งใดก็จะมาสักการะกราบไหว้ ขอพร และจุดประทัน 10,000 นัดอีกด้วย

นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 หารือการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์สื่อมวลชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทยมาเลเซียอินโดนีเซีย IMTGT

ที่ห้องรับรองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าพบ พลโท ศานติ ศกุนตนาค  แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรี กรกฏ ภู่โชติ  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะ เพื่อร่วมปรึกษาหารือและยื่นหนังสือเรื่องการจัดโครงการ "#สานสัมพันธ์สื่อมวลชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวคาบสมุทรมลายูครั้งที่1”กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2566 นี้ 

เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว พร้อมหารือเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น การดูแลความปลอดภัย ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและสื่อมวลชนในโครงการนี้ 

สำหรับ โครงการดังกล่าว สมาคมหนังสือภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้นำเครือข่ายผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว สื่อมวลชนจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย มาชมแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นและใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการสัมมนาหัวข้อ”#ความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจIMTGT” ที่จังหวัดสงขลา เพื่อประชาสัมพันธ์แลกเปลี่ยนข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะเขตพัฒนาเศรษฐกิจ IMTGT เชื่อมสัมพันธ์และกระชับมิตรระหว่างสื่อมาเลเชีย อินโดนีเชีย และสื่อไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย 

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่แล้ว ยังมีความตั้งใจอยากจะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน จากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียกว่า 40 คน ได้มาพบปะรับฟังนโยบายการดูแลรักษาความปลอดภัยจาก พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้การสนับสนุนทุกๆ กิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

และที่สำคัญยังได้สร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไปยังสื่อมวลชน และกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศให้เข้าใจถึงบริบทของสถานการณ์ และสร้างความเชื่อมั่น ที่จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ต่อยอดไปสู่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไปในอนาคต

#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า #กอรมนภาค4ส่วนหน้า #สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประทศไทย #ไชยยงค์มณีรุ่งสกุล #จังหวัดชายแดนภาคใต้ #สานสัมพันธ์สื่อมวลชนไทยมาเลเซียอินโดนีเซีย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top