Sunday, 28 April 2024
แม่ค้าออนไลน์

Meet THE STATES TIMES 'เดอะ ดีเบต' | EP.1

📌ร่วมถกประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ ผ่านมุมมองสร้างสรรค์ และคมคิดที่น่าสนใจ ในรายการ Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’

🔥 ในประเด็นร้อน 🔥
1.‘สภาล่ม’ ล้มรัฐได้จริง? 
2. แสงสว่าง ปชต.! แก้ ‘ม.272’  ปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตนายกฯ! 
3. ขายออนไลน์ต้องปากจัด?

🔥ไปกับ ‘โบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ดำเนินรายการโดย ‘หยก THE STATES TIMES’

ในรายการ Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’ ร่วมถกประเด็นสุด​ Exclusive​ ระหว่าง​ THE​ STATES​ TIMES​ และ​ 'โบว์​ ณัฏฐา'​

.

.

ทูตนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ระบุข้อความตำหนิผู้จัดศึกแดงเดือดปมการขายบัตรเข้าชมเกมดังกล่าว ชี้ ริจะจัดงานระดับโลก อย่ามักง่ายพึ่งแม่ค้าออนไลน์ มันได้ไม่คุ้มเสีย

จากกรณี เหตุดราม่ากรณีบัตรฟุตบอลแมตช์แดงเดือด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่ "พิมรี่พาย" พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ไลฟ์สดขายบัตรเกมดังกล่าวแบบหั่นราคา และป่าวประกาศว่าสามารถนำบัตรไปทานข้าวกับนักฟุตบอล และศิลปินแจ็คสัน หวัง ได้อีกด้วย

แต่สุดท้ายบัตรรับประทานอาหารกับนักฟุตบอล และแจ็คสัน หวัง ไม่ได้มีอยู่จริง โดยทั้ง 2 สโมสร อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล รวมถึงต้นสังกัดของแจ็คสันหวัง ก็ออกมายืนยันว่าไม่มีบัตรรับประทานอาหารแต่อย่างใด เป็นเพียงบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอล และมินิคอนเสิร์ตเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (26 มิ.ย.) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Fuangrabil Narisroj" เกี่ยวกับประเด็นดรามาดังกล่าวว่า

"การที่ทั้งสโมสร แมนยู และลิเวอร์พูล ออกแถลงการณ์ ตบหน้า นั้น เป็นเรื่องน่าอายมาก และต้องเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้จัดงานว่า

ถ้าริจะจัดงานระดับโลก อย่ามักง่ายพึ่งแม่ค้าออนไลน์ มันได้ไม่คุ้มเสีย มีแต่พังกับพัง เหมือน down grade งานระดับโลกให้กลายเป็นแค่ “งานวัด” !!!"

'แม่ค้าออนไลน์' โอด!! โดนเรียกภาษีย้อนหลัง 4 ล้าน หลังเจอสรรพากรแคปทุกโพสต์ เก็บทุกเม็ด

กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ เมื่อ ปุ๊กกี้ แม่ค้าออนไลน์คนดัง และโค้ชสอนด้านการตลาด อีกทั้งยังเป็นผู้สมัครเข้าประกวดมิสแกรนด์พิษณุโลก ได้ออกมาโพสต์ข้อความหลังถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 4 ล้านบาท 

โดยเพจ 'เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่' ได้โพสต์ข้อความ ว่า...

"ตั้งแต่โดนภาษีย้อนหลัง 4 ล้าน ก็ไม่โพสรายได้/สเตทเม้นอีกเลย เข็ด5555555 #ขอใช้ชีวิตเงียบๆ เตรียมวางแผนย้ายไปอยู่ ตปท.ละ เคสกี้โดนจับตามองมา 4 ปี แบบไม่รู้ตัว ตั้งแต่เฟสเก่า ยันเฟสใหม่ นามสกุลใหม่ แคปทุกโพส ทุกความสำเร็จของเรา ซื้อบ้าน รถ ที่ดิน ตามเก็บเหมือนเป็น FC เล๊ยยยย ต้องอธิบายให้ครบเอกสารประมาณ 2 แฟ้มใหญ่ ๆ ที่ทางเขาเก็บไว้🤣 โดนตรวจสอบแบบปวดหัวไปหมด  #หวังดีนะทุกคน จ่ายภาษีก็จริง แต่ถ้ารู้ว่าเราไม่เคลียร์จริงๆ เอกสารไม่ครบ โดนเหมา 60 / 40 +ค่าปรับจุก ๆ อย่าหาทำเลย ภาพลักษณ์ที่ได้ ไม่คุ้มกับเงินที่เสีย"

‘สืบนครบาล’ รวบ ‘ปุยนุ่น’ แม่ค้าออนไลน์ หลอกขายอาหารเสริมฯ เสียหายกว่า 5 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางเพจ ‘สืบสวนนครบาล IDMB’ ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางสาวปุยนุ่น คนระแหง ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นตัวการในการเปิดบัญชีเฟซบุ๊กหลอกขายอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนเม็ดยี่ห้อ JOJU, โลชั่นทาผิวยี่ห้อออร่าไวท์, เซรั่มสตอเบอรี่ลดริ้วรอยยี่ห้อ Yerpall, สบู่ใบบัวบกยี่ห้อ Chariya, เซรั่มทาบำรุงผิวยี่ห้อโดสแดง นาโนไวท์โดส 

โดยใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี ‘ปุย นุ่น (อาฟิวส์)’, ชื่อบัญชี ‘สุมินตรา สุนาชัย’, ชื่อบัญชี ‘นุ่น นนนนนน’, ชื่อบัญชี ‘มณีรัตน์ ทองคำ’, ชื่อบัญชี ‘ศิรินันท์ ภูมิใจ’ ในการโพสต์หลอกขาย จนมีชื่อติดในติดแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 12.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น, พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ธนพล มโนสร รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว นางสาวมณีรัตน์ ทองคำ หรือ ‘นุ่นศรี’ หรือ ‘ปุย นุ่น (อาฟิวส์)’ หรือ ‘สุมินตรา สุนาชัย’ หรือ ‘นุ่น นนนนนน’ หรือ ‘มณีรัตน์ ทองคำ’ หรือ ‘ศิรินันท์ ภูมิใจ’ อายุ 19 ปี ที่อยู่ 158 หมู่ 4 ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก 

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550’

พบหมายจับจำนวน 2 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ 486/2565 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550’ ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่

2. หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ในความผิดฐาน ‘ไม่มาศาลตามกำหนดนัด’ ในคดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน’ ตามหมายจับระหว่างพิจารณา ที่ 21/2565

จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าที่พักคนงานริมถนนเทศบาล 7 หมู่ 4 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนเองเป็นคนพื้นเพเกิดที่จังหวัดพิษณุโลก เรียนจบชั้น ป.6 ย้ายมาอาศัยในพื้นที่ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยสารภาพว่าก่อนที่จะมาเริ่มก่อเหตุ เคยทำอาชีพขายครีมบำรุงผิวผ่านทางออนไลน์ แต่เมื่อประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จึงรับออเดอร์ลูกค้ามาแล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายอย่างอื่นแทนก่อน เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งก็ไม่สามารถหาสินค้ามาส่งให้ลูกค้าได้ จึงไปซื้อสินค้าชนิดอื่น เช่น แชมพูราคาถูก, น้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรืออื่น ๆ ที่สามารถหาได้ส่งให้ลูกค้าแทนสินค้าที่ต้องการ เมื่อเห็นว่าได้กำไลดีจึงหลงผิดทำต่อเนื่องเรื่อยมา 

แม่ค้าหัวร้อน!! หลังลูกค้าทักอินบ็อกซ์ กดไลก์ใส่ ลั่น!! ซื้อขายกับใครอย่าทำแบบนี้ ไร้มารยาทสุดๆ

การซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ เป็นเรื่องที่คนสมัยนี้คุ้นเคยและกลายเป็นเรื่องปกติ แม่ค้าหลายคนไม่เช่าร้านแต่ใช้โซเชียลมีเดีย เป็นพื้นที่ขายของแบบจริงจัง

ล่าสุด มีโพสต์จากแม่ค้าออนไลน์รายหนึ่ง ซึ่งแคปภาพที่ลูกค้าได้ทักอินบ็อกซ์เข้ามาหา เป็นอิโมจิรูปกดไลก์ และแม่ค้าก็ได้กดไลก์กลับไปเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนเป็นข้อความธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นในการพูดคุยกันบนโลกออนไลน์ แต่แม่ค้ากลับหัวเสียและนำแชทดังกล่าวมาโพสต์ ต่อว่าอย่างรุนแรง ว่า ไม่มีมารยาท

‘แอนนี่ บรู๊ค’ อัปเดตชีวิตแม่ค้าออนไลน์ หลังปัญหาธุรกิจรุมเร้า พ้อ!! “เพราะลูกชาย ถึงทำให้อดทนได้ขนาดนี้”

(5 ก.ค. 66) ‘แอนนี่ บรู๊ค’ นักแสดงหญิง ที่ยังทำธุรกิจทางด้านออนไลน์ด้วยนั้น ได้โพสต์ข้อความอัปเดตเรื่องราวชีวิต บนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

“ความไว้เนื้อเชื่อใจในการทำมาค้าขายเป็นสิ่งสำคัญ ปีที่แล้วตั้งแต่ต้นปีหนักหนามาก เป็นคนมีปัญหาแล้วไม่ค่อยพูด ชอบจัดการปัญหาคนเดียวเงียบๆ

ปีที่แล้วทั้ง supplier ทั้งบริษัทฟูฟิวส์เมนท์ (โกดังแพ็คของ) และคนใกล้ตัว ต่างเรียงหน้ากันเข้ามาสร้างปัญหาในธุรกิจ อาจจะเพราะด้วยเราไม่รู้เรื่องจึงโดนหนักหน่อย โชคดีที่เป็นคนที่ไม่ดื้อ เมื่อรู้ว่าไม่ไหวก็คือพอ และสะสางแก้ปัญหาทั้งหมด ไม่ให้ใครมาว่าเราได้ทีหลัง โลกออนไลน์มันรวดเร็วถ้าเราทำเสียลูกค้า ทุกอย่างก็จะไม่เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ต่อไปเขาก็ซื้อแค่ครั้งเดียว

ปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีใช้ตัวเองเป็นต้นทุน ดูแลรักษารูปร่างหน้าตา จึงมีงานต่องาน ตั้งใจทำงานให้กับเจ้าของแบรนด์ทุกแบรนด์ 

ฟื้นฟูจิตใจอยู่นาน ผิดหวังเล็กน้อยกับผู้คน แต่ไม่คิดล้มเลิก ยังคงขายของเป็นปกติแต่ในแพลตฟอร์มอื่น เพียงแค่ไม่ได้ Live สดเท่านั้น ขอบคุณที่ยังติดตามถามไถ่นะคะ ไม่ได้หายไปไหน วันไหนฟ้าสดใส เราก็คงจะได้หัวเราะเอิ๊กอ๊าก หน้า Live สดกันอีกที จะว่าไปเวลา set up หน้า Live สดคนเดียวนี่คือเหนื่อยมาก ติดตั้งเองคนเดียวและเก็บคนเดียวทุกอย่างเลยปังเวอร์ เก่งกว่าแม่ก็แค่ซุปเปอร์แมนละหล่ะ”

ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้คนเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก ขณะที่ ทนายเจมส์ ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์ด้วยว่า “สุดยอดครับ” ซึ่งแอนนี่ก็ได้ตอบว่า “เพราะ ดช.ฑี นั่นล่ะค่ะ ถึงทำให้อดทนได้ขนาดนี้”

‘คธอ.-ETDA’ เสนอเพิ่มมาตรการดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล พร้อมช่องทางในการให้ข้อมูล รองรับผู้ประกอบการออนไลน์

(5 ก.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้หารือกับผู้ประกอบการธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล E-Marketplace ได้แก่ Lazada, AirAsia Super App, Noc Noc, และ Shopee เข้าร่วมการประชุมทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้ ถึงความสำคัญของ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จากที่ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) และ ETDA ได้เสนอให้มีการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ภายใต้มาตรา 32 พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้กลไกการกำกับดูแลในระดับการแจ้งให้ทราบ กฎหมายนี้เป็นกฎเกณฑ์กลางในการควบคุมดูแลบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล มีหน้าที่แจ้งให้ ETDA ทราบก่อน การประกอบธุรกิจ และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งประกอบธุรกิจอยู่นอกราชอาณาจักร แต่ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในราชอาณาจักร จะต้องแต่งตั้งผู้ประสานงานในราชอาณาจักรด้วย โดยมีการกำหนดหน้าที่ให้เหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ และผลกระทบที่อาจเกิดจากการให้บริการ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ ETDA จัดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนกลางที่เกิดจากการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมทั้งมีหน้าที่ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการจัดทำแนวปฏิบัติที่ดี (Best-practice) หรือมีกลไกการกำกับดูแลตนเอง (Self-regulation) ที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจ กฎหมายนี้ยังกำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อเป็นกลไกการทำงานร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายด้วย สำหรับแผนการรองรับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล อยู่ก่อนแล้ว ให้แจ้งการประกอบธุรกิจต่อ ETDA ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่กฎหมายนี้บังคับใช้ หรือภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566

โดยทาง ETDA อยู่ในระหว่างการจัดทำร่างคู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดกลไก self-regulate ของผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะเน้นสำหรับบริการ Social Media และ e-Commerce ก่อน เพื่อประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (ลดการฉ้อโกงออนไลน์) และการดำเนินคดี (ระบุตัวผู้กระทำความผิด) และอยู่ในระหว่างการขยายขอบเขตให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ETDA ได้จัดงานรับฟังความคิดเห็นต่อร่างคู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการ และเปิดรับฟังความคิดเห็นในระบบกลางทางกฎหมายจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

ETDA ในฐานะ Co-Creation Regulator ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะต่อ กฎหมายลําดับรอง ภายใต้ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ มาอย่างต่อเนื่อง การรับความความคิดเห็นครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น ETDA จะเปิดเวทีชี้แจ้งและสรุปภาพรวมของกฎหมายลําดับรองทั้ง 9 ฉบับ ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นในระยะแรกนี้ต่อสาธารณะอีกครั้ง ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ผ่านทางระบบออนไลน์ เพื่อให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและผู้ที่สนใจได้ทําความเข้าใจภาพรวมของกฎหมายร่วมกันอีกครั้ง

และก่อนที่ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ จะมีผลใช้บังคับในเดือนหน้านี้ เพื่อเป็นการปิดข้อสงสัยและให้เกิดความชัดเจนในข้อปฏิบัติภายใต้กฎหมายฉบับดังกล่าว ETDA จึงเปิดระบบ Digital Platform Assessment Tool เพื่อช่วยประเมินเบื้องต้นว่า เป็นบริการที่เข้าข่ายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือไม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมก่อนดําเนินการแจ้งให้ ETDA ทราบ ผ่าน Checklist ออนไลน์ ที่ลิงก์ https://eservice.etda.or.th/dps-assessment

ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายใหญ่ และรายเล็กเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และ ในเร็วๆ นี้เตรียมขยายผลสู่การจัดกิจกรรม Pre-Consultation Checklist ที่จะมีทีมงานคอยให้คําปรึกษา แก่ผู้ให้บริการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจด แจ้งข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย ผ่านทางระบบ e-Meeting โดยจะเริ่มเปิดระบบให้จองนัดประชุม ทางเว็บไซต์ของ ETDA ก่อนเปิดให้บริการให้คําปรึกษาอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566

นอกจากนี้ ยังเตรียมยกระดับบทบาทของศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ 1212 ETDA สู่การเป็นช่องทางกลางในการรับเรื่องร้องเรียนที่เกิดจากการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยผู้ประกอบการ เพื่อเป็นช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย DPS เพื่อให้ผู้ร้องเรียนเข้าถึงกระบวนการดูแลที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

‘ต้นหอม’ อวด!! ไลฟ์สดขายของ 4 ชม. โกยรายได้ถึง 5 แสน พร้อมฝันหวาน หวังปลดหนี้ทั้งหมด 10 ล้าน ภายใน 2 ปี

(8 ส.ค.66) เอฟซีตาลุกพรึ่บ ๆ หลังจากที่ ‘ดีเจต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์’ โพสต์เผยยอดขายของออนไลน์ แค่เพียง 4 ชม. ฟันรายได้ถึง 5 แสน งานนี้ต้นหอมเผย ใครไม่อวด ฉันอวด ฝันจะปลดหนี้ 10 ล้าน ไม่เกิน 2 ปี งานนี้ตบปากขาเม้าท์ที่บอกว่าเจ้าตัวอยู่ในช่วงขาลงได้ชะงัดเลย

“4 ชม. กับยอดขายครึ่งล้าน!! เอาซี้!! ฝันที่จะปลดหนี้ 10 ล้าน ไม่เกิน 2 ปี สู้สิวะอิหอมมมม!! เกียมเปิดโต๊ะวีไอพีต่อ5555

ใครไม่ชอบคนขี้อวด ก็ต้องอดทนดูจ๊ะ ฉันอวด555 4 ชม.กับรายได้ 5 แสนนี้ คืออวดดดด!! ไม่ได้จะชวนมาขายอะไรทั้งนั้น อวดก็คืออวด กุมีแค่นี้ 555 ปล.แต่งานอีเวนต์ยังรับเหมือนเดิมนะคะคุณลูกค้า ไม่ต้องตกใจไปค่ะ งานไหนดีลไว้ดูแลให้เหมือนเดิมค่ะคุณลูกค้าขา งดยืมตังค์ รายได้เยอะ หนี้ก็เยอะ เงินใครเงินมันไม่ยุ่งกันค่ะ”

สตม.รวบแม่ค้าออนไลน์ชาวเมียนมาแอบไลฟ์สดขายของหนีภาษีของกลาง 200 รายการ

ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุม นางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร

ตม.จว.สมุทรสาคร ได้สืบสวนทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มีพฤติการณ์ลักลอบขายสินค้าหนีภาษีทางช่องทางออนไลน์ จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึก เบื้องต้นพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร โดยได้มีการไลฟ์สดและโพสต์ขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตัวสินค้า  

มีความผิดทางกฎหมาย จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง เป็นกลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันหรือสเปรย์ฉีดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งไม่มีฉลากภาษาไทย และเครื่องหมาย อย. ร่วม 200 รายการ และจากการตรวจสอบเอกสารของนางมิ พบใบอนุญาตทำงานระบุประเภท กรรมกร แต่มาลักลอบขายสินค้าออนไลน์ และไม่ได้ทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาตไว้ตามกฎหมาย จึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top