Tuesday, 30 April 2024
เศรษฐกิจฟื้นตัว

รมว.เฮ้ง เปิดบ้าน ต้อนรับกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เผย นโยบายช่วงโควิด ช่วยแรงงาน - ธุรกิจอยู่ได้ เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว

วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีครั้งที่ 10/2565 โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้เข้าร่วมประชุมให้การต้อนรับ ซึ่งการประชุมครั้งนี้กระทรวงแรงงานได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ ณ ห้องประชุมอำพล สิงหโกวินท์ ชั้น 6 อาคารอำนวยการ สำนักงานประกันสังคม จังหวัดนนทบุรี และการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล 

นายสุชาติ กล่าวว่า การประชุมกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีในครั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการพิจารณาและประเมินผลการดำเนินการของผู้ช่วยรัฐมนตรี และเสนอแนะมาตรการอันเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี หรือของรัฐมนตรี ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้สถานประกอบการ และพี่น้องผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ตลอดระยะ 2 ปี ที่ผมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายและมาตรการช่วยเหลือพี่น้องลูกจ้าง ผู้ประกอบการที่สำคัญ อาทิ ในปี 2564 ได้เปิดจุดตรวจโควิดแบบประจำจุดและตรวจเชิงรุกในโรงงาน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกจ้างเพื่อให้ภาคเอกชนยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งผลตรวจโควิด 409,972 คน ในเดือนพฤษภาคม 2564 แรงงานไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จึงขอรับการสนับสนุนวัคซีนให้แก่ผู้ใช้แรงงานกว่า 11 ล้านคน ต่อรัฐบาล และได้ฉีดวัคซีนให้แรงงานแล้ว 3,962,206 โดส ในเดือนสิงหาคม 2564 โรงงานปิดตัวลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงาน กระทรวงแรงงานจัดโครงการแฟคทอรี่ แซนบ๊อก บนฐานแนวคิดเศรษฐกิจศาสตร์และสาธารณสุขมุ่งเป้าภาคการผลิตส่งออกสำคัญทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใน 12 จังหวัด 730 โรงงาน มีแรงงานเข้าร่วม 407,770 คน ตรวจ RT-PCR พบผู้ติดเชื้อ 11,298 คน โดยทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และได้มีฉีดวัคซีนให้ทุกคน ผลสัมฤทธิ์จากโครงการทำให้โรงงานไม่มีการปิดตัวลง ภาคการผลิตส่งออกสูงสุดในรอบ 30 ปี 

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม นนท.แห่เข้าไทย 6.4 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาท  ‘SCMP’ ชี้ สงกรานต์ไทย ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ คาดเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี

(19 เม.ย.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยินดีที่ภาคการท่องเที่ยวไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย สะสมกว่า 6.4 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2.5 แสนล้านบาท และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เผยยอดค้นหาที่พักในไทยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 310 ขณะที่สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า เทศกาลสงกรานต์ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย พร้อมคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 2566 เติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี 

นายอนุชา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ 6,465,737 คน สร้างรายได้รวม 256,194 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2566 รวม 25-30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะสูงถึง 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว รองลงมาคือ มาเลเซีย 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้ Airbnb เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมียอดค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 310 จากปี 2565 โดยกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติค้นหามากที่สุด รองลงมาได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ และภูเก็ต ตามลำดับ นอกจากนี้ สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า การท่องเที่ยวที่คึกคักในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ถึงร้อยละ 4 ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบ 5 ปี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top