Thursday, 2 May 2024
เศรษฐกิจปากท้อง

‘พปชร.’ เตรียมลุยปราศรัยเมืองกรุงฯ 18 มี.ค. นี้ ชู ‘แก้ ศก.-ปากท้อง’ ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 12 คนขึ้นไป

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดปราศรัยใหญ่ในกทม. ของพรรค พปชร.ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่ลานคนเมืองกทม. ว่า ในวันดังกล่าวนอกจากจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต พรรคจะนำเสนอนโยบายสำหรับคนกทม. ที่เน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยจะมีทีมเศรษฐกิจของพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีแนะนำนโยบาย และนอกจากเวทีใหญ่ในกทม.ในวันดังกล่าวแล้ว พรรคจะจัดเวทีย่อยในกทม. ทั้งในกทม.ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก เพื่อที่จะนำเสนอนโยบายของพื้นที่ในเขตนั้นๆ สำหรับความคืบหน้าการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้นขณะนี้ได้ตัวครบเกือบหมดแล้ว มีเพียงบางพื้นที่ที่ทาง กกต.แบ่งเขตใหม่ คือลด 4 จังหวัด และเพิ่ม 4 จังหวัด รวมถึงในกทม.

‘ดร.สฤษดิ์’ บุกเยาวราช ชูนโยบายท่องเที่ยว ‘แก้เศรษฐกิจ-ปากท้อง’ ดันกรุงเทพฯ ให้เป็นแหล่งดึง นทท. ชี้ เป็นช่องทางหาเงินเข้าประเทศเร็วสุด

(10 พ.ค. 66) ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง หรือ ดร.ลั่น ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรุงเทพมหานคร เขต 1 หมายเลข 11 กล่าวในระหว่างลงพื้นที่หาเสียงย่านเยาวราชว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เสียงสะท้อนที่ได้รับฟังส่วนใหญ่ที่ต้องการให้ทางพรรค ผลักดันเร่งด่วนยังคงเป็นเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาปากท้องประชาชนโดยเร็วเช่นกัน

ทั้งนี้ หนึ่งในนโยบายของพปชร.นั้น จะมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ผ่านกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งอาเซียน เพื่อเร่งนำเงินเข้าประเทศให้เร็วที่สุด ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นช่องทางที่เร็วที่สุดในการหารายเข้าประเทศ เพราะการท่องเที่ยวนั้น ไม่ต้องรอการก่อสร้าง รอเพียงแต่นักท่องเที่ยวมาในประเทศ ก็ได้เงินเข้าประเทศทันที ซึ่งกรุงเทพฯเป็นหมุดหมาย และเป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้อยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน มีย่านการค้าและการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวรู้จักดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นย่านของกินชื่อดังอย่างเยาวราช ย่านศิลปวัฒนธรรมอย่างพระบรมมหาราชวัง และย่านถนนข้าวสาร ซึ่งสามารถพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงต่อยอดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ได้เช่นกัน

พร้อมกันนี้ ดร.สฤษดิ์ ยังได้นำเสนอ นโยบายลดค่าครองชีพให้กับประชาชน หาก พปชร.ได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันทันที เช่น ลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 2.50 บาท, ลดราคาน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 6.30 บาท และเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุแบบขั้นบันได คือ ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 3,000 บาทต่อเดือน, อายุ 70 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 4,000 บาทต่อเดือน อายุ 80 ปีขึ้นไป, เพิ่มเป็น 5,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น

สำหรับบรรยากาศในการลงพื้นที่เยาวราช ของดร.สฤษดิ์ในครั้งนี้ ยังคงมีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า และแฟนคลับ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับส่งเสียงเชียร์เหมือนเช่นเคย

‘กรณ์’ ขึ้นรถแห่ทั่วกรุงฯ ชวน ปชช. เลือก ‘ชพก.’ เบอร์ 14 พร้อมขอโอกาสเข้าสภาฯ ไปแก้ ‘เศรษฐกิจปากท้อง’ ให้คนไทย

(13 พ.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค นายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียงเป็นวันสุดท้าย เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในเขตต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มจากเข้าสักการะพระแม่อุมาเทวีและสิ่งศักดิ์สิทธิที่ วัดแขก เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเดินทางไปยังตลาดศรีย่าน ราชวัตร ซึ่งเป็นพื้นที่หาเสียงของนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 9 จากนั้นได้ขึ้นรถแห่ไปยังเขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี ผู้สมัคร เบอร์ 3 และเขตบางกะปิ พื้นที่ของนายธาม สมุทรานนท์ ผู้สมัครเบอร์ 8 ก่อนจะตรงไปยังตลาดบองมาเช่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นางสาววิเวียน จุลมนต์ ผู้สมัครเบอร์ 10 

โดยนายกรณ์ ได้เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม กาเบอร์ 14 พรรคชาติพัฒนากล้า และกาเบอร์ผู้สมัครของพรรคชาติพัฒนากล้าในทุกเขตเลือกตั้ง โดยตลอดเส้นทาง ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี โดยประชาชนโบกมือทักทาย และอวยพรให้โชคดี ได้เข้าไปทำงานแก้ไขปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ตามที่ได้ตั้งใจไว้ จากนั้นคณะได้พักรับประทานอาหารที่ตลาดบองมาเช่ ก่อนที่นายกรณ์ จะให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะได้มีโอกาสลงพบปะพี่น้องประชาชนขอคะแนนเสียง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปหาเสียงกันในเขตของตัวเอง อยากฝากประชาชนว่าในวันที่ 14 พฤษภาคม อยากให้ไปใช้สิทธิกันมาก ๆ และหากเห็นว่าประเด็นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ควรได้รับการดูแลเหนืออื่นใด ก็ขอให้พิจารณาเลือกพิจารณาพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะพรรคเราเป็นพรรคเศรษฐกิจที่มีความเชี่ยวชาญและมีความตั้งใจที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องโดยเฉพาะ และมีทีมงานที่ผสมผสานกันระหว่างคนรุ่นเก่า และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเศรษฐกิจ ธุรกิจ พร้อมรับใช้ท่าน 

“ขอให้ท่านส่งพลังบวกเลือกในสิ่งที่ท่านต้องการจริง ๆ อย่าไปกังวลว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยถ้าเราได้เลือกในสิ่งที่เราชอบและศรัทธาแล้ว ก็เชื่อว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ เราจะมีความภาคภูมิใจกับการตัดสินใจของเรา และหากกรุณาเลือกเบอร์ 14 ทั่วประเทศ ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี ถ้าเรามีโอกาสเข้าไปทำงาน เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

ต่อมาในช่วงบ่าย นายกรณ์ พร้อมคณะ ออกจากตลาดบองมาร์เช่ ขึ้นรถแห่ไปตามถนนในเขต บางเขน จตุจักร หลักสี่ ในพื้นที่ของ ดร.แวววรรณ ก้องไตรภพ ผู้สมัครเบอร์ 3 ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง ถ.สาทร ซึ่งเป็นพื้นที่หาเสียงของ 3 ผู้สมัคร คือ นายนันทพันธ์ ศุภณ์ภัทรพงศ์ เขต1 เบอร์9 นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน เขต2 เบอร์ 3 สาทร ปทุมวัน ราชเทวี และ นายปรัชญา อึ้งรังสี เขต3 เบอร์ 14 บางคอแหลม ยานนาวา โดยตลอดเส้นทางถนนสาทร นราธิวาสฯ พระราม3 ประชาชนรอให้การทักทายอย่างคับคั่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top