Sunday, 19 May 2024
เวทีปราศรัย

'อุ๊งอิ๊ง' ยกทัพเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ จ.กาฬสินธุ์ อาสาปลดทุกข์-แก้ปัญหาที่ดินทำกิน-เพิ่มราคาสินค้าเกษตร

กาฬสินธุ์เพื่อไทยยกทัพปราศรัยปลดทุกข์กาฬสินธุ์ปักหมุดแลนด์สไลด์ยกจังหวัด สนามแทบแตก 'อุ๊งอิ๊ง' ยกทัพ 'เพื่อไทย' นำขุนพลเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ขอปลดทุกข์ให้ชาวกาฬสินธุ์ แก้ปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ทั้ง 6 เขต ประกาศปักหมุดแลนด์สไลด์ยกจังหวัด

เมื่อเวลา 10.30 น. (19 ก.พ. 66) ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ในภาคอีสานต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมคณะเปิดเวทีปราศรัย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 6 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายวิรัช พิมพะนิตย์   เขต 2 นายพลากร พิมพะนิตย์ เขต 3 นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล , เขต 4 นายพีระเพชร ศิริกุล, เขต 5 นายทินพล ศรีธเรศ  เขต 6 นายประเสริฐ บุญเรือง และนายณัฐวัตช์ พิมพะนิตย์ ว่าที่ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ

โดยเวทีการปราศรัยวันนี้ ยังมีนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรคคนสำคัญ รวมทั้งยังมี ส.ส.กาฬสินธุ์ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วยนางบุญรื่น ศรีธเรศ นายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ นายพีระเพชร ศิริกุล นายคมเดช ไชยศิวามงคล และนายประเสริฐ บุญเรือง และส.ส.หลายจังหวัดในภาคอีสานขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้าโดยมีประชาชนชาวกาฬสินธุ์มารอฟังการปราศรัยกว่า 3 หมื่นคน พร้อมประกาศปักหมุดแลนด์สไลด์ยกจังหวัดทั้ง 6 เขต

นพ.ชลน่าน กล่าวปราศรัยว่า เรายกทัพใหญ่มาพบประชาชน เพื่อต้องการเน้นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คนกาฬสินธุ์จะสอนบทเรียนให้กับรัฐบาล 'ประยุทธ์' วันนี้พี่น้องประชาชนจะร่วมกันปลดทุุกข์เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน โดยนโยบายของพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น สิ่งที่พูดคือความเปลี่ยนแปลง และเมื่อผ่านการเลือกตั้งเราจะทำทันที และยืนยันว่าเราทำได้ ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

บิ๊กป้อมบุกเมืองชาละวันนำทีมพลังประชารัฐจัดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร3เขตลงสู้ศึกเลือกตั้ง 

ลุงป้อมยกทัพนำทีมขุนพลพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พิจิตรทั้ง 3 เขต ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุแต่อุณหภูมิการเมืองที่เมืองชาละวันร้อนถึงขั้นปรอทแตก เมื่อผู้กองธรรมนัสให้คำยืนยันสู้ไม่ถอยชี้พิจิตรยุคนี้ไม่มีใครเป็นบ้านใหญ่แล้ว
  

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566  ณ  สนามวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร  พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ   รองนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางพร้อมคณะมาเพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ทั้ง 3 เขต ซึ่ง เขต 1 คือ  นายพรชัย  อินทร์สุข , เขต 2 คือ นางณริยา  บุญเสรฐ  ,  นายเอกวิชญ์   เรืองมาลัย "เจมส์" ( ซึ่งเป็นลูกเขยของเจ๊หนิง ประธานชมรมโรงสีพิจิตร) โดยมีกองเชียร์ที่เดินทางมาจาก 12 อำเภอ เกือบ 1 หมื่นคน ที่ขนกันมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้กันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศของวันนี้ที่ร้อนระอุ อุณหภูมิสูงถึง 39 องศา สำหรับผู้ปราศรัยประกอบด้วยผู้นำของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นไฮไลท์ก็คงต้องยกให้ “ลุงป้อม” ที่กล่าวปราศรัยชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งขจัดทุกปัญหาพัฒนาทุกพื้นที่ โดยโฟกัสการพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดพิจิตรและนโยบายบริหารจัดการน้ำและพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอีกทั้งนโยบายสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท  เรียกเสียงปรบมือจากกองเชียร์ได้เป็นระยะๆ การใช้เวลาในการปราศรัยเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 17.30 น. – 18.15 น. 

ไพฑูรย์ - นราพัฒน์ นำทีม ประชาธิปัตย์พิจิตรเปิดเวทีปราศรัยเห็นกองเชียร์ก็รู้ว่าไม่ใช่มวยรอง

วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 ความคืบหน้าบรรยากาศทางการเมืองของจังหวัดพิจิตร ที่แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต ซึ่งขณะนี้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มมีการติดป้ายโฆษณาหาเสียงเดินลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านกันแล้วอย่างคึกคัก

ล่าสุด นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีในหลายกระทรวงและเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นอดีต ส.ส.พิจิตร หลายสมัย พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และเป็น ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 7 ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นผู้นำในการจัดเวทีปราศรัยย่อย ขึ้นที่อาคารชมรมผู้สูงอายุสากเหล็ก เพื่อช่วยหาคะแนนเสียงให้กับ พ.ต.ท. สามารถ แก้วทอง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 6  พิจิตรเขต 2 ซึ่งเป็นหลานชายของ นายไพฑูรย์ แก้วทอง โดยภายในงานนี้มี FC แฟนคลับ ของพรรคประชาธิปัตย์เกือบพันคนมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ โดยมีผู้ดำเนินรายการปราศรัยต่างสลับสับเปลี่ยนกันเล่าถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองและเป็นสถาบันการเมืองที่เก่าแก่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยมายาวนานถึง 77 ปี อีกทั้งมีนโยบายต่างๆที่ดูแลประชาชนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน วัยชรา จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งล้วนแต่เป็นนโยบายที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่อง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top