Friday, 10 May 2024
เม็กซิโก

‘สภาเม็กซิโก’ โชว์ร่างมัมมี่อายุพันปี หน้าตาคล้าย ‘มนุษย์ต่างดาว’ ด้านผู้ค้นพบ กร้าว!! “พวกเรากำลังเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์

(14 ก.ย. 66) สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมถึงสื่อต่างชาติอีกหลายสำนัก ต่างรายงานข่าวน่าตื่นเต้น ซึ่งเกิดขึ้นกลางที่ประชุมสภาของเม็กซิโก เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีการนำร่างที่ถูกระบุว่า “ไม่ใช่ร่างของมนุษย์” จำนวน 2 ร่าง มาแสดงระหว่างการไต่สวนสาธารณะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิตนอกโลกของสภาเม็กซิโก ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในการนำเรื่องของมนุษย์ต่างดาวมาพูดในสภาเม็กซิโก

โดยนายเจมี เมาส์ซัน นักข่าวและนักวิจัยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นผู้ค้นพบซากฟอสซิลดังกล่าว ที่ประเทศเปรู เมื่อปี ค.ศ.2017 เป็นผู้นำซากฟอสซิลทั้งสองมาที่ประชุมสภาเม็กซิโก ซึ่งเป็นร่างสีเทา โครงหน้ามีความเหมือนกับมนุษย์ และมีนิ้วข้างละ 3 นิ้ว โดยมีกะโหลกศีรษะที่นูนออกมามากกว่ามนุษย์ทั่วไป

นายเมาส์ซัน กล่าวว่า ซากมัมมี่นี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่ไม่อยากเรียกว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว เนื่องจากยังไม่รู้ความจริง พร้อมอ้างอิงข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์คาร์บอน โดยมหาวิทยาลัยออโตโนมัสแห่งชาติ เม็กซิโก ที่ระบุว่า “ซากมัมมี่นี้ มีอายุมากถึงราว 1,000 ปี”

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า เคยมีการค้นพบซากฟอสซิลในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และถูกพิสูจน์ได้ในเวลาต่อมาว่า เป็นซากของ “มัมมี่เด็ก”

ขณะที่นายเมาส์ซัน ซึ่งได้ยกมือสาบานต่อสภาฯ ว่าจะพูดความสัตย์จริงต่อสภาฯ ระบุว่า สิ่งที่ปรากฏนี้เป็นที่แน่ชัดว่า เรากำลังเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวโยงกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใดๆ บนโลกนี้ และอาจจะต้องมีการเปิดให้สถาบันวิทยาศาสตร์ใดๆ ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ก่อนจะบอกว่า “เราไม่ได้อยู่ลำพัง”

การนำร่างมัมมี่ดังกล่าว ที่ดูเหมือนกับมนุษย์ต่างดาวมาแสดงในที่ประชุมสภา ทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายบนโลกออนไลน์ ทั้งการแปลกใจ ความไม่เชื่อ และบางคนก็เยาะเย้ยการกระทำดังกล่าว เนื่องจากไม่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง

‘สหรัฐฯ’ จ่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเพิ่ม หวังสกัดกั้นผู้อพยพ อ้าง!! เป็นงบที่เหลือค้างจากนโยบายของรัฐบาล ‘โดนัลด์ ทรัมป์’

(6 ต.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ว่าจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกเพิ่มอีกราว 20 กิโลเมตรในสตาร์ เคาน์ตี้ รัฐเท็กซัส เพื่อสกัดการเข้าประเทศของผู้อพยพจากเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าในนโยบายหลักของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สนับสนุนให้มีการสร้างกำแพงตามชายแดนที่ติดกับประเทศเม็กซิโก

หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อจากทรัมป์ในเดือนมกราคมปี 2021 หนึ่งในสิ่งแรกที่เขาทำคือออกแถลงการณ์ให้คำมั่นว่า “ภาษีของชาวอเมริกันจะไม่ถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนอีก” รวมถึงสั่งให้มีการตรวจสอบทรัพยากรทั้งหมดที่ถูกใช้ในการสร้างกำแพงไปแล้ว

อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า การตัดสินใจที่จะสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกเพิ่มนั้นไม่ได้หันเหไปจากแถลงการณ์ให้คำมั่นของไบเดนเมื่อปี 2021 แต่อย่างใด เพราะงบประมาณที่ถูกจัดสรรไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลทรัมป์เมื่อปี 2019 จำเป็นต้องนำออกมาใช้ตอนนี้ ‘นายอเลฮานโดร มายอร์กาส’ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่มีนโยบายการบริหารใหม่เกี่ยวกับกำแพงชายแดน ตั้งแต่วันแรกของการทำงาน ฝ่ายบริหารได้แสดงชัดเจนว่ากำแพงกั้นชายแดนไม่ใช่คำตอบ

มายอร์กาส กล่าวว่า โครงการก่อสร้างกำแพงชายแดนดังกล่าวได้รับการจัดสรรงบไว้แล้วในสมัยรัฐบาลของทรัมป์ และกฎหมายระบุให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณดังกล่าว ตามที่มีการประกาศเมื่อช่วงต้นปีนี้

“เราได้ขอให้สภาคองเกรสยกเลิกงบประมาณดังกล่าวหลายครั้ง แต่พวกเขายังไม่ทำเช่นนั้น เราจึงต้องดำเนินการตามที่กฎหมายระบุ และในปัจจุบันมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสร้างเครื่องกีดขวางและถนนใกล้กับชายแดนสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย” มายอร์กาส กล่าว

ด้านอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้รีบออกมาประกาศชัยชนะในนโยบายสร้างกำแพงของตนเอง และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนออกมาขอโทษเขา และประเทศอเมริกาที่เดินหน้าในเรื่องกำแพงชายแดนล่าช้ากว่ากำหนด

ขณะที่ประเทศเม็กซิโกได้ออกมาคัดค้านแผนการสร้างกำแพงชายแดนเพิ่มของสหรัฐฯ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ ได้มีการหารือกันในกรุงเม็กซิโก ซิตี เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก

โดย ‘นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์’ ประธานาธิบดีเม็กซิโกกล่าวประณามว่า เป็นการเดินถอยหลัง และ ‘อลิเซีย บาร์เซนา’ รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวคัดค้านแผนดังกล่าวเช่นกัน รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตหลายคนได้ออกมาวิจารณ์ไบเดน จากการหันมาเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นชายแดนเพิ่ม

‘ศุลกากรฯ ฮ่องกง’ ยึด ‘ยาบ้าล็อตใหญ่’ หนัก 1.1 ตัน ส่งตรงจากเม็กซิโก ถูกแปลงโฉมเป็น ‘เปลือกหอย’ ซุกซ่อนปะปนมากับเปลือกหอยของจริง

(10 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮ่องกง รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ ศุลกากรเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน พบเหตุต้องสงสัยกรณีค้าเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือ ‘ยาบ้า’ จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และยึดของกลางดังกล่าวได้ราว 1.1 ตัน โดยยาบ้าเหล่านี้ถูกดัดแปลงให้เป็นรูปทรงของ ‘เปลือกหอย’ และบรรจุซุกซ่อนมากับเปลือกหอยจริง

ศุลกากรฯ ระบุผ่านถ้อยแถลงว่า คดีนี้เป็นคดีค้ายาบ้าชนิดแข็งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ศุลกากรฯ เคยตรวจพบ

หลังจากการประเมินความเสี่ยง เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ศุลกากรฯ ได้ทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลตู้หนึ่ง ที่ระบุไว้ว่าบรรทุกอาหารทะเล 611 กระสอบ และถูกส่งจากเม็กซิโกมาถึงฮ่องกง

จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว พบยาบ้าต้องสงสัยจำนวนหนึ่งซึ่งซุกซ่อนอยู่ โดยถูกอำพรางมาในรูปแบบของเปลือกหอย และปะปนอยู่กับเปลือกหอยของจริงภายในถุงไนลอนจำนวน 104 ใบ

ทั้งนี้ หลังทำการสืบสวน เจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ ได้จับกุมชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ และชายวัย 54 ปี ผู้ดูแลโกดังแห่งหนึ่ง จากนั้นได้จับกุมหญิงวัย 46 ปี ผู้ดูแลโกดังสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์ และชายว่างงานวัย 27 ปีรายหนึ่ง โดยคดีนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

อนึ่ง ศุลกากรฯ ตรวจพบกรณีที่เกี่ยวข้องกับยาบ้าจำนวนมากกว่า 1 ตันเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2022 มีการยึดยาบ้าแบบเหลวได้ราว 1.8 ตัน จากการขนส่งทางทะเลที่ระบุว่าเป็นการบรรทุกสินค้าประเภทน้ำมะพร้าว

‘ปธน.เม็กซิโก’ กุมขมับ!! การลักลอบขน ‘อาวุธสหรัฐฯ’ เกิดขึ้นถี่ ชี้!! 70% มาจาก ‘เท็กซัส’ ร้อง รบ.สหรัฐฯ แล้ว แต่ยังไม่เห็นผล

(15 ก.พ.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่าอาวุธจากสหรัฐฯ ที่ถูกลักลอบขนส่งเข้าเม็กซิโกครึ่งหนึ่งนั้นมาจากรัฐเท็กซัส

โลเปซ โอบราดอร์ ได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ จึงยินยอมให้สถานการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อไป ขณะที่แอบบอตต์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการกระชับการควบคุมชายแดนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมตั้งคำถามว่าผู้ว่าการรัฐเท็กซัสจะตอบสนองต่อประเด็นนี้อย่างไร

โลเปซ โอบราดอร์ ระบุว่านับตั้งแต่ตัวเขาเริ่มเข้ามารับตำแหน่งบริหารประเทศเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ได้มีการยึดอาวุธเกือบ 50,000 ชิ้น โดยร้อยละ 70 มาจากสหรัฐฯ ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากเท็กซัส

เม็กซิโกเรียกร้องสหรัฐฯ หลายต่อหลายครั้งให้ดำเนินการมากขึ้นเพื่อควบคุมการลักลอบนำเข้าอาวุธปืนสู่เม็กซิโก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะระหว่างองค์กรอาชญากรรมที่เป็นคู่อริกัน

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเม็กซิโกได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ และแคนาดาช่วยต่อต้านการลักลอบขนส่งอาวุธ ‘พลังงานสูง’


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top