Friday, 17 May 2024
เครือเจริญโภคภัณฑ์

เครือซีพี ยัน ‘เจ้าสัวธนินท์’ ถือสัญชาติไทย เตือนเผยแพร่-ส่งต่อข้อมูลเท็จ ผิดกฎหมาย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ออกประกาศชี้แจงข่าวลือ กรณีมีผู้เพยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเรื่องการถือสัญชาติของ “ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์” ความว่า

ตามที่มีข้อมูลอันเป็นเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน เกี่ยวกับการถือสัญชาติของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ นั้น ได้ก่อให้เกิดความสับสนและสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมอย่างมาก

สำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขอชี้แจงอย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้ ว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นคนไทย กำเนิดในประเทศไทยและถือสัญชาติไทย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และโลตัส ลงพื้นที่ เร่ง “เตือนภัยนักช้อป น็อกโจร ไซเบอร์” 

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เวลา 16.00 – 18.00 น. ณ โซนหน้า Fresh Food โลตัส สาขารามอินทรา พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท ,พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.ตอท. บช.สอท,พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา อาจารย์ (สบ2) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะสังคมศาสตร์ รร.นรต. รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ร่วมงาน

“เตือนภัยนักช้อป น็อกโจร ไซเบอร์” ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และโลตัส พร้อม คุณสาคริต นันทจิต รองผู้อำนวยการ ฝ่าย Solution Architect, DevOps และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ โลตัส และ คุณเทวินธวี คุณารัตนวัฒน์ (จอห์นสัน) ดารา/นักแสดง

โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้มุ่งรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักรู้และเฝ้าระวัง ภัยจากโจรไซเบอร์ ซึ่งภายในงานมีการเสวนาหัวข้อ “เรียนรู้กลโกง...น็อกโจรไซเบอร์”  พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ได้ยกตัวอย่างในระหว่างการเสวนา กรณีกลโกงแจ้งsmsค่าไฟ,กลโกงหลอกทำงานออนไลน์,หลอกให้กู้เงินแบบไม่ได้เงิน, ฯลฯ พร้อมยกตัวอย่างความเสียหาย

ปัจจุบันมีคนไทยตกเหยื่อกลโกงของโจรออนไลน์แล้วมีการรับแจ้งความกว่า2แสนเคส, มูลค่าความเสียหายกว่า3หมื่นล้าน ย้ำ!ให้ตั้งข้อสงสัยทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อของออนไลน์ แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้ พร้อมให้ความรู้ถึงข้อสังเกตุเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ ไม่เชื่อ! ไม่รีบ! ไม่โอน!

ด้าน คุณสาคริต นันทจิต รองผู้อำนวยการ ฝ่าย Solution Architect, DevOps และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ โลตัส กล่าวเพิ่มเติม เรื่องของวิธีการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าว่ามีการจัดเก็บข้อมูลต่างๆที่รัดกุม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังภัยออนไลน์  ทางโลตัสเองได้สร้างความมั่นใจเพิ่มเติมว่าทางโลตัสเองได้มีการยกเลิกข้อความสั้นและการแนบลิงก์ต่างๆแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนระหว่างsmsที่ทางโลตัสจัดส่งกับsmsแนบลิงก์ของมิจฉาชีพ พร้อมสร้างความมั่นใจว่าโลตัสให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอดและยังดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อไป

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเพิ่มเติมว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นและดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยไซเบอร์ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือในภาคประชาชนให้ช่วยกันส่งต่อ แชร์เรื่องราวกลโกงต่างๆที่ได้พบเจอเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อตัดตอนของอาชญากรรมออนไลน์ให้หมดไปจากสังคมไทย

‘คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์’ ภรรยาเจ้าสัวธนินทร์ ถึงแก่อนิจกรรม คนในวงการธุรกิจ รวมทั้งผู้ใกล้ชิด ต่างเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไป

เฟซบุ๊ก We are CP ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวการสูญเสีย คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ ภรรยาของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ โดยระบุว่า

"คณะผู้บริหาร และพนักงาน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ และขอร่วมแสดงความเสียใจอย่างเป็นที่สุด ต่อท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัวเจียรวนนท์ทุกท่าน"

ในโลกออนไลน์ มีคนในวงการธุรกิจ รวมทั้งผู้ใกล้ชิด ต่างออกมาร่วมอาลัยต่อการจากไปครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

‘ซีพี’ ผนึก ‘อัลเตอร์วิม’ รุกธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร สานต่อภารกิจปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2593

(28 พ.ย.66) เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยบริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด (ALTERVIM) ธุรกิจในเครือฯ ด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน เปิดตัว ‘Total Clean Energy Solution’ โครงการต้นแบบการจัดการพลังงานสะอาดแบบครบวงจร นำร่องที่สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดซึ่งถือเป็นภารกิจครั้งสำคัญ ในการสนับสนุนยุทธศาสตร์เป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ได้ประกาศเจตนารมณ์มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้ได้ภายในปี 2593

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประชาคมโลกในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ได้มากที่สุด โดยภายในงานมีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน พร้อมด้วยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้เปิดงาน และนายสมบูรณ์ เลิศสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของอัลเตอร์วิม เป็นผู้กล่าวรายงานโครงการ รวมทั้งผู้บริหารในเครือซีพี และกลุ่มธุรกิจในเครือฯ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะ ‘โลกร้อน’ คือ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของโลก เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความตระหนักในประเด็นนี้เป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นภารกิจสำคัญในกระบวนการสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ จึงได้ประกาศเจตนารมณ์มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 

ทั้งนี้เครือซีพีได้ผลักดัน สนับสนุน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ โดยยกระดับแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โครงการต้นแบบการบูรณาการการจัดการพลังงานโดยใช้พลังงานสะอาดแบบครบวงจร ณ สถาบันผู้นำฯ ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญสู่การเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน เป็นต้นแบบที่ดีในการใช้พลังงานสะอาด

“เครือฯ มีความมุ่งมั่นจะขยายผลโครงการบูรณาการ การจัดการพลังงานโดยใช้พลังงานสะอาดแบบครบวงจรไปยังทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ รวมถึงคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเป็นแบบอย่างการพัฒนาอย่างยั่งยืนสู่ชุมชน สังคมและประเทศไทย” ซีอีโอเครือซีพี กล่าว

นายสมบูรณ์ เลิศสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อัลเตอร์วิม กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องของพลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยอัลเตอร์วิมก็เป็นบริษัทที่ยึดมั่นในเรื่องค่านิยม 3 ประโยชน์ของท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ และมองว่าจะนำพลังงานสะอาดมาใช้อย่างไรให้ประเทศได้ประโยชน์มากที่สุด รวมทั้งสร้างรูปแบบการให้บริการซึ่งสามารถให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้น สิ่งสำคัญคือ ต้องเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เช่น ต้องมีต้นทุนที่ต่ำ เข้าถึงง่าย และมีรูปแบบการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ แล้วถึงคิดในเรื่องขององค์กรเป็นลำดับสุดท้าย

โดยโครงการต้นแบบการจัดการพลังงานสะอาดแบบครบวงจร (Total Clean Energy Solutions) ซึ่งทางอัลเตอร์วิมได้ผนึกกำลังความร่วมมือกับสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาจากนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นกลางในปี 2573 รวมทั้งเป็นผู้นำในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดนั้น ทางทีมงานได้ลงลึกศึกษาและร่วมมือกับทางสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการนำนโยบายมาต่อยอดเป็นโครงการจริง

นายสมบูรณ์ ขยายความถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการดังกล่าวประกอบไปด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่

1.ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 832 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่า 670 ครัวเรือน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1.2 ล้านหน่วยไฟฟ้าต่อปี คิดเป็นการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 17,500 ตันตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นต้นน้ำในการผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาด เพื่อนำมาใช้ภายในสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั้งหมด

2. สถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงเริ่มต้นเรามีการติดตั้งเครื่องชาร์จแบบที่เหมาะกับการใช้งานของสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ สำหรับรถที่ใช้ไฟฟ้า 100% จำนวน 4 ช่องจอด และเครื่องชาร์จที่รองรับรถไฮบริดที่ใช้ได้ทั้งน้ำมัน และไฟฟ้า จำนวน 2 ช่องจอด รวมเป็น 6 ช่องจอด ซึ่งคิดเป็น 7% จากพื้นที่ที่จอดรถทั้งหมดภายในอาคาร และมีแผนในการติดตั้งเพิ่มเติมตามสัดส่วนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นในปีหน้า

และ 3. พัฒนาระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยปัจจุบันใช้ระบบจัดการวางแผน การผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบตรวจติดตามประสิทธิภาพ และการจัดการงานซ่อมบำรุงรักษาของระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำในโครงการนี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์ที่พัฒนาบนเมฆ และทางอัลเตอร์วิมมีการใช้งานจริงสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่า 2,500 จุดทั่วประเทศไทย

สำหรับเครือซีพีได้ออกแบบการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานให้มีประสิทธิภาพ โดยได้มีการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อลดการใช้พลังงานให้ได้มากที่สุด โดยบริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด (Altervim) เป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครือฯ ซึ่งมีปณิธานที่จะจัดหาโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน (Energy Transition) และทำให้ผู้คนเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากยิ่งขึ้น เช่น

การติดตั้งระบบจัดการพลังงานผ่านระบบอัจฉริยะเรียลไทม์บนคลาวด์ การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Altervim Super Charge ทั่วประเทศกว่า 100 สถานี ผ่านการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Altervim Super Charge เป็นแอปที่ไว้สำหรับใช้ติดต่อสื่อสาร และควบคุมระบบสถานีจ่ายไฟฟ้า สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ปัจจุบันมีผู้ติดตั้งแอปมากกว่า 2 หมื่นรายจากผู้ใช้รถมากกว่า 7 คัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top