Monday, 20 May 2024
เกมการเมือง

'ซูเปอร์โพล' เผยปชช. วอนหยุดโหน ม.112 อย่าดึงสถาบันฯ - แก้ม.112 เป็นเกมการเมือง

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจประชาชนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการให้นำสถาบันพระมหากษัตริย์ และการแก้ ม.112 มาเป็นเครื่องมือการเมือง จำเป็นต้องปกป้องการล้มล้างสถาบันฯ จากกลุ่มไม่หวังดี

5 พ.ย. 64 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เสนอผลสำรวจ เรื่อง ม.112 : เบื้องหลังและความจำเป็น กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 2,272 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 - 4 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.5 ระบุ การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์เชิงลึกของคนในชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเชิงประวัติศาสตร์ เช่น ไทย-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-อังกฤษ เป็นต้น

ที่น่าสนใจ คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.0 ระบุ สถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันหลักของการก่อร่างสร้างชาติในการกอบกู้เอกราช ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และดูแลทุกข์สุขของราษฎร และร้อยละ 96.1 ระบุ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการยกเลิก หรือ แก้ไข มาตรา 112 เพราะ การมีอยู่ ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติและสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป

นอกจากนี้ เกือบร้อยละร้อย หรือ ร้อยละ 99.1 ไม่ต้องการให้ใคร หรือ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม.112 มาเป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมือง หาคะแนนเสียงและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวสร้างความแตกแยกขัดแย้งในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 98.9 ระบุ จำเป็นต้องป้องกันและปกป้องการล้มล้างสถาบันฯ จากกลุ่มไม่หวังดี บิดเบือนใส่ร้ายและจาบจ้วง ร้อยละ 98.4 ระบุ ประมุขของทุกประเทศ เป็นเกียรติศักดิ์ศรีและสถาบันหลักของชาติ จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมาย และร้อยละ 98.4 เช่นกัน ระบุ ไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และ ม.112 มาเป็นเครื่องมือปลุกปั่นเยาวชน คนรุ่นใหม่ให้ล้มล้างสถาบันอันเป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาภักดีของคนในชาติ

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 ระบุมีความพยายามจากขบวนการต่างชาติมหาอำนาจ เข้ามาแทรกแซง เชื่อมโยงกับกลุ่มต่อต้านสถาบัน ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชาติไทย และร้อยละ 96.2 เชื่อว่ามีกลุ่มต่อต้านสถาบันและแกนนำรับเงินและผลประโยชน์อื่น เป็นเครื่องมือของประเทศมหาอำนาจในการโค่นล้มสถาบัน

‘ณัฐชา’ แฉ เกมการเมืองเก่า ปล่อยเฟคนิวส์เกลื่อนไลน์ วอนหยุดปั้นน้ำเป็นตัว ชี้!! ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

(30 มี.ค. 66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อปี่กลองการเลือกตั้งดังขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ สารพัดวิชามาร ปล่อยข่าวลวงหรือข่าวเท็จป้ายสีกัน เป็นวิธีของการเมืองแบบเก่า ที่เมื่อสู้ด้วยไอเดีย สู้ด้วยนโยบายไม่ได้ก็ใช้ความกลัวจากการโกหกประชาชนสู้แทน

“ขณะนี้ในไลน์เกลื่อนมาก โดยเฉพาะพรรคการเมืองเก่า ที่เล่นการเมืองแบบเก่า ๆ จะเป็นต้นทาง สั่งให้หัวคะแนนพรรคตัวเอง สร้างเฟคนิวส์ส่งเข้าไลน์กลุ่มหมู่บ้าน กลุ่มโรงเรียน กลุ่มชุมชนโจมตีพรรคก้าวไกลแบบถี่ ๆ ด้วยเนื้อหาที่บิดเบือน เช่นบอกว่า ถ้าเลือกพิธาเป็นนายกฯ จะยกเลิกบำนาญข้าราชการ ลูกหลานจะลำบาก เป็นการโกหกมดเท็จที่ไม่มีความจริงแม้แต่นิดเดียว ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า พรรคก้าวไกลไม่มีและไม่เคยมีนโยบายยกเลิกบำนาญข้าราชการ” นายณัฐชา กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top