Friday, 3 May 2024
อาร์เอส

RS หอบ 877.6 ล้านบาท ปิดดีลกลุ่มยูนิลีเวอร์ ซื้อหน่วยธุรกิจขายตรง คาดแล้วเสร็จพ.ค. 65

บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 64 มีมติอนุมัติให้บริษัท ย๊าค จำกัด (YAAK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รับโอนกิจการบางส่วนของบริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด (UTT) โดยรับโอนหน่วยธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Aviance แบรนด์ Beyonde และแบรนด์ I-Fresh ที่ดำเนินการภายใต้ชื่อทางการค้า “Unilever Life” หรือ “ULife” โดยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงและเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการกับ UTT มูลค่า 877.6 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าทำรายการแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 65

ทั้งนี้ กิจการ ULife เป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ UTT ที่ดำเนินกิจการขายตรงและตลาดแบบตรงสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอางภายโดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งออนไลน์ (เช่น Official Website Lazada และ Shopee) ออฟไลน์ (เช่น ร้านค้าประเภท Direct Shop และ Authorised Shop และผู้แทนจำหน่ายอิสระ (Business Partners))

RS เล็งเห็นว่าการเข้าซื้อกิจการ ULife สอดคล้องกับกลยุทธ์ “Lifestyle Wellbeing Solution” ซึ่งมีเป้าหมายคือการเป็นคำตอบในเรื่องสุขภาพให้กับผู้บริโภค เนื่องจากเป็นการเพิ่มศักยภาพและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของบริษัทฯ

ทั้งนี้ในปัจจุบัน ธุรกิจคอมเมิร์ซ มุ่งเสนอขายสินค้าที่เสริมสร้างการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์มและช่องทางการขายต่างๆ ทั้งนี้การเข้าซื้อกิจการ ULife ซึ่งมีจุดแข็งในการประกอบธุรกิจขายตรงชั้นนำ ด้วยจำนวนสมาชิกภายใต้เครือข่ายธุรกิจกว่า 150,000 ราย ร้านค้าหลายสาขารวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ และมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอางที่โดดเด่นภายใต้แบรนด์ Aviance แบรนด์ Beyonde และแบรนด์ I-Fresh ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค จะทำให้บริษัทฯ มีสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้แล้วยังช่วยทำให้เข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นด้วย

RS เตรียมปั้น 5 ธุรกิจเครือฯ เข้าตลาดหุ้น ดันมาร์เก็ตแคปแตะแสนล้านในปี 68

อาร์เอส (RS) ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ตั้งเป้าเป็น Life Enriching ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้า ผลักดันรายได้ปี 66 สู่เป้าหมาย 5,500 ล้านบาท เล็งปั้นบริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ดันมาร์เก็ตแคป แตะ 1 แสนล้านในอีก 3 ปี

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายมาร์เก็ตแคปเติบโตแตะ 1 แสนล้านบาทภายในปี 68 จาก ณ วันที่ 16 ม.ค.66 มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 16,337.95 ล้านบาท โดยจะเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่แบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. RS Multimedia ซึ่งประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
2. RS Music ประกอบด้วยค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล
3. RS LiveWell ประกอบด้วย RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
4. RS Connect ประกอบด้วย ULife และ De Beste
5. RS Pet All ธุรกิจใหม่ที่ประกอบธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง
6. R Alliance ดูแลด้านการลงทุน ตามกลยุทธ์ M&A และ JV

การปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่มีแผนนำธุรกิจทั้ง 5 กลุ่ม ไม่รวม R Alliance ที่เป็นธุรกิจด้านการลงทุน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ภายใน 3 ปี เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต อันดับแรกคือ บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) จะเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 1/66 เลื่อนจากแผนเดิมในไตรมาส 4/65 จากนั้นจะนำบริษัท อาร์เอส- ยูไลฟ์ จำกัด ธุรกิจขายตรงในกลุ่มธุรกิจ RS Connect เข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นรายต่อไป โดยแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ในลำดับถัดไปจะผลักดัน RS LiveWell และ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยจะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินภายในปีนี้

“ปีนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา จากการตั้งเป้าเป็น Life Enriching มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ พร้อมจัดโครงสร้างองค์กรใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในแนวตั้ง และจะขยายธุรกิจใหม่ ๆ ในแนวราบ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของอาร์เอส กรุ๊ป ให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเตรียมความพร้อมของอาร์เอส กรุ๊ป เพื่อ Spin-Off บริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำให้มาร์เก็ตแคปสูงขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า”นายสุรชัย กล่าว

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแตะ 5,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจ Commerce 3,100 ล้านบาท ประกอบด้วย RS LiveWell 1,800 ล้านบาท RS Connect 900 ล้านบาท และ RS Pet All 400 ล้านบาท ส่วน Media&Entertainment จะมีรายได้ที่ 2,400 ล้านบาท ประกอบด้วย Rs Multimedia 1,450 ล้านบาท RS Music 400 ล้านบาท และ Concert,Event&Othets 550 ล้านบาท

ขณะที่ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 48-50% และอัตรากำไรสุทธิที่ 11-13%

บริษัทยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโมเดล Entertainmerce พร้อมมุ่งสู่การเป็น Life Enriching โดยโฟกัสที่การเจาะตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยช่องทางการจำหน่าย และพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย

ธุรกิจคอมเมิร์ซ ปี 66 บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด แบรนด์ well u และ Vitanature+ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว แบรนด์ Lifemate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 22 SKUs ในหมวดอาหารกลุ่ม Specialty Food, สแน็คสำหรับสุนัขและแมว และผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง Modern Trade และตลาดต่างประเทศด้วย

สินค้าบางส่วนในเครือ อาร์เอส ลิฟเวลล์ ยังได้จับมือพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางไปสู่ Specialty Store และ Duty Free เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามก็จับมือกับพันธมิตรหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล คลินิก และบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมไปถึงการสร้างระบบ CRM ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

GRAMMY จับมือ RS ตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยธุรกิจคอนเสิร์ต รวมศิลปิน 2 ค่ายเพลงต่างขั้ว

เปิดภาพประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย 'GRAMMY x RS' จัดตั้ง JV เพื่อการจัดคอนเสิร์ต GRAMMY RS โดยเฉพาะ พร้อมสนับสนุนทุกด้านของการทำงาน พร้อมตั้งเป้า 3 คอนเสิร์ตใหญ่ รายได้อย่างต่ำ 220 ล้านบาท ขึ้นไป

(28 มี.ค. 66) ถือเป็นฤกษ์อันมงคล พร้อมสิ้นสุดการรอคอยก็ว่าได้ เมื่อ จีเอ็มเอ็มมิวสิคอาร์เอสมิวสิค สร้างปรากฏการณ์ระดับประเทศ ภายใต้ความร่วมมือในการจัดตั้งกิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) พร้อมร่วมจัด “ซีรีส์คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์(SERIES CONCERT)รวมศิลปินตั้งแต่ยุค 90 และยุค 2000 ของทั้ง 2 ค่ายมารวมตัวกันอย่างอัดเเน่น พร้อมแถลงข่าวปรากฏการณ์รวมตัวครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย

ศิลปินในงาน Grammy RS Concerts ไม่ว่าจะเป็น เจ เจตริน, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, คริสติน่า อากีล่าร์, แร็พเตอร์, ใหม่ เจริญปุระ, โดม ปกรณ์ ลัม, มอส ปฏิภาณ, ลิฟท์-ออย, ทาทา ยัง, เต๋า สมชาย, นิโคล เทริโอ, เจมส์ เรืองศักดิ์, มาช่า วัฒนพานิช, นุ๊ก สุทธิดา, นัท มีเรีย, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, ซาซ่า, โฟร์ ศกลรัตน์, กอล์ฟ พิชญะ, หวาย, 2002 ราตรี

ไชน่าดอลส์, แคทรียา อิงลิช, เนโกะจัมพ์, ญาญ่าญิ๋ง, เฟย์ ฟาง แก้ว, เป๊ก ผลิตโชค, แดน-บีม, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์, ชิน ชินวุฒ, บาซู, ไอซ์ ศรัณยู, ดัง พันกร, แบงค์ ปรีติ, ปาน ธนพร, หนุ่ม กะลา, แหม่ม พัชริดา, โบ สุนิตา, ฟลุ๊ค ไอน้ำ, อ๊อฟ ปองศักดิ์, ศรราม, จั๊ก ชวิน, นิว-จิ๋ว, โจ๊ก โซคูล, อู๋ ธรรพ์ณธร, แอม เสาวลักษณ์, หญิงลี, ไท ธนาวุฒิ, ปีเตอร์ คอร์ป, อี๊ด ฟลาย, ป๊อป ปองกูล, อนัน อันวา และศิลปินอีกมากมาย

การร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการผสานจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท ร่วมลงทุน ร่วมลงความเชี่ยวชาญ เพื่อส่งมอบความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้คนไทย ซึ่งเป็นโปรเจกต์ยักษ์ต่อเนื่องแบบ 3 ปี โดยจะมีการกำหนดหน้าหนังการแสดงเป็นปีต่อปี โดยปีนี้ จะมีการจัด 3 คอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในเดือนกรกฎาคม กันยายน และตุลาคมตามลำดับ

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จะใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อทำให้คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นที่น่าจดจำ และเป็นกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์อย่างไม่ลืมเลือน และขอขอบคุณทีมงานอาร์เอสมิวสิคทุกท่าน ที่ร่วมกันผลักดัน และสร้างปรากฎการณ์ระดับประเทศในครั้งนี้ให้เกิดขึ้น

ด้านนายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการ กิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส ซึ่งเป็นผู้ดูแลโปรเจกต์นี้ของทาง อาร์เอส กรุ๊ป กล่าวว่า อาร์เอส และ แกรมมี่ เป็นเพื่อนร่วมสร้างอุตสาหกรรมเพลงของไทยมาด้วยกัน

‘อาร์เอส’ ปิดดีลรับทรัพย์ 1.6 พันลบ. ดึง ‘ยูนิเวอร์แซล’ ร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลง

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) กล่าวว่า อาร์เอส มิวสิค ประกาศเดินหน้าและรุกธุรกิจเพลงอีกครั้งในจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน และจากการมีพาร์ทเนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศจะนำมาซึ่งกลยุทธ์เชิงรุกที่แตกต่างและไร้กรอบ เพื่อสร้างรายได้จากหลายช่องทาง

ล่าสุด อาร์เอส มิวสิค ได้พาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป (UMG) เข้ามาลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อบริหารลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอสทั้งหมด ซึ่ง UMG เป็นบริษัทดนตรีรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกและเป็นผู้นำในตลาดเพลง การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ดนตรีของอาร์เอสได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน Soft Power ของไทย

“บริษัทเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่ธุรกิจหรือโปรเจกต์ใหม่ในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมกันในอนาคต”

นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน RS กล่าวว่า ดีลในครั้งนี้บริษัทได้รับเงินลงทุนจาก UMG ราว 1.6 พันล้านบาทเพื่อร่วมกันตั้งกิจการร่วมค้า โดยทาง UMG จะมีสัดส่วนถือหุ้น 70% และ อาร์เอส มิวสิค จะถือหุ้น 30% ซึ่งจะมีสิทธิในการบริหารจัดการแค็ตตาล็อกเพลงกว่า 10,000 เพลง รวมถึงคอนเทนต์เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ มิวสิควิดีโอ เนื้อเพลงและบทประพันธ์ (compositions) รูปภาพและภาพถ่ายต่าง ๆ รวมถึงสิทธิภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ (rights under license agreements)

ความร่วมมือกับ UMG จะช่วยขยายรายได้จากช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ เมื่อรวมกับรายได้จากการจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ต การสร้างแคมเปญการตลาดกับลูกค้า และการบริหารศิลปิน คาดว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้ของ อาร์เอส มิวสิค เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท

นายสุรชัย กล่าวเสริมว่า นอกจากการผลิตคอนเทนต์ใหม่จากโปรเจกต์ RS Homecoming และ RS Newcomers รวมถึงความร่วมมือด้านลิขสิทธิ์เพลงกับ UMG แล้ว อาร์เอส มิวสิค ยังมองหาโอกาสใหม่ ๆ กับพาร์ทเนอร์คู่ค้า ทั้งที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้วและคู่ค้าอื่น ๆ เพื่อต่อยอดการทำ Music marketing ทั้งยังจะจับมือกับศิลปินอิสระหรือจากค่ายต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการทำเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังของไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเพลงให้ครบวงจร และสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง

“ทั้งหมดนี้ นับเป็นการขยายศักยภาพในการกลับมารุกธุรกิจเพลงของ อาร์เอส มิวสิค ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางในการนำธุรกิจเพลงภายใต้ อาร์เอส มิวสิค เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 67 โดยจะมีการประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินภายในเดือนก.ค.นี้ด้วย” นายสุรชัย กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top