Sunday, 19 May 2024
อัมพาต

ไขมันตัวร้าย ‘แพทย์’ แนะเลิกใช้น้ำมันหมู หันใช้น้ำมันพืชแทน ชี้!! เสี่ยง ‘เส้นเลือดหัวใจตีบ-อัมพาต-กล้ามเนื้อหัวใจตาย’

คนไข้รอดหวุดหวิด หลังคุณหมอบอกให้เปลี่ยนจากใช้น้ำมันหมู มาเป็นน้ำมันพืช ค่าไขมันบ่งชัด ต่างกันขนาดนี้เลย

คนไข้รอดหวุดหวิด หลังหมอบอกให้เปลี่ยนจากใช้น้ำมันหมู มาเป็นน้ำมันพืช  เดี๋ยวนี้ผู้คนมักป่วยกันง่ายขึ้น ไม่ใช่เพราะดูแลตัวเองไม่ดี แต่เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษที่หนักหนาขึ้น จึงทำให้หลายคนป่วยง่าย แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องอาหารการกิน เพราะจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีก็คืออาหาร 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด นพ.วรุตม์ พิสุทธินนทกุล หมอผ่าตัดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้เผยภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพการตรวจสุขภาพของคนไข้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไข้ที่เคยผ่าตัดบายพาสหัวใจ จากอดีตที่คนไข้มีไขมันเลวถึง 215 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงขนาดที่ว่าอาจเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบอีกรอบ ลงมาเหลือแค่ 103

ทั้งนี้ คนไข้คนดังกล่าว เคยเข้ารับการผ่าตัดมาหลายปี ผลเลือดดีมาตลอด แต่คนไข้ได้รับความรู้มาผิด ๆ จากการพยายามหาความรู้ด้านการรักษาสุขภาพ โดยบอกว่า ให้เปลี่ยนจากน้ำมันพืชมาใช้น้ำมันหมู จากที่คุมค่าเลือดได้ กลายเป็นค่าไขมันทะลุ 200 คุณหมอเลยบอกว่าต้องเปลี่ยนกลับมาใช้น้ำมันพืชตามเดิม และค่าไขมันก็ลดลงมา

"ขอเหอะ หยุดใช้น้ำมันหมู มันหมูปรุงอาหาร มันทำลายสุขภาพทั้งเส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดสมองตีบอัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้อหัวใจตายและอีกมากมาย สรุป น้ำมันหมูทำไขมันตัวร้ายพุ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือด ให้ใช้น้ำมันพืชตามปกติ"
 

'หนุ่มจีน' แชร์!! ทุ่มงานหนักทั้งชีวิต จนสมหวังได้เงินเดือนหลักแสน แต่สุดท้าย 'ป่วยอัมพาตครึ่งซีก-เกือบตาย' ใช้เวลา 6 ปีฟื้นสภาพ

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า ชายชาวจีนวัย 31 ปีเล่าถึงการต่อสู้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตถึงขีดต่ำสุด ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเป็นอัมพาตครึ่งซีก จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 2 แสนกว่าบาท ต้องสู้ชีวิต 6 ปีกว่า สุขภาพจึงจะกลับมาเหมือนเดิม แชร์เป็นอุทาหรณ์

ตามรายงานเผยว่า ชายชาวจีนรายนี้ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจากนิสัยเสียเดิม ๆ จนทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งเขาใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนานถึง 6 ปีถึงจะกลับมาเป็นปกติ โดยช่วงเช้าวันหนึ่ง ตื่นนอนมาพร้อมกับอาการที่ร่างกายซีกหนึ่งของเขาไม่สามารถขยับได้ แขนขาซ้ายควบคุมไม่ได้ และพูดไม่ชัด

ต่อมา พบว่าใบหน้าของเขาเป็นอัมพาตและไม่สามารถแสดงสีหน้าใด ๆ ที่ซีกซ้ายได้ พร้อมกับอาการอ่อนแรงแบบเฉียบพลันซึ่งทำให้เขาสลบไปในที่สุด และตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่โรงพยาบาลหลังต้องนอนเป็นผู้ป่วยโคม่าถึง 3 วัน

แพทย์ได้วินิจฉัยว่า เขามีอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบ และอัมพาตครึ่งซีก ดั่งโลกพังทลายชีวิตช่วงนั้นกำลังรุ่งสุด ๆ เพราะเขามีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยราว 2.5 แสนบาท ใช้ความเพียรพยายามนานกว่า 10 ปี

อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบไว้ว่า มาจากพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ คือ การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยเฉลี่ยเพียง 4-5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เพราะเขาทำงานหนักตั้งแต่เรียนจบเพื่อจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ชายรายนี้ยังกล่าวอีกว่า จากคนที่เคยมีรายได้เดือนละหลักแสน หลังจากเกิดเรื่องนี้ทำชีวิตพลิกชั่วข้ามคืน เนื่องจากเขาสูญเสียความสามารถในการทำงาน ทำให้เขาไม่มีรายได้ เขาต้องไปโรงพยาบาลทุกวัน เพื่อรับการบำบัดฟื้นฟู กายภาพบำบัด

ทั้งนี้ เขาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า เขายังโชคดีที่มีแม่ ภรรยา และครอบครัวที่คอยดูแล เขาต้องใช้เวลาในการฝึกหัดสิ่งต่าง ๆ ใหม่ทั้งหมดเหมือนเป็นเด็กทารก เช่น การเดิน และการพูด ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 6 ปี ร่างกายทุกส่วนของเขาเกือบจะเป็นปกติ สามารถกลับมาทำงานได้แล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top