Saturday, 11 May 2024
อภิสิทธิ์_เวชชาชีวะ

'อภิสิทธิ์' กล่าวเตือน 'อุ๊งอิ๊ง' ระวังเจอรัฐประหาร หากนิรโทษกรรม พา 'ทักษิณ' กลับเมืองไทย

วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูปสภาที่ 3 กรณีท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ขึ้นมาแล้วหวังว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ และนางสาวแพทองธารจะเอานายทักษิณกลับบ้าน ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าอาจจะมีการรัฐประหารเกิดใหม่อีกรอบว่า...

ต้องยอมรับว่าความกังวลตรงนี้มีแน่นอน เพราะเกิดความรู้สึกว่าในที่สุดพรรคเพื่อไทย ก็ยังก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร ทั้งนี้สมมติว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งอีก ลำพังตรงนั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าประชาชนเลือก เพียงแต่ว่าอย่าย้อนกลับไปสู่ พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นลักษณะของการเอื้อประโยชน์ ให้ครอบครัว ให้พวกพ้องหรือไปทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย

ซึ่งอาจจะรวมไปถึงแนวคิดเรื่องการนิรโทษกรรม ฉะนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล ถ้าตัวบุคคลนั้นผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งตนพูดเสมอว่าการได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งมา เป็นความยินยอมพร้อมใจของประชาชนให้เข้ามาผลักดันนโยบายหรือทำงานให้กับประเทศชาติ แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้เข้ามาทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักของกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ ยังตอบคำถามในประเด็นการรัฐประหาร ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วย และไม่เอาระบอบประยุทธ์ แต่ท้ายที่สุดคนใต้กลับไม่เอา และสนับสนุนให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปร่วมรัฐบาลว่า ตนก็พยายามนำเสนอว่า ถ้าความเห็นต่างตรงนี้ ยังถูกมองเป็นแค่เรื่องว่า เราเป็นศัตรูกันเราอยู่คนละข้างกัน สุดท้ายการเมืองก็จะเป็นแพ้แค่เรื่องเอาชนะอีกฝ่าย โดยวิธีการอะไรก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นการใช้เงิน ใช้อำนาจรัฐ

‘โอ๊ค’ โต้ ‘มาร์ค’ อยาก PR ตัวเองเพื่อกอบกู้พรรคก็ทำไป แต่อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์ “Oak Panthongtae @oak_ptt” กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยก้าวไม่พ้นจากครอบครัวชินวัตร ว่า...

อยากจะ PR ตัวเอง เพื่อกลับมากอบกู้พรรคจากเรื่องหื่นเรื่องฉาวของรองหัวหน้าฯ ก็ทำไป อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เลยครับ

ขุดปมลับล้างใจ ‘เฉลิมชัย-อภิสิทธิ์’ พร้อมจับตาลูกฮึดบ้านใหญ่กู้ซาก ปชป.

สัปดาห์ที่ผ่านมา ลาท่าน บก.ไปทำภารกิจส่วนตัวเสียหลายวัน ไม่ได้ขยับต้นฉบับเลย ขณะที่เหตุบ้านการเมืองก็เปลี่ยนไปเร็ว และบางกรณีก็คาดไม่ถึง เช่นกรณี ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ นอกจากขอถอนตัวจากการลงแข่งขันชิงหัวหน้าพรรคแล้ว ยังประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคกลางวงประชุม 9 ธ.ค.2566 อีกต่างหาก…เซอร์ไพรส์!!

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แวะจอดป้ายเรื่องประชาธิปัตย์ซะเลย...พูดไปก็ต้องบอกว่ามีดรามาเล็ก ๆ ตอนที่ ‘อภิสิทธิ์’ ท้า ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ คุยกันตัวต่อตัว...ที่ประชุมต้องพักกว่า 10 นาทีให้อดีต ‘คอหอยกับลูกกระเดือก’ เมื่อครั้งอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้า เฉลิมชัยเป็นเลขาพรรค ปี 2556 โน่น…

ไปคุยกันเสร็จแล้ว อภิสิทธิ์ก็มาประกาศถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อแข่งขันชิงหัวหน้าพรรค พร้อมลาออกจากสมาชิกพรรค โดยบอกว่าทั้งสองเรื่องมาจากเหตุผลเดียวกัน....ซึ่งถ้าใครที่ดูไลฟ์สดหรือดูเทปการประชุมก็จะได้ยินเต็มสองรูหูว่า..อภิสิทธิ์บอกว่า...

“ยืนยันกับทุกท่านที่นี่ ผมไม่มีพรรคอื่นไม่ไปพรรคอื่น กรีดเลือดมาก็เป็นสีฟ้าจนวันตาย เป็นลูกพระแม่ธรณีที่จะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้บ้านเมือต่อไป วันข้างหน้าถ้าในพรรคคิดว่าผมจะเป็นประโยชน์มาช่วยได้ ผมก็คงไม่ปฏิเสธ แต่วันนี้เพื่อให้ท่านมีสถานะและจะมีอำนาจในการบริหารต่อไป ทำงานด้วยความสบายใจ ทำงานตามแนวทางอย่างเต็มที่ไม่ต้องหวาดระแวงเรื่องผม เรื่องใครใด ๆ ทั้งสิ้นก็ขออนุญาตที่จะลาออก...”

ตรงนี้ชัดแจ้งว่า ‘อภิสิทธิ์’ ลาออกเพื่อให้ทีมของเฉลิมชัยทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวทีมอภิสิทธิ์จะไปเลื่อยขาเก้าอี้...

ทั้งนี้ ขอเท้าความกันอีกสักนิดว่า...เมื่อตอนที่อภิสิทธิ์ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพราะพ่ายศึกเลือกตั้งปี 2562 และไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมรัฐบาลกับ ‘ลุงตู่’ ต่อมา ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ ก็ขึ้นมานำพรรคจากการสนับสนุนของ ‘ชวน-บัญญัติ-อภิสิทธิ์’ โดยเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาพรรคสืบเนื่อง แต่การทำงานของ ‘จุรินทร์’ กับเฉลิมชัยนั้นไม่เข้าขากันเท่าที่ควร ไม่เป็นคอหอยกับลูกกระเดือก…

มีอยู่บางช่วงสมาชิกพรรคไม่พอใจ ‘จุรินทร์’ ก็คิดก่อการให้ ‘อภิสิทธิ์’ คัมแบ็ก...ด้วยการให้กรรมการบริหารพรรคลาออก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดกรณี ‘ปริญญ์ พานิชภักดิ์’ เรื่องการคุกคามทางเพศ...แต่อภิสิทธิ์ไม่เล่นเกมนี้ด้วย...จนกระทั่ง ปชป.แพ้เลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 แบบยับเยิน...‘จุรินทร์’ ลาออกจากหัวหน้า… ‘เฉลิมชัย’ เองก็ติดกับดักการประกาศเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต...จึงมีกระแสเรียกร้องให้อภิสิทธิ์กลับไปกอบกู้พรรคอีกครั้ง...แต่มุ้งใหญ่ในพรรคคือ สส.ที่หนุนเฉลิมชัย ไม่ตอบรับสูตรอภิสิทธิ์

มีคนกลางพยายามประสานให้เฉลิมชัยคุยกับอภิสิทธิ์เพื่อหาทางออก ประมาณว่าให้อภิสิทธิ์นั่งหัวหน้าพรรค กลุ่มเฉลิมชัยเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งในทีนี้เป็นที่รู้กันว่าคือ เดชอิศม์ ขาวทอง นั่นเอง...แต่การนัดหมายล้มเหลว...แหละนี่คือ ประเด็นที่อภิสิทธิ์ขอเคลียร์ใจกับเฉลิมชัย

สายข่าวแจ้งว่า...การเคลียร์ใจประเด็นการนัดหมายที่ล้มเหลวใช้เวลาเพียงแป๊บเดียว จากนั้นทั้งสองคุยกันถึงทิศทางพรรคสั้น ๆ เฉลิมชัยยืนยันที่จะทำให้พรรคมีศักดิ์ศรีแม้อาจต้องเข้าร่วมรัฐบาล นอกจากนั้นก็เล่าถึงการทุ่มให้พรรคสุดตัวอยู่คนเดียวตอนเลือกตั้ง 2566…

แม้ว่าดูอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์แล้วอาการน่าเป็นห่วง… ‘อดีต สส.-สมาชิก’ ลาออกตามอภิสิทธิ์กว่าสิบคนแล้ว...แบบว่าไม่ตายแต่ก็ไม่โต...แต่ ‘เสี่ยต่อ’ เฉลิมชัย ก็คงมีลูกฮึดลูกสู้ตามประสาคน ‘ใจถึงพึ่งได้’ สไตล์บ้านใหญ่หาหนทางให้พรรคเดินไปข้างหน้า…

ข่าวแจ้งว่า ‘เสี่ยต่อ’ พยายามจะกวักมือเรียกคนเก่า ๆ ที่ลาออกไปมากอบกู้พรรคกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น สกลธี ภัททิยกุล, อันวาร์ สาและ เป็นต้น...

และหากเป็นไปได้ ‘เฉลิมชัย’ กับคณะก็คงจะปั้นให้ ‘ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ เป็นจุดขายเป็นหัวหน้าในการเลือกตั้งสมัยหน้า...

‘เล็ก เลียบด่วน’ ไม่ได้ปรามาสใคร...แต่ต้องบอกว่า ถ้ามองไปข้างหน้า เลือกตั้งสมัยหน้า โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะได้น้อยกว่าเดิม 25 เสียง สูงมาก…

และวันนั้นแหละอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของ ‘อภิสิทธิ์’ ที่จะกลับมากอบกู้พระแม่ธรณี..!!

‘เทพไท’ ฟาด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตระบัดสัตย์-หักหลังปชช. ภาคภูมิใจกับดีลลับ ‘ทักษิณ’ ยก!! ‘ชวน-อภิสิทธิ์’ เป็นตัวอย่าง ให้ความสำคัญ ‘สัจจะวาจา’ มากกว่าอำนาจ

(4 พ.ค.67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า

จงภูมิใจกับการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วต่อไป

เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ‘อุ๊งอิ๊ง’ กล่าวในงานอีเวนต์  ‘10เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10’ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม บอกลูกพรรคอย่าสนวากรรมทำให้ เหมือนผิดคำสัญญาประชาชน นั้น ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าสู่อำนาจรัฐให้ได้ โดยมีการดีลลับกัน ระหว่างนายทักษิณกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม จนสมประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย หรือที่เรียกกันว่า ฮั้วอำนาจทางการเมืองกันลงตัว

เมื่อต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ก็เหมือนกับคุณอุ๊งอิ๊งบอกว่า ตัดสินใจถูกต้องแล้ว และไม่สนคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนว่า จะไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรค2ลุง ซึ่งเป็นการประกาศบนเวทีหาเสียง จากปากคุณอุ๊งอิ๊ง นายเศรษฐา ทวีสิน  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เป็นการตระบัดสัตย์และหักหลังประชาชน

ถ้ามั่นใจว่าประชาชนลืมง่าย และสามารถนำผลงานมาเรียกศรัทธาคืนจากประชาชนได้ ก็ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งในครั้งต่อไปก็แล้วกัน เพราะคำพูดของนักการเมือง มีความสำคัญเป็นสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ประชาชนก็จะเสื่อมศรัทธาและจะลงโทษเอง อยากให้ดูการรักษาสัจจะของนักการเมืองอย่างน้อย 2 คน คือ

1.นายชวน หลีกภัย ซึ่งเคยประกาศเป็นสัญญาประชาคมในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อันดับ1 ก็จะไม่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคความหวังใหม่ 2 เสียง จากเหตุไฟฟ้าดับตอนนับคะแนนที่จังหวัดปทุมธานี นายชวนก็เปิดโอกาสให้พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกรัฐมนตรีทันที

2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งได้ประกาศไว้ในการ หาเสียง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่า จะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติด้วยเสียงข้างมาก ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ก็แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ลาออกจากการเป็นส.ส.ในทันที ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงการขานชื่อ สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ โดยการรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่นายอภิสิทธิ์ ยึดหลักบาป 7 ประการ ของมหาตมะ คานธี คือ
1.เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการ
2.หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิด
3.ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงาน
4.มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี
5.ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลธรรม
6.วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์
7.บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละ

ขอให้พรรคเพื่อไทย จงภูมิใจกับการเป็นรัฐบาลต่อไปเถิด ถ้าคิดว่าผลงานช่วงเป็นรัฐบาล 4 ปีนี้สามารถเรียกคะแนนนิยมคืนได้ 10 เต็ม ตามที่ประกาศไว้ ถือเป็นความโชคดีไป ขอให้ยืนยันและภูมิใจในการตัดสินใจหักหลังประชาชน กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

จะตัดสินใจถูกหรือผิดในการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ม อย่าคิดเอง เออเอง รอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ในการเลือกตั้งครั้งหน้าดีกว่า


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top