Saturday, 27 April 2024
อนุทินชาญวีรกุล

'เสี่ยหนู' เฉลยแล้ว!! เหตุ 'ภท.' ร่วมรัฐบาลกับ พปชร.62 หวังให้คสช.หลุด!! เพื่อสร้างการเมืองในระบอบสภาให้ปกติ

'อนุทิน' แจงเหตุผล 'ภูมิใจไทย' ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ปี 2562 บอกนับเลขแล้ว ขั้วเพื่อไทย ไม่มีโอกาสตั้งรัฐบาล ยิ่งยื้อนานคสช. ก็ยิ่งอยู่ยาว 

(10 ก.ย.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคภูมิใจไทยยกมือสนับสนุนกฎหมายปิดสวิตช์ ส.ว.เลือกนายกฯว่า...

ขอย้อนกลับไปในปี 2562 เหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเมื่อปี 2562 ตนยึดหลักว่า ถ้าตั้งรัฐบาลต้องทำให้สำเร็จ ถ้าทำไม่สำเร็จ มันไม่มีประโยชน์ ส่วนที่มีคนมาบอกว่าตนเคยประกาศไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอเรียนว่าไม่เคยพูด สิ่งที่บอกคือพรรคภูมิใจไทยจะไม่ยอมร่วมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือหมายความว่าได้เสียง ส.ส.ข้างน้อย แต่ไปเอาเสียง ส.ว.มาเติมแล้วได้นายกฯ แบบนั้น เราไม่ไปร่วม การตั้งรัฐบาล ต้องได้เสียงในสภาเกินกว่า 375 เสียง แล้วให้ย้อนกลับไปวันนั้น เอาทุกพรรคไปรวม โดยไม่มีพรรคพลังประชารัฐ และบางพรรคที่มีเจตนามาแล้วว่าจะชูพล.อ.ประยุทธ์ คำตอบคือ มันไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ต่อให้รวมพรรคภูมิใจไทยก็ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ จากนั้นให้ไปดูกฎหมายที่เขียนไว้ชัด ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ คสช.อยู่ชั่วฟ้าดินสลาย เป็นรัฐบาลต่อยาวๆ จน รัฐบาลใหม่เข้ามา การที่ตนเซย์เยสวันนั้น เท่ากับวงจร คสช.จบ เท่ากับมีรัฐบาลในระบบรัฐสภา อย่างน้อย ทำให้มีสภามาตรวจสอบรัฐบาล ผู้มีอำนาจต้องกลับมาฟังเสียงพี่น้องประชาชนแล้ว พรรคภูมิใจไทยมองมุมนี้ 

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อีกฝ่ายมองมุมเดียว ก็บอกว่าพรรคไปสนับสนุนทหาร ไปสนับสนุน คสช. แต่ทุกอย่างที่ทำ คือปฏิบัติตามเกม แล้วทำให้คสช.หลุดไป กลายเป็นการเมืองในระบอบสภาปกติ ถ้าเราเห็นดีเห็นงามกับ คสช.มากมาย เหมือนที่หลายคนมาโจมตี ตนและพรรคคงไม่มายกมือโหวตปิดสวิตช์ ส.ว. ซึ่งเรื่องนี้ ทั้งพรรคเห็นตรงกัน นี่คือครั้งแรกที่เราเห็นตรงกันขนาดนี้ ปี 2562 เราใช้ กติกาเอา คสช. ออกไป รัฐธรรมนูญวางวิธีการไว้อย่างนั้น มันก็ต้องเล่นตามเกม และพรรคก็ส่งผู้สมัครสู้เต็มที่ วันนั้น เราไม่มานั่งวิจารณ์รัฐธรรมนูญด้วย เพราะเลือกร่วมการแข่งขันไปแล้ว การที่ลงเลือกตั้ง ต้องการเป็นตัวเลือกให้ประชาชน อยากให้ระบบรัฐสภาปกติกลับมาทำงาน แล้วพอมีนายกฯจากรัฐสภา ท่านนายกฯประยุทธ์ ท่านเปลี่ยนทันที เมื่อก่อนท่านทำงาน ไม่มีใครมาตรวจสอบ แต่คราวนี้ ตรวจสอบกันทุกปี สิ่งเหล่านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 57 – 62

‘อนุทิน’​ เตือนผู้ปกครองพาเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19 หวั่นระบาดอีกครั้ง หลังอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

‘อนุทิน’​ เตือนผู้ปกครอง พาเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19​ หวั่นอากาศเปลี่ยนแปลง โควิด-19 อาจหวนระบาดอีกครั้ง

(31 ต.ค. 65) เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข​ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19​ หลังจากที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและโควิด-19 อาจกลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่ง​ ว่า​ จะต้องเพิ่มการระมัดระวังมากขึ้น​ โดยการฉีดวัคซีน​สามารถป้องกันความรุนแรงของโรคได้​ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ และมีผลยืนยันแล้วว่าไม่มีอาการหนักถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจหรือเสียชีวิต​ จึงเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์​มากหากร่วมกันฉีดวัคซีน​ 

ทั้งนี้วัคซีนให้บริการครอบคลุม ตั้งแต่เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน​ -​ ​4 ขวบ​ เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาแดง ซึ่งเตรียมไว้พร้อมแล้วและกระจายไว้ทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนให้ผู้ปกครอง พาเด็กไปรับวัคซีน เราต้องฉีดถึง 3 เข็ม ควรรีบไปฉีด ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นกับทั้งครอบครัว ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวลว่าเด็กจะนำเชื้อจากโรงเรียนมาติดยังผู้ปกครอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่บ้าน

‘ตรีชฎา’ จี้!! ‘ประยุทธ์’ รับผิดชอบสังคม หลังมีข่าวเด็กประถม ‘พี้กัญชา’ ริมหาดพัทยา

(2 ธ.ค. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า รู้สึกตกใจที่เห็นข่าวในสื่อออนไลน์ปรากฏภาพเด็กชายวัย 9-10 ขวบ 2 คนนั่งเสพกัญชาจากบ้องไม้ไผ่ บริเวณสะพานปลาท่าเก่า พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ทำให้สังคมตั้งคำถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือกัญชาเสรีทางการแพทย์ที่มีประกาศก่อนหน้านี้หรือ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ปรากฎภาพวัยรุ่นหญิงมั่วสุมกันคล้ายเสพยาเสพติดบริเวณท่ารถที่จังหวัดแห่งหนึ่งอีก ทั้ง 2 กรณีนี้สะท้อนให้เห็นความฟอนเฟะของสังคมอันเนื่องมาจากนโยบายกัญชาเสรีได้เริ่มต้นขึ้นแล้วใช่หรือไม่ และมีทีท่าจะขยายวงออกไปหากยังไม่มีการป้องกันหรือแก้ไขอย่างทันท่วงที

‘อนุทิน’ ปักใจ!! ‘เด็กพี้กัญชา’ เป็นการจัดฉาก ชี้!! แค่ 9 ขวบ ไม่มีปัญญาซื้อมาสูบเองแน่นอน

‘อนุทิน’ ยัน ‘จัดฉากเด็ก 9 ขวบ พี้กัญชา’ เพราะไม่มีปัญญาซื้อบ้องมาสูบเอง ฟาด ส.ส. ปชป.ถ้าอยากจบปัญหาให้ผ่านกฏหมาย ไม่ใช่จ้องคว่ำ ย้อนใครเหลาะแหละไม่อยู่กับร่องกับรอย

วันที่ 3 ธ.ค. 65 เมื่อเวลา 10.45 น. มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีภาพเด็กอายุ 9 และ 10 ขวบ นั่งพี้กัญชาริมชายหาดพัทยา ว่า เรื่องเด็กเร่ร่อนก็ต้องให้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดูแล เพราะไม่ใช่แค่สูบกัญชาอย่างเดียวยังมีเด็กเร่ร่อนหลายคนดมกาวกินเหล้าและเสพยาเสพติด ซึ่งต้องดูประเภทของปัญหา ส่วนใหญ่เป็นเด็กเร่ร่อน ก็ต้องไปจัดการกับเด็กกลุ่มนี้

เมื่อถามว่า มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำหน้าที่หรือไม่ เพราะมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงรับผิดชอบดูแลงานนี้โดยตรงนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่เกี่ยวกัน ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.ระยอง คุณหมออะไรนั่น (นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์) เขาก็คงมีประเด็น เหมือนกับว่าไม่รู้จะทำอะไรก็เลยสร้างเรื่องขึ้นมามั้ง

“เด็ก 9 ขวบที่ไหนจะมีปัญญาไปซื้อบ้องกัญชา ซื้อใบยาสูบกัญชาแล้วก็มาแอ็กท่าให้คนถ่ายรูป ก็จัดฉากกันมาทั้งนั้นแหละ รู้กันอยู่ แต่ไม่เป็นไร เพราะกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกที่กำกับดูแลการควบคุมการใช้กัญชา ตนได้มอบให้นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้ไปกำกับดูแล ซึ่งการควบคุม และการใช้กฎหมาย เป็นหน้าที่ของเขาโดยตรง ตนเองก็จะกำชับไปที่รัฐมนตรีที่กำกับ แต่ก็ดีที่ ส.ส. คนที่เป็นหมอมาจากจังหวัดระยอง ก็อยู่จังหวัดเดียวกันกับนายสาธิตก็ให้ไปประสานงานกันเอง” นายอนุทิน กล่าว

‘อนุทิน’ ภูมิใจ!! โพสต์ภาพอดีต ‘หญิงโผกอด’ หลังเคยช่วย ‘ชุบชีวิต' ปลูกถ่ายอวัยวะหัวใจ-ไต

(7 เม.ย.66) จากเฟซบุ๊ก 'อนุทิน ชาญวีรกูล' ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เล่าถึงเรื่องราวน่าประทับใจพร้อมรูปถ่ายแนบว่า...
.
ชุบชีวิต 
.
"เป็นโรคไต แล้วมันกระเทือนหมด หัวใจก็มีปัญหา เกือบตาย โชคดีมากๆ วันหนึ่งมีโทรศัพท์เข้ามา ว่ามีทั้งไต และหัวใจมาเปลี่ยนให้" 

หญิงวัยกลางคน เล่าเรื่องราวชีวิตของเธอ ระหว่างรอชายคนหนึ่ง 

เมื่อเขาเดินมาถึง เธอโผเข้าหาชายคนนั้น และไปยืนอยู่ตรงหน้า แววตาเป็นประกาย 
ชายคนนั้นผงะด้วยความตกใจ

"ท่านช่วยชีวิตฉันไว้" 

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2562 หญิงคนนั้น คืออดีตผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ และไต จนชีวิตที่สิ้นหวัง ได้กลับมามีร้อยยิ้มอีกครั้ง

ส่วนชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคือ...
"อนุทิน ชาญวีรกูล" ซึ่งขับเครื่องบินไปรับอวัยวะมาช่วยเหลือผู้ป่วยอาการโคม่า โดยเขาไม่รู้เลยว่า หญิงที่อยู่ตรงหน้า คือ คนที่เขาช่วยไว้ 

เธอกล่าวกับเขา
"ขอบคุณมากค่ะท่าน" เสียงนั้นสั่นเครือ 
"ดีใจมาก อยากขอบคุณกับตัวมาตลอดเคยไปดักเจอมาแล้ว ได้เจอแล้ว แต่ไม่กล้า ครั้งนี้ คิดมาแล้ว ว่าต้องทำให้ได้ ขอบคุณท่านมากๆ" 

‘อนุทิน-ชาดา’ หารือ ‘สมาคมสมาชิกรัฐสภาไทยฯ’ ร่วมมือสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ-ประชาชน

เมื่อไม่นานมานี้ ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนันตชัย คุณานันทกุล นายกสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทยและคณะกรรมการ ได้เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนการบริหารราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การวางผังเมือง การพัฒนาชุมชน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือของอดีตสมาชิกรัฐสภาจังหวัดต่างๆ

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ปกป้องสถาบันหลักของชาติให้เป็นที่เคารพบูชาเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย มุ่งบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน พร้อมประสาน ความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการให้บริการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายชาดา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายดูแลเรื่องการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลทั้งประเทศ พร้อมประสานบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง "แม้จะยาก แต่ก็ทำอย่างเต็มที่" เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน

ซึ่งกระทรวงมหาดไทยพร้อมรับคำแนะนำและประสานความร่วมมือกับทางสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย ที่เป็นผู้มีประสบการณ์ ทั้งอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกวุฒิสภา เพื่อช่วยกันรับฟังปัญหาของประชาชนนำมาสู่การแก้ไข

ขณะเดียวกันสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย นำโดย นายอนันตชัย และคณะกรรมการสมาคม ประกอบด้วย นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายสามารถ รัตนประทีปพร น.ส.เสาวลักษณ์ สุริยาทิพย์ รศ.สุชาติ นวกวงษ์ นายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ นพ.ประสิทธิ์  พิทูรกิจจา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง นายนิเวศ พันธุ์เจริญวรกุล นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล จุรีลักษณ์ รัตนประทีปพร และนายปรพล อดิเรกสาร ได้ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่งของรัฐมนตรีด้วย

‘อนุทิน’ กวดขันเข้ม บุกจับผับผิด กม. รับนโยบายเปิดผับถึงตี 4  พบ ‘เปิดเกินเวลา-ใบประกอบการหมดอายุ-ยาเสพติด’ เพียบ!!

(10 ธ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง,นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ รองผบก.น.4 , พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคขัย, น.ส.สุวรรณา ว่องวาณิช ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวเฝ้าระวัง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าว, ตำรวจ สน.โชคชัย  สนธิกำลังการเข้าตรวจผับ ‘SONIC’ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังมีเบาะแสว่า ผับดังกล่าวเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ
จากการเข้าตรวจค้นพบเป็นร้านอาคารสูง 1 ชั้น ภายในเป็นห้องโถงที่มีการจัดวางโต๊ะ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักเที่ยวชายหญิง 220 คน กำลังเต้นรำ-ดื่มกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดการใช้เครื่องเสียง และประกาศขอตรวจบัตรประชาชนและยาเสพติด โดยกลุ่มนักเที่ยวบางรายพยายามหลบหนีออกด้านนอก แต่กำลังของเจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้ทุกด้าน เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตประกอบสถานบริการ

จากการตรวจบริเวณร้าน พบสารเสพติดบรรจุอยู่ในซองพลาสติก ประเภท ยาอี ยาเค ยาไอซ์ และ Happy water รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพถูกโยนทิ้งเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจบัตรประชาชนและตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทุกคน

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้ พบนักท่องเที่ยว 220 คน แบ่งเป็นชาย 100 คน หญิง 120 คน และยังพบอีกว่า สถานประกอบการดังกล่าว ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี พ.ศ 2563 แต่ยังคงลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านยังพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน Happy water เป็นต้น และยังพบอีกว่า ภายในร้านได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าไปเสพยาเสพติด โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องแยกอยู่ในห้องน้ำ ส่วนตัวเลขผู้ติดยาเสพติดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558 โดยหลังจากนี้ จะมอบอำนาจให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดการในเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลไปหาเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้ เป็นการตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ คำนึงไว้อยู่เสมอว่า จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top