Sunday, 19 May 2024
หนุ่มจีน

หนุ่มจีน เสียชีวิตจากภาวะก๊าซสะสม หลังยกซดโค้ก 1.5 ลิตร 10 นาทีหมดขวด

เชื่อกันว่าชายชาวจีนคนหนึ่งถึงตายจากภาวะก๊าซสะสม หลังยกซดเครื่อมดื่มโคคา-โคลา ขวดใหญ่ ภายในเวลา 10 นาที เหตุการณ์แปลกประหลาดที่รายละเอียดถูกเผยแพร่ในวารสาร คลินิกและวิจัยโรคระบบทางเดินอาหารและตับ

เหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นหลังจากคนไข้วัย 22 ปี ยกดื่มโค้กขนาด 1.5 ลิตรรวดเดียว เพื่อความสดชื่นท่ามกลางสภาพอากาศอันร้อนระอุ หนังสือพิมพ์เดลิเมล์รายงาน แต่ในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา เขามีอาการท้องบวมและปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องรุดไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉาหยางในกรุงปักกิ่ง

ผลการตรวจวินิจฉัยโรคพบว่าคนไข้ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีโรคประจำตัวใดๆ มีอัตราการเต้นของหัวใจสูงลิ่ว ความดันเลือดต่ำและหายใจถี่ ทั้งนี้แพทย์ยังได้ทำการ CT สแกน ซึ่งพบว่าเขามีความผิดปกติในผนังลำไส้และหลอดเลือดดำพอร์ทัลที่ป้อนเลือดไปยังตับ

รายงานข่าวระบุว่าความผิดปกติดังกล่าวทำให้ตับของเขาอยู่ในภาวะขาดเลือด (Hepatic ischemia) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ตับช็อก" ซึ่งเป็นสาเหตุจากการไม่มีออกซิเจนป้อนสู่อวัยวะดังกล่าว

ณ จุดนี้ เจ้าหน้าที่แพทย์พยายามปกป้องชีวิตของคนไข้รายนี้ด้วยการปล่อยก๊าซออกจากระบบย่อยอาหารของเขา นอกจากนี้แล้วยังทำการฉีดยาเพื่อช่วยปกป้องไตและอวัยวะอื่นๆ จากการได้รับความเสียหายเพิ่มเติม

‘สตม.’ รวบชาวจีนสวมรอยเป็นนักธุรกิจต่างประเทศ หลังหนีหมายจับคดีฉ้อโกง เสียหายกว่า 1,400 ลบ.

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ  สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.

คดีที่ 1 'รวบหนุ่มแดนมังกรสวมรอยเป็นนักธุรกิจต่างประเทศชักชวนหลอกลงทุนความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท' เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม, กก.1 บก.สส.สตม. และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR.Shangguan หรือ นายฉางกวน (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ในข้อหา 'เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต' 

พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามบุคคล ราย MR.Shangguan หรือ นายฉางกวน อายุ 44 ปี ซึ่งได้รับการขอร้องให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญจากสำนักงานกงสุล(ฝ่ายตำรวจ) ณ นครคุณหมิง โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว ได้ฉ้อโกงประชาชน มีมูลค่าความเสียหาย กว่า 1,400 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศและทำการชักชวนให้ประชาชนเข้าทำการลงทุน ซึ่งเป็นการหลอกลวง ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบบุคคลมีตำหนิรูปพรรณคล้าย MR.Shangguan จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ผู้ต้องหารับว่าตน คือ MR.Shangguan อายุ 44 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางจริง และรับว่าได้หลบหนีเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาที่ประเทศไทย  จึงได้ให้ดูหมายจับประเทศจีน รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันในหมายจับดังกล่าวจริง และจากการตรวจค้นตัว พบโทรศัพท์มือถือที่ติดตัวมาจากประเทศจีน,เอกสาร

เพื่อนบ้าน ผวา!! ร้องเรียนหนุ่มจีนเลี้ยง 'สิงโตขาว' แถมปล่อยเดินอิสระภายในบ้าน หวั่นเป็นอันตรายต่อผู้อื่น

(2 มี.ค. 66) เพื่อนบ้านผวาหนุ่มจีนเลี้ยงสิงโตขาวปล่อยเดินอิสระภายในบ้านหวั่นเป็นอันตรายต่อผู้อื่น แจ้ง ตร.หนองปรือ ประสานเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เข้าตรวจสอบ พบมีใบซื้อขายถูกต้องแต่ไม่มีใบอนุญาตเลี้ยง ชี้สิงโตขาว แม้เป็นสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก ที่มีความดุร้ายแต่สามารถเลี้ยงดูได้

เมื่อวานนี้ พ.ต.ท.ชุมพล แสนวิชัย รอง ผกก. (ป.) สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณธกร จันทร์ลอด สวป. และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 129/11 ภายในโครงการหมู่บ้านเซ็นทรัลปาร์คฮิลล์ ซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติแอบเลี้ยงสิงโต และปล่อยให้เดินเพ่นพ่านอยู่ภายในบ้านจนหวั่นว่าอาจจะเกิดอันตรายกับผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในโครงการ

กก.2 บก.สส.สตม. รวบหนุ่มจีนหนีหมายจับคดีข่มขืนกระทำชำเราในพื้นที่จังหวัดระยอง

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัญญรัต บัวทองจันทร์ รอง ผกก.2 บก.สส.สตม. , พ.ต.ต.ภูริศ คำหมื่น สว.กก.2 บก.สส.สตม. พร้อม เจ้าหน้าที่ ชป.3 กก.2 บก.สส.สตม. ,ตม.จว.ระยอง ,สน.ประเวศ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว MR.YAO KEQUAN (นายเย๋า เค่อฉวน) สัญชาติ จีน อายุ 47 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 2 มี.ค.66 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเรา โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ฯ”


พฤติกาณ์การจับกุม กล่าวคือ เมื่อเดือนธันวาคม 2565 นายเย๋าฯได้ชักชวนหญิงผู้เสียหายชาวจีนไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยระหว่างนั้นได้มีการดื่มแอลกอฮอล์จนกระทั่งผู้เสียหายเมามายไม่ได้สติ นายเย๋าฯ จึงฉวยโอกาสพาผู้เสียหายไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 59 และได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในขณะที่ยังเมาไม่ได้สติจนสำเร็จความใคร่ เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัว จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศและศาลอาญาพระโขนงได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา

 

รวบหนุ่มใหญ่ชาวจีนมอมเหล้าสาวเพื่อนร่วมชาติ ก่อนลากไปขืนใจคาโรงแรมกลางเมืองกรุง

บก.สส.สตม. ได้จับกุมตัว นายหยาง (นามสมมติ) สัญชาติ จีน อายุ 47 ปี สืบเนื่องมาจาก กก.2     บก.สส.สตม. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายหยางฯ สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 2 มี.ค.2566 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเรา โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” โดยพฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อเดือน ธ.ค.2565 นายหยางฯ ได้ชักชวนหญิงผู้เสียหายชาวจีนไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยระหว่างนั้นได้มีการดื่มแอลกอฮอล์จนกระทั่งผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ นายหยางฯ จึงฉวยโอกาสพาผู้เสียหายไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 59 และได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในขณะที่ยังเมาไม่ได้สติจนสำเร็จความใคร่ เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัว จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายหยางฯ ตามหมายจับข้างต้น

‘หนุ่มจีน’ ถูกพ่อหลอก ‘บ้านจน-ติดหนี้’ ลำบากกว่า 20 ปี สุดท้ายเฉลยว่าบ้านรวยระดับเศรษฐี แถมมีบริษัทใหญ่โต!!

เมื่อไม่นานนี้ นายจาง จื่อหลง ลูกชายของ นายจาง อวี้ย์ตง เจ้าของบริษัทผลิตขนมชื่อดังของจีน เปิเผยว่า เขาถูกพ่อแท้ๆ หลอกมากว่า 20 ปี!!

โดยนายจาง จื่อหลง เข้าใจมาตลอดว่า ครอบครัวของตนมีฐานะยากจน เนื่องจากพ่อของเขาพร่ำบอกเสมอว่ามีหนี้สิน หนำซ้ำบ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นเพียงบ้านหลังเล็กๆ ในอำเภอผิงเจียง เมืองเย่ว์หยาง มณฑลหูหนาน

ดังนั้น ขณะที่เรียนมหาวิทยาลัย นายจาง จื่อหลง จึงมีความฝันว่า หลังจากเรียนจบเขาจะหางานที่ได้รับเงินเดือนมากกว่า 6,000 หยวน (ประมาณ 30,000 บาท) เพื่อหาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อ

ทว่าอะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นดังหวัง เนื่องจากนายจาง จื่อหลงไม่สามารถหางานได้ตามที่ต้องการ นานวันเข้าพ่อของเขาก็เริ่มทนไม่ไหว เรียกให้เขากลับมาช่วยงานที่บ้าน

“พ่อผมบอกว่าหางานไม่ได้ก็กลับมา ผมบอกพ่อว่า กลับไปแล้วจะไปทำอะไร บริษัทของพ่อขาดทุนทุกปี สู้ผมไปหางานที่มั่นคงทำจะดีกว่า” จางจื่อหลง กล่าว

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ต้องกลับบ้านตามคำขอ และเมื่อได้เห็นบริษัทของพ่อซึ่งใหญ่กว่าที่คิด ทั้งยังได้รู้ว่า ตึกบริษัทพ่อก็ไม่ได้เช่า หากแต่เป็นเจ้าของด้วย เขาก็เข้าใจทันทีว่า ตนเองถูกพ่อหลอกมาตลอด 20 ปี!!

หลังจากความจริงถูกเปิดเผย พ่อของเขาก็ไม่คิดปกปิดฐานะที่แท้จริงอีกต่อไป ทั้งครอบครัวจึงย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์หรูหรา ซึ่งแค่ค่าตกแต่งเพียงอย่างเดียวก็ปาเข้าไปกว่า 10 ล้านหยวน (ประมาณ 50 ล้านบาท) แล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน นายจาง จื่อหลง ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการขายของในโต่วอิน หรือติ๊กต็อกเวอร์ชันจีนให้บริษัท โดยความฝันอันสูงสุดของเขาในตอนนี้ คือการพาบริษัทของพ่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างคอมเมนต์ เช่น
- “เรื่องแบบนี้ช่วยเกิดขึ้นกับฉันบ้างจะได้ไหม?”
- “ฉันจะไปถามพ่อตอนนี้เลยว่าพ่อปกปิดไม่ให้ฉันรู้ว่าบ้านเรารวยหรือเปล่า?”
- “ความปรารถนาอันสูงสุดของฉันคือ การที่จู่ๆ วันหนึ่งพ่อกับแม่ก็เดินมาบอกว่า ความจริงแล้วครอบครัวของเราไม่ได้ยากจน เรามีบ้านหลายหลังและมีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน”

'หนุ่มจีน' แชร์!! ทุ่มงานหนักทั้งชีวิต จนสมหวังได้เงินเดือนหลักแสน แต่สุดท้าย 'ป่วยอัมพาตครึ่งซีก-เกือบตาย' ใช้เวลา 6 ปีฟื้นสภาพ

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า ชายชาวจีนวัย 31 ปีเล่าถึงการต่อสู้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตถึงขีดต่ำสุด ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเป็นอัมพาตครึ่งซีก จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 2 แสนกว่าบาท ต้องสู้ชีวิต 6 ปีกว่า สุขภาพจึงจะกลับมาเหมือนเดิม แชร์เป็นอุทาหรณ์

ตามรายงานเผยว่า ชายชาวจีนรายนี้ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจากนิสัยเสียเดิม ๆ จนทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งเขาใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนานถึง 6 ปีถึงจะกลับมาเป็นปกติ โดยช่วงเช้าวันหนึ่ง ตื่นนอนมาพร้อมกับอาการที่ร่างกายซีกหนึ่งของเขาไม่สามารถขยับได้ แขนขาซ้ายควบคุมไม่ได้ และพูดไม่ชัด

ต่อมา พบว่าใบหน้าของเขาเป็นอัมพาตและไม่สามารถแสดงสีหน้าใด ๆ ที่ซีกซ้ายได้ พร้อมกับอาการอ่อนแรงแบบเฉียบพลันซึ่งทำให้เขาสลบไปในที่สุด และตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่โรงพยาบาลหลังต้องนอนเป็นผู้ป่วยโคม่าถึง 3 วัน

แพทย์ได้วินิจฉัยว่า เขามีอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบ และอัมพาตครึ่งซีก ดั่งโลกพังทลายชีวิตช่วงนั้นกำลังรุ่งสุด ๆ เพราะเขามีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยราว 2.5 แสนบาท ใช้ความเพียรพยายามนานกว่า 10 ปี

อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบไว้ว่า มาจากพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ คือ การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยเฉลี่ยเพียง 4-5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เพราะเขาทำงานหนักตั้งแต่เรียนจบเพื่อจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ชายรายนี้ยังกล่าวอีกว่า จากคนที่เคยมีรายได้เดือนละหลักแสน หลังจากเกิดเรื่องนี้ทำชีวิตพลิกชั่วข้ามคืน เนื่องจากเขาสูญเสียความสามารถในการทำงาน ทำให้เขาไม่มีรายได้ เขาต้องไปโรงพยาบาลทุกวัน เพื่อรับการบำบัดฟื้นฟู กายภาพบำบัด

ทั้งนี้ เขาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า เขายังโชคดีที่มีแม่ ภรรยา และครอบครัวที่คอยดูแล เขาต้องใช้เวลาในการฝึกหัดสิ่งต่าง ๆ ใหม่ทั้งหมดเหมือนเป็นเด็กทารก เช่น การเดิน และการพูด ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 6 ปี ร่างกายทุกส่วนของเขาเกือบจะเป็นปกติ สามารถกลับมาทำงานได้แล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top