Thursday, 16 May 2024
หนีภาษี

ครม.ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.ปราบปรามฟอกเงิน ค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก-หนีภาษี-เก็บดอกเบี้ยโหด 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.อนุมัติร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยปรับปรุงมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้สอดคล้องมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ตามข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (The Financial Action Task Force – FATF) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เกิดความเป็นธรรมและการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ไทยสามารถเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้าน AML/CFTX ทันตามรอบการประเมิน ซึ่งจะผลักดันให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก FATF ภายในปี 2566 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม ความผิดมูลฐานให้ครอบคลุมความผิดในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก การหลีกเลี่ยงหรือลักลอบหนีศุลกากร การปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การสมยอมในการเสนอราคา การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และเพิ่มบทนิยาม “ผู้ประกอบอาชีพ” ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับผู้ประกอบธุรกิจในไทย

และปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับแจ้ง การรวบรวม และจัดส่งข้อมูลของพนักงานศุลกากรให้สำนักงาน ปปง. ครอบคลุมตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดน (จากเดิมกำหนดเฉพาะเงินตราหรือเงินตราต่างประเทศ) รวมทั้งกำหนดให้พนักงานศุลกากรมีอำนาจยึดเงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดนดังกล่าวได้ นอกจากนั้น
กำหนดหน้าที่สมาคม มูลนิธิ และองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน การสนับสนุน ทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ เช่น การจัดทำงบการเงินประจำปี ที่ระบุแหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ และหากมีเหตุอันควรสงสัย สำนักงานปปง.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สั่งระงับการทำธุรกรรมเป็นการชั่วคราวได้

 

ทหารเรือบุกจับเรือบรรทุกน้ำมันหนีภาษี เกือบ 3 แสนลิตร ใกล้เกาะสีชัง ศรีราชา

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 66 เวลา 20.30 น. กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบและจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันกลางทะเล 2 ลำ พบน้ำมันดีเซลไม่ผ่านการเสียภาษี จำนวน 290,000 ลิตร 

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 18 มิ.ย.66 ที่ ท่าเรือกลางอ่าว กองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้เดินทางมาแถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 

โดยได้เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติด้านการข่าวของ ทรภ.1/ศรชล.ภาค 1 นำไปสู่การมอบหมายภารกิจให้ เรือ ต.115 เข้าดำเนินการตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันต้องสงสัย ที่มีลักษณะพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ชื่อ เรือ MMM 8 มีไต๋เรือ พร้อมลูกเรือ รวม 6 นาย พบน้ำมันดีเซล จำนวน 230,000 ลิตร และเรือ NPK แสนสุข 33 มีไต๋เรือ พร้อมลูกเรือ รวม 7 นาย น้ำมันดีเซล จำนวน 60,000 ลิตร รวม 290,000 ลิตร ที่บริเวณ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

ก่อนที่ เรือ ต.115 จะได้ดำเนินการควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลหลบเลี่ยงภาษีดังกล่าว มายังท่าเรือกลางอ่าว กองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ทั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ/รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่ให้ดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเลอย่างจริงจัง

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

มุกดาหาร -'บุหรี่เถื่อนข้ามชาติ' ตำรวจน้ำมุกดาหารร่วมสรรพสามิต จับเครือข่ายค้าบุหรี่-เบียร์ลาวหนีภาษีข้ามโขงจากสปป.ลาว

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่สถานีตำรวจน้ำ 3 (มุกดาหาร) กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.ท.พงษ์พิพัฒน์ บูรณะบัญญัติ สว.ส.รน.3 ร่วมกับนายสันทัด รังคพุทธมานะ สรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเขตพื้นที่มุกดาหาร ทำการจับกุม บุหรี่และเบียร์ลักลอบนำเข้าจาก สปป ลาว โดยไม่เสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 9 กล่อง 4,500 ซอง และเบียร์ 48 กระป๋อง 

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 7:30 น ของวันนี้ได้มีสายข่าวรายงานว่าจะมีการลักลอบขนบุหรี่และเบียร์จาก สปป.ลาว เข้ามาในพื้นที่ อ.เมืองมุกดาหาร จ. มุกดาหาร เพื่อนำส่งต่อให้ร้านค้าในพื้นที่ต่างๆ จึงได้บูรณาการระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร นำกำลังไปเฝ้าตรวจพื้นที่บริเวณถนนสายมุกดาหาร-ธาตุพนม หน้าวัดศรีทองบุ่น ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร กระทั่งพบรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บจ 8107 มุกดาหาร ต้องสงสัยจึงได้ทำการเรียกให้หยุดแล้วขอตรวจสอบพบว่าที่กระบะท้ายมีกล่องบุหรี่ที่ผลิตใน สปป.ลาว จำนวน 9 กล่อง เมื่อเปิดดูภายในกล่องลพบุรีจำนวน 4,500 ซอง และพบกล่องเบียร์ที่ผลิตใน สปป.ลาว อีก 2 กล่อง จำนวน 48 กระป๋อง สอบถามนายสมบัติ (นามสมมุติ) คนขับรถให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถขนส่งบุหรี่และเบียร์ต่างประเทศที่ลักลอบหนีภาษีสรรพสามิตจริง และยินยอมให้เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งสำนักงานสรรพสามิตอำเภอเมืองมุกดาหารดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สตม.รวบแม่ค้าออนไลน์ชาวเมียนมาแอบไลฟ์สดขายของหนีภาษีของกลาง 200 รายการ

ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุม นางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร

ตม.จว.สมุทรสาคร ได้สืบสวนทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มีพฤติการณ์ลักลอบขายสินค้าหนีภาษีทางช่องทางออนไลน์ จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึก เบื้องต้นพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร โดยได้มีการไลฟ์สดและโพสต์ขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตัวสินค้า  

มีความผิดทางกฎหมาย จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง เป็นกลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันหรือสเปรย์ฉีดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งไม่มีฉลากภาษาไทย และเครื่องหมาย อย. ร่วม 200 รายการ และจากการตรวจสอบเอกสารของนางมิ พบใบอนุญาตทำงานระบุประเภท กรรมกร แต่มาลักลอบขายสินค้าออนไลน์ และไม่ได้ทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาตไว้ตามกฎหมาย จึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top