Saturday, 27 April 2024
หนิงปณิตา

‘หนิง ปณิตา’ ลั่น!! ถึงเวลารักษาความรู้สึกตัวเอง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ วอนสามี ‘จิน’ ขอแค่สิ่งเดียว ออกมาเคลียร์ปัญหาครอบครัว

(28 เม.ย.66) เป็นประเด็นที่หลายคนกำลังได้รับความสนใจ หลังดาราสาวและผู้จัดละครสาวสุดสตรอง หนิง ปณิตา ออกมาเปิดใจถึงปัญหาชีวิตคู่กับสามี จิน จรินทร์ ที่ตอนนี้ยังตกลงเรื่องหย่ากันไม่ได้ และก่อนหน้านี้ ธัญญ่า ธัญญาเรศ ได้โพสต์คลิป หนิง จิน อยู่กันพร้อมหน้า ล่าสุด หนิง ได้เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 พร้อมอัปเดตสภาพจิตใจตอนนี้

สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
หนิง : ตามลำดับค่ะ รู้สึกโล่ง ก็ตามที่หนิงโพสต์ขอบคุณทุกคนไป ตอนแรกก็กังวลคิดอยู่นาน ทุกอย่างหนิงสัมภาษณ์ไว้ชัดเจนแล้ว

อยากจะบอกคนคอมเมนต์ให้กำลังใจยังไงบ้าง?
หนิง : กราบขอบคุณจริงๆ วันนี้ความเข้าใจ กำลังใจมันก็เป็นพลังอย่างหนึ่งของหนิง หนิงเขียนทุกอย่างเอาไว้ในโพสต์ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าวันนี้หนิงได้รับความเข้าใจ ได้รับพลังงานดีๆ จากทุกคน เรารู้สึกว่าอยากส่งต่อพลังงานดีๆ แบบนี้ไปให้กับหลายๆ คน เพราะหนิงเชื่อว่าหลายๆ คน หลายๆ ครอบครัวก็มีปัญหาเหมือนเรา เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสที่จะพูด หรือออกมาคุย ก็เป็นการแลกเปลี่ยนกันในคอมเมนต์นั้นๆ 

ถือว่าได้แจงรายละเอียดไปหมดแล้ว?
หนิง : หนิงว่าสัมภาษณ์ค่อนข้างเคลียร์ชัดเจนแล้ว ตามนั้นเลย

คลิปล่าสุดที่ลงเป็นประเด็นมากเลย จำได้ว่าวันนั้นเพิ่งถ่ายรายการ คุยแซ่บshow เสร็จ?
หนิง : ใช่ แล้วหนิงก็ไปส่งพี่ญ่าที่บ้าน เรากลับบ้านด้วยกัน
ธัญญ่า : ใช่ วันนั้นดิฉันไปทำสวยมา สระผมไม่ได้ แล้วหนิงบอกว่าหนิงมีอุปกรณ์ เดี๋ยวหนิงจะจัดให้พี่ แล้วพอไปถึงบ้านปุ๊บ นางก็ขึ้นไปบนบ้าน ขนที่สระผมลงมาให้ แบกลงมาเลย แล้วไปเจอคุณจินอยู่หน้าบ้าน พี่ก็เลยบอกว่าหนิง ขอพี่ทำคอนเทนต์หน่อยนะ ถ่ายเขา เห็นเขาแบกตรงนี้น่ารักมาก พอดีจินยืนอยู่ก็เลยถ่ายจินด้วย เราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นขนาดนี้

แต่สุดท้ายพอมันออกมาแบบนี้ หนิงรู้สึกยังไงบ้าง?
หนิง : เฉยๆ เหมือนวันนั้นมันบังเอิญเจอหน้าบ้าน เอาจริงๆ แทบไม่เจอหน้ากันเลย แล้วหนิงแบกของลงมา แล้วเหมือนหนิงเปิดประตูรถ แล้วมีรูปที่ได้จากรายการ คุยแซ่บshow เป็นรูปหนิงกับณิริน แล้วหนิงต้องเอาที่สระผมยัดลงไปท้ายรถแทน แล้วเหมือนพี่ญ่าเรียกให้เขามาถือ

ธัญญ่า : คือจินเขาไปเอารูปจากท้ายรถ เสร็จพี่ก็แซวเขา คุณผู้ชายคะไม่ช่วยคุณผู้หญิงแบกหน่อยเหรออะไรประมาณนี้
หนิง : มันเอาเข้ารถไปไม่ได้ ต้องเอารูปจากในรถออกมาก่อน เหมือนมันบังเอิญเจอกันหน้าบ้านมากกว่า เขากำลังจะออกไปข้างนอก

จากวันนั้นจนวันที่เจอ คือไม่ได้เจอกันเลย?
หนิง : ก็ไม่ได้เห็นหน้ากันเท่าไหร่

บางคนที่เห็นคลิปนี้มีความเอ๊ะ ทำไมยังเจอกันอยู่?
หนิง : จริงๆ ในสัมภาษณ์ก็ตอบไปชัดเจนแล้ว สถานะยังไม่ได้หย่ากัน ยังอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่แค่รอว่าจะมาจัดการให้เมื่อไหร่ตามที่ตกลงกันไว้ แค่นั้น ซึ่งก็ไม่มาจัดการให้สักทีหนูก็ไม่รู้จะทำยังไง

เชื่อไหม ณ วันนั้นที่พี่เห็นหนิงกับจินอยู่ใกล้กัน ไม่มีคำพูดอะไร แต่ในความรู้สึกเราที่เคยเห็นความเป็นครอบครัวที่น่ารัก ใจหายมากเลยนะ ทำเป็นแซว แต่ในใจเรารู้สึกแบบจริงเหรอ ถ้าวันหนึ่งเขาคิดได้ เขามาขอโทษ หนิงโอเคไหม?
หนิง : เราอย่าเพิ่งไปคิดมองอนาคตข้างหน้าเป็นยังไง หนิงสัมภาษณ์เคลียร์ทุกอย่างหมดแล้วในวันนั้น มันก็ยังเป็นคำตอบอย่างนั้นชัดเจน ตอนนี้รอการมาเคลียร์ รอมาหลายเดือนแล้ว แค่มาเคลียร์เท่านั้นเอง หนิงจะได้ไม่ต้องมานั่ง แต่หนิงเข้าใจ เราเป็นพิธีกรรายการนี้มันก็ประหลาด ถ้าเราไม่มีการอัปเดตผ่านรายการ แต่หนิงไม่อยากพูดแล้ว วันนี้สิ่งเดียวจริงๆ มาเคลียร์ให้หนิงเถอะ หนิงไม่รู้จะพูดยังไง มาเคลียร์เถอะ

‘เมญ่า’ ควง ‘สามี’ เปิดใจถึงเส้นทางความรักครั้งใหม่ หลุดแซว ‘หนิง ปณิตา’ ผู้ที่ดีคือผู้ใหม่!!

(29 เม.ย.66) ทำแฟนๆ รายการฮาหนัก รวมไปถึง “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ภายหลังจากรายการคุยแซ่บโชว์ ได้สัมภาษณ์ “เมญ่า นนธวรรณทัศ บรามาซ” มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 ที่ควงสามีป้ายแดงชาวฮังการี “ชาบิ” และลูกชาย “น้องเบลิน” มาเปิดใจครั้งแรกหลังเข้าพิธีวิวาห์รอบ 2 โดยช่วงนึงในการสัมภาษณ์ หนิงซึ่งเป็นพิธีกร ได้บอกเมญ่าว่าดีใจที่เห็นน้องมีความสุขกับชีวิตในการแต่งงานรอบใหม่

‘หนิง ปณิตา’ แจงคู่กรณีไม่มาตามนัด ยัน!! เรียกค่าเสียหายตามเดิม ปมหย่าอดีตสามีต้องขอเวลาคุยก่อน เพราะห่วงความรู้สึกลูกสาว

(4 ก.ค.66) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ‘หนิง ปณิตา’ ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องละเมิดเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นข่าวกับสามี ‘จิน จรินทร์’ เดินทางมาที่ศาลซึ่งนัดไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย โดย ‘หนิง’ ได้มาพร้อมกับทนายความส่วนตัวและน้องสาว ‘แนน ชุมพิชา’ แต่ทางคู่กรณีไม่ได้มาด้วยตัวเอง ส่งทนายความส่วนตัวมา แต่ขออนุญาตทางศาลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ซึ่งศาลไม่อนุญาต โดย ‘หนิง’ ได้เปิดเผยว่า

ยังคงยืนยันคำเดิมเดินหน้าเรียกค่าเสียหาย ส่วนเงื่อนไขไม่ขอลงรายละเอียดแต่มั่นใจในหลักฐานที่มี ซึ่งศาลนัดสืบพยานวันที่ 4 ต.ค. 66 ถ้าไม่มาตามนัดศาล มีสิทธิ์แพ้คดี และหากคู่กรณีขอโทษด้วยความจริงใจที่ไม่มีอะไรแอบแฝงก็อาจจะคุยกันได้

ส่วนดรามาธัญญ่าเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่นั้น ‘ธัญญ่า’ เป็นแค่คนส่งสารที่อีกฝ่ายฝากมาบอก และที่มีข่าวว่า ‘จิน จรินทร์’ เป็นคนหาทนายให้คู่กรณีนั้นขอไม่พูดถึง แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดที่สุด

สำหรับรูปครอบครัวที่น้องณิรินโพสต์ลงอิสตาแกรมส่วนตัว คือการทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ดีที่สุด หลังจากนี้จะทำอะไรจะตัดสินใจช้าๆ เพื่อให้กระทบความรู้สึกของลูกน้อยที่สุด ส่วนเรื่องหย่าอดีตสามีขอเวลาคุยกับลูกก่อนเพราะห่วงความรู้สึกของลูก

‘หนิง ปณิตา’ ไฟลุกกลางดึก!! เปิดโฉมหน้ามือที่สาม หลังเพจข่าวลงภาพหลานสาว หวั่นคนเข้าใจผิด

(5 ก.ค. 66) กำลังเป็นประเด็นดังเกี่ยวกับการหย่าร้างของ ‘หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ’ กับ ‘จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ’ เหตุเพราะมีมือที่ 3 จนต้องฟ้องร้องเรียกเงินฐานทำลายชีวิตครอบครัว ล่าสุดเพจข่าวหนึ่งได้ลงภาพ ‘จิน’ คู่กับหลานสาว จึงทำให้ ‘หนิง’ ต้องออกมาชี้แจงพร้อมชี้เป้าตัวจริงแบบหน้าชัดๆ โดยระบุว่า

“ตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเพื่อนส่งข่าวด้านล่างนี้มา ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ชี้แจงนะคะ รูปบนทางขวามือคือ ‘หลานสาว’ ที่สนิทที่สุดของหนิงค่ะ มีการนำรูปหลานสาวหนิงมาลง (จริงๆมีรูปอีกเยอะเลยที่สามารถนำมาลงได้นะคะ) หนิงเกรงว่าจะทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดกันค่ะว่ารูปนี้คือคู่กรณีของหนิง หลานหนิงกำลังเป็นวัยรุ่นและอยู่ในวัยเรียนที่ต้องยอมรับว่าสังคมเราทุกวันนีักำลังเสพ Social อย่างหนักมาก หลานและครอบครัวหลานซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหนิงไม่ควรจะต้องมาเกี่ยวและโดนกระทบในเรื่องนี้เลยค่ะ ขอโทษหลานสาวและครอบครัวด้วยค่ะที่ต้องเข้ามาพัวพันและอาจทำให้โดนเข้าใจผิด และเพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ที่ถูกต้องคือ ‘รูปล่างค่ะ’ ”

พร้อมกับข้อความเพิ่มเติมว่า “สมัยนี้สังคมบูลลี่ที่ รร คือเยอะมาก ไม่เป็นผลดีกับน้องและครอบครัวเลยที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และมานั่งตอบคำถาม รูปมีอีกเยอะเลยที่จะเลือกมาทำข่าว ครั้งนี้ใครจะว่าใจร้ายก็ขอน้อมรับค่ะ”

เรียกได้ว่าเดือดไม่พักไม่แผ่วหลังจากเพิ่งเดินทางไปขึ้นศาลกันเลยทีเดียว

‘หนิง ปณิตา’ ยอมรับ!! ทุกวันนี้ยังอยู่บ้านหลังเดียวกับสามี ‘จิน’ โชคดีลูกสาวเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เตรียมขึ้นศาลอีกครั้ง 4 ต.ค.นี้

(16 ส.ค.66) ‘หนิง ปณิตา’ นักแสดงและผู้จัดละครดัง ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของคดีฟ้องร้องมือที่สามที่เข้ามาพัวพันจนสร้างปัญหาในครอบครัว ว่า จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม แต่ว่าโดยรายละเอียดยังไม่ได้ไปตามอะไรมากมาย และยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาจากทางใด ๆ ทั้งสิ้น ถามว่ายังเดินหน้าฟ้องไหม คือเราทำทุกอย่างตามที่ตั้งใจเอาไว้เหมือนเดิม

เรื่องกระทบจิตใจคือเราไม่ได้เป็นจุดที่เอามาทำให้รู้สึกว่ามันจะแย่ลง พอเวลามันเดินผ่านไปข้างหน้า มันก็จะเดินไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ความโชคดีของหนิงคือ ณิริน เขาเป็นเด็กที่พยายามจะเข้าใจและปรับตัว ปรับปรุง ให้กำลังใจ วันนี้เรามองลูกเป็นหลักใหญ่ที่สุด พอมันมีตรงนี้มันก็เป็นกำลังใจ ที่ทำให้เรื่องอื่นเราพยายามมองข้ามไปหงุดหงิดก็มองข้ามไป

ถามว่าท้อไหมเหนื่อยไหม เหนื่อย รู้สึกเซ็ง รู้สึกเบื่อ แต่มันก็ไม่เอาเก็บมาเป็นอารมณ์ พอเวลาเราเห็นรอยยิ้มของลูกเรา เราเห็นความพยายามเข้าใจในหลาย ๆ เรื่องของลูกเราที่จะพยายามปรับตัวกับเรา มันทำให้เป็นเรื่องเบา และมันก็ทำให้เรามีแรงฮึดมีพลังที่จะทำเรื่องดี ๆ ออกมาทำงาน มาเจอผู้คน ใช้ชีวิตให้มันเป็นปกติ มีรอยยิ้ม กลับมาหาเงินทำงาน

หนิง ยอมรับว่า ครั้งแรกที่อธิบายเรื่องนี้ให้ลูกฟังนั้นยากมาก ไม่ได้ยากแค่ครั้งแรก มันอยู่ที่ว่าเราจะต้องประเมินให้ได้ว่าตอนนี้การพูดของเรากับวัยของเด็กมันควรจะพูดแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้หนิงเรียนรู้ก็คือ ต้องไม่คาดหวังกับสิ่งที่เราพูดไป และคิดว่าเขาจะเข้าใจ จะให้เขาเข้าใจทุกอย่างแบบที่เราเข้าใจมันไม่ง่าย

ดังนั้น เราเป็นแม่ เราก็ต้องมีความอดทนและใจเย็น ซึ่งณิรินเขาพยายามที่จะเข้าใจ และไม่ทำอะไรให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่ทำให้เราอึ้งและทำให้เราเย็นลงได้ทุกเรื่องคือเวลาที่เขารู้ว่าเราจะมีภาวะอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกเหนื่อย เราท้อ เขาจะเดินเข้ามากอด มองหน้าแล้วบอกว่า แม่สู้ ๆ นะ หนูอยู่ตรงนี้ หนูส่งพลัง หนูกอด ๆ หนูเป็นกำลังใจให้แม่ ด้วยความสดใสของเขา

ถามว่า เคยร้องไห้ให้ลูกเห็นไหม ยังไม่เคยถึงขั้นน้ำตาไหลพราก ระยะหลังเราสองคนก็จะมีการคุยกับคุณหมอด้วยกัน มันจะมีมุมที่เขาแสดงออกมาให้เราเห็น เรามีมุมที่บางทีเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้แต่ประเมินแล้วว่ามุมนี้ให้ลูกรับรู้ได้ ก็ให้ลูกเห็นในมุมของความอ่อนแอของเราบ้าง

หนิง เผยว่าได้มีการไปพบจิตแพทย์ โดยไปทั้งตัวเอง ลูกสาว และคนครอบครัวทั้งหมด จริง ๆ ก่อนหน้านี้จะมีการไปคุยกับหมอเป็นระยะตั้งแต่น้องเกิดมา เพราะว่าเราอยากที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจเด็ก แต่ว่าช่วงหลังมานี้ มันจะไม่ใช่แค่หนิงและน้องอย่างเดียว มันมีคุณอา คุณยาย และคนที่อยู่รอบ ๆ ข้างหนิงที่เป็นคนสนิทของหนิงที่มีผลกับความรู้สึกของณิริน เราก็จะไปกันเป็นกลุ่ม แล้วเราก็จะมีการบ้านว่าต้องทำแบบนี้ช่วยกัน

มองว่ามันเป็นการฮีลใจกันทั้งครอบครัว หนิง ยังเผยอีกว่า ทุกวันนี้ลูกสาวยังได้เจอกับคุณพ่ออยู่เรื่อย ๆ เพราะเรายังอยู่บ้านหลังเดียวกัน ลูกกับพ่อยังมีปฏิสัมพันธ์ปกติ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top