Saturday, 18 May 2024
สุวัจน์_ลิปตพัลลภ

‘สุวัจน์’ เปิดตัว ‘กรณ์’ ร่วมทีมศก.พรรคชาติพัฒนา อาสา ‘กู้-แก้’ วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ

(2 ก.ย. 65) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงเปิดตัวนายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนาเพื่ออาสาทำหน้าที่กอบกู้และแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ หลังจากพิษโควิด-19 ระบาดหนักได้กระทบต่อภาคเศรษฐกิจของไทยหลายด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่ส่งผลให้ผู้คนตกงาน ขาดรายได้ เข้าสู่การกู้หนี้ยืมสิน เป็นหนี้กันถ้วนหน้า ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่ได้รับผลพวงจากสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้ราคาพลังงาน และสินค้าอื่นสูงขึ้นตามไปด้วยนั้น ก็เป็นการตอกย้ำประชาชนอีกระลอก

“พรรคชาติพัฒนา มีความตั้งใจและหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ และหวังได้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ จึงเห็นควรที่จะเชิญชวน นายกรณ์ มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรค ด้วยดีกรีทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่งมั่นใจว่าจะเข้าถึงการแก้ปัญหาของประชาชนได้” สุวัจน์ กล่าวเสริม

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องทำงานด้วยความยืดหยุ่นเพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ สร้างความมั่นคงเศรษฐกิจ เกิดความหวังแก่คนรุ่นใหม่ นำมาสู่ความอยู่ดีกินดีของประชาชน โดยการติดสินใจในวันนี้ เป็นการตัดสินใจที่ได้พูดคุยกับคนในพรรคกล้าแล้ว และทุกคนก็ต่างเห็นดีเห็นงาม ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถบอกได้ ว่าสมาชิกในพรรคกล้าจะตามมาอยู่ร่วมกับพรรคชาติพัฒนาหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันว่าการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการการรวมพรรคระหว่างพรรคกล้า กับพรรคชาติพัฒนา ขณะที่นายกรณ์ ได้ยืนยันด้วยว่า ‘พรรคกล้า’ ยังไม่ยุบ

'สุวัจน์ - กรณ์' เปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ-ป้ายพรรคฯ' ส่งสัญญาณลุยเลือกตั้ง ดันทีมศก. ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

'สุวัจน์ - กรณ์' ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ' พร้อมเปิดป้ายพรรคชาติพัฒนากล้า ย้ำ!! ความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช พร้อมเดินหน้าเลือกตั้งเดินเครื่องทีมเศรษฐกิจ ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

(12 ต.ค. 65) พรรคชาติพัฒนากล้า จัดงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมพิธีเปิดป้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ที่ จ.นครราชสีมา โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค เป็นประธานในพิธี และคณะกรรมการบริหาร อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค, ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรค ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวโคราชเข้าร่วมในพิธี เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของ พล.อ.ชาติชาย อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนแรก

นายสุวัจน์ กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่มาร่วมงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งย้ายมาจากสำนักงานพรรคชาติพัฒนาเดิม จ.กรุงเทพมหานคร มาไว้สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า จ.นครราชสีมา พร้อมกล่าวรำลึกถึง พล.อ.ชาติชาย ทั้งในฐานะนักการทูต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นโยบายต่างประเทศ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด จนทำให้ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 10 ต่อ GDP ได้รับขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชียในยุคนั้น เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำถึงความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช ผ่านโครงการ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, สวนสัตว์นครราชสีมา

‘สุวัจน์’ อิ่มบุญ ร่วมทอดกฐินวัดทุ่งสว่าง จ.นครราชสีมา ชี้!! โคราชครบ 555 ปี หวังดันเป็น Soft Power ดึง นทท.

(18 พ.ย. 66) ที่วัดทุ่งสว่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายฆราวาสและผู้แทนเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ประจำปี พ.ศ. 2565 ถวายองค์กฐินและเครื่องไทยธรรมแด่ พระครูอุดมวรรโณภาส ประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ในฐานะเจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 3 เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง

โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศบาลฯ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พลตรีณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมผู้บริหารและสมาชิกสภา พนักงาน ข้าราชการในสังกัด ทน.นครราชสีมา และชาวโคราช 98 ชุมชน ร่วมกิจกรรมงานบุญกันอย่างชื่นมื่น โดยได้รวมยอดเงินทั้งสิ้น 1,007,224 บาท

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมทำบุญในพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่ทางเทศบาลและพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันจัดขึ้นคนแน่นมาก เรียกว่าแย่งกันทำบุญ สมกับคำว่า คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีนัก แต่ในเรื่องบุญเรื่องกุศล เรื่องช่วยเหลือ เรื่องการพัฒนาบ้านเมือง คนโคราชมีน้ำใจตลอด

“ปีนี้เมืองโคราชครบรอบ 555 ปี ถือว่าเก่าแก่มาก แสดงว่าเรามีโบราณสถาน มีหลาย ๆ สิ่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องช่วยกันรักษาเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลัง อย่างวัดทุ่งสว่างที่มาทอดกฐิน ถือเป็นวัดเก่าแก่เป็นส่วนหนึ่งของการได้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และรักษาของเก่าของเมืองโคราช” นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเทศบาลท่านนายกฯ ประเสริฐกำลังทำโครงการอนุรักษ์รักษาเมืองโคราชโบราณสถานต่าง ๆ โดยเฉพาะคูเมืองที่ยาวทั้งหมด 5,400 เมตร ระยะทาง 5.4 กิโลเมตร ทำการทำนุบำรุงรักษา สร้างสวนสาธารณะ สร้างคูคลองกันใหม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลอง 555 ปี เมืองโคราช

“วันนี้ต้องทำสองเรื่อง คือ ทำเรื่องใหม่ สองทำเรื่องเก่า เรื่องเก่าต้องรักษาประเพณี การต่อยอด เรียกว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ การรักษาสิ่งเก่า ๆ ของบ้านเมืองเอาไว้ แต่ขณะเดียวกันของใหม่ ๆ ก็ต้องมา อย่างเช่น รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำงาน คุณหมอวรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พูดในสภาฯ ทุกอาทิตย์ ทวงสิ่งของต่าง ๆ โครงการต่าง ๆ ให้เมืองโคราช คุณเทวัญ ลิปตพัลลภ เข้าไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณวัชรพล โตมรศักดิ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก็เอาโครงการเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยต่าง ๆ มาให้กับพี่น้องประชาชน

“เราต้องร่วมกันทำงานพัฒนาเมืองโคราช ดึงนักท่องเที่ยวมาโคราช รัฐบาลให้ความสำคัญกับซอฟต์พาวเวอร์ กีฬา ประเพณี วัฒนธรรม โอท็อปต่าง ๆ เรียกว่าของเก่า เพื่อที่จะดึงนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นการทำงานที่เป็นทีมเวิร์ก เป็นการทำงานที่ดี” นายสุวัจน์ ระบุ

'สุวัจน์' เคลียร์ปม 'กรณ์' ทิ้งชาติพัฒนากล้า ชี้!! เป็นความตั้งใจเดิม ไม่เกี่ยวอ้าแขนรับ 'สส.แจ้'

(30 พ.ย. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ที่โดนขับออกจากพรรคก้าวไกลจากกรณีปัญหาคุกคามทางเพศ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า เมื่อ 27 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ทางพรรคฯ โดยนายทะเบียนพรรคฯ ก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ และได้รับเข้าเป็นสมาชิกพรรคฯ ก็ได้แจ้ง กกต. และได้แจ้งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รับทราบ

ส่วนเหตุที่รับเข้ามาก็มีการติดต่อและสมัครมาที่พรรคฯ และเราก็ดูในเรื่องคุณสมบัติโดยนายทะเบียนพรรคฯ ก็ได้ตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติถูกต้องและคิดว่ารัฐธรรมนูญก็ได้กำหนดเอาไว้ให้หาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน ฉะนั้นตนก็คิดว่าก็เป็นโอกาสของนายวุฒิพงศ์ฯ ในการที่จะมาทำงานที่พรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อพิสูจน์ผลงานให้กับพี่น้องประชาชนได้เห็นและทำงานตามแนวทาง นโยบายต่าง ๆ ของพรรคชาติพัฒนา

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และกลัวประเด็นดรามาของแฟนคลับพรรคชาติพัฒนากล้าก็มีจำนวนมากนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ได้พูดคุยและได้รับทราบว่านายวุฒิพงศ์เองก็ได้ชี้แจงต่อสาธารณะไปแล้ว และสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้นนั้นก็เกิดมาก่อนที่จะมาอยู่กับพรรคชาติพัฒนา และในส่วนนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันกับพรรคชาติพัฒนาแต่อย่างใด ฉะนั้นก็คิดว่าเป็นโอกาสที่นายวุฒิพงศ์จะได้พิสูจน์ตนเองในการทำงานให้พี่น้องประชาชนเห็น และก็ทำงานตามแนวนโยบายต่าง ๆ ของพรรคชาติพัฒนาต่อไป

ส่วนจะมีมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น หรืออาจจะมีตามมาอีกด้วยนั้น ตนเองไม่ทราบ ตอนนี้ไม่มีมาเพิ่ม ตอนนี้มีแค่นี้ ส่วนจะมีหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่เหตุการณ์วันข้างหน้า ซึ่งตอนนี้ก็มีที่ต้องหาสังกัดพรรคอยู่ 2 คนเห็นว่าได้ครบหมดแล้ว จากนี้ไปก็ไม่มีกรณีไหนแล้ว ซึ่งทำให้ตอนนี้พรรคชาติพัฒนามี สส.รวมเป็น 3 คน ส่วนจะมีเรื่องตำแหน่งจะมีหรือไม่หรือต่อรองอะไรนั้น ไม่มีอะไร ไม่ได้ไปคุยอะไรกับใครทั้งสิ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องอะไรทั้งสิ้นก็เพียงแต่ว่า เมื่อมาสมัครที่พรรคแล้วตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อบังคับพรรคที่เกี่ยวข้องก็ถือว่าเมื่อนายทะเบียนยืนยันว่าการตรวจสอบคุณสมบัติทุกอย่างถูกต้องก็เท่านั้น ไม่ได้ไปมีมุมอื่น ไม่มีอะไรทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงนายกรณ์ จาติกวนิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคฯ ไปแล้วนั้น จะมีการเคลียร์ใจกันบ้างหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า จริง ๆ นายกรณ์พอเลือกตั้งเสร็จ ตอนเลือกตั้งนายกรณ์เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พอเลือกตั้งเสร็จเราได้กัน 2 เสียงและหลังเลือกตั้งนายกรณ์ก็มาแจ้งกับตนว่า จะขอลาออกจากหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค โดยตอนนั้นจะออกทั้ง 2 ตำแหน่งเลย ตนเลยได้บอกกับท่านว่า เพิ่งเลือกตั้งเสร็จ อยากให้ท่านอยู่ต่อไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน เหมือนกับเป็นขวัญเป็นกำลังใจ เราก็ทำงานร่วมกันมา ตนก็ขอท่านไว้ ถ้าจะออกก็ออกจากหัวหน้าพรรคตำแหน่งเดียวก่อน สมาชิกพรรคเอาไว้อีกสักระยะหนึ่งแล้วกัน แล้วท่านอยากจะออกอะไรไม่มีปัญหา ซึ่งท่านก็ได้อยู่เป็นสมาชิกพรรคอีกต่อมา 2-3 เดือน

“เมื่อวานผมก็ได้พูดคุยกันแล้วก็รับทราบ ก็เป็นไปตามเรื่องเดิม เพราะเรื่องเดิมก็แสดงวัตถุประสงค์แล้ว และไม่ได้เกี่ยวกับการรับสมาชิกมาเพิ่ม เพราะได้คุยกันไว้แล้ว ตอนนั้นท่านบอกว่าเมื่อผลการเลือกตั้งเสร็จและผลการเลือกตั้งได้มา 2 เสียงท่านก็คิดว่าอยากที่จะยุติบทบาทการทำงานหน้าที่ทางการเมืองไว้ชั่วขณะหนึ่งก่อนและท่านขอคิดอะไรอีกสักหน่อยหนึ่งทำนองนั้น ก็ได้พูดคุยกันแล้วและก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องอื่น ๆ” นายสุวัจน์

'สุวัจน์' ลุ้น!! โคราชเจ้าภาพจัดงาน 'พืชสวนโลก 2029' เชื่อ!! ดัน 'ศก.-การท่องเที่ยว' โคราชและภาคอีสานพุ่ง

(1 ธ.ค.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี จ.นครราชสีมา เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกในปี 2572 ว่า...

"เป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานในระดับโลกอีกครั้ง หลังจากที่เราเคยเป็นเจ้าภาพจัดมาแล้วที่เชียงใหม่ เมื่อปี 2549 ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา มีความพร้อมทั้งทางด้านวิชาการ และพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และยังเป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีอายุ 555 ปี มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามมากมาย ขณะเดียวกันในปี 2572 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ก็จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

"ถ้าโคราชได้รับเลือก ก็จะเป็นโอกาสที่ประชาสัมพันธ์ภาพใหญ่ของประเทศว่าเรามีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยี เป็นเมืองทันสมัย ที่มีความพร้อมที่จะจัดงานระดับโลกได้ และจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และ จ.นครราชสีมา จะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจของโคราช และภาคอีสานโดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว" นายสุวัจน์ กล่าว 

ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึง กรณี แอนโทเนีย โพซิ้ว รองนางงามจักรวาล จะเดินทางกลับ จ.นครราชสีมา บ้านเกิด วันที่ 11 ธันวาคม ว่า แอนโทเนีย เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและคนโคราช ที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย ในฐานะที่ได้ครองตำแหน่งระดับโลก ได้โปรโมตทั้งความสวย และความเก่งของสุภาพสตรีไทย ซึ่งกว่าจะได้มาเธอต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็งมาก การได้ตำแหน่งของเธอในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมาก เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว จึงถือว่าแอนโทเนียมาถูกสถานการณ์มาก นอกจากนี้เธอยังมีบทบาทในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามของชาวโคราช ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกด้วย

‘สุวัจน์’ มองฉายารัฐบาล ‘แกงส้มผลักรวม’ น่ารัก-ไม่ซีเรียส ชี้!! ได้ฉายาต้องดีใจ เพราะคือ ‘Someone’ ไม่ใช่ ‘No One’

(27 ธ.ค. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงฉายารัฐบาล ‘แกงส้มผลักรวม’ ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ประจำปี 2566 ว่า ถ้าคุณได้รับฉายาควรต้องดีใจ เพราะถ้าไม่ได้รับจะเป็น No One แต่ถ้าได้รับฉายาคือเป็น Someone คือมีตัวตน ซึ่งเป็นบรรยากาศของการหยิกแกมหยอก สะท้อนมุมมองทางการเมืองไม่ใช่เรื่องซีเรียส อย่างฉายา ที่รัฐบาลได้รับปีนี้มองว่า อยู่ในบรรยากาศฮันนีมูนพีเรียด เบา ๆ น่ารัก ๆ แต่ว่าสะท้อน มุมทางการเมือง ไม่มีอะไรที่ซีเรียส 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในอดีตตอนที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา ได้รับฉายาว่า ‘สุวัจน์หอกข้างแคร่’ ซึ่งตอนนั้นมี 50 กว่าเสียงเป็นตัวแปลในรัฐบาล ขยับอะไรก็จะสร้างความหวั่นไหว และอีกครั้งได้รับฉายา ‘สุวัจน์ 25 ชั่วโมง’ ขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากทำงานทั้งวันประชุมแล้วแถลงข่าวเลย จึงอาจแถลงข่าวมากไป นักข่าวบอกว่า "เดี๋ยวก็แถลงเดี๋ยวก็แถลง" 

‘สุวัจน์’ มอง!! สภาผ่านงบฯ 67 สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาล เชื่อ!! สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน คาด!! ดัน GDP โต 3%

ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงินกว่า 3.48 ล้านล้านบาทแล้วนั้น

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นบรรยากาศที่ดี เพราะจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะขณะนี้เราต้องการเม็ดเงิน ในการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจเราเติบโตไม่เป็นไปตามเป้า จีดีพีเพียง 2% กว่าเท่านั้น

ดังนั้นในจำนวนเงินงบประมาณที่ได้สภาให้ความเห็นชอบนั้น รัฐบาลต้องเร่งรัดในการดำเนินการใช้จ่ายเพื่อให้เงินถึงมือประชาชน เพราะอีก 3-4 เดือนข้างหน้า ก็จะมีงบประมาณปี 2568 เข้ามาแล้ว 

สำหรับข้อห่วงใยและข้อคิดเห็นจากสภาฯ นั้น นายสุวัจน์ เชื่อว่า รัฐบาลและกรรมาธิการวิสามัญ จะรับฟัง และนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การใช้จ่ายเม็ดเงินต่าง ๆ ของงบประมาณ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคฯ ก็ได้รับการแต่งตั้งไปเป็นกรรมาธิการด้วย ท่านก็จะใช้ประสบการณ์ช่วยกันปรับปรุงรายละเอียดตามข้อเสนอแนะของ ฝ่ายค้านและรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตาม นายสุวัจน์ เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเข้มแข็งกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเมืองมีเสถียรภาพ จาก 300 กว่าเสียง ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ได้ดี และเศรษฐกิจก็น่าที่จะกระเตื้องขึ้น ประกอบกับมาตรการ ๆ ของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งมาตรการฟรีวีซ่า อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ลดภาษีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย ก็เป็นตัวเร่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังเชื่อว่าปีนี้ นักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาใกล้เคียงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดคือ 40 ล้านคน อย่างน้อยปีนี้จะต้องได้ 35 ล้านคน ถ้าเร่งเครื่องกันเต็มที่ ช่วยกันโปรโมต จัดกิจกรรมแบบอินเตอร์โดยนำซอฟต์พาวเวอร์มาใช้ นอกจากนี้การส่งออกปีที่แล้ว ยังไม่ขยายตัว ทำให้ฐานต่ำ เชื่อว่าปีนี้การส่งออกจะดีขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับการลงทุน ปีที่ผ่านมารัฐบาลไปเชิญชวน นักลงทุนไว้มากหากทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีนักลงทุนมาลงทุนจริง ๆ ก็จะมีเม็ดเงินมาสร้างงานเพิ่มมากขึ้น 

“เมื่อประกอบกับการเมืองที่มีเสถียรภาพ ก็จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับระบบเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง คือเรื่องความเชื่อมั่นต่าง ๆ เชื่อขยายตัวได้ จีดีพีอย่างน้อยต้อง 3% กว่า ซึ่งก็ต้องรอดูเรื่องดิจิทัลวอลเลต อีกนิดขณะนี้อยู่ระหว่างการรอกฤษฎีกามาให้ความเห็นอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงในการดำเนินการ” นายสุวัจน์ กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า หากมีการตั้ง นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐา ทวีสิน นายสุวัจน์ กล่าวว่า ด้วยคุณสมบัติของคุณอุ๊งอิ๊ง ซึ่งเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย ดังนั้นด้วยคุณสมบัติ และประสบการณ์ต่าง ๆ ก็สามารถเป็นนายกฯ ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องภายในของพรรคเพื่อไทย ที่จะดำเนินการ ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยเองก็เป็นแกนนำด้วย ดังนั้นชาติพัฒนากล้าก็สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดการบริหารประเทศที่ต่อเนื่อง ยิ่งรัฐบาลมีเสถียรภาพที่มั่นคง ก็ยิ่งทำให้เกิดการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวมองว่ารัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปี หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน เหมือนขับรถออกจากบ้าน เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าจะเกิดยางแตกเมื่อไหร่ หรือจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเรา แต่โดยพื้นฐานของรัฐบาลที่มี 300 กว่าเสียง ก็ถือว่ามีเสถียรภาพที่มั่นคง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่บริหารประเทศครบ 4 ปีก็มีสูง แต่ทั้งนี้ก็ไม่แน่ อาจจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองได้ แต่หากอยู่ครบ ก็จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศ รัฐบาลจะอยู่ครบหรือไม่ครบวาระ 4 ปี ก็เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

‘สุวัจน์’ โชว์หวดลูกสักหลาดในงาน ‘ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024’ ดีใจ!! ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งเทนนิสรายการใหญ่ที่สุดในอาเซียน

(1 ก.พ.67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ถือว่าเป็นการแข่งขันเทนนิสรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน และติดท็อป 10 ของทวีปเอเชีย 

"รายการนี้เป็นความภาคภูมิใจที่ประเทศไทยได้รับเกียรตินี้ แสดงถึงมาตรฐานในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ สะท้อนถึงมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาของประเทศ อย่างสนามอารีน่า หัวหิน แห่งนี้ก็มีมาตรฐานเทียบกับสนามเทนนิสที่ใช้ในการจัดการแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลม อย่าง ออสเตรเลียน โอเพ่น สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ" นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวต่ออีกว่า การแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น ยังถือเป็นก้าวแรกของนักเทนนิสระดับโลก ที่จะก้าวขึ้นสู่เทนนิสระดับอาชีพอย่างเต็มตัว เนื่องจากการจะขึ้นสู่ระดับอาชีพก็จะมีการแข่งขันตั้งแต่รายการระดับดับเบิลยูทีเอ 250, 500 และ 1,000 ไปจนถึงระดับแกรนด์สแลม 

ดังนั้นนักกีฬาเทนนิสทั่วโลกก่อนจะขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลก ก็ต้องมาเริ่มตั้งแต่ดับเบิลยูทีเอ 250 เช่นเดียวกับรายการนี้ที่เมืองหัวหิน ก็มีนักเทนนิสที่เป็นมือ1 ของโลกหลายคนมาเติบโตจากการแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ นอกจากนี้การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ จะเป็นโอกาสให้นักเทนนิสไทยก้าวเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ เนื่องจากเราเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนักเทนนิสไทยก็จะได้ไวลด์การ์ด หรือสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบเมนดรอว์ ได้เก็บประสบการณ์จากการเจอนักกีฬามือท็อป ๆ ของโลก

 

‘สุวัจน์’ ปลื้ม!! ‘ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024’ แมตช์ชิงแชมป์ คนดูแน่น ฟาก ‘WTA’ ชื่นชม ‘ไทย’ จัดการแข่งขันได้มาตรฐานสากล

เมื่อวานนี้ (4 ก.พ. 67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมร่วมมอบรางวัลให้นักกีฬา ในการแข่งขันเทนนิสหญิงระดับ ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ ‘ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ’ ชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 267,082 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 10 ล้านบาท ที่อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายสุวัจน์ กล่าวว่า แมตช์ชิงชนะเลิศถือว่าสมศักดิ์ศรีไทยแลนด์ โอเพ่น เพราะคนชมแน่นมาก ถือเป็นประวัติการณ์ของการแข่งขัน และเกมสนุกมาก ผู้ชนะเลิศปีนี้เป็นนักกีฬาจากรัสเซีย และรองชนะเลิศเป็นจีน ถือเป็นเรื่องดีต่อเศรษฐกิจ เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งจากรัสเซียและจีนเดินทางมามาก ถือว่าการจัดปีนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง และทางดับเบิลยูทีเอก็ชมทางไทยมาว่ามาตรฐานการจัดทำได้ดีมาก มีผู้ชมแน่นสนาม สร้างกำลังใจให้กับนักเทนนิส

“ผมต้องขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดทัวร์นาเมนต์ดี ๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขเรื่องกีฬาให้กับพี่น้องประชาชน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ส่วนการจัดรายการนี้ในครั้งต่อไปตามสัญญา 5 ปี ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ อยู่ระหว่างการเจรจา หลังจากนี้ก็คงจะลงในรายละเอียดกัน"

ในโอกาสนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้มอบถ้วยรางวัลรูปปลาวาฬบรูด้ากระโจนขึ้นจากน้ำเล่นลูกเทนนิส สีโรสโกลด์ ให้กับนักกีฬาผู้ชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ได้แก่ ไดอาน่า ชไนเดอร์ ดาวรุ่งวัย 19 ปี มืออันดับ 108 ของโลก และนายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมมอบดอกไม้ที่ระลึกให้กับนักกีฬาผู้ชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว 

ขณะที่นายวสุ กลมเกลี้ยง Executive Vice President บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) มอบถ้วยรางวัลรองชนะเลิศให้กับนักกีฬา ประเภทหญิงเดี่ยว ให้แก่ จู หลิน นักหวดจีนวัย 30 ปี มืออันดับ 45 ของโลก และมือวางอันดับ 2 ของรายการ และ นายอลัน แคม ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มอบช่อดอกไม้ที่ระลึกให้กับนักกีฬารองชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ก่อนได้มีการถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน

ขณะที่การมอบรางวัลประเภทหญิงคู่ มีนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ มอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาผู้ชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ได้แก่ มิยู คาโตะ วัย 29 ปีจากญี่ปุ่น มือคู่อันดับ 28 ของโลก กับ อัลดีล่า ซุตเจียดี้ วัย 28 ปีจากอินโดนีเซีย มือคู่อันดับ 30 ของโลก ซึ่งเป็นคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ และ น.ส.สุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ร่วมมอบช่อดอกไม้ที่ระลึกให้กับนักกีฬาผู้ชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่

รวมทั้ง นายภราดร ศรีชาพันธุ์ ผู้อำนวยการแข่งขันเทนนิสรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ มอบถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ ให้กับนักกีฬาประเภทหญิงคู่ ได้แก่ กั๋ว ฮานหยู วัย 25 ปี มือคู่อันดับ 59 ของโลก กับ เจียง ซินหยู วัย 24 ปี มือคู่อันดับ 59 ของโลก ซึ่งเป็นคู่มือวางอันดับ 2 ของรายการจากจีน และ Eva Slaninkova Co-Tournament Director APG ร่วมมอบช่อดอกไม้ที่ระลึกให้กับนักกีฬารองชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ก่อนมีการถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน

ฤกษ์ดี!! 'สุวัจน์' เปิดบ้านเนื่องในวันเกิดครบ 69 ปี 'นักการเมือง-ภาคธุรกิจ-วงการกีฬา' เข้าอวยพรแน่น

(9 ก.พ. 67) ที่บ้านถนนราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดบ้านเลขที่ 333 ราชวิถี จัดพิธีสงฆ์และเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบ 69 ปี 9 ก.พ.67 

โดยในช่วงเช้าสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรรมการเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีสงฆ์ ซึ่งมีครอบครัว และบุคคลในวงการการเมือง และภาคธุรกิจ เข้าร่วมอวยพร พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ และผลไม้โดยเฉพาะส้ม ซึ่งวันนี้เป็นวันตรุษจีนด้วย 

นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองที่เดินทางมาอวยพรนายสุวัจน์มากมาย อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ, พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช และพล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกวุฒิสภา, นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายชาญกฤช เดชวิทักษ์, นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขานายกรัฐมนตรี, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึงยังมี สส. อดีต สส.กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคชาติพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top