Monday, 6 May 2024
สุภาพบุรุษจราจร

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ห่วงใยประชาชน ขับเคลื่อนโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร  ประชาชนสัญจรปลอดภัย”  ลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน

วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและสังคมนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดทำโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย” โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศจร.ตร.) ประชุมขับเคลื่อน เร่งรัดและติดตามประเมินผล ความคืบหน้าโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย โดยมีผู้แทน บช.น., ภ.1-9 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบงานจราจรของ บก.น., ภ.จว.,บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายจราจรทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลโดยพร้อมเพรียงกัน 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า การดำเนินโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย มีวัตถุประสงค์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เช่น การทุจริต การข่มขู่ บุคลิกท่าทางที่ไม่เหมาะสม มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนภาคีเครือข่ายและข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจ    และหน่วยงานที่ปฏิบัติ ภายใต้องค์กรที่ร่วมบูรณาการขับเคลื่อน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และภาคเอกชน

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ห่วงใยประชาชน ขับเคลื่อนโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย” ลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน มุ่งสร้างตำรวจจราจรมืออาชีพ มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล

วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (มค) ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและสังคม จึงได้จัดทำโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย”

โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศจร.ตร.) ประชุมขับเคลื่อน เร่งรัดและติดตามประเมินผลความคืบหน้าโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย โดยมีผู้แทน บช.น., ภ.1-9 และ บช.ก. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบงานจราจรของ บก.น., ภ.จว., บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายจราจรทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลโดยพร้อมเพรียงกัน

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า การดำเนินโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย มีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตรา    การเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เช่น การทุจริต การข่มขู่ บุคลิกท่าทาง ที่ไม่เหมาะสม มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานให้กับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนภาคีเครือข่ายและข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและหน่วยงานที่ปฏิบัติ โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนโครงการ

สุภาพบุรุษจราจร แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สุภาพบุรุษจราจรประเภทบุคคล โดยจะต้องปฏิบัติตามหลัก 5S คือ  SMlLE ยิ้มแย้มเป็นมิตร SMART บุคลิกภาพดี SALUTE สุภาพให้เกียรติ SERVICE MlND มีจิตอาสาบริการ และ STANDARD มีมาตรฐานสากล โดยจะต้องนำไปสู่จำนวนสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ลดน้อยลง สำหรับสุภาพบุรุษจราจรประเภทหน่วยงาน
จะต้องมีผลการปฏิบัติที่มีจำนวนสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ลดน้อยลง ตามเป้าหมาย คือ ผู้เสียชีวิตลดลงมากกว่า 5 % หรือ

ลดลงมากกว่า 10 คน ขึ้นไป จากค่าสถิติจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเฉลี่ยปี 2560 – 2562 สำหรับ ภ.1-9 และจากค่าสถิติ อบถ. ปี 2564 สำหรับ บช.น. โดยประเภทบุคคลจะมีการคัดเลือกข้าราชการตำรวจที่เหมาะสมได้รับรางวัลจำนวน บก./ภ.จว. ละ 2 นาย (สัญญาบัตร 1 นาย และ ประทวน 1 นาย) รวม 188 นาย

ซึ่งผู้ได้รับรางวัลจะต้องมีบุคลิกลักษณะตามหลัก 5S ผ่านเกณฑ์ทดสอบความรู้ ผ่านผลการประเมินของประชาชนและผู้บังคับบัญชา มีภาพลักษณ์ วิสัยทัศน์และทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนในประเภทหน่วยงาน จะมีรางวัลในระดับ บก. 29 รางวัล ระดับ บช. 3 รางวัล รวมจำนวน 32 รางวัล โดยในห้วง ต.ค.65 - ปัจจุบันหน่วย บช.น., ภ.1 - 9 และ บก.ทล. ได้เร่งรัดดำเนินกิจกรรมโครงการ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามโครงการสุภาพบุรุษจราจรประชาชนสัญจรปลอดภัย ในพื้นที่ของหน่วย โดยเฉลี่ย กว่า 1,500 กิจกรรมโครงการต่อหน่วย ซึ่งได้รับความร่วมมือและการตอบรับ จากประชาชนและสังคมเป็นอย่างดีและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้ร่วมประชุม เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าและผลการปฏิบัติตามโครงการ ทั้งนี้ได้กำชับ ให้ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบงานจราจรทุกหน่วย ประชุมชี้แจงสถานีตำรวจในสังกัด ให้ดำเนินการตามโครงการ สร้างความรู้ความเข้าใจ บทบาทของตำรวจตามหลัก 5S และแนวทางการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่ตามเป้าหมายของโครงการ พร้อมทั้งเร่งรัดดำเนินกิจกรรมตามโครงการให้บรรลุผลสำเร็จ ทั้ง 2 ประเภท หน่วยที่มีผลการดำเนินการน้อยหรือไม่ครบถ้วน ให้เร่งรัดดำเนินการก่อนเวลาสิ้นสุดโครงการ

พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และมุ่งแสวงหาความร่วมมือ จากภาคประชาชนและภาคีเครือข่าย และให้ผู้บังคับบัญชาให้คำแนะนำ กำชับและกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด  โดยต้องพร้อมรองรับการตรวจจากผู้บังคับบัญชาและการประเมินผล

พล.ต.ท. ประจวบฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งหวังว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะประสบผลสำเร็จ ประชาชนสามารถสัญจรอย่างปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน

ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นมาตรฐานสากล ภายใต้ความร่วมมือของประชาชนและสังคม ดังนั้นสถานีตำรวจและข้าราชการตำรวจทุกนาย จักต้องดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจริงจังให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและสังคมได้รับประโยชน์สูงสุด

ทุกวินาทีคือชีวิต! ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ นำส่งอวัยวะหัวใจ ครั้งที่ 71 “ผบ.ตร. - รอง ผบ.ตร.” ชมเชยเป็นตำรวจมืออาชีพ ยกเป็นตัวอย่าง “สุภาพบุรุษจราจร”

วันนี้ (4 ก.ค.66) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกการจราจรเร่งนำส่งอวัยวะหัวใจส่ง รพ.ศิริราช ได้ทันเวลา

ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้รับการประสานงานจากศูนย์บริจาคอวัยวะ รพ.ภูมิพล ผ่านศูนย์วิทยุจราจรโครงการพระราชดำริ แจ้งว่าขอสนับสนุนนำอวัยวะหัวใจจาก รพ.ภูมิพล ส่งยัง รพ.ศิริราช หลังจากรับแจ้ง ตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้นำกำลังตำรวจไปรอรับที่ รพ.ภูมิพล เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจไปยัง รพ.ศิริราช รวมถึงได้รับความร่วมมือจากตำรวจจราจร สน.ท้องที่ ในเส้นทางทุกพื้นที่ และผู้ใช้เส้นทางที่ช่วยเปิดทางให้จนภารกิจชีวิตในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้เปิดเส้นทางนำส่งอวัยวะหัวใจ ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่ผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งปลูกถ่ายให้ผู้รับ มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น (อวัยวะหัวใจหากทำการผ่าตัดออกมาจากร่างกายของผู้บริจาคแล้วจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ปิดทางเดินเลือดในการผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งเปิดให้เลือดผ่านหัวใจใหม่ในร่างกายของผู้รับการปลูกถ่าย)  จึงเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา โดยกรณีนำส่งอวัยวะหัวใจในครั้งนี้ นับเป็นรายที่ 71 แล้ว ที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ นำส่งอวัยวะลุล่วงจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้ 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่มากกว่า 6,000 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย เพราะการบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้ที่ โทร.1197 กองบังคับการตำรวจจราจร

ศจร.ตร.เดินหน้าขับเคลื่อนสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ตามหลัก 5S พร้อมชมเชยตำรวจจราจร สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไหวพริบดี สังเกตเห็นชายสูงอายุเป็นลมในรถ รีบเข้าช่วยเหลือ

วันนี้ (15 ก.ค.66) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ศจร.ตร.ขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อให้เป็น “สุภาพบุรุษจราจร” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกชีวิตบนท้องถนน โดยเน้นย้ำตำรวจจราจรทั่วประเทศปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ด้วยบุคลิกภาพที่ดี และเป็นมิตรกับพี่น้องประชาชน ตามหลัก 5S คือ SMlLE ยิ้มแย้มเป็นมิตร , SMART บุคลิกภาพดี , SALUTE สุภาพให้เกียรติ , SERVICE MlND มีจิตอาสาบริการ และ STANDARD มีมาตรฐานสากลมาตรฐานสากล 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่ผ่านมา พบว่าตำรวจจราจรทั่วประเทศยกระดับการปฏิบัติหน้าที่ และการบริการพี่น้องประชาชน จนเป็นที่พึงพอใจของประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนนมากขึ้น และมีหลายครั้งที่โลกโชเชียลนำคลิปที่ปรากฏเหตุการณ์ตำรวจจราจรให้ความช่วยเหลือประชาชน เผยแพร่ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ จนมีการแชร์ต่อและชื่นชมตำรวจจราจรเป็นจำนวนมาก

กรณีล่าสุด มีการแชร์ภาพและคลิปเหตุการณ์ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 13 ก.ค.66 ด.ต.วิชญ์ นามวิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ปราสาท จว.สุรินทร์ พบเห็นรถกระบะจอดอยู่บริเวณจุดกลับรถ ธกส.1 โดยมีชายสูงวัยนอนอยู่ภายในรถ จึงรีบเข้าไปตรวจสอบเนื่องจากสังเกตดูแล้วไม่ใช่การจอดรถเพื่อนอนหลับหรือรอผู้โดยสาร พบว่าชายดังกล่าวเป็นลมหมดสติ เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงได้รีบทำการช่วยเหลือเบื้องต้น โดยเปิดประตูรถ พัดระบายความร้อน และรีบแจ้งรถพยาบาลกู้ชีพโดยด่วน จากนั้นได้มีรถฉุกเฉินนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป ซึ่งมีประชาชนเข้าไปชื่นชมและให้กำลังใจตำรวจจราจรนายนี้เป็นจำนวนมาก

พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าวว่า ศจร.ตร.ขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของ ด.ต.วิชญ์ นามวิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ปราสาท จว.สุรินทร์ ซึ่งนับว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างตำรวจมืออาชีพ มีทักษะ ไหวพริบ คล่องแคล่ว และช่างสังเกตดีมาก เพราะบางคนเห็นอาจจะคิดว่าเป็นการจอดรถเพื่อนอนพัก แต่ตำรวจนายนี้เห็นถึงความผิดปกติและเข้าตรวจสอบ จนพบว่าชายสูงอายุนั้นหมดสติเนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงรีบเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันท่วงที มิเช่นนั้นอาจเกิดการสูญเสียได้ ถือเป็นตำรวจจราจรที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง เป็นตัวอย่างที่ดีของ “สุภาพบุรุษจราจร”

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ โทร.1197 สายด่วนจราจร กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ โทร.191 พร้อมให้ความช่วยเหลือทั่วประเทศ

น่าชื่นชม! 4 ตร. สน.ทางด่วน 2 ยกย่อง “สุภาพบุรุษจราจร” สกัดจับหนุ่มจีนอุ้มสาว มัดมือ - เท้า “ผบ.ตร. - รอง ผบ.ตร.” ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (15 กันยายน 2566) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เดินทางไปยังสถานีตำรวจทางด่วน 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตรวจจราจร เพื่อตรวจเยี่ยม  มอบสิ่งของบำรุงขวัญ มอบเงินรางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือหญิงสาวชาวจีนที่ถูกเรียกค่าไถ่ และสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร สน.ทางด่วน 2 ในครั้งนี้นับว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างตำรวจมืออาชีพ มีทักษะ ไหวพริบ และคล่องแคล่ว เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน 

โดยเมื่อเที่ยงวานนี้ (14 กันยายน 2566) ขณะที่ ร.ต.ต.อาทิตย์ วรรณพราหมณ์ รอง สว.จร. งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 2 กก.2 บก.จร. พร้อมด้วย ส.ต.อ.ปวรินทร์  ภูชัน, ส.ต.อ.เกริกเกียรติ อุทัยคำ และ ส.ต.อ.ณัฐพงษ์ จันทร์ส่งแสง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ทางด่วน 2 บก.จร. กำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร บริเวณหลังด่านเก็บเงินค่าผ่านทางอโศก 4 ได้มีรถแท็กซี่สีเหลือง เข้ามาขอความช่วยเหลือ โดยผู้ขับขี่รถแท๊กซี่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า  มีหญิงสาวชาวจีนหนีลงมาจากรถยนต์เก๋งที่ประสบอุบัติเหตุบริเวณด่านอโศก 4 มีเชือกมัดอยู่ที่ข้อมือซ้ายและข้อเท้าซ้าย วิ่งมาขึ้นรถแท็กซี่ ตนจึงได้พามาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.ต.อาทิตย์ฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดและเป็นเหตุเร่งด่วน จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นายให้การช่วยเหลือหญิงชาวจีน และออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุทันที  พร้อมทั้งประสานงานกับส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันประสบอุบัติเหตุบริเวณทางลงด่วนพระราม 9 ถนนจตุรทิศ เป็นชายชาวจีน อายุ 36 ปี ตรวจค้นภายในรถพบเชือกในลักษณะเดียวกันกับที่ใช้มัดมือและเท้าหญิงชาวจีนที่มาขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่ง สน.มักกะสัน ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

พล.ต.ท.นิธิธรฯ เปิดเผยว่า “ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว มีไหวพริบที่ดีมาก ไม่ยึดติดในหน้าที่การกวดขันวินัยจราจรของตนเพียงอย่างเดียว โดยหากรอให้หญิงชาวจีนเข้าแจ้งความดำเนินคดีเสียก่อน ผู้ก่อเหตุอาจหลบหนีไปได้ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี ซึ่งมีการแชร์และชื่นชมกันอย่างมากจากสำนักข่าวและโลกโซเชียล” ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหลัก 5S คือ SMlLE ยิ้มแย้มเป็นมิตร SMART บุคลิกภาพดี SALUTE สุภาพให้เกียรติ SERVICE MlND มีจิตอาสาบริการ และ STANDARD มีมาตรฐานสากลมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง  “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน  สร้างความเชื่อถือศรัทธา และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกชีวิตบนท้องถนน ทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ โทร.1197 สายด่วนจราจร กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ โทร.191 พร้อมให้ความช่วยเหลือทั่วประเทศ
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top