Friday, 10 May 2024
สัปเหร่อ

‘ต้องเต’ ผู้กำกับ ‘สัปเหร่อ’ ขอบคุณทุกเสียงสนับสนุน หลังภาพยนตร์กวาดรายได้ทั่วไทยทะลุ 300 ลบ.แล้ว

(18 ต.ค.66) แม้จะเข้าฉายสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ทว่าความนิยมในภาพยนตร์ไทยเรื่อง สัปเหร่อ หนังเรื่องใหม่ของจักรวาลไทบ้าน ฝีมือกำกับของ ต้องเต ธิติ ศรีนวล พุ่งทะยานต่อเนื่อง ล่าสุดตัวเลขรายได้ของเช้าวันนี้ จากการฉายทั่วประเทศไทยมากกว่า 300 ล้านบาทแล้ว

‘ต้องเต ธิติ’ เปิดเผยทางเฟซบุ๊กของเขาว่า “ขอบคุณหลายๆ เด้อครับ ผมขอบคุณอีหลี 💚🙏🏻

หนังมันเดินทางมาไกลเกินฝันหมู่เฮาแฮง มันเกิดขึ้นได้เพราะมีแฟนคลับทุกคนที่คอยสนับสนุน คอยมาเป็นกำลังใจให้หมู่เฮา ขอบคุณทุกท่านจากใจจริงครับ”

‘สัปเหร่อ’ ตัวอย่าง ‘วิถีไทย’ ความจริงใจที่ไม่ปรุงแต่ง ฝ่าแรงบูลลี่ ‘วิถีเชย’ ด้วย ‘ความซื่อ’ ที่น่าอวด

(22 ต.ค.66) จากเฟซบุ๊ก ‘KUL’ โดย ‘นายกุลวิชญ์ สำแดงเดช’ ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้โพสต์ข้อความถึงหนังไทยกระแสแรงอย่าง ‘สัปเหร่อ’ ที่กำลังไล่ล่าความสำเร็จและรายได้อย่างมากมาย ไว้ว่า…

“จริงใจ ไม่ปรุงแต่ง
10/10 #อวดดี

เราอาจจะเคยได้ยินพวกที่ป่าวประกาศว่ารักหนังไทย รักวัฒนธรรมไทย แต่กลับบูลลี่เหยียดหยันความเป็นวิถีไทย ว่า ‘เชย, ล้าหลัง’ ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ มองมุมต่าง ซึ่งจริงๆ หนังในจักรวาลไทยบ้านทุกเรื่อง คือ การเอาสิ่งที่บางคนกังขา มานำเสนออย่างตรงไปตรงมา

ความเป็นไทยบ้าน ที่ซื่อ ทื่อ ดิบ มันอาจจะไม่ศิวิไลซ์ แต่วัฒนธรรมแบบนี้ ก็สร้างคนให้เติบโตมาเป็นล้านๆ คน

ผมว่า คนนำเสนอ เขาภูมิใจในสิ่งที่เขาเป็นนะ และบางที การเป็นตัวเองนี่แหละคือดีที่สุด

มันไม่ต้องไปพยายามเป็นคนอื่นหรอก

นี่คือตัวอย่างของคำว่า วิถีไทย มันไม่น่าอาย มันโชว์ได้

มัน #อวดดีได้”

'อนุทิน' ชื่นชมหนัง 'สัปเหร่อ' ยกของดีที่ควรต้องโชว์  ตัวอย่างความสำเร็จซอฟต์พาวเวอร์ผ่านวิถีชาวบ้าน

(24 ต.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ คือตัวอย่างความสำเร็จจากการนำเสนอสิ่งที่เป็นวิถีของชาวบ้าน หลายสิ่งหลายอย่างเราเคยสงสัย หนังเรื่องนี้ เฉลยไว้หมดแล้ว แล้วยังให้แง่คิดเรื่องชีวิต ครอบครัว ความรัก ไว้ด้วย หนังทำให้เราเห็นว่า วิถีไทย ไทยสไตล์ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็ต่างมีเสน่ห์ทั้งนั้น ไม่ต้องไปทำตามแบบใครเลย ภูมิใจในความเป็นเรานี่เอง ดีที่สุด ต้องชื่นชมคนนำเสนอที่ภูมิใจในวิถีของตัวเอง กล้านำเสนอ อย่างตรงไปตรงมา กินใจผู้ชม ของอะไรก็ตาม มันมีดี ให้โชว์ทั้งนั้น ขอแค่ภูมิใจ แล้วกล้าโชว์ อย่าไปมองว่า เราด้อยกว่าเขา เราอ่อนกว่าเขาเด็ดขาด กับของไทยๆ สินค้าไทย กับฝีมือคนไทย มั่นใจว่าไม่แพ้ใครในโลก“อย่าง OTOP สำหรับผม ผมว่าหลายอย่างงดงามระดับโลกเลยนะ ผ้าไทย ผมใส่โชว์เลย ก็มันสวย แล้วผมก็เป็นคนที่ภาคภูมิใจในการใช้ของไทยอยู่แล้ว ถ้า

เรากล้าอวดซะอย่าง ของที่เราอวดมันก็มีคุณค่าขึ้นมาแล้ว เหมือนหนังเรื่องไทบ้าน ก่อนที่จะมีสัปเหร่อ คนทำเขากล้า หนังมันก็ได้ฉาย อย่างน้อยที่สุด สมมติ ถ้าไม่ได้กำไร ขาดทุน แต่เรื่องราววิถีไทบ้านที่เขาอยากนำเสนอมันก็ไปถึงคนอื่นๆ แล้ว ใครอยากจะปั้น Soft Power ไทยต้องกล้าทำ กล้าโชว์ก่อน ถ้ามานั่งกล้าๆ กลัวๆ ที่แย่กว่าคือด้อยค่ากันเอง แบบนั้นไปไม่รอด ถ้วยกาแฟใบโปรดของผมก็ซื้อจากงาน OTOP สวยงามมาก ผมยังโพสต์อวดอยู่เลย” นายอนุทิน กล่าว

'ไตรศุลี' แจง!! ถ่ายวิดีโอ ภท. ยืนตรงทำความเคารพก่อนหนัง 'สัปเหร่อ' ฉาย ชี้!! เป็นกิจกรรมหนุนหนังคนไทยและถ่ายคลิปก่อนฉายหนัง ไม่ละเมิด!!

(25 ต.ค. 66) จากกรณีที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ได้ถ่ายคลิปวิดีโอ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งยกทัพไปดูภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อในโรงหนัง กำลังยืนตรงทำความเคารพก่อนที่จะเริ่มฉาย โดยระบุว่า “ภูมิใจไทย ยกพรรคมาดู สัปเหร่อ หนังอีสานบ้านเฮาค่ะ”

ซึ่งภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป โลกออนไลน์ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายคลิปในโรงหนังว่าสามารถทำได้หรือไม่ ด้วยห่วงจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น

ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวแล้วว่า

“แจ้งเพื่อเป็นข้อมูลนะคะ การชมภาพยนตร์รอบนี้เป็นรอบพิเศษของพรรรคภูมิใจไทย เป็นกิจกรรมสนับสนุนภาพยนตร์ของคนไทยของทางพรรคค่ะ และการถ่ายคลิปเกิดขึ้นในช่วงก่อนฉายหนัง ไม่ได้มีการถ่ายช่วงที่มีการฉายภาพยนตร์ อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้สร้างภาพยนตร์แต่อย่างใด และกิจกรรมครั้งนี้ก็มีผู้สร้าง ผู้กำกับ และนักแสดงของหนังเรื่องนี้มาร่วมด้วยค่ะ ขออภัยหากคลิปทำให้ท่านไม่สบายใจนะคะ ทางพรรคภูมิใจไทยตระหนักและให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเคารพสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์และกฎหมายค่ะ”

น่ารัก น่าภูมิใจ!! ‘วีระศักดิ์’ ชมหนัง ‘สัปเหร่อ’ เล่าเรื่องราวธรรมดาๆ ผ่านมุมมองที่เรียบง่าย แต่แฝงแง่คิด-คติธรรมเพียบ!!

(26 ต.ค. 66) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึง หนัง ‘สัปเหร่อ’ พร้อมชื่นชมในแง่มุมการนำเสนอเรื่องราวของทีมผู้สร้าง โดยระบุว่า…

“พาครอบครัวไปดูหนัง ‘สัปเหร่อ’ มาแล้ว
คนเต็มโรง มีเสียงคิกคักขบขันกันตลอดเรื่อง

ในฐานะลูกอีสาน คุณพ่อเป็นชาวอุบล คุณแม่จากศรีสะเกษ ผมแอบอมยิ้มกับความเรียบง่ายสไตล์ผู้บ่าวไทบ้านของทีมผู้สร้าง ที่หยิบจับความเป็นไปอย่างปกติของชาวบ้านในย่านนี้ออกมาเผยผ่านประสบการณ์อาชีพสัปเหร่อ ที่ย่อมมีในทุกคุ้มวัด ทุกตำบล แต่ถูกมองข้ามมานาน

มุกกลัวผี มุกเพื่อนฝูงแซวกัน มุกผู้เฒ่าผู้แก่ที่ให้ความเมตตา แต่ก็มีสถานะสำคัญที่ชุมชนยกย่องให้บทบาท มีมุก LGBTQ มุกเด็กแว้นท้องถิ่น มุกเจ้าหน้าที่ในงานบริการในชนบท

แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงคติธรรม ระหว่างแดนของผีกับคน คนปล่อยวางได้กับคนที่ยึดติด คนที่เห็นค่าของผู้อื่นและเห็นค่าในตนเอง

หนังสร้างด้วยฉากง่ายๆ แต่ให้อะไรเกินกว่าที่คิด ไม่ประดิษฐ์ ไม่ประดับมากไป ใช้ภาษาอีสานตลอดเรื่อง แต่มีซับไทย และซับอังกฤษวิ่งใต้ภาพตลอด

น่ารัก และน่าภูมิใจครับ”

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์

‘เศรษฐา’ ชี้!! ‘พ.ร.บ.ภาพยนตร์’ ล้าหลัง-ต้องเร่งปรับปรุงโดยด่วน หากหวังปั้นความคิดสร้างสรรค์ ดันหนังไทยเฉิดฉายระดับโลก

(26 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการชมภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ต.ค. ว่า…

“ก็ดีนะครับ เป็นภาพยนตร์ที่สนุก และเชื่อว่าเรื่องของอาชีพที่หลายคนไม่รู้จัก อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย อาชีพที่คนไทยไม่รู้จักก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูด รวมถึงเรื่องการใช้ภาษา เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนรู้ซึ้งถึงวัฒนธรรมของไทยได้ดีขึ้น ก็ยินดี สนับสนุน ผู้กำกับเก่ง ก็อยากสนับสนุนผู้กำกับที่มีฝีมือให้มาช่วยผลักดันในเรื่องของภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสั้น หนังยาว ให้มีเวทีในการที่จะแสดงความสามารถได้ ผมสนับสนุนเต็มที่”

นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องของการสนับสนุนที่อยากให้ภาครัฐเอาภาพยนตร์หรือผู้กำกับไปเฉิดฉายในเวทีแสดงหนังโลก ซึ่งทางรัฐบาลจะสนับสนุนในส่วนนี้ แต่เรื่องหนึ่งที่ยังติดอยู่คือ ‘พ.ร.บ.เซ็นเซอร์’ อันนี้ก็เป็นอะไรที่ต้องใช้คำว่าอาจจะ ‘ล้าสมัย’ ต้องมีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยใหม่หน่อย จะได้มีการแสดงในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังฟอร์มเล็กของเรามีดีๆ เยอะ จะสนับสนุนอย่างไร เพราะหนังเหล่านี้ไม่มีทุนเหมือนรายใหญ่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวมานั่งพูดคุยกัน ตรงนี้ตนคิดว่าคณะทำงานซอฟต์พาวเวอร์เล็งเห็นอยู่แล้วในเรื่องของการขาดทุนทรัพย์

‘สิริพงศ์’ ชี้ ‘สัปเหร่อ’ เป็นการสะท้อนชีวิตชนบท ‘คนอีสาน’ ไม่ใช่ ‘โง่ จน เจ็บ’ ย้ำ!! เขามีชีวิตเหมือนกับทุกคน

(28 ต.ค.66) จากเฟซบุ๊ก ‘KUL’ โดย ‘นายกุลวิชญ์ สำแดงเดช’ ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้แชร์คำพูดของ ‘นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ’ ผู้อำนวยการสร้าง ‘สัปเหร่อ’ และเป็นผู้สนับสนุนจักรวาลไทบ้าน โดยระบุว่า…

“สัปเหร่อ…เป็นการสะท้อนชีวิตชนบท ‘คนอีสาน’ ไม่ใช่ ‘โง่ จน เจ็บ’ เขามีชีวิตเหมือนกับทุกคน และชีวิตเขาสนุกสนาน”

‘ต้องเต’ แต่งหญิงทาปากแดง พาทีมงานรำแก้บน หลัง ‘สัปเหร่อ’ ทะยาน 700 ล้าน คนแห่ร่วมงานนับพัน

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.66) หลัง ‘สัปเหร่อ’ ภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ของจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ กวาดรายได้รวมทั่วประเทศไปถึง 700 ล้านบาท จนขึ้นแท่นเป็นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 10 ปี ล่าสุดผู้กำกับมาดเซอร์อย่าง ‘ต้องเต ธิติ ศรีนวล’ ก็ได้พาทีมนักแสดง มาทำตามสัจจะวาจาที่เคยพูดไว้ ว่าหากหนังประสบความสำเร็จ จะทำพิธีบวงสรวงและรำถวายท่าน ที่สวนป่า ณ โพนปู่ทองคำ ปู่ย่าที่อีหลีน่าคาเฟ่ จ.สกลนคร บ้านของนักร้องหนุ่ม ‘ก้อง ห้วยไร่’ ผู้เป็นพ่องานในวันนี้

โดย ‘ก้อง ห้วยไร่’ บนไว้ 100 ล้าน ส่วน ‘ต้องเต’ บนไว้ 50 ล้าน วันนี้เจ้าตัวก็เลยแต่งหญิงสวมชุดไทยตามที่บนบาน พร้อมมาเป็นนางรำร่วมกับชาวบ้านกว่า 200 ชีวิต ท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานกว่า 1 พันคน ซึ่งบรรยากาศระหว่างพิธีบวงสรวงนั้น ก็มีลมพัดแรงเป็นช่วงๆ ทำเอาขลังและขนลุกไปตามๆ กัน แต่ในขณะเดียวกันก็ม่วนจอยกันหนักมาก หลังเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวง

และงานนี้ผู้กำกับอย่าง ‘ต้องเต’ ก็ถึงกับมีน้ำตา ระหว่างพูดขอบคุณทีมงานและผู้ชม ที่ทำให้หนังไทบ้านอย่าง ‘สัปเหร่อ’ ประสบความสำเร็จและกวาดรายได้ถล่มทลายขนาดนี้ และคาดว่าอีกไม่กี่อึดใจ ก็คงจะทะลุ 1,000 ล้านได้อย่างไม่ยาก 

‘สัปเหร่อ’ ตอกย้ำกระแสความปัง เตรียมขึ้นจอฉาย 9 ประเทศ ให้ผู้ชมต่างแดนได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านของคนอีสาน

(2 พ.ย.66) กระแสยังคงเเรงไม่ตก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ หลังกวาดรายได้มุ่งสู่ 700 ล้านบาททั่วประเทศไปหมาด ๆ พร้อมสถิติขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปี แม้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไม่ถึง 1 เดือน ด้วยทุนสร้างประมาณ 10 ล้านบาท

ล่าสุด ‘สัปเหร่อ’ เตรียมโกอินเตอร์แล้ว โดย ‘ไทบ้าน’ ได้ประกาศว่า สัปเหร่อกำลังจะเข้าฉายสู่ 9 ประเทศ ให้ผู้ชมในต่างแดนได้สัมผัส ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น, สิงค์โปร์, ไต้หวัน, มาเลเชีย, พม่า, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเชีย และกัมพูชา

ด้าน ‘ต้องเต-ธิติ ศรีนวล’ ผู้กำกับและเขียนบท ก็ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ แทนความรู้สึกกับความสำเร็จอีกขั้นในครั้งนี้ ว่า “เตรียมตัวออกเดินทางได้ ขอบคุณหลาย ๆ เด้อครับ”

'ต้องเต' หวังรัฐบาลไทยหนุนภาพยนตร์ไทยเต็มกำลัง หลังยก 'สัปเหร่อ' ขึ้นแท่น Soft Power ของไทย

จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม เอ็กซ์ หลังชม ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อร่วมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตรประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ว่า ..."'สัปเหร่อ' คือภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของภาคอีสานผ่านสายตาของคนรุ่นใหม่ออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ผมเชื่อว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จคือการที่ผู้กำกับ และทีมงานภูมิใจในรากเหง้าของตัวเอง ควรค่าแก่การสนับสนุนครับ

รัฐบาลเราสนับสนุน Soft Power ทุกมิติ ด้านภาพยนตร์เองก็เช่นกัน เราพร้อมที่จะผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยพาวัฒนธรรมของเราออกไปสู่สายตาชาวโลกเป็น ‘จุดขาย’ ไปสร้างชื่อเสียง สร้างรายได้และความชื่นชอบให้กับประเทศไทย"

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 66 นายธิติ ศรีนวล หรือ ต้องเต ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ กล่าวในรายการอยู่ดีมีแฮง ช่อง ThaiPBS ว่า "ผมคาดหวังว่าเรื่องต่อ ๆ ไป ไม่ใช่แค่ของผม อยากให้มาสนับสนุนจริง ๆ หน่อย ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูป คุณอาจจะไม่ได้เข้าใจหนัง #สัปเหร่อ จริง ๆ เลยก็ได้ แค่มาถ่ายรูป แล้วบอกว่า 'สัปเหร่อ' เป็น ซอฟต์เพาเวอร์ (SoftPower)

"อย่างตัวผมเองยังไม่รู้ว่า ซอฟต์เพาเวอร์ คืออะไร ตอนผมทำ ผมยังแบบ 'เอ๊า!! หนังผมเป็น ซอฟต์เพาเวอร์' เหรอ ผมยังไม่รู้เลย แต่ถ้าผมได้รู้ หรือได้ทำความเข้าใจว่า ซอฟต์เพาเวอร์ คืออะไร หนังไปไกลกว่านี้ มี 'ซอฟต์เพาเวอร์' จริง ๆ แน่นอน

"ดังนั้น ถ้ามีการพูดคุยหรือเสวนาในวงการที่อยากจะเอา ซอฟต์เพาเวอร์ เผยแพร่ต่อต่างประเทศ อยากให้พาไปจริง ๆ"

ด้าน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นนี้ทางทวิตเตอร์ หรือ X ว่า "รัฐบาลเพิ่งได้เข้ามาเริ่มผลักดันนโยบาย #SoftPower และไม่ได้คิดจะเคลมผลงานใด ๆ จากความสำเร็จของภาพยนตร์ #สัปเหร่อ ครับ แต่มีเจตนาที่จะสนับสนุน และชี้ให้เห็นตัวอย่างหนึ่งของผลงานที่มีคุณภาพ

"ในฐานะคอหนัง ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความตั้งใจ และประทับใจผลงานด้วยใจจริง
"
"หวังอย่างยิ่งว่าในเร็ว ๆ นี้ ความสนใจและตั้งใจจริงของรัฐบาลชุดนี้ ที่จะสนับสนุนธุรกิจสร้างสรรค์แขนงต่าง ๆ ให้เติบโตและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้น จะเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วครับ

"การสนับสนุนอุตสาหกรรมโดยภาครัฐ ไม่ได้มีเพียงกลไกเอาเงินทุนไปให้ หรือไปช่วยประชาสัมพันธ์ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ คือการดึงภาคเอกชนมาร่วมกันให้ข้อมูล ว่าการทำงานที่เป็นอยู่ ติดขัดปัญหาหรือข้อกฎหมายอย่างไรแล้วรัฐในฐานะผู้สนับสนุนจึงจะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้เอกชนได้ขยายศักยภาพของตนเองได้เต็มที่มากขึ้นครับ #SoftPower #รัฐบาลเศรษฐา”

"อันนี้เป็นนโยบายของ #พรรคเพื่อไทย ที่ใช้หาเสียง เฉพาะในส่วนของ 'ภาพยนตร์' ก่อนนะครับ ยังมีส่วนของวงการอื่น ๆ อีกครับ”

ขณะที่ทางด้านเฟซบุ๊กเพจ 'ตุ๊ดส์review' ได้โพสต์เกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า ภาพยนตร์ #สัปเหร่อ กับคำว่า #SoftPower ของรัฐบาลไทย

1) จริง ๆ รัฐไม่ได้เข้าใจด้วยซ้ำว่าเราจะสร้าง Soft Power กันยังไง เราแค่รอมันดังแล้วไปถ่ายรูปคู่ ไม่ได้ร่วมสร้าง ร่วมลงทุน และผลักดันโดยรัฐบาลตั้งแต่ก้าวแรกของการทำงาน

2) การดูกันเอง ชื่นชมกันเอง สนุกสนานกันเองในประเทศ แต่ไม่ได้ผลักดันสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในตลาดโลก หรือพาหนังไปสร้างอำนาจละมุน ตามคำว่า Soft Power เพื่อพาวัฒนธรรมประชาชนไปสั่นสะเทือนวงการและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ก็เท่ากับว่า "มันยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และไม่ได้มีการลงมือทำอะไรเป็นรูปธรรม"

3) การรอฉกฉวยโอกาสของรัฐ ที่มีต่อสิ่งที่ดังด้วยตัวมันเอง ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยประยุทธ์ กำลังถูกสานต่อโดยยุคสมัยของเศรษฐา โดยที่ยังไม่เห็นนโยบายที่เป็นกลยุทธ์ และแนวทางการสร้างความสำเร็จ นอกจากรูปถ่าย PR เท่านั้น ที่ออกมาสร้างการรับชมกันเองในชาติ โดยที่ต่างชาติไม่ได้มาร่วมอึ้ง หรือซาบซึ้งใด ๆ กับเรา

4) ถ้าบอกว่าสนับสนุนเพื่อให้ Soft Power ไทยไปไกลในตลาดโลก รัฐต้องลงทุน และมีหน่วยงานที่เอาผลผลิตอุตสาหกรรมบันเทิงไทยไปเจาะตลาดโลก ตั้งแต่ Day One โดยร่วมวางแผนการสร้าง Soft Power ให้ก้าวแรกมีเนื้อหาสาระ นักแสดง กลยุทธ์ และแนวทางการประชาสัมพันธ์ที่ส่งเสริมการส่งออกแบบครบวงจร แต่เราไม่เห็นกระบวนการเหล่านั้นในการวางแผนการทำงาน

5) แค่ถ่ายรูป แล้วบอกว่าเป็น Soft Power มันมีประโยชน์น้อยมาก แถมยังสร้างความเหลื่อมล้ำในวงการหนังเสียอีก หนังไหนดัง รัฐถึงจะวิ่งปรี่เข้าไปเชิดชู ส่วนหนังเรื่องไหนไม่ทำเงิน ไม่มีกระแส กลับไม่เคยได้รับการแยแสจากรัฐ ทั้ง ๆ ที่หนังดี ๆ หลายเรื่อง ๆ ขาดการพูดถึง และให้คุณค่าจากสังคม แล้วทำไมรัฐไม่เป็นส่วนหนึ่งที่ให้โอกาสกับหนังไทยหลาย ๆ เรื่องได้แจ้งเกิดมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องรอผู้กำกับมาทวงถาม

Soft Power แบบปลอม ๆ ก็ไม่ได้ไปไหนได้ไกลกว่าการเชยชมกันเอง เมื่อไหร่โลกทั้งใบจะเห็นศักยภาพของคนไทยและวงการบันเทิงไทย เราต้องทวงถามให้รัฐบาลทำงานเรื่องนี้กันอีกนานแค่ไหน

ไม่งั้น Soft Power ไทย ก็มีไว้เพียงเพื่อการโฆษณา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top