Monday, 20 May 2024
สสก้าวไกล

‘พระราม 2’ แผ่นปูนใต้สะพานหน้ามหาชัยเมืองใหม่ ‘แตก’ เป็นวงกว้าง 'ส.ส.ก้าวไกล' จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หวั่นเกิดอันตราย!!

(22 ก.ค.66) นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล จังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์กรณีแผ่นคอนกรีตบริเวณใต้สะพานต่างระดับหน้ามหาชัยเมืองใหม่แตกเป็นวงกว้างว่า มีชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนได้แจ้งมาว่าพบแผ่นปูนใต้สะพานต่างระดับมหาชัยเมืองใหม่ ถนนพระราม 2 จังหวัดสมุทรสาครแตกออกมาเป็นวงกว้างขนาดใหญ่ อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ ตนพร้อมด้วยทีมงานจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว 

"จากการพบว่าบริเวณใต้สะพานต่างระดับหน้ามหาชัยเมืองใหม่ แผ่นปูนแตกเป็นวงกว้างมากดูแล้วหวั่นเกรงว่ารอยแตกอาจจะลุกลามแตกเพิ่มอีกได้ น่าหวาดเสียวมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านเส้นทางนี้ ตลอดจนยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลหรือเตือนประชาชนเลย จึงขอฝากไปยังแขวงทางหลวงสมุทรสาคร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้ามาตรวจสอบดูแลและแก้ไขโดยเร็วก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาได้กับผู้ใช้รถใช้ถนน" นายณัฐพงษ์ กล่าว

วิจารณ์สนั่น!! ‘สส.กทม.ก้าวไกล’ ต่อยคู่กรณีกลางร้านอาหาร ก่อนมีคลิปเผยความจริงอีกแง่ จุดเริ่มต้นของเหตุทะเลาะวิวาท

(12 ส.ค. 66) ดร.แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์​กล่าว​ถึง​กรณี​มีคลิปการก่อเหตุ​ทำร้ายร่างกาย​ประชาชน​ของ สส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม คือ นายจรยุทธ์​ จตุรพรประสิทธิ์​ และอาจมีอดีต สส.คนดัง อย่างนายปิยะบุตร​ แสงกนกกุล ร่วมในที่เกิดเหตุ​โดยไม่ห้ามปรามด้วยหรือไม่ เป็น​การแสดงให้เห็น​ถึงความด้อย​คุณ​ภาพในการคัดสรรคนมาเป็น​ สส.ของพรรคก้าวไกลที่ผลิตซ้ำเรื่อง​เลวร้าย​ผิดกฎหมาย​ผิดจริยธรรม​อย่างต่อเนื่อง​ไม่ว่างเว้นความกร่าง ก้าวร้าว​ ที่ทำให้สังคมเอือมระอา ทั้งที่กระทำโดยผู้มีตำแหน่ง​ทางการเมือง​และเครือข่ายกลุ่มการเมือง ที่เป็นแขนขาในการเคลื่อนไหว​ ใช้ความรุนแรง​ในต่างกรรมต่างวาระ ยิ่งสะท้อนภาพความตกต่ำของการเมืองไทยที่เน้นการสร้างภาพโดยใช้การตลาดนำการเมือง หลอกลวงเชิงนโยบาย​ ประดิษฐ์​วาทกรรมสวยหรูให้ความหวังประชาชน​ว่า เป็น​คนรุ่นใหม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง​ให้ประเทศไทย​ไม่เหมือนเดิม แต่เนื้อในเน่าเฟะ

เพิ่มเติมคือ คนเหล่านี้​เต็มไปด้วยการดูถูกดูแคลน​ด้อยค่าผู้อื่นอย่างไร้หลักการเคารพในสิทธิ​เสรีภาพ​ของคนเห็นต่างและเมื่อกระทำความผิดและกลับนิ่งเฉยไม่มีการแสดง​ความรับผิดชอบ​ใดๆต่อสาธารณชน​เสมือน​หนึ่ง​ประชาชน​เป็นของตาย ไม่ต้องเห็นหัวไม่มีความหมายใดๆ ทั้งกรณีการใช้เด็กเยาวชนเป็น​เครื่องมือ​ทางการเมือง สส.ทำร้ายร่างกายผู้หญิง การปล่อยให้มีคนกระทำผิดติดคุกมาสมัคร สส.

และล่าสุดการเมากร่างทำร้ายประชาชน​บาดเจ็บ​อีก โดยหากเชื่อมโยง​พฤติกรรม​ต่างๆ ตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลนี้ย่อมเห็น​ได้ชัดว่า ไม่ได้​มีคุณงามความดีใดๆ ต่อสังคม สร้างความแตกแยกและวุ่นวาย​อย่างต่อเนื่อง มุ่งบ่อนเซาะทำลายวัฒนธรรม​ประเพณี​อันดีงามของสังคม​ไทย​ทั้งความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเคารพ​ความกตัญญู​ต่อบุพการี​ผู้มีพระคุณ​ และการรับผิด​ชอบทางการเมือง​เห็นได้จากกรณีแกนนำพรรคบางคนออกมาปฏิเสธ​ไม่รู้จักไม่เกี่ยว​ข้องกับกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหว​ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไปช่วยเหลือ​สนับสนุน​อยู่​ตลอด

จึงอยากขอเตือนประชาชน​และเยาวชน​ไทยให้ระวังอย่าหลงเชื่อ​ เสพติดและเลียนแบบพฤติ​กรรมความรุนแรง​จากพรรคการเมืองดังกล่าว​เพราะถึงเวลาถูกดำเนินคดี​พวกเขาจะตัดหางปล่อยพวกคุณติดคุกตามลำพังอย่างแน่นอน​ โดยตนจะนำเรื่องดังกล่าว​ไปร้องสอบจริยธรรม​ต่อ ป.ป.ช.ต่อไป

อย่างไรก็ตามจากคลิปที่เป็นประเด็นดังกล่าว ยังมีข้อเท็จจริงอีกด้าน โดยได้มีช่องติ๊กต็อก ชื่อ ‘sparkupdate’ ออกมาบอกเล่าถึงสาเหตุและจุดเริ่มต้นของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ โดยระบุว่า…

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 66 เวลาประมาณตี 2 มีเหตุรับแจ้งว่าการทำร้ายร่างกายกัน ภายในร้านอาหารย่านเอกมัย 12 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อตํารวจไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบคู่กรณี 2 ฝ่ายยืนเคลียร์กันอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ หรือ ‘ต้นกล้า’ สส.ของพรรคก้าวไกล พร้อมกับคู่กรณี โดยทางตํารวจได้เข้าไปพูดคุยทําความเข้าใจ และทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการขอโทษกัน โดยไม่ได้ติดใจเอาความ หลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป ไม่ได้เกิดการแจ้งความกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด

โดยสาเหตุของเรื่องราวการทะเลาะวิวาททั้งหมด เกิดจากการที่ชายคู่กรณี ได้ใช้เข่ามาโดนที่หลัง และได้เข้ามาบีบที่ต้นคอทางด้านหลังของผู้หญิงที่เป็นเพื่อนของ สส.ต้นกล้า โดยคู่กรณีได้ใช้เข่ามาโดนที่หลังของผู้หญิงอย่างแรง จนทำให้ผู้หญิงคนดังกล่าวทรุดไปที่โต๊ะ ซึ่ง สส.ต้นกล้า ก็พยายามพูดดีๆ และได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนไป แต่จากนั้น สส.ต้นกล้าได้ถูกคู่กรณีตบเข้าที่ใบหน้า หลังจากนั้นจึงเกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้น โดยที่สาเหตุคือ สส.ต้นกล้าได้ออกมาปกป้องเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้น หลังจากนั้น ก็ได้มีการพูดคุย ปรับความเข้าใจกันจนลงตัว

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงต้องรอความจริงจากปากผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่อไป ส่วนประชาชนจะตัดสินใจเช่นไร ก็ขอให้อยู่บนหลักฐานที่รอบด้านด้วย

‘ส.ก.วิพุธ’ จี้!! กทม. ตรวจเข้มร้านที่ สส.ก้าวไกลมีเรื่องวิวาท พบเปิดเกินเวลา-ส่งเสียงรบกวน ชาวบ้านเคยร้องเรียนแต่ไร้ผล

(13 ส.ค. 66) นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก กล่าวถึงกรณีเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง สส.พรรคก้าวไกล กับประชาชนรายหนึ่ง ในสถานบันเทิงซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตบางรัก ว่า เหตุทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิงดังกล่าว ตามที่ปรากฏในคลิปเกิดขึ้นในช่วงเวลา 02.30 น. ซึ่งเป็นการเปิดเกินเวลา และไม่ใช่ครั้งแรกที่พบว่ามีการเปิดเกินเวลา เหตุการทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ส่งผลให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

นายวิพุธกล่าวว่า ประชาชนเคยร้องเรียนร้านนี้มาที่สภากรุงเทพมหานครแล้ว ในเรื่องของการเกินเวลา และส่งเสียงรบกวนทำให้ผู้คนแถวนั้นได้รับผลกระทบ ไม่สามารถพักผ่อนและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยประชาชนได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้แต่อย่างใด

ล่าสุดได้ร้องเรียนมาที่ตน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย ของสภากรุงเทพมหานคร จึงขอให้กรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกับร้านอาหารที่เปิดเกินเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในอนาคต

ชาวเน็ตขุดเฟซบุ๊ก ‘โย พงศธร’ ผู้สมัคร สส.ระยอง ก้าวไกล เจอ ‘QR Code ขายเบียร์ - ภาพสัมมนาผู้ถือหุ้น’ ก่อนถูกลบ

(29 ส.ค. 66) จากกรณีที่บนโซเชียลฯ แชร์และวิจารณ์กรณีที่นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย ผู้สมัคร สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดระยอง ออกประกาศเรื่องบัญชีหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งนายพงศธรชี้แจงว่า ตนมีรายได้ไม่ถึง 220,000 บาทต่อปี จึงยื่นใบรับรองตัวเองว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ตนไม่ได้กังวล ถือเป็นกระบวนการตามปกติและมีเอกสารรับรองผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาพบว่ามีชาวเน็ตขุดภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพงศธร ขณะที่เจ้าตัวกำลังจะส่งผลิตภัณฑ์เบียร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยขนใส่รถยนต์เป็นลัง ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในลักษณะหรูหรา 

ส่วนเฟซบุ๊กเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ โพสต์ภาพหนังสือจากสถานีตำรวจนครบาลบางนา เรื่อง ส่งสำนวนคดีเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง (ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์) คดีที่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นผู้กล่าวหา และมีนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นผู้ต้องหา เมื่อปี 2561 และบรรยายว่า ได้นำเครื่องเสียงของทางบริษัทฯ ไปขาย แล้วไม่นำเงินส่งบริษัทฯ ต่อมามีการตกลงเจรจาคืนเงินกันแล้วถอนคำร้องทุกข์ไป

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2562 นายพงศธร ทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว น.ส.เบญจา แสงจันทร์ มีเงินรายได้ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน เมื่อคำนวณตลอดทั้งปี จะมีรายได้ไม่เกิน 180,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เกินที่กฎหมายกำหนดให้จ่ายภาษี และถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งนายพงศธรก็ได้ทำแบบฟอร์ม สส.4/7 เพื่อยืนยันว่าตัวเองมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวตำหนิถึงการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือผู้จัดการ ที่ระบุว่า “โซเชียลทั้งขุดทั้งแฉนายพงศธร ผู้สมัครเขต 3 ระยอง ก้าวไกล ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พบชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ขายเบียร์ใส่รถกันเป็นลัง ๆ อีกด้านขุดกันไปถึงคดียักยอกปี 61” เป็นพาดหัวค่อนข้างรุนแรง เพราะกรณีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายพงศธรได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนจริง แต่รายได้ไม่ถึงปันผลจนถึงปัจจุบัน จึงไม่เคยยื่นเสียภาษีในกรณีนี้ ส่วนคดีความทางตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายพงศธรจึงยังมีคุณสมบัติครบถ้วนลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่าเข้าใจการตรวจสอบ ยินดีที่จะตรวจสอบ แต่เมื่อพิจารณาจากพาดหัวข่าวและประเด็นเกินเลยจากข้อเท็จจริง คิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าจะมีผู้หวังประโยชน์ทางการเมืองจากการดิสเครดิต

ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก ‘Yo Pongsathon Sonpechnarintr’ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย พบว่าได้ลบโพสต์เก่า ๆ ออกไปจนหมด เหลือโพสต์ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2011

อีกด้านหนึ่ง ยังมีภาพปกเฟซบุ๊ก (Cover) ระบุว่า "พวกแกหวาดกลัวยุคสมัยใหม่มากนักรึไง" ทำให้ชาวเน็ตพากันทัวร์ลง เช่น

- อุ้ย โดนขุดหน่อย ปิดสาธารณะ ปิดทุกอย่าง กลัวความโปรงใสหรอ

- พอมีข่าวไม่เสียภาษี แล้วบอกว่าชี้แจงได้หมด ปิดสาธารณะทำไมครับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เปิดมาตลอด แบบนี้เค้าเรียกวัวสันหลังหวะรึป่าวนะ

- เสียดายจังว่าจะแสดงความคิดเห็นเรื่องภาษีรายได้สักหน่อย

- digital footprint กรรมมุนา วต ตตี โลโก

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ยังได้โพสต์ภาพขณะที่มีการขายเบียร์ โดยมีคิวอาร์โค้ดสำหรับสแกนจ่าย และหนึ่งในนั้นภาพขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยืนคู่กับทีมงานเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว โดยระบุว่า "#ทุกคนคะ QR Code ที่ใช้ซื้อขายคราฟต์เบียร์ เป็นของผู้สมัครก้าวไกลชัดเจน ไปตรวจสอบเงินหมุนเวียนในบัญชีได้เลยค่ะ ว่ารายได้ถึงไหม แด๊ดดี้ทิมก็ช่วยโปรโมตด้วยค่าาาาา"

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า คิวอาร์โค้ดดังกล่าวเป็นหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ของนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จริง โดยผูกกับบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ด้านเฟซบุ๊ก Warat Gap ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โพสต์ข้อความ โดยอ้างจากข่าวในเฟซบุ๊กเพจโต๊ะข่าวการเมืองของเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ (MGR Online Politics) โดยระบุว่า "15,000 x 12 = 180,000 กฎของสรรพากร ถ้ามีรายได้เกินปีละ 120,000 ต้องยื่นภาษีทุกคนนะครับ ซึ่งจริง ๆ จะรายได้เท่าไหร่ก็ควรยื่น เพราะเป็นหน้าที่ ‘ประชาชน’ ที่ดี นี่ไม่รวมขายเบียร์ (การกุศล?) นะครับ ช่วยแถลงใหม่แล้วลดเงินเดือนลงนะครับ บอกว่าคราวที่แล้วเข้าใจผิด เดี๋ยวได้ใบแดงแล้วจะหาว่าโดนกลั่นแกล้งอีก

ป.ล. คุยกับเพื่อนที่สรรพากรแล้ว ทางสรรพากรก็กำลังให้ฝ่ายสำรวจติดตามกรณีนี้อยู่นะครับ"

‘วุฒิพงศ์’ สส.ก้าวไกล แจงปมแชตคุกคามสาวเป็นเรื่องเก่า ก่อนรับตำแหน่ง เชื่อ!! ถูกกลุ่มคนไม่หวังดีดิสเครดิต เพราะตนกำลังตรวจสอบทุจริตในพื้นที่

เมื่อวานนี้ (11 ต.ค. 66) นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ได้โพสต์คลิปชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาแชตคุกคามสาว โดยระบุว่า

ที่ผ่านมาก้าวไกลได้ตั้งคณะกรรมการทางวินัยสอบกรณีนี้แล้ว เพื่อสืบหาที่มาที่ไปของเป้าประสงค์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตั้งแต่การเลือกตั้งสิ้นสุดลงกลางเดือน พ.ค. ผ่านมา 5 เดือนแล้ว มีกลุ่มคนในปราจีนฯ ตั้งตัวเป็นนักร้องเพื่อตรวจสอบผม ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาพยายามดิสเครดิตทำลายชื่อเสียงของพรรคก้าวไกลและของผม เพื่อปิดบังเรื่องราวที่ผมกำลังตรวจสอบในจังหวัดขณะนี้

จากข่าวที่ปรากฎมา นับเป็นเรื่องที่สาม ที่บุคคลกลุ่มนี้พยายามขุดคุ้ยข้อมูลเพื่อสร้างประเด็นในการร้องเรียน และสร้างประเด็นในการแชร์ให้ปรากฎในโซเชียลฯ เป็นการแคปภาพเฉพาะบางส่วนมาเสนอต่อสาธารณชน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอยืนยันว่าผ่านมา 1 ปีครึ่งแล้ว สำหรับภาพที่แคปมาเผยแพร่ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้เป็น สส.

ซึ่งเป็นที่ชัดเจนของผู้ที่นำข้อมูลต่อสาธารณะ ว่าพวกเขาต้องการดิสเครดิตการทำงานของผม และมีเป้าหมายบางประการอย่างชัดเจน

กระผมขอเรียนต่อชาวปราจีนบุรีและสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกท่านว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ผมท้อถอยในการทำงานแต่ประการใด ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ผมยิ่งต้องการตรวจสอบในจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์โดยใช้ตำแหน่ง โดยเฉพาะเรื่องของมลพิษในพื้นที่ศรีมหาโพธิ

สุดท้ายผมขอให้ทุกท่านมั่นใจในการทำงานของผมว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวปราจีนฯ และจังหวัดปราจีนบุรี

‘ภูมิธรรม’ โวย! ‘สส. ก้าวไกล’ ใส่ความเท็จ ปมไม่เซ็นรับรอง พ.ร.บ. อากาศสะอาด

‘ภูมิธรรม’ ฉุน!! ‘สส.ก้าวไกล’ พูดจาใส่ร้ายเพื่อไทย ชี้!! เป็นปัญหาจริยธรรม เตือนหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูแลคนของตัวเองอย่างจริงจัง อย่าปากว่า ตาขยิบ 

(11 ม.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่าน X ระบุถึงกรณี สส.พรรคก้าวไกล ออกมาตำหนินายกฯ ไม่ยอมเซ็นรับรอง พ.ร.บ.อากาศสะอาดของพรรคก้าวไกลเพราะกลัวจะเป็นผลงานของก้าวไกล โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ เป็นการเล่นการเมืองทุกอย่างว่า...

“ผมไม่สบายใจ การพูดใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยโดยพูดความจริงไม่หมด หรือพูดแค่ครึ่งเดียว เราทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่ทำให้พรรคตัวเอง แบบเอาข้อเท็จมาใส่ร้ายพรรคอื่น เพื่อชัยชนะของพรรคตน”

นายภูมิธรรม ฝากถึงหัวหน้าพรรคอีกด้วยว่า “ขอให้ดูแลคนของตนอย่างจริงจังด้วย..นี่เป็นปัญหาจริยธรรมเลยครับ เตือน ‘อย่าปากว่า ตาขยิบ’”

‘ปิยบุตร’ เตือนสติ ‘สส.ก้าวไกล’ อย่าเอาแต่โทษไอโอ ชี้!! หากปฏิบัติตนอย่างระวัง ใครก็ทำลายชื่อเสียงไม่ได้

(19 ม.ค. 67) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เพจ ‘ก้าวไกลโกหกอะไร’ จ้องจับผิด สส.และคนของพรรคก้าวไกล จนน่ารำคาญ น่าสงสัย นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ สส.และคนของพรรคก้าวไกล ซึ่งกลายเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว มีประชาชนมากมายมหาศาลรัก ชื่นชม ฝากความหวังให้เป็นฟันเฟืองของการเปลี่ยนแปลง ก็ควรต้องตระหนักได้แล้วว่ามีขบวนการปฏิบ้ติการข้อมูลข่าวสารจากทุกสารทิศ สนธิกำลังกันทั้งจากฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ฝ่ายพรรคการเมือง จ้องจับผิดเล่นงานขยายผลอยู่

การไปกล่าวโทษไอโอ ไปร้องแรกแหกกระเชอว่าโดนกลั่นแกล้ง ไปตามจับตามสืบว่าใครไปปล่อยข่าว แอบถ่าย ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ตรงเป้าควรป้องกัน แก้ไขที่ตนเอง ทำตัวให้มาชัวร์ครองตนอย่างระวัง รอบคอบ แต่กล้าหาญ ควบคุมดูแลคัดกรองทีมงานให้ดี

"วันนี้ เป็น ผู้แทนราษฎรแล้ว วันนี้ เป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลที่คนคาดหวังสูงแล้ว ก็ควรประพฤติปฏิบัติตนให้เข้าที่เข้าทางเสียหน่อย อย่าให้ประชาชนที่ฝากความหวัง ต้องผิดหวัง คิดถึงเสียงกู่ร้อง แววตา ของประชาชนที่เราได้เห็นช่วงหาเสียงให้มา กๆ คิดถึงความตั้งใจของประชาชนที่กลับบ้านไปเลือกพรรคก้าวไกลให้มาก ๆ ถ้าทำได้เท่านี้ จะกี่เพจ จะกี่ปฏิบัติการไอโอ ก็ทำอะไรไม่ได้" นายปิยบุตร ระบุ

นายปิยบุตร ระบุด้วยว่า สส.และคนของก้าวไกลต้องพึงระวังเสมอว่า การครองตน การประพฤติปฏิบัติที่ถูกสังคมติฉิน ตั้งคำถาม ไม่ได้สร้างความเสียหายให้ตนเองตามลำพัง แต่มันกระทบทั้งพรรค คนทำงาน หาคะแนนนิยม สร้างผลงาน แบกพรรคไว้ แต่พอเจอเรื่องของคนในพรรคหรือ สส.ขึ้นมา ก็กระทบกันไปหมด

"ผมคนนอก ขอพูดตรงไปตรงมา เพราะ คนในพรรคอาจไม่กล้าพูดกันตรง ๆ แบบนี้ องค์กรแบบก้าวไกล คือ แบรนด์ แนวคิด อุดมการณ์ ไม่ได้ขายคนคนเดียวหรือไม่กี่คน ทุก ๆ คนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็อาศัยพลังของกันและกัน ไม่มีใครคนไหน ออกไปโตเดี่ยวแล้วจะรอด ชนะเลือกตั้งกันมา ก็คือแนวคิดและกระแสพรรคหนุนส่งเป็นสำคัญดังนั้น ทำอะไร ต้องคิดถึงพรรค เพื่อนร่วมพรรค สมาชิกพรรค และประชาชนที่เลือกมาให้มาก ๆ" นายปิยบุตร ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top