Wednesday, 22 May 2024
สร้างรายได้

‘นายกเทศมนตรีนครรังสิต’ ร่วมเสวนา การส่งเสริมและสนับสนุน ‘คนพิการมีงานทำ’ ในจังหวัดปทุมธานี

ณ เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี "ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง" นายกเทศมนตรีนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี  ให้การต้อนรับ "ผู้นำคนพิการ" เพื่อปรึกษาหารือ การสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ในจังหวัดปทุมธานี

ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง

โดยมี นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกก นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน / นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย / นางพัชรนันท์ นิธิยศจิระโชติ ผู้นำสตรีคนพิการ / นายณรงค์ศักดิ์ มณี ผู้ดำเนินรายการ "ไปกับมนุษย์ล้อ"  นำเสนอกฎหมายการจ้างงานคนพิการ เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในจังหวัดปทุมธานี ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างศักยภาพที่ดีต่อคนพิการและมุมมองทัศนคติการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐภาค/เอกชน และองค์กรคนพิการในทุกระดับ  ต่อไป

 

รมว.สุชาติ ส่ง เลขาสุเทพ ร่วมเปิดงานให้บริการรถไฟฟ้าสาย 8 เพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้สูงถึง 30,000 บาทต่อเดือน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด  ภายใต้สโลแกน “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เปิดโอกาส ป.ตรี เข้าทำงานสู่ภาคบริการรับรายได้สูงถึง 30,000 บาทต่อเดือน 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธ์ (มหาชน) จำกัด กล่าวต้อนรับ ณ อู่รถโดยสารสาย 8 เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อให้คนไทยมีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลดังกล่าวในการที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่กำลังแรงงานและให้บริการจัดหางานแบบครบวงจร และในวันนี้ได้มอบหมายให้ผมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบริการจัดหางานและพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะกับบริษัท ไทย สมายล์บัส จำกัด บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  

นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ร่วมกับบริษัทฯ จัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการขนส่งแล้วจำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร มาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า และหลักสูตร มาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งในหลักสูตรการฝึกนั้น พนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้าจะได้เรียนรู้การใช้งานเกี่ยวกับอุปกรณ์และระบบควบคุมของรถโดยสารระบบไฟฟ้า กฎ ระเบียบ มารยาท บุคลิกภาพ โครงสร้างอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกของรถโดยสารไฟฟ้า รวมถึงมาตรการการปฏิบัติกรณีฉุกเฉินได้ส่วนตำแหน่งพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ เทคนิคการให้บริการด้วยใจ การคิดเงิน ทักษะเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ E Payment รวมถึงการดูแลความเรียบร้อยภายในรถขณะเดินทาง เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทได้นำหลักสูตรที่จัดทำร่วมกันไปพัฒนาบุคลากรของตนเองแล้วกว่า 200 คน และสำหรับวันนี้ บริษัทได้เปิดให้บริการขนส่งรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 เขตบึงกุ่ม  และกำลังจะเปิดให้บริการอีกหลายสาย จึงมีความต้องการแรงงานเข้าทำงานทั้งตำแหน่งพนักงานขับรถและพนักงานต้อนรับบนรถโดยสารอีกหลายอัตรา มีเงินเดือนสูงถึง 30,000 บาท 

'ชัยวุฒิ' ชี้ช่องดึง 'เว็บพนันออนไลน์-บุหรี่ไฟฟ้า' ขึ้นมาบนดิน แก้กฎหมาย เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี พารัฐกระเป๋าตุง

จากคอลัมน์ 'เจ้าพระยา' ในสยามรัฐ ได้พูดถึงกรณีทุนสีเทาที่บานปลาย และแนวทางในการแก้ปัญหา โดยมีการเสนอแนวคิดจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า...

บานปลายกลายเป็นมหากาพย์กระทบต่อผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ สำหรับกรณี 'ทุนจีนสีเทา' หลังนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกลรับข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไปอภิปรายในศึกซักฟอกรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทว่า ที่เจอแรงกระแทกมากสุด กลับเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมฝ่ายค้านไปเสียงั้น 

“ปัญหาเรื่องทุนสีเทาเป็นปัญหาที่มีมานานแล้วหลายสิบปี เป็นปัญหาที่เราก็รู้กันอยู่ว่าธุรกิจที่ผิดกฎหมายในเมืองไทยมันมีเยอะ แล้วก็ทุกคนก็วิ่งเข้าหาผู้มีอํานาจ เพื่อจ่ายส่วย หรือว่าหาคนมาดูแลคุ้มครอง โดยรัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รัฐบาลพยายามแก้ปัญหานี้อยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ก็เห็นตรงกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นอกจากแก้ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ลงไปเอาจริงเอาจังในการปราบปรามแล้ว บางเรื่องอาจต้องมีการปรับแก้กฎหมายเพื่อเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เพราะต้องยอมรับว่า บางสิ่งบางอย่างในต่างประเทศเขาถูกกฎหมาย เช่น เรื่องธุรกิจบริการ ผับบาร์ที่เปิดตอนกลางคืน ประเทศอื่นเปิดหลังเที่ยงคืนได้ ขายเหล้าหลังเที่ยงคืนได้ เป็นเมืองไทยทําไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ก็ทําให้ชาวต่างชาติที่มาลงทุน มาท่องเที่ยวในเมืองไทย หรือชาวต่างชาติที่ต้องการดื่มหลังเที่ยงคืนจะต้องจ่ายส่วยเพื่อจะได้เปิดบริการกันได้ก็เกิดทุนสีเทา เกิดธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา เรื่องนี้เป็นตัวอย่างว่า เราควรต้องทบทวน ปรับแก้กฎหมายเพื่ออะไรที่เราคิดว่ารับได้ อะไรคิดว่าเป็นเรื่องสากล"

BLACKPINK จัดคอนเสิร์ตที่ฮานอย 2 วัน ดึงเงินเข้าเวียดนามได้ถึง!! 920 ล้านบาท

(7 ส.ค. 66) คอนเสิร์ตครั้งแรกในเวียดนามของวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อบระดับโลกอย่าง BLACKPINK สำหรับ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ซึ่งจัดขึ้น 2 รอบ เมื่อวันที่ 29 - 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา ณ My Dinh National Stadium ในกรุงฮานอย มีผู้เข้าชมกว่า 170,000 คน ส่วนยอดจำนวนของผู้เข้าชมจากต่างประเทศอยู่ที่ 30,000 คน

โดยการท่องเที่ยวของฮานอยรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 8% ในช่วงที่จัดคอนเสิร์ต BLACKPINK ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 26.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 920 ล้านบาทไทย จากชาวต่างชาติที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นของประเทศเวียดนามได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบริการของฮานอยด้วย เช่น โรงแรมในบริเวณใกล้เคียง My Dinh National Stadium ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นที่ 20% ในขณะที่ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ยังสร้างสถิติใหม่เป็นทัวร์คอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินหญิงที่สร้างรายได้สูงสุด โดยมีรายได้อยู่ที่ 78.5 ล้านดอลลาร์ จากการแสดงคอนเสิร์ต 26 รอบ ตามรายงานของ Touring Data

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร.(มค) ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายตำรวจท่องเที่ยว เด้งรับนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ

เมื่อวานนี้ (วันอังคารที่ 14 พ.ย.66) เวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(มค 4) เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการ โดยมี พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. และ รอง ผบช.ทท. ให้การต้อนรับ ในการมอบนโยบายการปฏิบัติราชการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร.(มค) ได้กำชับการทำคนน้อยให้เป็นคนมาก ตำรวจท่องเที่ยวต้องร่วมเข้าไปตรวจตราดูแลนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกับสถานีตำรวจ ต้องตรวจตามแผนการตรวจ พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ต้องป้องกันเหตุให้ได้ ต้องไม่มีเหตุเกิดกับนักท่องเที่่ยว หากเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว เราต้องให้ความสำคัญ ต้องกระตือรือร้น ตำรวจท่องเที่ยวต้องช่วยตำรวจพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย หากเป็นเหตุสำคัญ หรือคดีสำคัญ ผู้กำกับการต้องไปควบคุมกำกับดูแลด้วยตนเอง หากติดปัญหาทางตัว รอง ผบ.ตร. ก็จะช่วยแก้ปัญหา ประสานการปฏิบัติให้เอง จะไม่ปล่อยให้ลูกน้องต้องทำงานโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน 

ตำรวจท่องเที่ยวต้องหมั่นดูแลสถานทูต ต้องรู้จักประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตในพื้นที่ และช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวชาติต่าง ๆ ในการประชุมระดับจังหวัด สารวัตรท่องเที่ยวต้องรู้จักไปประชุมด้วยตนเอง เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ในจังหวัดได้ ไม่ใช่มอบรองสารวัตร หรือชั้นประทวนไปประชุม จนทำให้ตำรวจท่องเที่ยวไร้ตัวตนในการทำงานในพื้นที่สำคัญ หรือการทำงานระดับจังหวัด หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เช่น สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องประสานความร่วมมือตรวจสอบความปลอดภัย การบำรุงรักษาเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์เหล่านั้น เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยว และต้องรู้จักประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

อีกทั้งในสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ตำรวจท่องเที่ยวก็ต้องช่วยตำรวจพื้นที่ ออกตรวจพื้นที่ตามแผนการตรวจร่วมที่ได้ประชุมกำชับสั่งการไปแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็จะตรวจสอบผลการตรวจผ่าน ระบบ Police 4.0 ด้วยตนเอง หากพื้นที่ใดไม่ตรวจ ไม่มีผลการตรวจ ไม่ใส่ใจ ก็จะขอพบสารวัตรท่องเที่ยวที่รับผิดชอบเพื่อสอบถามถึงสาเหตุว่าติดขัดหรือมีปัญหาข้อขัดข้องประการใด แต่ถ้าไม่มีปัญหาใด ๆ ก็ต้องช่วยกันตรวจตามแผน ตามอำนาจหน้าที่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร.(มค) เน้นย้ำว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยตำรวจที่สำคัญ เป็นหน่วยตำรวจที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชางต่างชาติ มีส่วนในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ อันเป็นนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล นโยบายสำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจากชาติสำคัญ เช่น จีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน หรือการเปิดสถานบริการในพื้นที่สำคัญ เช่น กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ถึงเวลา 04.00 น. ตำรวจท่องเที่ยวก็ต้องตามให้ทัน ต้องปรับแผนการตรวจ การบริการนักท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top