Friday, 3 May 2024
สระบุรี

สระบุรี - ตำรวจสภ.มวกเหล็ก จับยาไอซ์ ได้ 450 กิโล ผู้ต้องหารับจ้างขนยาไอซ์ เพื่อนำส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ

วันที่ 6 เม.ย.64ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขณะออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณ ถ.สายบ้านหินลับ – บ้านแซลงพัน หมู่ที่13 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถกระบะ โตโยต้า แค๊ป สีบรอนทอง ติดฟิล์มทึบ ทะเบียน ขว8735 สกลนคร ได้วิ่งผ่านมาในพื้นที่ ลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกขอตรวจค้นรถคันดังกล่าว

ขณะนั้นรถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องเพื่อหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.แก่งคอย จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ไล่ติดตามเรียกรถคันดังกล่าวหยุดลง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในรถ ด้านหลังกระบะ พบ ยาไอซ์ จำนวน 450 กิโล  บรรจุใส่กระสอบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 9 กระสอบ โดยมี นาย ณรงค์ หรือหนู) ปัญจรี อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 50 หมู่ 6 ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เป็นผู้ขับรถ จึงนำตัวส่ง สภ.มวกเหล็ก ดำเนินคดี

ทางด้าน นาย ณรงค์ (หรือหนู)  ปัญจรี ( ผู้ต้องหา ) ให้การว่า เป็นคนรับจ้างขนยาไอซ์ดังกล่าว มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จ.สกลนคร  เพื่อนำส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ ในระหว่างขับรถมาตาม ถ.มิตรภาพ ช่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รู้ว่ามีด่าน ตรวจตามพื้นที่ จึงได้ใช้เส้นทางรัด จากปากช่องสู่จังหวัดสระบุรี  ในขณะขับมาในพื้นที่เข้าสู่ อ.มวกเหล็ก จึงได้ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกค้นและจับคุมดังกล่าว

ด้านนาย นาย ณรงค์ หรือหนู ปัญจรี ( ผู้ต้องหา ) เผยต่อว่า ตนรับจ้างจากเพื่อนเพื่อขนยาดังกล่าวไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยเพื่อนบอกว่าเป็นกัญชาอย่างเดียว ค่าจ้างขนจำนวน 40,000 บาท  จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคุมตัวในครั้งนี้  

ต่อมาที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นำโดย พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร  ผบทช.พ.1 และ พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.สว.จ.สระบุรี  พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี   ร่วมกันนำตัว นาย ณรงค์ หรือหนู ปัญจรี พร้อมของกลาง แถลงข่าวในครั้งนี้ต่อไป


ภาพ/ข่าว  ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

 

สระบุรี – จัดพิธีวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 2564

วันนี้ 25 เมษายน 2564 เวลา 08.30 น. ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี  นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานวางพวงมาลาถวายราชสักการะ และจุดธูป เทียนเครื่องทองน้อย อ่านประกาศถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว สร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย โดยในพิธีมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมพิธี ซึ่งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปัญหาโควิด-19 จำกัดจำนวนผู้ร่วมงาน  ใส่หน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิ  เว้นระยะห่าง

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันท์ เมื่อปีพุทธศักราช 2098 ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโขทัย ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาเมื่อมีพระชนมายุได้ 9 พรรษา พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า ทรงขอไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรมเพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดี ซึ่งในขณะนั้น กรุงศรีอยุธยาตกอยู่ในความปกครองของพม่า จนพระชนมายุได้ 15 พรรษา จึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก พ.ศ.2127 ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ณ เมืองแครง ประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป และทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2133 ในรัชสมัยของพระองค์ทรงกระทำสงครามขยายพระราชอาณาจักรไทย ให้แผ่ไพศาลไปในจตุรทิศ ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชแห่งกรุงหงสาวดี เมื่อปี พ.ศ.2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ.2148 ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา รวมเวลาที่ทรงขึ้นครองราชย์นาน 15 ปี​


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์​ ชื่นจินดารายงาน

สระบุรี – ชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง แห่เก็บแมงเม่าทำอาหารรสเด็ด 1 ปีจะมีแค่ครั้งเดียว

วันที่ 3 พ.ค. 64 ชาวบ้าน หมู่ 4 ตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี  แห่ออกหาแมลงเม่า บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร และข้างถนนโพธิ์พระยา- ท่าเรือ ซึ่งมีแมลงเม่าเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ตามพื้นศาลาพักผู้โดยสาร และเกาะอยู่ริมถนน แมลงเม่าลักษณะจะมีปีกและจะออกมาเล่นแสงไฟตามบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนไฟส่องสว่างตามถนน ซึ่งส่วนใหญ่แมลงเม่าจะมีออกมาให้เห็นช่วงฤดูฝนเท่านั้น ปีนึ่งจะมีให้เห็นเพียงครั้งเดียว เป็นที่ต้องการของนักเปิบอาหารแปลกรสชาติอร่อย นำไปแช่น้ำเพื่อให้ปีกของแมลงเม่าหลุดออก แล้วนำตัวไปใส่กระทะคั่ว ใส่น้ำปลาเล็กน้อย อร่อยอย่าบอกใคร

ด้านนายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่4 ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี วันนี้ตนได้มากับแม่เพื่อออกหาเก็บแมลงเม่า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในวันนี้ได้พบแมลงเม่าเป็นจำนวนมากที่บริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมทาง เล่าว่าปีนึ่งจะมีแมลงเม่าสักครั้ง มีเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น  แมลงเม่าที่ได้ไปจะนำไปคั่วใส่น้ำปลานิดหน่อย รสชาติจะออกมันๆ กินเล่นก็ได้หรือกินกับข้าวสวยร้อนก็อร่อย วันนี้ตนได้แมลงเม่าจำนวนมากหนักประมาณ 3 กิโลกรัมได้  ซึ่งแมลงเม่าจะหาได้ยากมากและเป็นที่ต้องการของชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ 

(สัมภาษณ์ นายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง)


ภาพ/ข่าว  ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

สระบุรี - ประธานผู้บริหาร"สระบุรีวณิชชากร กรุ๊ป" มอบทุนทรัพย์สนับสนุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และสร้างอาคาร ICU ให้กับโรงพยาบาลสระบุรีและโรงพยาบาลพระพุทธบาท มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

วันที่ 6 พ.ค.64 เวลา 10.30 น. ณ อาคารสำนักงาน หจก.สระบุรีวณิชชากร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ท่านดร.มงคล ศิริพัฒนกุล ประธานบริหาร สระบุรีวณิชชากร กรุ๊ป มอบทุนทรัพย์เพื่อสนับสนุนโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และสร้างอาคารและห้องแรงดันลบ (Negative Pressure Room) ICU​ คล้ายโรงพยาบาลสนาม​ ของโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อให้สามารถใช้รองรับการรักษาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัส​โค​โร​นา​2019​ ซึ่งแพร่กระจายได้ทางอากาศและผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงได้มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เป็นจุดเริ่มต้นโดยมีนายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี พร้อมคณะ เข้ารับมอบโดยมีนายธนาพล จีรเดชภัทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค สระบุรี นายสุชนต์ สิงห์เหนี่ยว เลขาฯ ผอ.รพ.สระบุรี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบในครั้งนี้

จากนั้น ดร.มงคล ศิริพัฒนกุล ได้มอบทุนทรัพย์สนับสนุนเพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะนำมาให้บริการแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลพระพุทธบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 500,000 บาทมีนายแพทย์ธงชัย เขมรัตน์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระพุทธบาทพร้อมคณะ เป็นผู้แทนรับมอบมีนายธนาพล จีรเดชภัทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค สระบุรี ร่วมมอบด้วย ดร.มงคล​ ศิริพัฒนกุล​ ได้กล่าวว่าเราต้องร่วมช่วยกันในยามที่บ้านเมืองมีวิกฤต​ ในสถานการณ์ปัจจุบัน อุปกรณ์ทางการแพทย์เช่นออกชิเจน​  อาคารICU ที่ขาดแคลนและมีความสำคัญมาก โดยทุกโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ครบครัน เช่น เครื่องช่วยหายใจ เพื่อใช้ช่วยชีวิตคนไข้ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาและเปลี่ยนคนไข้จากกลุ่มสีแดง ที่มีอาการรุนแรง เพื่อไปยังกลุ่มสีเหลือง ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง ให้ผ่านวิกฤตและปลอดภัย จนไปสู่กลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยรวมทั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและระหว่างการตรวจรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องนึกถึงความสำคัญของการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อจากการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อีกด้วย/ดำรงค์ชื่นจินดารายงาน

สระบุรี - เจ้าหน้าที่ อบจ.สระบุรีและกำลังพลกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เร่งสร้าง รพ.สนาม เฟสแรก 450 เตียง ในโรงเก็บเครื่องบิน

จากข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 121 ราย 108 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนหน้า และวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงอายุ 79 ปี มีประวัติติดเชื้อคนในครอบครัว รวมเสียชีวิตสะสม 22 ราย ติดเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศ

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลศูนย์สระบุรี โรงพยาบาลพระพุทธบาท และโรงพยาบาลสนามทุกแห่งขณะนี้มีผู้ป่วยเต็มทุกที่ และยังมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างการรอส่งตัวไปรักษาทั้งนี้นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานทั้งท้องถิ่น ส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมมือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม

โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรีสนับสนุนงบประมาณดำเนินการสร้างร่วมกับบริษัท SCG หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีและกรมควบคุมโรค เข้าเริ่มดำเนินการโดยในวันนี้พันเอกศรัณย์ รอดบุญธรรม ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ พร้อมด้วยนายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกฯ อบจ.สระบุรี ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรีและกำลังพลจากกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ได้ร่วมกันปรับปรุง ทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมเตรียมนำอุปกรณ์ เครื่องนอน สิ่งของจำเป็นและเครื่องอำนวยความสะดวกเข้าไปในพื้นที่ โดยขณะนี้กำลังวางระบบระบายอากาศภายในอาคาร การสื่อสารกำหนดสถานที่ทิ้งขยะติดเชื้อ สร้างห้องทีมแพทย์ ห้องรับผู้ป่วย ห้องจ่ายอาหารสำหรับผู้ป่วย ติดตาข่ายกันนก,ติดมุ้งลวดกันยุง วางระบบสุขาภิบาล ห้องน้ำ ห้องส้วม  

คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบซึ่งในเฟสแรก จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ก.ค.2564  จำนวน 150  เตียง โดยจะเริ่มดำเนินการเร่งติดตั้งในเฟสที่ 2 และ 3 อีกเฟสละ 150 เตียง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ค.64 รวมทั้ง 3 เฟสจะมีจำนวน 450 เตียงไว้รองรับผู้ป่วย

สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ของจังหวัดสระบุรีล่าสุด มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษา 121 ราย ผู้ป่วยสะสม ระบาดระลอกใหม่ 3,027 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,369 ราย ผู้ป่วยรักษาหาย 1,636 ราย และมี ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22 ราย และส่งตรวจหาเชื้ออีก 540 ราย  กักตัวในสถานกักตัว (LQ) 284 ราย กักตัวอยู่บ้าน (Home Q) 250 ราย  รวมส่งตรวจหาเชื้อสะสมแล้ว 56,933 ราย

สัมภาษณ์ นายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกฯ อบจ.สระบุรี


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์  ชื่นจินดารายงาน

สระบุรี – รับมอบเครื่องช่วยหายใจและชุดถังออกซิเจน จากผู้มีจิตกุศลบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี / นายสมภพ สมิตะสิริ พร้อมด้วย นายเอกพร จุ้นสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี / นายพลวรรธน์  เทียนชัยมงคล ปลัดจังหวัดสระบุรี รับมอบเครื่องกำเนิด oxygen ชนิดไฟฟ้า ขนาด 10 L จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 42,000 บาท และถังบรรจุ oxygen พร้อมหัวจ่าย จำนวน 4 ถัง ราคาประมาณ 5,500 บาท/ถัง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 64,000 บาท  จากนางรพีพร เหลืองอร่ามรัตน์ เจ้าของคอนโดเลควิว สระบุรี ที่มีความประสงค์มอบเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดสระบุรี ที่มีอาการรุนแรงและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

สำหรับจังหวัดสระบุรี ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ยืนยัน ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2564 จำนวน 348 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย 136 ราย มีผู้เสียชีวิต 4 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 16,894 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายสะสม 2,147 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสม 12,734 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 147 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล สีเขียว 954 ราย สีเหลือง 789 ราย สีแดง 77 ราย รักษาอาการที่ศูนย์โควิดชุมชน 96 แห่ง 1,960 ราย แยกรักษาที่บ้าน 2,380 ราย ยอดรวมการรับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 147,369 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 66,965 ราย


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์ ชื่นจินจินดา รายงาน

สระบุรี - รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค” ให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ในเขตตำบลตาลเดี่ยว

วันนี้ 25 ส.ค. 64 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค” ให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ในเขตตำบลตาลเดี่ยว โดยมี นายอำเภอแก่งคอย นายก อบต.ตาลเดี่ยว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี และบุคลากรทางการแพทย์ ให้การต้อนรับ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้พบปะทักทายเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายซึ่งมาให้บริการประชาชน รว และให้กำลังใจกับประชาชนที่มารอรับการฉีดวัคซีน ซึ่งวันนี้มีกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ที่ได้ลงทะเบียนไว้ และมารับบริการ รวม 1,000 คน

สำหรับตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายแห่ง และช่วงที่ผ่านมาพบว่าเกิดคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอแก่งคอยหลายแห่ง ทำให้พนักงานในโรงงานนำเชื้อมาติดคนในครอบครัวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรค สตรีมีครร 12 สัปดาห์ขึ้นไปให้เร็วที่สุด


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน

สระบุรี - รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกินจำนวน 2 หมื่นโดส ให้สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม หยุดการแพร่ระบาดโรคลัมปีสกินในโคนมแบบยั่งยืนต่อไป

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ จังหวัดสระบุรี เพื่อส่งมอบวัคซีนป้องกันไวรัสลัมปีสกิน(Lumpy Skin Disease) ให้กับประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค เพื่อจัดสรรให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่อยู่ในพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค. โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายชาญชัย จุลโลบล ปศุสัตว์จังหวัดสระบุรีและนายสุรักษ์ นามตะ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ค จำกัด นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค. ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ตลอดจนเกษตรกรและผู้นำภาคประชาชนเข้าร่วมงานและให้การต้อนรับ ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนม ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

โดยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ว่าตามที่ประเทศไทยได้พบการระบาดของโรคลัมปีสกิน ในโค กระบือ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเฉพาะในโค กระบือ ไม่เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ผ่านมาได้มีการมอบเวชภัณฑ์ยาฆ่าแมลงพร้อมถังฉีดพ่นให้กับสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์คในเขตพื้นที่ภาคกลางจำนวน 16 สหกรณ์ ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันโรคที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเพื่อความยั่งยืนในการควบคุมโรค จึงได้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกิน ให้กับชุมนุมสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ค จำกัด เพื่อนำไปจัดสรรให้กับสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมที่อยู่ในพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค. อย่างทั่วถึงในครั้งนี้จำนวน 20,000 โดส ในการนำไปฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่โคนมและหยุดการแพร่ระบาดโรคลัมปีสกินในโคนมแบบยั่งยืนต่อไป

รมช.มนัญญาฯ กล่าวด้วยว่า "ตนในฐานะผู้ดูแลกำกับ อ.ส.ค. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคล้มปีสกินในฟาร์มโคนมของเกษตรกรอย่างมาก ที่ผ่านมาได้กำชับให้ อ.ส.ค. และเกี่ยวข้องเข้มงวด กวดขันและจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในพื้นที่การเลี้ยงโคนมทั้งภายใต้การดูแลของ อ. ส. ค.และฟาร์มทั่วไป เพื่อไม่ให้เกษตรกรมีความเดือดร้อนและได้รับความเสียหายจากสัตว์ที่ส้มตาย ล่าสุดมติคณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 64 งบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปีสกิน ในโค-กระบือ วงเงินงบประมาณจำนวน684,218,000 บาท ทราบว่ากรมปศุสัตว์ได้นำเข้าวัคซีนลัมปีสกิน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 แล้ว รวม 360,000 โดส และเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 อีกจำนวน 137,000 โดส จากแผนที่เตรียมจัดสรรทั้งหมด 5 ล้านโดส ซึ่งหากวัคซีนได้รับการจัดสรรไปยังเกษตรกร และสหกรณ์ฯ อย่างทั่วถึงก็จะช่วยให้การแพร่ระบาดค่อยๆ ลดลงอย่างแน่นอน ทุกวันนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) อยู่แล้ว กระทรวงเกษตรฯไม่อยากให้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในโคนมเข้ามาซ้ำเติมความเดือดร้อนของเกษตรกรซ้ำเข้าไปอีก การส่งมอบวัคซีคจำนวน 2 หมื่นโดส ในวันนี้จึงถือเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและหยุดการแพร่ระบาดโรคลัมปีสกิน ในโคนม

สระบุรี – จัดพิธีมอบธงสัญลักษณ์หมู่บ้านสีฟ้า ปลอดโควิค! และประกาศเจตนารมณ์หมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19

วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 10:00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอดอนพุด นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน ในพิธีมอบธงสัญลักษณ์ หมู่บ้านสีฟ้าปลอดโควิคและประกาศเจตนารมณ์หมู่บ้านนี้ไม่มี covid-19 โดยมีนางสาว​ญาณิพัชญ์ ศรี​โคตร นายอำ​เภอ​ดอนพุดได้กล่าวรายงานให้การต้อนรับในการมอบธงสัญลักษณ์หมู่บ้านสีฟ้าปอด covid ให้แก่ตัวแทนหมู่บ้านจำนวน 28 หมู่บ้าน และตัวแทนหมู่บ้าน 28 หมู่บ้านร่วมประกาศเจตนารมณ์บ้านนี้ไม่มีโควิด-19

จากนั้นนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีได้มอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกับคณะได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการการขับเคลื่อนหมู่บ้านสีฟ้าปลอดโควิด-19 ของอำเภอดอนพุดในการขับเคลื่อนหมู่บ้านของจังหวัดสระบุรี โดยมีดร.บุญมา อิ่มวิเศษ และคณะลงพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี เพื่อถ่ายทำ วีดีทัศน์ประชาสัมพันธ์ในการขับเคลื่อนของหมู่บ้านสีฟ้า อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน

สระบุรี - พิธีมหาพุทธาภิเษก หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่น “ประวัติศาสตร์ตำรวจ”

ณ วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ตำบลคชสิทธิ์ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ได้รับความเมตตาจาก ท่านประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิตภาวนาฯ โดยมี พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธี มหาพุทธาภิเษก หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่น “ประวัติศาสตร์ตำรวจ”

มี พลตำรวจตรี ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี / พันตำรวจเอก สถิตย์ สังข์ประไพ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรหนองแค พร้อมด้วย นาย สุนทร เข็มนาค นายกเทศมนตรีตำบลหนองแค / ดร.มงคล ศิริพัฒนกุล ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 / คุณแววตา หัฏฐะพงศ์ ที่ปรึกษา กต.ตร. สภ.หนองแค พร้อมคณะกต.ตร.สภ. หนองแค ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมในพิธี

โดยรายได้ในการบูชาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่น ประวัติศาสตร์ตำรวจ โดยที่มีคนสั่งจองไว้หมดแล้ว รวมประมาณ 15,000,000, บาท โดยได้นำเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 2 ไร่ 2งาน 71 ตารางวา โดยทำการโอนที่ดินเรียบร้อยแล้มีนาย สุนทร เข็มนาค นายกเทศมนตรีตำบลหนองแค พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค จ.สระบุรี ในฐานะประธานจัดสร้าง พิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่น ประวัติศาสตร์กรมตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ตำรวจ เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่นประวัติศาสตร์กรมตำรวจ เพื่อหารายได้ซื้อที่ดินให้กับ สภ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อเพิ่มขยายโรงพักให้กับประชาชนไว้ใช้บริการอย่างสะดวกสบาย

ส่วนวัตถุมงคลของหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ รุ่น ประวัติศาสตร์กรมตำรวจ ได้มีประชาชนสั่งจองไว้หมดแล้ว ได้เงินเป็นจำนวน 15 ล้าน 5 แสนบาท ตามเจตนารมณ์ที่ต้องการซื้อที่ดินสองแปลง พื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน ติดกับโรงพักหนองแค เพื่อเพิ่มขยายโรงพัก ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการอย่างสะดวกสบาย โดยมอบให้กับกระทรวงการคลัง โดยมีธนารักษ์พื้นที่ จังหวัดสระบุรี เป็นผู้รับมอบ เป็นของทางราชการ แล้วได้มอบให้กับ สภ.หนองแค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top