Thursday, 2 May 2024
สดช

สานฝัน ปันรักเพื่อน้อง กิจกรรมดีดีที่เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ขับเคลื่อนให้สังคมไทยพัฒนา ด้วยการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 66 นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พร้อมด้วยนางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายภาณุวัฒน์ สุขสบาย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนกองทุน พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงพื้นที่จัดกิจกรรม ‘สานฝันปันรักเพื่อน้อง ครั้งที่ 2’ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านปาเกอะญอ) อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และรอยยิ้มให้กับน้อง ๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ด้วยการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลแก่นักเรียนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “สดช. มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพราะเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูง รองรับรูปแบบและปริมาณการใช้งานในอนาคต และยังช่วยส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ”

การจัดกิจกรรมสานฝัน ปันรักเพื่อน้อง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี 2566 ที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเพื่อรับทราบความต้องการของนักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านปาเกอะญอ) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างแท้จริง โดยพบว่า เส้นทางการเดินทางมาโรงเรียนเป็นการเดินทางที่ยากลําบากและใช้ระยะเวลานาน รวมถึงการเข้าถึงสาธารณูปโภคยังมีความขาดแคลน เช่น มีข้อจํากัดเรื่องไฟฟ้า บางส่วนต้องใช้โซลาร์เซลล์เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้นักเรียนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ยากกว่าปกติ ทําให้การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป

ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการจัดตั้ง ‘ศูนย์ดิจิทัล ชุมชนอินทรีอาสา’ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคมตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของ สดช. เพื่อให้เกิดการรู้จัก เข้าใจ ใช้ได้ ใช้เป็น และมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลมากยิ่งขึ้น

โดยนายภุชพงค์ กล่าวว่า “ในวันนี้ สดช. ได้นํากิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล มาสอนให้เด็กๆ ให้ทราบถึงประโยชน์ การใช้งานอย่างระมัดระวังที่เหมาะสมกับวัย รวมถึงให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ แท็บเล็ต เพื่อใช้ค้นคว้าหาความรู้ และเล่นเกมส่งเสริมทักษะต่างๆ ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศที่มีสีสันและเห็นถึงความสุขของทุกคนที่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรม”

ส่วนนางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้นแล้ว ยังได้สร้างรอยยิ้มและขวัญกำลังใจ ด้วยการทำสาธารณะประโยชน์ เช่น ทาสีอาคารเรียน และมอบสิ่งของบริจาคที่จําเป็นแก่นักเรียนและชุมชนรอบข้าง ได้แก่ อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้านักเรียน ข้าวสารอาหารแห้ง และขนม เป็นต้น รวมไปถึงการสนับสนุนของใช้ที่จําเป็นแก่โรงเรียน ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องเขียน กระดาษสำหรับถ่ายเอกสาร อุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำห้องครัว และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพื่อให้โรงเรียนนําไปต่อยอดบริหารจัดการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนต่อไป”

ทั้งนี้ กิจกรรมสานฝันปันรักเพื่อน้อง เป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินงานเพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ของ สดช. และกองทุนดิจิทัลฯ โดยนายภุชพงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอขอบคุณผู้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทุกท่าน ที่ได้ร่วมบริจาคสิ่งของมากับ สดช. น้ำใจจากทุกท่านที่ได้รวบรวมมาในวันนี้ ได้ส่งต่อให้น้องๆ เยาวชน ได้มี อุปกรณ์การเรียน และสิ่งของจําเป็นต่างๆ ไว้ใช้ทํากิจกรรมที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังให้เด็กนักเรียนและเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร เกิดการรับรู้ เข้าใจถึงบทบาทการดําเนินงานของ สดช. และขยายผลไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องและเหมาะสม พร้อมทั้งยังได้ร่วมสนับสนุนการศึกษาและสังคม โดยจะมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่อื่นต่อไป”

สดช.’ จัดอบรมเสริมทักษะ-พัฒนาความรู้ภารกิจกองทุนฯ มุ่งสู่การบริหารรัฐกิจแนวใหม่ เปี่ยมคุณธรรม

วันที่ (6 มิ.ย. 66) กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับภารกิจของกองทุนฯ เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะ พร้อมเสริมสมรรถนะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ห้องแกรนด์บอลรูม 2 ชั้น

โดยได้รับเกียรติจาก นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมและเป็นวิทยากรการบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “ธรรมาภิบาล : หลักการเพื่อการบริหารรัฐกิจแนวใหม่ และคุณธรรม จริยธรรม การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภาครัฐ” พร้อมด้วย นางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบุคลากรกองทุนฯ ได้ร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้

 

‘สดช.’ ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ เชื่อมโยงข้อมูลการแพทย์ ยกระดับการรักษาพยาบาลเพื่อ ปชช.

คณะผู้บริหาร สดช. ลงพื้นที่ม.เชียงใหม่ ติดตามผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District)

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 66 นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร พร้อมด้วย นางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อํานวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะผู้บริหาร และข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยโครงการฯ ดังกล่าว เป็นโครงการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางและประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยี 5G ในการส่งเสริมการให้บริการการแพทย์ 5G Smart Ambulance สำหรับบริหารจัดการรถพยาบาลแบบรวมศูนย์ และ Telemedicine สำหรับโรงพยาบาลประจำอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง รวม 20 แห่ง โดยผู้รับทุนกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานดังกล่าวในแผนการดำเนินโครงการ มีแหล่งข้อมูล (Big Data) เพื่อนําไปวิเคราะห์และประมวลผลต่อในด้านการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสมต่อประชากรในท้องถิ่นระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกลุ่มข้อมูลแบบเรียลไทม์

ปัจจุบันโครงการฯ ดังกล่าว มีระบบที่สามารถเชื่อมข้อมูลได้อย่างน้อย 15 โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลอื่น ๆ ในภาคเหนือ ซึ่งการทำงานของระบบแบบ Real Time สามารถพูดคุยเพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ระบบ Telemedicine ได้นำมาใช้เฉพาะเจาะจงในการติดตามรักษาโรคเรื้อรัง เช่น หัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือด หัวใจล้มเหลว ไตเรื้อรัง เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top