Sunday, 19 May 2024
วีระกรคำประกอบ

‘วีระกร’ เชื่อ ‘ภูมิใจไทย’ กวาด ส.ส.เกิน 120 คน ชี้!! ‘เสี่ยหนู’ นั่งนายกฯ ต่อจาก ‘บิ๊กตู่’ แน่นอน

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายวีระกร คำประกอบ อดีตส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า คงไม่มีการชวนใครมาจากพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคเก่าที่อยู่กับเขามาถึง 4 ปี เป็นพรรคที่ดี ไม่ใช่ว่าเราออกมาด้วยเหตุผลเป็นพรรคที่ไม่ดี หัวหน้าพรรคก็ใจดี แต่สิ่งที่ตนต้องขออนุญาตว่าทำไมต้องย้ายมาพรรคภูมิใจไทยขอให้เหตุผล 2 ข้อ เรามีความคล่องตัวการทำงานการเมืองมากกว่า เราเจอกันในสภา เป็นนักการเมืองด้วยกันเจอกันอยู่ตลอด มีอะไรปรึกษาหารือกันได้ตลอด แต่ถ้าอยู่พรรคเดิมอาจจะต้องใช้เวลาที่จะพบกับหัวหน้าพรรค ไม่ได้พบกันแบบง่าย ๆ ข้อที่ 2 ตนมั่นใจในนโยบายพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ตนชอบใจมาก และสนับสนุนมาตลอดก็คือเรื่องที่ไม่ยอมขายหรือต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับผู้ถือสัปทาน เพราะอีกไม่กี่ปีจะกลับมาเป็นของประชาชนแล้ว

เมื่อถามว่า ได้ลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเก่าหรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า จริง ๆ ตนคุยกับพล.อ.ประวิตรมา 2-3 เดือนแล้ว ตนพยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจแล้วว่าตนมีปัญหาอะไรในเรื่องงาน อย่างที่เล่าว่าตนไม่ค่อยคล่องตัวในการที่จะทำงานอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ หลาย ๆ เรื่องจะทำอะไรต้องรอฟังหัวหน้าพรรคก่อน การรอบางทีมันนานเกินไปมันไม่คล่องตัว ต้องเข้าตามระเบียบเขา ซึ่งไม่เหมือนนักการเมืองจะเจอกันทุกวันในการประชุมสภา 

เมื่อถามว่า แต่ช่วงหลังพล.อ.ประวิตร ได้แต่งตั้งเป็นรองผอ.พรรค นายวีระกร กล่าวว่า เมื่อตนพูดไปแล้วหัวหน้าพรรคคงเข้าใจแล้วว่าตนจะลาออกท่านจึงให้ตำแหน่งนี้มา ตนก็เรียนกับท่านว่าอย่างนั้นตนจะเริ่มทำงานเลย เพราะตนเข้าใจว่าจะเข้าพบได้ง่ายแล้ว 

เมื่อถามว่า แล้วฟางเส้นสุดท้ายคืออะไร นายวีระกร กล่าวว่า ฟางเส้นสุดท้ายคือท่านบอกว่า “จะทำอะไรให้มาขอผมก่อน” ตนเข้าใจการไปพบผู้ใหญ่ต้องรอ แต่นักการเมืองด้วยกันไม่ต้องรอ คล่องตัวกว่า แต่สิ่งที่คุยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้ความเมตตา เข้าใจในเรื่องของเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องโรงงานปุ๋ย ตนมาคุยกับนายอนุทินเรื่องนี้เลยชวนตนมาช่วยพรรค

'ภูมิใจไทย' ชูนโยบาย 'แก้วิกฤติปุ๋ยแพง' ช่วยเหลือเกษตรกร ดันสร้างโรงงาน - ใช้ก๊าซในอ่าวไทยผลิตปุ๋ยยูเรียราคาถูก

'ภูมิใจไทย' ปิ๊งไอเดียใช้ก๊าซฯ อ่าวไทยผลิตปุ๋ยราคาถูก ฝ่าวิกฤตต้นทุนเกษตรกรพุ่ง 'วีระกร' ห่วงชาวนาจมทุกข์-แบกหนี้บาน เหตุถูกปล้นค่าปุ๋ยเพิ่มไร่ละ 1.1 พันบาท ชงนโยบายแก้วิกฤตปุ๋ยแพง ดันสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยราคาถูก กระสอบละไม่เกิน 600 บาท แค่แบ่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยวันละ 2% มาผลิต มั่นใจไม่กระทบกำลังผลิตไฟฟ้า

นายวีระกร คำประกอบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการ 'พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ' เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก และยูทูบพรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบายด้านการเกษตรของพรรคภูมิใจไทยว่า ชาวนา แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นาลุ่ม หรือนาในเขตชลประทาน กับ นาดอน 

โดย นาลุ่ม หรือนาในเขตชลประทานจะให้ผลผลิตที่สูงกว่า ได้ประมาณ ไร่ละ 1 ตัน หรือ 1 เกวียน ขณะที่พี่น้องชาวนาดอนอาศัยแต่น้ำฝน ปีหนึ่งจะทำนาได้เพียงครั้งเดียว ผลผลิตได้เพียง 600 กิโลกรัมต่อไร่ ก็จะมีรายได้น้อยกว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือก อยู่ที่ 8,000 บาทต่อตัน เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวนาลุ่มจะมีรายได้ไร่ละ 8,000 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 5,000 บาท ก็จะมีกำไร ไร่ละ 3,000 บาท แต่ในปีที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาราคาปุ๋ยที่สูงจากกระสอบ 50 กิโลลกรัมละ 600 กว่าบาท ขึ้นไปเป็น 1,700 บาทต่อกระสอบ โดยชาวนาจะใช้ปุ๋ย 1 ลูกต่อ 1 ไร่ ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นไร่ละประมาณ 1,100 บาท

“นาข้าว 1 ไร่ ใช้ปุ๋ยประมาณ 1 ลูก แปลว่า 1 ไร่ของพี่น้องชาวนา จะมีค่าใช้จ่าย หรือต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น มาถูกปล้นค่าปุ๋ยไป ไร่ละ 1,100 บาท จะเห็นได้ว่า ชาวนา ไม่ว่าจะเป็นนาลุ่ม หรือชาวนาดอน ที่ทำนาทั้งประเทศ 65 ล้านไร่ ไม่มีใครมีความสุข มีแต่ความทุกข์ตลอด” นายวีระกร ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top