Saturday, 5 July 2025
วิปรัฐบาล

‘วิปรัฐบาล’ หัก ‘ฝ่ายค้าน’ ยึดคืนเวลา ‘ซักฟอก’  ดึงเวลาคืนรัฐตอบทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม

(1 เม.ย.67) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมวิปรัฐบาลถึงการทบทวนเวลาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า กรอบที่ฝ่ายค้านขอมาทั้งหมดคือ 22 ชม. ฝั่งรัฐบาลรวมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 6 ชม. เมื่อดูแล้วครม.มีเวลาชี้แจง 4 ชม. และการอภิปรายตามมาตรา 152 คือการกล่าวหารัฐบาล เมื่อฝ่ายค้านกล่าวหาก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องตอบคำถามให้กระจ่างแจ้ง แต่ปัญหาคือเมื่อเรากลับไปดูการอภิปรายตามมาตรา 153 ของวุฒิสภาที่ผ่านมานั้น พบว่ารัฐมนตรีบางคนมีเวลาตอบแค่ 2 นาที หากได้เวลาน้อยก็จะทำให้รัฐมนตรีไม่มีโอกาสชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหาย หากตอบไม่ครบ ฝ่ายค้านก็จะบอกว่ารัฐมนตรีไม่กล้าตอบ หนีตอบคำถาม ดังนั้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โดยต้องขอเวลาเพิ่มเพื่อให้รัฐบาลได้มีโอกาสตอบ ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับฝ่ายค้านอีกครั้ง

“ผมมองว่าฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อยต้องได้เวลา 10 ชม.ขึ้นไป ฝ่ายค้านก็ต้องลดลงมาจาก 22 ชม. อาจจะเหลือ 18 ชม. ก็ถือว่ามากกว่ากันเท่าตัว ฉะนั้น การอภิปรายก็เพื่อให้มีการตอบให้ประชาชนหายข้องใจ เพราะถ้าฝ่ายค้านเอาเวลาไป 22 ชม. แล้วให้รัฐบาล 4-6 ชม. ก็ไม่ได้ และเมื่อหักเวลาประท้วงแล้ว รัฐบาลก็ได้ไม่น่าจะเกิน 4 ชม. ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถตอบได้ทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม” นายวิสุทธิ์ กล่าว

‘ประธานวิปรัฐบาล’ ดักคอ ‘ก้าวไกล’ เสนอเพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อหวังเอาคะแนน ชี้!! สส. ต้องมีเวลาลงพื้นที่ ‘รับฟัง-แก้ไขปัญหา’ ให้ประชาชน รวมทั้งประชุม กมธ.

(6 ก.ค.67) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญให้มากขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่หากย้อนไปดูในอดีต เราจะมีการประชุมสภาฯ เริ่มในช่วงบ่ายของวันพุธและวันพฤหัสบดี พอมาถึงในยุคของนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ ก็ให้เพิ่มการประชุมมาเป็นวันพุธเต็มวันและวันพฤหัสบดี ดังนั้นหากมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณากฎหมายสำคัญ อาจจะเพิ่มการประชุมในวันศุกร์อีกวันหนึ่งก็พอได้ แต่ถ้าจะเพิ่มวันประชุมเป็น 4-5 วันเลยคงจะไม่ไหว เพราะ สส.ก็ต้องมีการประชุมพรรคและประชุมกรรมาธิการฯ ชุดต่าง ๆ

ดังนั้นหากเป็นเรื่องเร่งด่วนจะเพิ่มการประชุมในวันศุกร์อีกหนึ่งวันอาจจะพอได้ ทั้งนี้ ขอให้มานั่งประชุมสภาฯ ให้ครบทั้งสองวัน นั่งประชุมกันให้เต็ม ๆ ก็น่าจะพอแล้ว

“ผู้แทนเขตโดยเฉพาะที่อยู่ต่างจังหวัดน่าเห็นใจ เพราะประชาชนในพื้นที่อยากเห็นหน้า ยิ่งเวลามีปัญหาทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง ก็อยากให้ผู้แทนเข้ามาดูและรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด เข้าใจว่า สส.พรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่เป็น สส.บัญชีรายชื่อและ สส.กทม.จึงอาจจะไม่ต้องไปลงพื้นที่เหมือนกับ สส.พรรคอื่น ๆ ดังนั้นอย่าคิดจะประชุมเพื่อหวังเอาคะแนนลอย ๆ” นายวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

‘วิสุทธิ์’ รับโควตา ‘รองประธานฯ คนที่ 1’ เป็นของ ‘ภูมิใจไทย’ ‘เพื่อไทย’ ไม่ส่งใครไปแย่ง ชี้!! ‘พิเชษฐ์’ ไม่ขอสลับ-ไม่ขอลาออก

(11 ส.ค. 67) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงโควตาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ว่า โควตาดังกล่าวเป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะให้ใครดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งใครไปชิงตำแหน่งนี้ และไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่1กับรองประธานสภาฯคนที่ 2 ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย เพราะนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พรรคเพื่อไทย ไม่ขอสลับ และไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง ตอนนี้โควตารองประธานสภาฯคนที่1 เป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องรอการหารือวิปรัฐบาล ในวันที่ 13 ส.ค อีกครั้ง

"มั่นใจไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน การเป็นรองประธานสภาคนที่ 1หรือคนที่ 2 ไม่ต่างกัน เท่าเทียมกัน การทำงานใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่สำนักงานที่อยู่ในความดูแลที่ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมอบให้ใครดูแลงานด้านไหน  ไม่มีการก้าวก่ายกันอยู่แล้ว เชื่อมั่นการทำงานจะเป็นไปด้วยความราบรื่น" นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาปรับโควตาตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร หลังจากเสียงสส.ของพรรคประชาชนลดลง 5 เสียงนั้น ส่วนตัวเห็นว่า จำนวนสส.ของพรรคประชาชนที่หายไป 5 คน ลดลงแค่เล็กน้อย ดูแล้วคงยากที่จะให้มาสลับตำแหน่งกันใหม่ อัตราส่วนยังคงใกล้เคียงของเดิมอยู่ คงไม่ถึงขั้นมีผลกระทบให้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญของพรรคประชาชนต้องมาทบทวนกันใหม่ อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของตนเท่านั้น จะต้องมาคุยกันในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 13 ส.ค.ก่อน พรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจเห็นไม่เหมือนตนก็ได้ เราทำงานในนามพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรับฟังความเห็นร่วมกัน

ส่วนกรณีพรรคประชาชนมีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก และสามารถระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 20 ล้านบาท ในระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่วันนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้สึกหนักใจ เอฟซีของใครก็ย่อมสนับสนุนพรรคของตัวเอง เป็นเรื่องปกติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน การที่พรรคประชาชนประกาศความเชื่อมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งปี 2570นั้น ก็ต้องดูถึงเวลาจะทำได้จริงหรือไม่ เหลือเวลาอีก 3 ปี สถานการณ์ในอนาคตคาดการณ์ไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายและการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและเสียงตอบรับจากประชาชนในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยเฉพาะขณะนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใกล้จะแจกเงินถึงมือประชาชนในปลายปี ทำให้เสียงตอบรับของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยดีขึ้นมาก รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรหลายอย่างก็ดีขึ้น ทำให้คะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาดีขึ้นอย่างมาก

‘เพื่อไทย’ ไม่ตกใจ!! ผลโพล ‘นายกฯ’ คะแนนร่วง เผย!! ตจว.เข้าใจคลิปคุย ‘ฮุนเซน’ เป็นเทคนิคการทูต

(29 มิ.ย. 68) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาน ที่คะแนนนิยม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หล่นไปอยู่อันดับ 5 และคะแนนนิยมพรรค พท.ตกไปอยู่ที่ 3 ว่า ไม่น่าตกใจ เป็นผลพวงจากคลิปสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่บางกลุ่มยังไม่เข้าใจว่าเป็นเทคนิคทางการทูต แต่ประชาชนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ยังเข้าใจการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ผลโพลที่ออกมาดังกล่าวสะท้อนอารมณ์ประชาชนที่สอบถามความรู้สึกในช่วงขณะนั้น แต่อีก 3 - 4 วันต่อมาอาจเปลี่ยนแปลงได้ หลังจากรัฐบาลได้ชี้แจงทำความเข้าใจ ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากขึ้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ต้องทำงานแก้ปัญหาเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน มั่นใจว่าคะแนนนิยมนายกรัฐมนตรี และพรรค พท.จะกลับมาดีขึ้นแน่นอน ไม่ใช่ว่าจะเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ ควรให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม สส.เพื่อไทย ยังมั่นใจในคะแนนพรรคว่ายังมั่นคงอยู่

เมื่อถามถึง การชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คนขึ้นเวทีมีแต่คนหน้าเดิมๆ เป็นพวกขาประจำ แถมแกนนำบางคนยังยุให้ทำรัฐประหาร มีที่ไหนทำกัน อยากให้ประเทศเกิดรัฐประหาร ใช้วิธีโคตรโบราณ พวกที่ขึ้นเวทีอยากกลับมาเป็น สว.หรือมีตำแหน่งทางการเมือง หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น เชื่อว่าม็อบไม่น่าจะจุดติด แม้แต่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนยังคิดได้ เราไม่เอาด้วยกับการรัฐประหาร อย่าไปตกใจมากมาย

เมื่อถามว่า หลังปรับ ครม.ยังมั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลจะยังมีเสถียรภาพ จะไม่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลกดดันการทำงานในช่วงที่มีเสียงปริ่มน้ำ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกพรรคต้องขยันทำงานมากขึ้น เอาสภาฯ เป็นตัวตั้ง การประชุมสภาฯ ในวันพุธ - พฤหัส ควรอยู่ที่สภาฯ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนับองค์ประชุม ไม่ควรไปอยู่ตามสนามบิน หรืออยู่ในพื้นที่ตัวเอง เพราะสภาฯ คือที่ทำงานของ สส.หากพรรคร่วมรัฐบาลใช้วิธีกดดันรัฐบาล จนต้องยุบสภาหรือรัฐบาลเจ๊ง โดยที่ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ยังไม่ผ่านวาระ 3 ยิ่งเป็นการทำร้ายประเทศ มั่นใจว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสถียรภาพ ไม่ขัดแย้งถึงขั้นนายกฯ ต้องยุบสภาหรือลาออก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top