Monday, 6 May 2024
วันวาเลนไทน์

เติมรักให้กัน ยิ่งให้ ยิ่งได้ใจ!! เดือนแห่งความรัก ชวนคนที่รัก กุมมือกันมา ‘บริจาคโลหิต’ ช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ!!

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนคู่รัก คู่จิ้น คู่ฟิน กุมมือกันมาเป็นคู่ เป็นกลุ่ม หรือเป็นครอบครัวร่วมแบ่งปันความรักให้เพื่อนมนุษย์ด้วยการบริจาคโลหิต ในโครงการ "เติมรักให้กัน ยิ่งให้ ยิ่งได้ใจ" ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2565

รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีเทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ซึ่งหลายๆ ท่าน มักใช้โอกาสนี้ แสดงความรัก ความห่วงใย และความรู้สึกดี ๆ ให้กัน การบริจาคโลหิต เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแสดงออกถึงความรัก ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ สามารถแบ่งปันได้ทุกวัน ด้วยการเป็น “ผู้ให้” โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพื่อบรรเทาภาวะการขาดแคลนโลหิต ในสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ ที่กำลังระบาดขณะนี้ เพื่อจ่ายให้กับโรงพยาบาลใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ

พิเศษสุด! มาร่วมลุ้นเป็นเจ้าของตุ๊กตาน้องหมี “Big Bear” มากถึง 50 รางวัล กติกาง่าย ๆ เพียง

1. เป็นผู้บริจาคโลหิตทั่วประเทศ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายบัตรผู้บริจาคโลหิตด้านหลัง แสดงวันที่บริจาคโลหิตชัดเจน ลงFacebook Fanpage: ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ใน Comment แบนเนอร์กิจกรรม

ยะลา - 31 คู่รักจดทะเบียนสมรส!! ในงาน "เบตงที่รัก รักที่สุด ใต้สุดสยาม @รักใต้ไอหมอก" จุดชมวิวทะเลหมอก สกายวอร์คอัยเยอร์เวง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ก.พ.65 ที่จุดชมวิวทะเลหมอก สกายวอร์คอัยเยอร์เวง (SKY WALK AYERWENG) หมู่4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครเดินทางมาถึงอำเภอเบตงต้องเดินทางขึ้นไปชมความงามของทะเลหมอก และเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าทะเลหมอกสวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ พร้อมทั้งยังสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี ซึ่งถือว่าเป็นทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดในภาคใต้ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดงานจดทะเบียนสมรส "เบตงที่รัก รักที่สุด ใต้สุดสยาม @รักใต้ไอหมอก" ประจำปี 2565 

โดยมีนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  พร้อมด้วย นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอำเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว และ คู่รัก จำนวน 31 คู่ เข้าร่วม

สำหรับจุดที่จัดให้มีการจดทะเบียนสมนส คือ บริเวณทางเดินบนสกายวอร์คอัยเยอร์เวง มีนายอำเภอเบตง เป็นนายทะเบียน จดทะเบียนให้คู่รักทุกคู่ เมื่อถึงเวลาคู่รัก ทั้ง 31 คู่ ซึ่งมีทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ในพื้นที่บุคคลที่ราบสูง และ ชนเผ่าอัสรี อีก 3 คู่ แต่งกายด้วยชุด บ่าวสาว ชุดไทย ชุดมลายู ชุดจีนชุดสวยงาม เสื้อผ้าคู่ เดินจูงมือคู่ของตน ผ่านซุ่มดอกไม้ ซุ่มลูกโป่ง ที่จัดไว้อย่างสวยงาม เพื่อมารับช่อกุหลาบจากผู้ร่วมงาน แขกผู้มีเกียรติ ที่แต่งกายสวยงามด้วยตีมสีแดง สีชมพู ชุดสวยงามต่าง ๆ เช่นกัน 

หลังจากที่คู่รักทุกคู่ได้ทำการจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คู่รักทั้งหมดก็ลงมาบริเวณลานด้านล่างเพื่อมาร่วมกิจกรรมจับสลาก พร้อมรับของรางวัล ที่ทำอำเภอเบตงจัดขึ้น

ผบ.ตร.ห่วงใยความปลอดภัยวันวาเลนไทน์ สั่งทุกหน่วยวางมาตรการเชิงรุก เข้มงวดตรวจตราบังคับใช้กฎหมาย สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรม คุมเข้มคดีทางเพศเด็กและเยาวชน วอนพ่อแม่ผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลบุตรหลาน

(13 ก.พ.66) พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า “ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ จะมีประชาชนหนุ่มสาว เด็ก เยาวชน ออกมาเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือตามสถานบริการ สถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยวกลางคืน สวนสาธารณะจำนวนมากนั้น 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคดีทางเพศกลุ่มเด็ก เยาชน ที่อาจจะถูกหลอกหลวง ล่อลวงได้ 

จึงได้กำชับไปยังทุกกองบัญชาการให้จัดทำมาตรการเชิงรุกด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพิ่มความเข้มดูแลพื้นที่ล่อแหลมเสี่ยงต่ออาชญากรรม การคุกคามทางเพศ โดยเฉพาะสถานบริการ สถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ โรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมม่านรูดต่างๆ 

โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ออกตรวจตราพื้นที่และบุคคลกลุ่มเสี่ยง เน้นกลุ่มเด็กเยาวชน ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น การพลอดรักในสวนสาธารณะ การแข่งรถในทาง การลักลอบเข้าใช้สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด โดยบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดกับสถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรม ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น การห้ามเด็ก เยาวชนเข้าไปสถานบริการ การห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชน ไม่มีการมั่วสุมยาเสพติด หรือแสดงลามกอนาจารต่างๆ หากพบมีการฝ่าฝืนให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด 

14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ‘วันแห่งความรัก’ หรือ ‘วันวาเลนไทน์’ Valentine's Day วันระลึกถึง ‘นักบุญวาเลนไทน์’ ผู้อุทิศตนเพื่อความรัก

‘วันวาเลนไทน์’ หรือในภาษาอังกฤษ คือ ‘Valentine's Day’ หรือ ‘วันแห่งความรัก’ นั่นเอง และคงเป็นวันที่ใครหลาย ๆ คนรอคอย... โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ตื่นขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม เพื่อเตรียมของขวัญวาเลนไทน์ คำหวาน และข้อความพิเศษ ๆ มอบให้กับคนรักของตัวเอง

สำหรับประวัติหลาย ๆ คนคงสงสัยว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) คืออะไรและเกิดขึ้นเพราะอะไร โดยเหตุเพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นเป็นวันเสียชีวิตของนักบุญวาเลนไทน์ หรือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรักนั่นเอง โดยนักบุญวาเลนไทน์ เป็นผู้ริเริ่มการจัดงานแต่งงานในยุคที่ไม่นิยมให้แต่งงานกัน เหตุเพราะในช่วงนั้น โรม ต้องประสบกับสงคราม จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ต้องการเกณฑ์คนไปรบ แต่มีบุคคลจำนวนมากที่มีครอบครัว มีภรรยา มีคนรัก ต่างไม่อยากจะทิ้งครอบครัวไป ทำให้ จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ตัดสินใจให้ยกเลิกการแต่งงานและการหมั้นทั้งหมดของชาวโรมันในยุคนั้นไปหมด อย่างสิ้นเชิง

แต่นักบุญวาเลนไทน์กลับสวนกระแสของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ชักชวนคู่รักมาแต่งงานหลายต่อหลายคู่ จนโดนจับตัวไปขังเอาไว้ และในคุกที่คุมขังนักบุญวาเลนไทน์นั้น เขาได้พบรักกับสาวตาบอดนางหนึ่ง เมื่อโดนจับได้ นักบุญวาเลนไทน์จึงถูกนำตัวไปประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็น วันวาเลนไทน์ วันที่ผู้คนจะรำลึกถึงนักบุญผู้อุทิศตนให้ความรักนั่นเอง

ทั้งนี้ สัญลักษณ์วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก คือ เทพเจ้าคิวปิด ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักดั้งเดิมของชาวโรมัน ร่างกายเป็นเด็กทารกติดปีก กำลังโก่งคันศรทองเล็งไปยังหัวใจของผู้คน ตามตำนานของกรีกและโรมันพูดถึงคิวปิดว่า เป็นบุตรของมาร์ (เทพเจ้าของสงคราม) และ วีนัส (เทพเจ้าแห่งความรักและความงาม)  

ตำนานความรักของ เทพเจ้าคิวปิด นั้น ในอดีตเทพเจ้าวีนัสอิจฉา ‘ไซกี’ ธิดาวัยกำลังแรกรุ่นของกษัตริย์องค์หนึ่ง ที่สำคัญคือไซกีสวยกว่าเทพเจ้าวีนัสมาก นางเลยส่งเทพเจ้าคิวปิดไปหาไซกี เพื่อบันดาลให้ไซกีมีความรักกับบุรุษเพศ แต่เทพเจ้าคิวปิดกลับหลงรักไซกีและพามาที่วัง และลอบมาหาในเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้ไซกีรู้ว่าตนเองเป็นใคร แต่มีคนยุให้ไซกีแอบดูตอนเทพเจ้าคิวปิดนอนหลับ แต่ด้วยความตื่นเต้นของไซกีที่เห็นเทพเจ้าคิวปิดเป็นหนุ่มรูปงาม เลยเผลอทำน้ำมันตะเกียงหกใส่เทพเจ้าคิวปิด เมื่อเทพเจ้าคิวปิดรู้สึกตัวตื่นขึ้นก็โกรธมากที่นางขัดคำสั่ง จึงทิ้งนางไป

เมื่อโดนทิ้ง ไซกีก็ออกตามหาเทพเจ้าคิวปิด ซึ่งตลอดเวลาไซกีถูกเทพเจ้าวีนัสกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา จนเทพเจ้าคิวปิดเห็นใจต้องเข้ามาช่วย เทพเจ้าจูปิเตอร์เห็นใจ จึงช่วยให้ทั้งสองได้ครองรักกัน

‘ชาวพิษณุโลก’ จัด!! ออเดอร์สุดแปลกรับ ‘วันวาเลนไทน์’  ชุด 'บายศรีบูชาผัว-ช่อดอกบัวบูชาเมีย' สื่อถึงความเคารพรัก

(12 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลกได้รับแจ้งร้านจัดดอกไม้รับออเดอร์สุดแปลกจากลูกค้าต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่ร้านดอกไม้ ลาเฟลอร์ เลขที่ 43/11 ถ.บรมไตรโลกนาถ ต.ในเมือง จ.พิษณุโลก โดยมีนางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของร้าน

นางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้ทางร้านได้รับออเดอร์จากลูกค้า โดยลูกค้ามีโจทย์ว่า ให้หาดอกไม้ที่มีคุณค่าที่สุด เพื่อให้สามีและภรรยา ซึ่งสองช่อนี้ที่ทางร้านได้ทำเป็นสองออเดอร์ ออเดอร์แรกเป็นภรรยาสั่งเพื่อมอบให้สามี อีกหนึ่งออเดอร์เป็นของสามีเพื่อจะมอบให้ภรรยา ในวันแห่งความรัก

นายนฤเบส กลิ่นเกษร อายุ 34 ปี ผู้ออกแบบตามโจทย์ที่ได้รับจากลูกค้า กล่าวว่า การทำช่อดอกไม้ครั้งนี้เน้นความแปลก แต่มีคุณค่าในการแสดงออกเพื่อเคารพรัก ช่อดอกไม้บายศรีบูชาผัว เปรียบเทียบเป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ทำงานดูแลภรรยาเป็นอย่างดี ภรรยากราบไหว้สามีแล้วจะมีความเจริญก้าวหน้า ส่วนช่อดอกบัวบูชาเมีย ภรรยาเปรียบเสมือนเป็นแม่ทัพ ดูแลครอบครัวให้กำลังใจสามี ทำงานบ้านให้สามี ก็สมควรนำดอกไม้มากราบไหว้ แต่เปลี่ยนจากดอกกุหลาบเป็นดอกบัว

นางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันวันวาเลนไทน์ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่เน้นมอบดอกกุหลาบ จะเน้นดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีความแปลกใหม่ และสุดเซอร์ไพรส์ที่ให้ผู้รับไม่คาดคิด ซึ่งทางร้านทำตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง โดยแค่มอบโจทย์ทางร้านจะออกแบบให้ไม่ซ้ำใคร

วันวาเลนไทน์ปีนี้ ร้านดอกไม้ ลาเฟลอร์ จำหน่ายช่อดอกกุหลาบเริ่มต้นที่ 100 บาท ขึ้นไปดอกไม้มีทั้งจากในประเทศไทย และสั่งจากต่างประเทศ นอกจากกุหลาบ ยังมีดอกไม้หลากหลายรูปแบบ ทิวลิป ไฮเดรนเยีย ยิปโซ ยิปซี ทานตะวัน และชนิดอี่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งช่อดอกไม้ที่ร้าน ดอกไม้ ลาเฟลอร์  ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0817121652

‘วาเลนไทน์’ เริ่มแล้ว!! ‘จ.ตรัง’ จัดงานวิวาห์ใต้สมุทร 2024 บ่าวสาว 11 คู่ เตรียมดำน้ำจดทะเบียนสมรส วันแห่งความรัก

(13 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ตรัง เริ่มงานพิธีวิวาห์ใต้สมุทร 2024 หรือ งานแต่งงานใต้ทะเล ต้อนรับวันวาเลนไทน์ ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 27 แล้ว

เริ่มด้วยขบวนรถตุ๊กตุ๊กหัวกบจำนวน 12 คัน แห่คู่บ่าวสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศรวม 12 คู่ เป็นชาวไทย 9 คู่ ชาวจีน 1 คู่ ชาวมาเลเซีย 1 คู่ และไทย-อินโดนีเซีย 1 คู่ โดยแห่ไปรอบตลาดสดเทศบาลนครตรัง เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้ชมวิถีชีวิตชาวเมืองตรัง โดยการนั่งรถตุ๊ก ๆ หัวกบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตรัง และเป็นรถประจำทางที่ไม่เหมือนใครหนึ่งเดียวในประเทศ

ก่อนเดินทางไปร่วมพิธีแห่ขบวนขันหมาก ที่อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยนำสินสอด ทองหมั้น และแหวนเพชรไปสู่ขอเจ้าสาวด้วย จากนั้นจึงมีการให้คู่บ่าวสาวลอดซุ้มประตูวิวาห์และลั่นระฆังรัก ก่อนจะพาคู่บ่าวสาวไปสักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) อดีตเจ้าเมืองตรัง เพื่อความเป็นสิริมงคล

นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำสังข์ (น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 5 แห่ง จ.ตรัง) ให้ คู่บ่าวสาวที่เข้าร่วมพิธีวิวาห์ใต้สมุทรทั้ง 12 คู่

สำหรับพิธีวิวาห์ใต้สมุทรปีนี้ มีคู่บ่าวสาวร่วมดำน้ำจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลในวันวาเลนไทน์ ในวันพรุ่งนี้ 14 ก.พ. ที่บริเวณหินก้อนเดียว หน้าเกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรังจำนวน 11 คู่ จากทั้งหมด 12 คู่ และมีการจดทะเบียนสมรสจริง ที่เกาะกระดาน อ.กันตัง จ.ตรัง

สำรวจค่าฝุ่น 'วันวาเลนไทน์' กรุงเทพฯ ระดับสีแดง 17 พื้นที่ สีส้ม 50 พื้นที่

(14 ก.พ.67) เพจกรุงเทพมหานคร โพสต์กราฟฟิคพร้อมเนื้อหาระบุว่า ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 67 เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 54.3-82.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานจำนวน 67 พื้นที่ เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 75.1 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 17 พื้นที่ ระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 50 พื้นที่ ดังนี้

อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 75.1 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 17 พื้นที่ คือ

1.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 82.9 มคก./ลบ.ม.
2.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 82.1 มคก./ลบ.ม.
3.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 79.9 มคก./ลบ.ม.
4.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 79.8 มคก./ลบ.ม.
5.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 79.7 มคก./ลบ.ม.
6.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 79.4 มคก./ลบ.ม.
7.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 78.8 มคก./ลบ.ม.
8.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 78.2 มคก./ลบ.ม.
9.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 77.6 มคก./ลบ.ม.
10.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 77.4 มคก./ลบ.ม.
11.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 76.9 มคก./ลบ.ม.
12.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 76.2 มคก./ลบ.ม
13.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 75.8 มคก./ลบ.ม.
14.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 75.7 มคก./ลบ.ม.
15.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 75.7 มคก./ลบ.ม.
16.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 75.4 มคก./ลบ.ม.
17.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 75.3 มคก./ลบ.ม.

อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 50 พื้นที่ คือ

18.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 74.8 มคก./ลบ.ม.
19.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 74.8 มคก./ลบ.ม.
20.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 73.9 มคก./ลบ.ม.
21.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 72.1 มคก./ลบ.ม.
22.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 72.0 มคก./ลบ.ม.
23.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 71.2 มคก./ลบ.ม.
24.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 70.8 มคก./ลบ.ม.
25.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 70.7 มคก./ลบ.ม.
26.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 70.4 มคก./ลบ.ม.
27.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 70.0 มคก./ลบ.ม.
28.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 69.5 มคก./ลบ.ม.
29.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 69.2 มคก./ลบ.ม.
30.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 68.8 มคก./ลบ.ม.

31.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 68.3 มคก./ลบ.ม.
32.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 68.2 มคก./ลบ.ม.
33.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 68.1 มคก./ลบ.ม.
34.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 67.9 มคก./ลบ.ม.
35.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 67.8 มคก./ลบ.ม.
36.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 67.6 มคก./ลบ.ม.
37.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 67.6 มคก./ลบ.ม.
38.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 67.0 มคก./ลบ.ม.
39.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 67.0 มคก./ลบ.ม.

40.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 66.8 มคก./ลบ.ม.
41.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 66.2 มคก./ลบ.ม.
42.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 66.1 มคก./ลบ.ม.
43.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 65.0 มคก./ลบ.ม.
44.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 65.0 มคก./ลบ.ม.
45.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 64.9 มคก./ลบ.ม.
46.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 64.8 มคก./ลบ.ม.
47.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 64.4 มคก./ลบ.ม.
48.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 64.4 มคก./ลบ.ม.
49.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

50.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 63.7 มคก./ลบ.ม.
51.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 63.6 มคก./ลบ.ม.
52.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 62.2 มคก./ลบ.ม.
53.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 62.2 มคก./ลบ.ม.
54.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 61.3 มคก./ลบ.ม.
55.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 61.0 มคก./ลบ.ม.
56.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 60.9 มคก./ลบ.ม.
57.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 60.9 มคก./ลบ.ม.
58.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 60.3 มคก./ลบ.ม.
59.สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ : มีค่าเท่ากับ 60.1 มคก./ลบ.ม.
60.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 59.6 มคก./ลบ.ม.

61.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 59.4 มคก./ลบ.ม.
62.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 59.4 มคก./ลบ.ม.
63.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 58.0 มคก./ลบ.ม.
64.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 56.7 มคก./ลบ.ม.
65.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 55.9 มคก./ลบ.ม.
66.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 55.5 มคก./ลบ.ม.
67.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม.

>> สำหรับข้อแนะนำสุขภาพ :

- คุณภาพอากาศระดับสีแดง : มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทุกคน : งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

- คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)

ช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. 67 การระบายอากาศอ่อน ประกอบกับอากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 16-22 ก.พ. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี อากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะค่อนข้างเปิดสลับปิด ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง และคาดการณ์วันนี้ มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 จำนวน 3 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 เวลา 13.26 น. แขวงแขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว จุดที่ 2-3 เวลา 13.26 น. แขวงลำผักชี เขตหนองจอก (อยู่ระหว่างประสานตรวจสอบจุดความร้อนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)

สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และขอเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยน พฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ ‘5 วิธีลดฝุ่น คุณก็ทําได้’ 1. หมั่นทําความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น 2. งดเผาขยะ งดจุดธูป 3. ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง 4. เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และ 5. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดํา เกินมาตรฐาน

‘วัดหมื่นเกลา’ แจกข้าวสาร-อาหารแห้ง รับวันวาเลนไทน์ ตามโครงการเปลี่ยนพวงหรีดเป็นข้าวสารเพื่อ ‘ผู้ยากไร้’

(14 ก.พ.67) ที่วัดหมื่นเกลา ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานแจกข้าวสาร อาหารแห้ง ในวันวาเลนไทน์ ตามโครงการเปลี่ยนพวงหรีดเป็นข้าวสารเพื่อผู้ยากไร้

ซึ่งทางวัดหมื่นเกลาได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนพวงหรีดเป็นข้าวสารเพื่อผู้ยากไร้ มาตั้งแต่ปี 2565 โดยพระครูวิเทศธรรมวิรัช เจ้าอาวาสวัดหมื่นเกลา ได้มีแนวคิดเปลี่ยนพวงหรีดดอกไม้สดเป็นพวงหรีดข้าวสาร เพื่อไว้อาลัยครั้งสุดท้าย หลังจากเสร็จงานแล้วทางญาติโยมได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง ถวายวัด และทางวัดได้ร่วมกับทางผู้นำท้องถิ่นในหมู่บ้าน นำข้าวสาร อาหารแห้งไปแจกให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในหมู่บ้าน คนที่ได้รับก็สุขใจ คนที่ให้ก็อิ่มใจ เป็นบุญกุศลของผู้ที่ล่วงลับ เป็นการช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาส ต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top