Saturday, 22 June 2024
รับใช้ประชาชน

17 ตุลาคม ‘วันตํารวจแห่งชาติ’ วันสำคัญของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ รำลึกถึงผู้ยึดมั่นรับใช้ประชาชน

วันตํารวจแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทย 

เดิมทีวันตำรวจแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2458 โดยเป็นวันประกาศรวม 'กรมพลตระเวน' กับ 'กรมตำรวจภูธร' เป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า 'กรมตำรวจ' ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น 'สำนักงานตำรวจแห่งชาติ' กรมตำรวจจึงได้ยึดถือเอาวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ซึ่งในขณะนั้น พล.ต.อ. หลวงชาติ ตระการโกศล เป็นอธิบดีกรมตำรวจและ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี

จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในขณะนั้นมีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (17 ตุลาคม พ.ศ. 2541) เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์

ทั้งนี้ หากย้อนไปที่ประวัติของตำรวจไทย กิจการตำรวจได้กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองบ้านเมืองเป็น 4 เหล่า เรียกว่า จตุสดมภ์ ได้แก่ เวียง วัง คลัง นา และพร้อมกันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีกิจการตำรวจขึ้น โดยให้ขึ้นอยู่กับเวียง อันมีเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ สมุหนายก อัครมหาเสนาบดี เป็นผู้บังคับบัญชา

สำหรับกิจการตำรวจในขณะนั้น แบ่งออกเป็นตำรวจพระนครบาล ตำรวจภูธร ส่วนตำรวจหลวงให้ขึ้นอยู่กับวัง มีเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี ศรีรัตนมณเฑียรบาล เป็นผู้บังคับบัญชา และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตราศักดินาของตำรวจไว้เป็นบรรทัดฐานในบทพระอัยการ ระบุตำแหน่งนายพลเรือน เช่นเดียวกับข้าราชการฝ่ายอื่น

นอกจากนี้ ยังมีเอกสารหลายชิ้นที่แสดงว่าบุคคลที่จะเป็นตำรวจได้นั้นต้องคัดเลือกจากผู้ที่มีชาติกำเนิดสืบเชื้อสายมาจากตระกูลที่ได้ทำคุณงามความดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องเป็นบุคคลที่ทรงวางพระราชหฤทัย การบังคับบัญชาตำรวจก็ต้องขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะแต่พระองค์เดียว ทำให้กิจการตำรวจในยุคนี้จะจัดตั้งเพื่อให้ทำหน้าที่ในวงจำกัด และมิได้ขยายไปยังส่วนการปกครองทั่วประเทศเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป มีการติดต่อกับชาวต่างประเทศมากขึ้น กรมตำรวจจึงได้รับความสนใจที่จะปรับปรุงรูปแบบเพื่อให้เป็นไปตามแบบอย่างประเทศตะวันตก

โดยในปี พ.ศ. 2405 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปรับปรุงกิจการตำรวจครั้งสำคัญ กล่าวคือ มีการจัดตั้งกองตำรวจขึ้นเป็นครั้งแรกตามแบบอย่างยุโรป เรียกว่า กองโปลิศ โดยจ้างชาวมลายูและชาวอินเดียเป็นตำรวจ เรียกว่า คอนสเตเปิล โดยให้มีหน้าที่รักษาการณ์แต่ในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน และขึ้นอยู่กับสังกัดกรมพระนครบาล

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปรับปรุงกองโปลิศ และจัดตั้งตำรวจภูธรขึ้นเป็นทหารโปลิศ ในปี พ.ศ. 2419 เพื่อให้เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในส่วนภูมิภาค และให้สามารถปฏิบัติการทางทหารได้ด้วย โดยได้ว่าจ้างนาย G. Schau ชาวเดนมาร์ก เป็นผู้วางโครงการ

‘ปชป.’ เตรียมนำทัพผู้สมัคร ยื่นสมัครทั่วประเทศ 3 เม.ย.นี้ พร้อมใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าเพื่อสร้างศรัทธา-พัฒนาชีวิต ปชช.

(2 เม.ย. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 3 เม.ย.นี้ เวลา 5.00 น. ตนจะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 คน เดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งที่สนามกีฬาเวสน์ 2 ซึ่งคาดว่าจะเดินทางถึงสถานที่สมัครรับเลือกตั้งเวลา 6.00 น.

หลังจากสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะเดินทางไปศาลหลักเมือง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เพื่อสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) จากนั้นจะเดินทางกลับพื้นที่เขตเลือกตั้งเพื่อเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากได้เบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ จะเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งทุกเขตเลือกตั้งพร้อมกัน ในเช้าวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. นี้ เช่นกัน

‘อภิสิทธิ์-องอาจ-มาดามเดียร์-ดร.เอ้’ ผนึกกำลัง บุกตลาดกิตติ อ้อนชาวสาทร หนุน ‘อรอนงค์’ เข้าสภาฯ ทำหน้าที่เพื่อ ปชช.

(2 เม.ย. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์, ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์, นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิมุข ฉันทวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตยานนาวา-บางคอแหลม ร่วมลงพื้นที่ตลาดกิตติ ถนนเซนต์หลุยส์ เขตสาทร พบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้า เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตสาทร-ปทุมวัน-ราชเทวี พรรคประชาธิปัตย์

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกระแสการตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพมหานครว่า เห็นได้ชัดว่าประชาชนคนกรุงเทพมหานครจำนวนมากที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะบุคลากรของพรรคหลายคนมีความมั่นคง แน่วแน่ในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน อย่างวันนี้ที่ตลาดกิตติพวกเราทุกคนมีความคุ้นเคยผูกพัน ก็หวังว่าความสัมพันธ์นี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีในการสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้กลับไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.อรอนงค์ จะมีโอกาสได้กลับมาทำงานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ บอกว่า ทุกคนมีโอกาส แต่จะต้องทำงานหนัก เพราะมีการแข่งขันสูง อย่าง น.ส.อรอนงค์ เป็นคนหนึ่งที่อยู่ติดพื้นที่มาตลอดไม่เคยทิ้งประชาชนไปไหน

ส่วนกรณีที่มีหลายคนต้องการให้กลับมาเป็นผู้แทนอีกนั้น นายอภิสิทธิ์ ตอบด้วยอารมณ์ขันว่า ยังไม่ถึงเวลา แต่ก็ยินดีมาสนับสนุนในฐานะสมาชิกพรรคและในฐานะที่ได้คุยกับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งนี้ก็เป็นเขตเลือกตั้งเก่าของตนด้วย

เมื่อถามต่อว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี รู้สึกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ บอกว่า รู้สึกเป็นกำลังใจให้กับพรรคและพวกเราทุกคนในการเดินหน้าต่อ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top