Sunday, 19 May 2024
รองนายกรัฐมนตรี

'โฆษกรัฐ' แจง 'บิ๊กป้อม' ลาป่วย ไม่เข้าประชุมครม. หมอแนะนำให้พักรักษาตัว หลังมีไข้-ปวดศีรษะ

รองโฆษกรัฐบาลแจง 'บิ๊กป้อม' ลาป่วยประชุมครม. มีอาการเป็นไข้หวัด แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลาป่วย ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม. ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ เนื่องจากมีไข้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้แพทย์ผู้ตรวจอาการ ได้เปิดเผยว่าพลเอกประวิตรมีอาการไข้ต่ำ ปวดศีรษะและมีเสมหะเล็กน้อย และได้ทำการตรวจ ATK ในเบื้องต้น ผลเป็นลบ จึงคาดว่าอาการป่วยนี้เกิดจากการโดนฝนระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ชัยนาท และจ.พระนครศรีอยุธยาในช่วงวันที่ผ่านมา แพทย์เห็นควรให้พักรักษาตัวที่บ้านพัก คาดว่าอาการจะดีขึ้นในเร็ววัน   

"ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ขอส่งกำลังใจ ไปถึงประชาชนทุกคน ที่กำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง" น.ส. ทิพานัน กล่าว

เปิดประวัติ-ผลงานเด่น!!

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้มากความสามารถและประสบการณ์จากรัฐบาลบิ๊กตู่ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของผลงาน ชนะคดี ‘ค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท’ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบอร์ดบริหารแผนฟื้นฟู ‘การบินไทย’ ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง

และวันนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็ได้รับการยอมรับขึ้นแท่น สู่ว่าที่ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ใน ‘ครม.เศรษฐา ​1’

นราธิวาส-รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บินลงใต้ สำรวจความเสียหายอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป พร้อมมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

วันนี้ ( 12 มกราคม 2567 ) เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะฯ ลงใต้ปฏิบัติภารกิจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมพบปะมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วม โดยมี พลโท ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส,ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ,นายฉัตรชัย อุตสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ,กำลังพล และประชาชนผู้ประสบภัยร่วมให้การต้อนรับ

โดยสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วม สืบเนื่องจากฝนตกหนักมากช่วงวันที่ 23-25 ธันวาคม 2566 ทำให้เกิดอุทกภัยครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอ โดยพื้นที่เกิดอุทกภัยมีปริมาณฝนสูงสุด คือ อำเภอระแงะ 631.2 มิลลิเมตร//สถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ 569 หมู่บ้าน 58 ชุมชน ผู้ได้รับผลกระทบ 82,448 ครัวเรือน 326,370 คน ผู้เสียชีวิต 14 คน ผู้สูญหาย 1 คน ถนนเสียหาย 63 สาย สะพาน 8 แห่ง โรงเรียน 343 แห่ง วัด/ที่พักสงฆ์ 20 แห่ง มัสยิด 26 แห่ง ด้านการเกษตร สัตว์ 4,818 ตัว ด้านพืช 11,267 ไร่ ด้านประมง 505.31 ไร่ 2,548 ตารางเมตร ปัจจุบันสถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติทุกพื้นที่ 

ทั้งนี้ จังหวัดนราธิวาส ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต 14 คน 594,000 บาท //จัดสรรเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดให้อำเภอ 13 อำเภอ 5,900,000 บาท //ค่าถุงยังชีพ 18,060 ชุด 12,642,000 บาท //ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นถุงยังชีพ 53,810 ชุด 37,667,000 บาท และขณะนี้จังหวัดได้มีแผนฟื้นฟูสถานการณ์อุทกภัยและเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป

โอกาสนี้ นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวพบปะผู้ประสบภัยทุกคนว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อมาให้กำลังใจทุกคน ซึ่งด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเองเมื่อมีเหตุภัยพิบัติต่างๆ ได้รับมอบอำนาจให้เร่งช่วยเหลือดูแลเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลประชาชน ซึ่งภัยพิบัติจากธรรมชาติเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น หน้าที่ของเราต้องช่วยกันป้องกัน และเมื่อเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนก็พร้อมจะฟื้นฟูเยียวยา บำบัด แก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุด ทุกส่วนพร้อมที่จะลงมาช่วยเหลือให้มากที่สุด ทั้งนี้ ในเรื่องของปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานั้น ทางรัฐบาลได้เร่งระดมให้ความช่วยเหลือในการเยียวยาและการฟื้นฟูบ้านเรือน ถนนหนทาง และสาธารณูปโภค โดยจังหวัดนราธิวาสได้ใช้งบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและดูแลเบื้องต้น  ทางรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดสรรงบประมาณฟื้นฟูซ่อมแซมและช่วยเหลือชาวบ้าน 100 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเพราะเป็นจังหวัดที่มีความเสียหายมากที่สุด ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ การช่วยเหลือในส่วนของงบประมาณทุกจังหวัดมีงบประมาณที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว ทั้งการเยียวยา การฟื้นฟู ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ และพื้นที่ไหนที่เสียหายมากก็จัดสรรตามความเหมาะสม ไม่มีคำว่าเลือกปฏิบัติและขอให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ

“พล.ต.อ.พัชรวาท” รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ ”แก้มลิงทุ่งหิน” กว่า 2,000 ไร่ เร่งขับเคลื่อนโครงการเพื่อพี่น้องชาวสมุทรสงคราม

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการโครงการแก้มลิง “ทุ่งหิน” ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมี นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายกุศล โชติรัตน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสราวุธ สากล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค2 

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ผลักดันโครงการ “แก้มลิงทุ่งหิน” นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่4 นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม นายอรรถพันธุ์ สงวนเสริมศรี ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม นางสาวประภารัตน์ นาคผจญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โดยนาย ศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม บนพื้นที่โครงการ 2623 ไร่เศษ มีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำทะเลหนุนสูงเกิดปัญหาน้ำเอ่อลันเข้าท่วมพื้นที่ประมง่ และที่อยู่อาศัยของประชาชนบ่อยครั้ง อีกทั้งจังหวัดสมุทรสงครามไม่มี
แหล่งเก็บกักน้ำจืดขนาดใหญ่ โครงการแก้มลิงทุ่งหิน จึงเป็นโครงการสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก 

และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ให้ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงครามได้ โดยที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการประกาศเป็นที่หวงห้าม เมื่อปี พ.ศ. 2470 ต่อมาในปี พ.ศ. 2510
ได้มีการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงพื้นที่สาธารณประโยชน์ "ทุ่งหิน" ได้มีราษฎรและนายทุนเข้าไปบุกรุกทำกินเต็มพื้นที่ จำนวน 52 ครอบครัว ต่อมาจังหวัดสมุทรสงคราม
ได้พิจารณาเห็นว่า พื้นที่สาธารณประโยชน์ "ทุ่งหิน" ควรที่จะนำมาทำเป็นแก้มลิงขยายผลตามโครงการและเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนและจังหวัดสมุทรสงครามต่อไป

โดยทางด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการโครงการ “แก้มลิงทุ่งหิน” ถือว่าเป็นโครงการที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม ด้านทรัพยากรน้ำและยังเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามอีกด้วย อีกทั้งเพื่อรับฟังความคืบหน้าโครงการสำคัญของจังหวัด รวมถึงเปิดโอกาสให้หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ นำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนต่อไป 

อย่างไรก็ตาม โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากที่ผ่านมาทาง ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดอภิปรายถึงโครงการดังการในที่ประชุมสภาเพื่อขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือและช่วยอนุมัติงบประมาณเพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนก่อสร้างโครงการ แก้มลิงทุ่งหิน เนื่องจากโครงการดังกล่าวนั้น มีความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามเป็นอย่างมาก และยังเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอีกหลายๆ จังหวัด กระทั่งล่าสุดโครงการแก้มลิงทุ่งหินได้ถูกขับเคลื่อนและอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงการในปัจจุบันคาดว่าโครงการดังกล่าวนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2568-2569 

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘รมว.พีระพันธุ์’ ชื่นชมการแสดง ‘ปราการเวลา The Theatre’ สร้างความตระหนักรู้ ‘ความเสียสละ-รักชาติ’ ของบรรพบุรุษไทย

(18 มี.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - Pirapan Salirathavibhaga’ ระบุว่า…

“เมื่อวาน (16 มี.ค. 67) ผมมีโอกาสไปชมการแสดง ‘ปราการเวลา The Theatre’ ที่จัดโดย อบจ. สมุทรปราการ ที่มีคุณนันทิดา แก้วบัวสาย เป็นนายกฯ ร่วมกับกองทัพเรือ นำแสดงโดยคุณนพพล โกมารชุน ศิลปินแห่งชาติ กับคุณแพนเค้ก เขมนิจ ร่วมกับนักแสดงทุกรุ่นวัยจำนวนมาก

“ผมรู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสไปชมการแสดงครั้งนี้เพราะทำให้เราได้ย้อนนึกไปถึงอดีตที่ทำให้เรามีปัจจุบันในวันนี้ว่าชาติไทยของเราต้องฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคและวิกฤติการณ์มาเพียงใดถึงมาเป็นไทยที่เป็นปึกแผ่น ประชาชนอยู่ดีกินดีในทุกวันนี้

“การแสดงนี้ ไม่เพียงน่าตื่นตาตื่นใจ สวยงามตระการตา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้เราได้เห็นถึงความรักชาติ ความเสียสละ และความสามัคคี ของบรรพบุรุษทั้งพลเรือนและทหาร ได้ตระหนักรู้ซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ในยุคที่ทั่วทั้งภูมิภาคกำลังเผชิญหน้ากับการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกที่มีแสนยานุภาพทางอาวุธและวิทยาการเหนือกว่า ทำให้เราสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตามที่ฝรั่งเศสเรียกร้องรวมถึงเงินค่าปรับสูงจนต้องนำเงินถุงแดง (เงินพระคลังข้างที่) ออกมาใช้

“พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แม้จะทรงโทมนัสยิ่งแต่ทรงไม่ท้อถอย ทรงทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักษาเอกราชของสยามเอาไว้ นำไปสู่การปฏิรูปประเทศในทุกด้าน จนสยามสามารถดำรงความเป็นไทยมาได้ลงจนถึงทุกวันนี้โดยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของพวกฝรั่งชาติตะวันตกนักล่าอาณานิคม
เหล่านี้ทำให้เราต้องคิดให้มากขึ้นว่าปัจจุบันและอนาคตเราคนไทยจะต้องรักชาติ รักสถาบัน ต้องสามัคคี และเอาประโยชน์ชาตินำหน้าเพื่อคงความเป็นชาติไทยของเราให้คงอยู่ตลอดไป 

“ผมอยากให้มีกิจกรรมหรือการแสดงแบบนี้ให้คนรุ่นหลังเด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ถึงอดีตและความเป็นมาของชาติให้มากขึ้น และขอชมเชยผู้จัดงานและนักแสดงทุกคน ขอให้กำลังใจและขอบคุณที่ร่วมกันทำกิจกรรมรักชาติแบบนี้ครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top