Tuesday, 21 May 2024
รถเมล์ไฟฟ้า

ประธานกรรมการ รถเมล์ไฟฟ้า “ไทย สมายล์ บัส” รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ “Friendly Design Awards 2022” มหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ปีที่ 5 

ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค-บางนา นางสาวกุลพรภัสร์  วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB  ผู้นำระบบแพลตฟอร์มการให้บริการ รถเมล์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “ไทย สมายล์ บัส ” เข้ารับมอบใบประกาศเกียรติคุณ “Friendly Design Awards 2022 ” จาก ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในงาน Thailand Friendly Design Expo 2002  โดยมี นายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ร่วมเป็นเกียรติในการมอบรางวัล

โดยงาน Thailand Friendly Design Expo ในปี2002  เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม คุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยพักฟื้น ผู้พิการ และธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ( Friendly Design & Tourism for All ) ในแนวความคิดหลักในการจัดงานในครั้งนี้ คือ “Safety ,Health and Accessibility ” สุขภาพ ปลอดภัย มั่นใจ เข้าถึง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในยุควิถีปกติใหม่ ( New Normal) 

‘ก้าวไกล’ เผย ‘รถเมล์อนาคต’ วาระแรก ผ่านสภา กทม.แล้ว ดันกฎหมายรถเมล์ไฟฟ้าทั้งกรุงเทพฯ ภายใน 7 ปี

(11 เม.ย. 66) เฟซบุ๊กแฟนเพจหลักของ ‘พรรคก้าวไกล - Move Forward Party’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงประเด็นร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

[ร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต ผ่านสภา กทม. วาระ 1 ด้วยคะแนนเสียง 33-3 เป็นความสำเร็จของ ส.ก.ก้าวไกล ที่ผลักดันกฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคน กทม. ลดฝุ่น ลดโลกร้อน ได้รถเมล์ดีมีคุณภาพ]

ส.ก.พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ในฐานะ ส.ก.คนสำคัญที่ผลักดันข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต เปิดเผยว่าเนื้อหาสำคัญของกฎหมาย ‘รถเมล์อนาคต’ คือการเปลี่ยนรถเมล์สันดาป เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ภายใน 7 ปี

นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า กลไกของข้อบัญญัตินี้ ไม่ได้บังคับผู้ประกอบการเดินรถโดยตรง แต่เป็นการบอกว่า “เฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถเดินทางได้ภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร”

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา กทม. จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ถ้าพ้นจาก 1 ปีไปแล้ว นอกจากรถเมล์ที่ยังมีสัมปทานเดินรถ รถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถเดินทางสัญจรได้ในพื้นที่ กทม.

ส่วนรถเมล์ที่มีสัมปทานเดินรถเดิม ก็จะทยอยหมดอายุสัมปทาน ซึ่งอายุสัมปทานนานที่สุดที่มีการต่อคือ 7 ปี นั่นหมายความว่าภายใน 7 ปี รถเมล์ทั้งหมดที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นรถเมล์ EV ทั้งหมด

นายพุทธิพัชร์ ยืนยันว่า ข้อบัญญัติที่สภา กทม. ทำไม่ใช่การจำกัดสิทธิเสรีภาพของเอกชน แต่เป็นการใช้อำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยืนยันว่าเราไม่อนุญาตให้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานเดินทางเข้ามาในพื้นที่ กทม.

“เรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจของท้องถิ่นปกป้องชีวิตคนในเมือง ในอดีตก็เคยมีการใช้อำนาจแบบเดียวกันมาแล้วในสมัย อดีตผู้ว่าฯ กทม. พิจิตร รัตกุล ที่เคยสั่งห้ามรถเมล์ที่ก่อมลพิษเกินค่ามาตรฐานเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต หลังจากที่ผ่านวาระ 1 รับหลักการในวันนี้แล้ว คาดว่าจะผ่านวาระ 3 ได้ในสมัยประชุมหน้า ต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ข้อบัญญัติ ‘รถเมล์อนาคต’ ผ่าน นายพุทธิพัชร์ เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเราจะเดินหน้าต่อในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นร่างแก้ไขข้อบัญญัติควบคุมอาคาร ที่จะมีข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการปล่อยความร้อนและพื้นที่สีเขียว หลังจากนั้นเราจะเดินหน้าต่อเรื่องการลดการปล่อยฝุ่นควัน PM2.5 จากแหล่งอื่น ๆ

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาที่เรารอไม่ได้ ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ แม้แต่คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กำลังสูดมลพิษทางอากาศเข้าไป เท่ากับสูบบุหรี่วันละ 3.2 มวน อากาศในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ข้อบัญญัติแบบนี้จึงสมควรมีตั้งนานแล้ว” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

นอกจากนี้ ‘Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แสดงความเห็นต่อความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในสภากรุงเทพฯ ว่า กฎหมายรถเมล์อนาคตผ่านสภากรุงเทพฯ เป็นการเปิดมิติใหม่ในการพัฒนาเมือง

รถเมล์ไฟฟ้าจะช่วยเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนกรุงเทพฯ ตนภูมิใจมากที่พรรคก้าวไกลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และผลักดันจนเป็นกฎหมายเมืองออกมาได้สำเร็จ และมากไปกว่านั้น กฎหมายเมืองฉบับนี้คือมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา เราแทบไม่เคยเห็นกรุงเทพ, อบจ. จังหวัดต่าง ๆ, เทศบาล หรือ อบต. เสนอกฎหมายเพื่อการพัฒนาบ้านเมืองตัวเองเลย การพัฒนาล้วนแต่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์และรูปแบบผ่านส่วนกลาง

นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ของการพัฒนาท้องถิ่น เป็นการเปิดประตูบานใหม่ เป็นการเพิ่มเครื่องมือในการพัฒนาเมืองให้กับท้องถิ่น

‘ไทย สมายล์ กรุ๊ป’ เดินแผนปลดระวางรถเมล์ NGV 350 คัน แล้วเสร็จ ผันตัวเป็น ‘ขนส่งไร้มลพิษ’ ให้บริการ ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ เต็มรูปแบบ 

(29 ม.ค. 67) นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่นควันพิษที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตของผู้คนซึ่งบริษัทได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ก่อนหน้านี้ได้ทำการประกาศนโยบายพัฒนาระบบขนส่งของไทยให้ก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยการปลดประจำการรถเมล์ NGV ทั้งหมด 350 คัน จะต้องถูกยกเลิกการใช้งานทั้งหมดภายในเดือน ม.ค.นี้

โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ยกเลิกการใช้งานรถ NGV คันสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นส่วนสำคัญในภาคการขนส่งที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ทั้งยังเตรียมตัวสู่ยุค Net Zero Carbon ที่สอดคล้องกับแนวคิดขององค์กร “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

ขณะเดียวกัน TSB ได้ประกาศเป็นนโยบายให้รถทุกคันเปิดรับชำระค่าโดยสารทั้ง 2 ระบบ ผู้เดินทางสามารถใช้ ‘เงินสด’  จ่ายผ่านบัสโฮสเตส (พนักงานเก็บค่าโดยสาร) เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีทางเลือกที่มากขึ้น ด้วยอัตราค่าโดยสารเริ่มเพียง 15-20-25 บาท ตามระยะทาง

นอกจากนี้ ยังมีบริการรองรับสำหรับคนใช้งานประจำ ในการใช้บัตร HOP Card เพื่อรับสิทธิประโยชน์ ‘เดลิ แมกซ์ แฟร์’ Daily Max Fare เดินทางกี่ต่อ กี่สาย กี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดจำนวนภายในหนึ่งวัน ด้วยการชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 40 บาทต่อวันเท่านั้น หรือจะนั่งรถต่อเรือ เรือต่อรถ ชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 50 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถหาซื้อบัตรได้ง่าย ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Shopee

'ไทยสมายล์ บัส' ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นรถเมล์ฟรี ตลอดปี 2567

(3 พ.ค. 67) คุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้นำในธุรกิจบริการรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า TSB ได้เล็งเห็นถึงปัญหาค่าครองชีพของครัวเรือนที่ยังคงปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน อีกทั้งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษาใหม่ ประจำปี 2567 ส่งผลให้ผู้ปกครองหลายคนต้องเผชิญภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบ และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ทาง TSB จึงได้พิจารณานโยบายยกเว้นค่าโดยสาร สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถเมล์พลังงานไฟฟ้าของไทย สมายล์ บัส โดยให้สิทธิเฉพาะเด็กแรกเกิด จนถึงเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จากปัจจุบันที่มีอัตราการจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 10-15-20-25 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ 2 พฤษภาคม 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการจะใช้สิทธิดังกล่าว ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวนักเรียนที่สามารถระบุตัวตนและอายุของผู้ถือบัตรนั้น ๆ ส่วนเด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็ก บัสโฮสเตสจะพิจารณายกเว้นค่าโดยสารให้โดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนทั่วไป สามารถใช้บัตรโดยสาร HOP Card เพื่อจ่ายค่าโดยสารในราคาสุดคุ้มแบบ Daily Max Fare เหมาจ่ายค่าโดยสาร 40 บาทตลอดทั้งวัน ไม่จำกัดสาย ไม่จำกัดเที่ยว หรือหากเดินทางเชื่อมต่อเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ค่าโดยสารเหมาจ่าย 50 บาทตลอดทั้งวัน ไม่จำกัดสาย ไม่จำกัดเที่ยว สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรโดยสาร HOP Card สามารถซื้อผ่าน 3 ช่องทางจำหน่ายคือ Shopee Lazada และ Line : @tsbofficial ของไทย สมายล์ บัส


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top