Sunday, 2 June 2024
ยึดรถ

‘ลัตเวีย’ ผ่าน กม. ยึดรถพวกเมาแล้วขับ แยกชิ้นส่วน-อะไหล่ บริจาคให้กองทัพยูเครน

รัฐสภาลัตเวียผ่านร่างกฎหมายฉบับแก้ไข ในด้านให้การสนับสนุนพลเมืองยูเครน เปิดทางยึดรถยนต์ที่ริบมาจากพวกเมาแล้วขับ แล้วส่งยานพาหนะเหล่านั้นให้แก่รัฐบาลยูเครน ตามรายงานของ Delfi เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น

"เราสามารถนำรถยนต์จากพวกเมาแล้วขับ นำไปขาย ทำให้มันเป็นเศษเหล็ก หรือแยกชิ้นส่วนเป็นอะไหล่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน พวกมันน่าจะมีประโยชน์มากกว่าในการสนับสนุนประเทศยูเครน" ไรมอนด์ เบิร์กมานิส สมาชิกสภาระดับอาวุโสกล่าว

รัฐบาลลัตเวียจะตัดสินใจเป็นรายกรณีไป ว่ารถยนต์ที่ยึดมานั้นควรนำไปบริจาคหรือไม่ ขณะที่รถยนต์เหล่านั้นจะเป็นการส่งมอบผ่านองค์กรหนึ่ง ๆ ที่ประสานงานความร่วมมือกับรัฐบาลยูเครน และได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือ

รัฐมนตรีคลังของลัตเวียเป็นผู้ผลักดันข้อเสนอส่งมอบรถยนต์ให้แก่กองทัพยูเครน และต่อมามันได้รับแรงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากพันธมิตรในรัฐสภา

ก่อนหน้านี้รัฐบาลผสม ก็เห็นพ้องต้องกันว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมอบรถยนต์ที่ยึดจากพวกเมาแล้วขับให้กองทัพยูเครน Delfi รายงาน

ตำรวจไซเบอร์ รวบขบวนการปล่อยกู้ดอกโหด ยึดรถโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ตำรวจไซเบอร์ แถลงจับกุมเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ปล่อยกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ในอัตราร้อยละ 60 ต่อปี และบังคับลูกหนี้ทำสัญญาอำพรางซื้อขายรถไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ หากผิดนัดชำระหนี้ ยึดรถโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้นอกระบบ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เร่งระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ และการรับจำนำรถยนต์รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย 

ต่อมาวันนี้ 18 มกราคม 2567 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.5 จ.กระบี่ ได้สืบสวนทราบว่า นายประภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ลูกหนี้ที่จะกู้ต้องนำรถยนต์รถจักรยานยนต์มาเป็นหลักประกัน พร้อมทั้งทำสัญญาซื้อขายทิ้งไว้ในลักษณะเป็นการอำพราง เมื่อลูกหนี้ผิดนัดก็จะนำรถออกประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2567 พ.ต.ท.อุดม อิสโร และ พ.ต.ท.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นบ้านของนายประภาส ใน ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดเรียงรายอยู่ โดยเป็นรถยนต์กระบะ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน พบสัญญาซื้อขายรถที่ลูกหนี้โอนลอยไว้ สอบถามนายประภาส ให้การรับสารภาพว่าได้ปล่อยเงินกู้มาแล้วเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะปล่อยกู้ให้กับคนในพื้นที่ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 60 ต่อปี ซึ่งลูกหนี้จะต้องนำรถมาเป็นหลักประกันเงินกู้ พร้อมทั้งเซ็นโอนลอยไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญเจ้าของรถมาพบ ให้การสอดคล้องกันว่าได้กู้เงินกับนายประภาสจริง และได้นำรถมาเป็นหลักประกันเงินกู้ไว้ แต่นายประภาสได้ให้โอนลอยไว้โดยไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ฯ ยังได้ประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถลงทะเบียนขอความช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ได้ทางเว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th/ หรือที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top